🇹🇭มาลาริน💖7มิ.ย.ไม่ติดTop10โลก/ป่วย2,224คน หาย4,824คน เสียชีวิต20คน รักษาอยู่26,889คน/หมอชนบทโวยวัคซีน สธ.แจงชัดเจน


https://www.bangkokbiznews.com/news/1008560

เพี้ยนแคปเจอร์หมอชนบทโวยวัคซีนล้นตู้เย็น ยังจะส่งอีก 16.8 ล้านโดส สธ.แจงปฏิเสธได้ถ้าไม่พร้อมรับ

ชมรมแพทย์ชนบทโวยแหลก ตอนนี้วัคซีนโควิดล้นตู้เย็นแล้ว แต่กระทรวงสาธารณสุขยังจะส่งล็อตใหญ่มาอีก 16.8 ล้านโดส ขณะที่ส่วนกลางแจงสามารถปฏิเสธได้ถ้าไม่พร้อมรับ

เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์วัคซีนโควิดในปัจจุบันว่ากำลังอยู่ในจุดที่เก็บไว้ล้นตู้เย็น พร้อมกับแสดงความกังวลว่ากระทรวงสาธารณสุขยังจะส่งล็อตใหญ่มาเพิ่มอีก 16.8 ล้านโดส โดยมีรายละเอียดของโพสต์ดังนี้.....👇

"สธ.ยังจะส่งวัคซีน 16.8 ล้านโดสลงพื้นที่ ไม่สนเสียงก่นด่าจากคนหน้างาน

วันนี้ชัดเจนแล้วว่า กระทรวงสาธารณสุขยังจะส่งวัคซีนล็อตใหญ่ 16.8 ล้านโดสลงมา เพียงแต่เปลี่ยนไปเก็บที่คลังในระดับจังหวัดแทนส่งตรงไป รพ.สต. และยอดการส่งยังเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม จะจัดส่งซิโนแวคและแอสตร้ามาก่อน ส่วนไฟเซอร์ก็จะทยอยจัดส่งตามมา การสั่งการในวันนี้คือ ให้ สสจ.ทุกจังหวัด เตรียมเคลียร์ตู้เย็นวัคซีนให้พอกับวัคซีนที่จะส่งมา นี่คือข้อเท็จจริง

ซิโนแวค (กล่องสีส้ม) นั้น น่าปวดตับที่สุด เพราะขายไม่ออกเลย ยังมีนับล้านโดสในคลังทั่วประเทศ คราวนี้ส่งมาแบบกวาดล้างคลังที่ สธ. ลงมารวด 1.18 ล้านโดส ก็เพื่อให้มาหมดอายุในพื้นที่ เพราะทุกโรงพยาบาล รพ.สต. ก็มั่นใจว่า ไม่มีใครฉีดแน่ คำถามคือ ส่งมาทำไม กลัวอะไร ค่าส่งเท่าไหร่ ตั้งให้หมดอายุที่ สธ.ไม่ได้หรือ

ส่วนแอสตร้านั้นก็น่าปวดตับไม่น้อย ความต้องการฉีดต่ำมาก วัคซีนยังเต็มคลัง และวัคซีนที่จะส่งมาก็มีล็อตที่ใกล้หมดอายุมากๆ อยู่ด้วย ส่งมาก็ใช้ไม่ทัน สร้างปัญหาเพิ่มความเหนื่อยหน่ายให้คนหน้างาน

ชมรมแพทย์ชนบทเข้าใจดีว่า “ในภาวะฉุกเฉิน การประมาณการสั่งวัคซีนให้พอดีนั้นไม่ง่าย แต่ประเด็นก็คือ เมื่อสั่งมาแล้วใช้ไม่ทัน ก็ต้องยอมรับสภาพ อธิบายความกับสังคม โดยไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้กับปลายทาง”

ชมรมแพทย์ชนบทขอแจ้งกับสาธารณชนว่า “วัคซีนมีราคา จะทำลายก็ต้องตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบยอดและขอทำลาย ทั้งวัคซีนเป็นชีววัตถุ จะทิ้งดื้อๆ ไม่ได้ ต้องกำจัดตามหลัก มีค่าใช้จ่าย มีขั้นตอน ครั้งนี้จึงเสมือนเป็นการปัดความรับผิดชอบของ สธ.”

ไม่ใช่ว่าจังหวัดต่างๆ จะไม่สะท้อนปัญหาไปตามลำดับขั้น เขาสะท้อนแล้ว เจอแต่คำตอบว่า “ผ่านมติ ศบค.แล้ว” แล้วใครล่ะที่ชง ศบค.ให้ออกมติที่ไม่สมเหตุสมผล จึงต้องสะท้อนออกสื่อไง

หากเสียงสะท้อนด้วยเหตุด้วยผลจากพื้นที่ และได้คำตอบเดิมๆ เพียงว่า “ให้กลับไปทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก่อน อย่าไปเที่ยววุ่นวายกับคนอื่น” คำตอบนี้แบบนี้สะท้อนว่า “ใกล้ชิดเผด็จการจนติดนิสัยเผด็จการมาโดยไม่รู้ตัวแล้ว” ไม่ใช่วิสัยผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความเป็นประชาธิปไตยที่จะมาดูแลบ้านเมือง



สธ.แจงวัคซีนโควิด 16.8 ล้านโดสสำหรับ รพ.สต.เป็นโควตา จัดส่งระดับจังหวัด หากไม่พร้อมปฏิเสธได้ ไม่เกิดปัญหาล้นตู้เย็น
 
วันนี้ (7 มิ.ย.) นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงกรณีการกระจายวัคซีนโควิด 19 จำนวน 16.8 ล้านโดส สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการวัคซีนของประชาชน ว่า ขณะนี้มีการสื่อสารทำให้เข้าใจผิดว่า การจัดส่งวัคซีนโควิดไป รพ.สต. ทำให้เกิดปัญหาวัคซีนล้นตู้เย็น และให้ รพ.สต. เป็นถังขยะทิ้งวัคซีนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ขอชี้แจงข้อเท็จจริง คือ...👇👇👇👇👇

การจัดสรรวัคซีนโควิดให้แก่ รพ.สต. เป็นไปตามแผนการเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น ผ่านความเห็นชอบจากอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น กระตุ้นหน่วยบริการให้เร่งรัดฉีดวัคซีน เพิ่มความครอบคลุมของเข็มกระตุ้นในทุกกลุ่มเป้าหมายที่ครบกำหนด จะช่วยลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต รวมถึงปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ
อีโอซี กระทรวงสาธารณสุข มีมติเห็นชอบให้แต่ละจังหวัดจัดทำแผนเร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นรายจังหวัด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการและรับเข็มกระตุ้นตามเกณฑ์มากขึ้น โดยวิเคราะห์เป้าหมายและทำแผนปฏิบัติการรายอำเภอ

การจัดสรรวัคซีนเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมรองรับระยะ Post Pandemic ของประเทศไทย ซึ่งกำหนดเป้าหมายเข็มกระตุ้นอย่างน้อยร้อยละ 60 ปัจจุบันมีเพียง 20 จังหวัดที่ผ่านเกณฑ์ ปัจจัยหนึ่งที่รับเข็มกระตุ้นน้อย คือ การเข้าถึงบริการโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง และผู้ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล จึงมีนโยบายอำนวยความสะดวกนำวัคซีนทุกชนิดทุกสูตรไปให้บริการที่ รพ.สต. ซึ่งใกล้บ้านและใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด จัดบริการแบบ walk-in ทุกจุด ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไกล
แผนการจัดสรรวัคซีน 16.8 ล้านโดส

สำหรับ รพ.สต. ตัวเลขนี้เป็นโควตา จะทยอยส่งเป็นรอบๆ ไปที่คลังวัคซีนจังหวัด ขณะนี้มี 20 จังหวัดที่ได้รับครบตามโควตา โดยมีการประสานแจ้งแผนการจัดส่งให้หน่วยบริการทราบก่อนทุกครั้ง พร้อมตรวจสอบจำนวนวัคซีนคงคลังกับแต่ละจังหวัดก่อนส่งเสมอ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะกระจายวัคซีนต่อไปที่ รพ.สต. ตามศักยภาพการฉีดและความจุของตู้เย็นแต่ละ รพ.สต. ซึ่งหากยังไม่พร้อมก็สามารถปฏิเสธการรับวัคซีนตามโควตาได้ จึงไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีนล้นตู้เย็น ส่วนการจัดเก็บและขนส่งวัคซีนเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้วัคซีนคงสภาพดีที่สุดและปลอดภัย ก่อนนำไปให้บริการประชาชน
ระบบการเบิกและจัดการคลังวัคซีน ในช่วงที่ผ่านมาส่วนกลางกำหนดให้พื้นที่ตั้งเบิกตามจำนวนที่ต้องการเป็นรายสัปดาห์ ผ่านกลไกกองตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข จึงไม่มีปัญหาขาดแคลนวัคซีนในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาที่มีวันหยุดยาวหลายวัน เกิดข้อร้องเรียนจากหลายจังหวัดว่า วัคซีนไปไม่ทันการฉีดในผู้ที่มีกำหนดนัด สะท้อนว่าบางจังหวัดไม่ได้สำรองวัคซีนสำหรับกรณีเหตุฉุกเฉิน แม้จะมีข้อสั่งการให้สำรองวัคซีนที่คลังจังหวัดอย่างน้อย 1 เดือน ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการเร่งฉีดวัคซีนแบบเชิงรุกทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงเห็นควรให้พื้นที่มีคงคลังวัคซีนสำรองเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการวัคซีนในการให้ประชาชนได้รับความสะดวกและเข้าถึงได้ง่าย

“แม้ภาพรวมทั้งประเทศจะฉีดวัคซีนเข็มแรกได้กว่า 81.7% แต่กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 2 ล้านคน และเด็กอายุ 5-11 ปี อีก 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ขณะที่บางพื้นที่ บางอำเภอฉีดวัคซีนเข็มแรกน้อยมาก บางอำเภอไม่ถึง 60% ส่วนเข็มกระตุ้นพบว่า ส่วนใหญ่ฉีดครบในอำเภอเมือง แต่อำเภอห่างไกลหรือชนบท ฉีดเข็มกระตุ้นได้ค่อนข้างน้อย บางอำเภอฉีดเข็ม 3 ได้ไม่ถึง 10% พื้นที่จึงควรวางแผนเร่งรัดให้ประชาชนในพื้นที่ตนเองได้รับวัคซีนตามเป้าหมาย ทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้น

ดังนั้น การนำวัคซีนไป รพ.สต.ใกล้บ้านที่สุดจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนอยากฉีดเมื่อไรก็มาฉีดได้ และข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหลายจังหวัด พบว่าการที่ รพ.สต.มีวัคซีนพร้อมใช้ ทำให้เจ้าหน้าที่บริหารจัดการวัคซีนได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรอวัคซีนที่ส่งมาจากคลังวัคซีนจังหวัด เปิดให้บริการแบบ walk-in หรือรับนัดล่วงหน้าได้แบบไม่ต้องจำกัดจำนวน จัดบริการเชิงรุกให้สถานประกอบการหรือโรงงานที่มีผู้ต้องการฉีดวัคซีนจำนวนมากได้ ไม่ต้องรอการอนุมัติจากคลังวัคซีนจังหวัด” นพ.วิชาญ ระบุ

https://www.sanook.com/news/8573094/

...ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ

สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

แต่การฉีดวัคซีนมีปัญหาทางส่วนภูมิภาคต่างจังหวัด

ได้เจ้าหน้าที่ดีก็ดีไปค่ะ พยายามชวนคนมาฉีด 

แต่อย่างหมอชนบทไม่ไหวค่ะ  ทำเหมือนงานยากงมเข็มในมหาสมุทร

ดูแคลนวัคซีนอย่างซิโนแวค แอสตร้าเซเนก้า

เห็นใจสธ.นะคะ  ที่ต้องชี้แจงบ่อยๆ

มาฉีดวัคซีนกันเถอะค่ะ อย่าให้เป็นความเสี่ยงของตัวเอง อันตรายถึงชีวิต

....✌️💕
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02LCaDuCbpgb1JgUXGBZ65SAZkpFFPmxuK17zUHu7yn11QuXTdCMXRuKXkNQt2Loiul


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 6 มิ.ย. 2565)
รวม 138,209,571 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 6 มิถุนายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 35,122 โดส

เข็มที่ 1 : 2,764 ราย
เข็มที่ 2 : 6,135 ราย
เข็มที่ 3 : 26,223 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,799,885 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 52,803,193 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 28,606,493 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid09Xa6CU2JGtMndLiKQCPqXDrSXFR3HqaNNFp5M8UH2rcZNeGBVesrkPKDVkEMPEfpl


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมเดินหน้า “โควิด-19” สู่โรคประจำถิ่นอย่างปลอดภัย หลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิด Health for Wealth คืนระบบบริการการแพทย์แก่ประชาชนทุกคนทุกโรค ทั้งการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากกว่า 60% การเฝ้าระวังการระบาดเป็นกลุ่มก้อน การปรับมาตรการดูแลผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่ต้องตรวจหาเชื้อ ยกเว้นมีความเสี่ยง หรือเป็นผู้ป่วยใน - ผ่าตัด รวมถึงการเตรียมปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และเน้นมาตรการ 2U - COVID Free Setting ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิดได้

ที่มา: ไทยคู่ฟ้า
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0fyVt9c621dPZBsohKEVhqcCexAo1xTcNLw4JaUoD5R5otbmimmoMbcDzNwNaKfEBl


นายกฯ ย้ำ !! "ถอดหน้ากากในพื้นที่ กทม." ต้องรอบคอบ รัดกุม เป็นขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผ่อนคลายมาตรการจะให้มีการถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ได้มอบนโยบายให้มีการปรึกษาหารือและเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ไว้แล้ว หากสถานการณ์ยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะดำเนินการตามลำดับขั้นตอนต่อไป ที่สำคัญคือ เพื่อให้ประชาชนประกอบอาชีพได้อย่างปกติและทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ ทั้งนี้ การออกมาตรการต้องมีการวิเคราะห์และประเมินผลจาก ศบค. ก่อน ไม่สามารถประกาศโดยพลการได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการจะออกมาตรการต่าง ๆ ต้องมีการรอบครอบ รัดกุม และดำเนินอย่างเป็นขั้นตอน สอดคล้องกับการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ โดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ในขณะนี้ ทุกคนยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ ตามปกติ ในส่วนมาตรการผ่อนคลายอื่น ๆ ให้ติดตามข่าวสารจากทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและไม่เกิดความสับสน

ที่มา: โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02rceLLtqNdqsj7etHo79WLUsqQxbvz5JMKUNcsBrMyLuzNsfAeRtbTsG1o7e2R7CYl


สธ.เผยยังไม่พบแนวโน้ม “โควิด” เพิ่ม หลังเปิดสถานบันเทิง เห็นชอบแผนเร่งรัดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ถึง 60%

กระทรวงสาธารณสุขเผยยังไม่พบแนวโน้ม “โควิด” เพิ่มขึ้นหลังเปิดสถานบันเทิงเกือบ 1 สัปดาห์ ยังต้องติดตามเพิ่มเติม เห็นชอบแผนเร่งรัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 60% ในการเปิดประเทศปลอดภัยพบยังฉีดเพียง 41% อำเภอห่างไกลและชนบทยังฉีดได้น้อย แนะจังหวัดทำแผนระดับอำเภอ นำวัคซีนไปหาประชาชน กระจายถึงระดับ รพ.สต. ให้เปิดฉีดวัคซีนทุกวัน

จากการติดตามการเปิดกิจการสถานบันเทิงตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ยังไม่พบแนวโน้มผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่ต้องติดตามอีก 1-2 สัปดาห์ จึงจะสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า การเปิดสถานบันเทิงไม่มีผลกระทบมากนักต่อจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยอาการหนัก

ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้น สธ. ตั้งเป้าหมายดำเนินการฉีดไม่น้อยอีกกว่า 30 ล้านโดส โดยเฉพาะช่วงต่อไปที่จะเปิดประเทศและเปิดกิจกรรมให้ทำมากขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้ 60% โดยขณะนี้ฉีดเข็มกระตุ้นเพียง 41% ทั้งนี้ จากการติดตามผู้ที่ครบกำหนดฉีดเข็ม 3 มีการฉีดเพียง 50% จึงต้องรณรงค์ให้คนที่ครบกำหนดเข้ารับวัคซีน เพื่อรองรับการเปิดกิจการต่างๆ สำหรับกลยุทธ์ที่หารือกันในการฉีดเข็ม 3 คือ การเอาวัคซีนไปหาประชาชน เนื่องจากกลุ่มที่ยังไม่ได้รับ บางคนกลัววัคซีนก็ต้องทำความเข้าใจ อีกส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงวัคซีนหรือไปมาไม่สะดวก จากเดิมวัคซีนเราฉีดที่ศูนย์กลางต่างๆ โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ก็มีนโยบายไปฉีดถึง รพ.สต.

ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02e5gmaUuyj9ka9dc9nHX67AJVHZkKSdgojj6PE1NuvCXdNLpC3SbsVmZUTUauzjrl


ประสิทธิผลวัคซีนโควิด19 ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้จริงๆ ไปฉีดเข็มกระตุ้นกันนะคะ
https://www.facebook.com/fanmoph/posts/pfbid02S13rKcwSzBcGT1RoFNerX8RthTewC4eZWXXSvp6oCidYnWpj8ePMfBbiDWXSF2qsl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่