สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนนะคะ พอดีไปซื้อรถยนต์มือ2 รุ่น โตโยต้าอัลติส ปี 2012 เครื่อง 1.8 G
ยอดซื้อ 455,670 ผ่อนเดือนละ 6,329 ทั้งหมด 72 งวด ผ่อนไปแล้ว 32 งวด คงเหลือ 40 งวด (งวดคงเหลือคิดเป็นเงิน 252,500 / ยอดปิด 230,000) >>จำนวนเงินคิดเป็นตัวเลข กลมๆให้นะคะ<<
ขอเล่าต่อนะคะ ตั้งแต่ออกรถมา ช่วงปีแรก ขับดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พอเข้าปีที่2 รถเริ่มมีปัญหาค่ะ เริ่มจากรูปไฟเครื่องยนต์โชว์ ไปสแกนเกี่ยวกับตัวเซนเซอร์ พอทำเซนเซอร์เสร็จ ขับมาได้สัก 2 เดือน ไฟโชว์อีก สแกนอีกเป็นเกี่ยวกับท่อแคท พอทำท่อเสร็จ อยู่ๆความร้อนขึ้น ไปเช็ค ปรากฏว่าวาล์วเสื่อม เปลี่ยนวาล์ว ขับไปล่าสุดเครื่องฮีทหาที่จอดไม่ได้ ค้างประมาณ2-3 นาที ล่าสุดไปเช็ค เป็นหม้อน้ำตันเป็นบางช่อง เปลี่ยนหม้อน้ำอีก พอเปลี่ยนหม้อน้ำ รถก็ขับได้ปกติ แต่มีฟองอากาศ ในหม้อช่างบอก ต้องลองเปิดฝาดู สรุปฝาโก่ง กระบอกสูบที่3 รั่ว เพราะมีฟองอากาศซึมออกมา อารมณ์ประมาณว่าซ่อมตรงนั่นเสร็จเป็นตรงนี้ต่อ หมดกับค่าซ่อมไปเยอะพอสมควรค่ะ ล่าสุดตอนนี้รถอยู่อู๋ รับรถวันที่ 10/06 นี้ ค่าซ่อม เอารถออกมายังหาไม่ได้เลยค่ะ รถไม่ค่อยได้ขับเท่าไรนะคะ เดือนนึงขึ้น กทม 1-2 ครั้ง ขับไปเที่ยวบ้างตามโอกาส แต่ส่วนใหญ่จะจอดไว้ ไปทำงานก็รถมอไซค่ะ เพราะตอนนี้หาเงินหาไม่ทันจริงๆค่ะ ด้วยภาระต่างๆ ทางบ้านทำงานอยู่คนเดียว เป็นเสาหลักเลยก็ว่าได้ และที่บ้านตอนนี้ก็มีปัญหา ต้องขึ้นศาล มีค่าใช้จ่าย คดียึดเยื้อมา2ปีแล้วค่ะ หมดกับค่าคดีความไปก็หลายแสนค่ะ ต้องขึ้นศาลอีกวันที่ 16/06 นี้ค่ะ
จะกราบขอคำปรึกษา จากพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ
1.มีเจ้าหนี้เสนอรีไฟแนนซ์ ยอดจัด 300,000 ปิดยอดต้นให้ 200,000 จะเหลือส่วนต่างที่กลับมาใช้ 100,000
ผ่อน 6,720x72 = 483,850 จากเดิมอีกแค่ 3 ปีก็จะหมดงวดแล้ว เหมือนเริ่มนับ1ใหม่อีกครั้ง
2.หาเงินไปจ่ายค่าซ่อมก่อน เอารถออกมาก่อน ถ้าขับได้ ขับดี ก็กัดฟันอดทนไปจนหมดงวดไม่ต้องรีไฟแนนซ์
3.ซ่อมเสร็จ เอาตีเทินแลกรถใหม่ไปเลย(ในกรณีคิดจะรีไฟแนนซ์นะคะ คือไหนๆจะเริ่มต้นผ่อนใหม่อยู่แล้ว ราคาผ่อนใหม่ก็พอๆกับผ่อนมือ 1 ไม่ต้องรี ตีเทินไปเลย)
ปล. ขอเพิ่มเติมเรื่องรถนะคะ เข้าศูนย์ 2 ครั้ง อู่นอก 3 ครั้ง ทั้งศูนย์และอู่ บอกว่าถ้าไม่มองเรื่องอื่น คือเครื่องยนต์ดี แน่น เงียบ ทุกอย่างที่เปลี่ยนจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะรถมันหลายปี เนื่องจากสภาพก็เสื่อมตามอายุการใช้งาน ลงทุนเงินสักก้อนเปลี่ยนอะไหล่เก่าๆนิดหน่อย ก็ขับได้อีกหลายปี เป็นผญ ขับ ดูแลเช็ครถไม่เป็น รถเน้นใช้ไปทำธุระสะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ขับอยู่แล้ว ซ่อมให้พอขับได้ และคนรอบข้างส่วนใหญ่ไม่อยากให้ขาย ไม่อยากให้รี อันนี้พูดในกรณีไม่มีเงินพอจะออกป้ายแดงหรือไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มนะคะ ใจลึกๆก็แอบเสียดายถ้าขายทิ้งจริงๆ เหมือนที่ผ่านมาเหมือนเช่าเขาขับ ผ่อนไป 200,000 กว่าแล้ว อารมณ์ซื้อมาแล้ว ก็ซ่อมก็ใช้ๆไปอ่ะค่ะ
ตอนนี้ทางบ้านก็หาเงิน หมุนเงินไม่ทัน ถ้ารีก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ ผ่อนใหม่ จากมีหนี้อยู่ 230,000 ไปรีไฟแนนซ์ มีหนี้เพิ่มมาอีกเป็น 483,850 แต่ยังเป็นรถคันเก่าอยู่ แต่จะมีเงินส่วนต่างมาใช้ฉุกเฉิน 100,000
แต่ถ้ารีไฟแนนซ์ .ก็มีแอบคิดในใจอีกว่า ไหนๆก็ผ่อนพอๆกับมือ1 แล้ว ก็เอาตีเทินแลกใหม่ไปเลย เริ่มต้นผ่อนใหม่เหมือนกัน
สรุปนะคะ ระหว่าง
รีไฟแนนซ์ เพื่อเอางานมาจ่ายค่าซ่อม แล้วก็ลองขับลองใช้ไปก่อน และเงินที่เหลือเอาไว้เผื่อฉุกเฉินขึ้นศาลนัดถัดไป เริ่มผ่อนใหม่ รถคันเดิม
หรือหาเงินไปจ่ายค่าซ่อมออกมาก่อน ไม่ต้องรี ถ้าซ่อมแล้วดี ขับได้ ก็ผ่อนยอดเดิมไป อีกแค่แป๊บเดียวก็หมด
หรือจะขาย/ตีเทิน เอาใหม่ไปเลย จะได้จบๆ เริ่มต้นใหม่เหมือนกัน
ระหว่างจัดไฟแนนซ์ ตีเทินเก่าแลกใหม่ หรือ จะขายทิ้งไปเลยดีค่ะ
ยอดซื้อ 455,670 ผ่อนเดือนละ 6,329 ทั้งหมด 72 งวด ผ่อนไปแล้ว 32 งวด คงเหลือ 40 งวด (งวดคงเหลือคิดเป็นเงิน 252,500 / ยอดปิด 230,000) >>จำนวนเงินคิดเป็นตัวเลข กลมๆให้นะคะ<<
ขอเล่าต่อนะคะ ตั้งแต่ออกรถมา ช่วงปีแรก ขับดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พอเข้าปีที่2 รถเริ่มมีปัญหาค่ะ เริ่มจากรูปไฟเครื่องยนต์โชว์ ไปสแกนเกี่ยวกับตัวเซนเซอร์ พอทำเซนเซอร์เสร็จ ขับมาได้สัก 2 เดือน ไฟโชว์อีก สแกนอีกเป็นเกี่ยวกับท่อแคท พอทำท่อเสร็จ อยู่ๆความร้อนขึ้น ไปเช็ค ปรากฏว่าวาล์วเสื่อม เปลี่ยนวาล์ว ขับไปล่าสุดเครื่องฮีทหาที่จอดไม่ได้ ค้างประมาณ2-3 นาที ล่าสุดไปเช็ค เป็นหม้อน้ำตันเป็นบางช่อง เปลี่ยนหม้อน้ำอีก พอเปลี่ยนหม้อน้ำ รถก็ขับได้ปกติ แต่มีฟองอากาศ ในหม้อช่างบอก ต้องลองเปิดฝาดู สรุปฝาโก่ง กระบอกสูบที่3 รั่ว เพราะมีฟองอากาศซึมออกมา อารมณ์ประมาณว่าซ่อมตรงนั่นเสร็จเป็นตรงนี้ต่อ หมดกับค่าซ่อมไปเยอะพอสมควรค่ะ ล่าสุดตอนนี้รถอยู่อู๋ รับรถวันที่ 10/06 นี้ ค่าซ่อม เอารถออกมายังหาไม่ได้เลยค่ะ รถไม่ค่อยได้ขับเท่าไรนะคะ เดือนนึงขึ้น กทม 1-2 ครั้ง ขับไปเที่ยวบ้างตามโอกาส แต่ส่วนใหญ่จะจอดไว้ ไปทำงานก็รถมอไซค่ะ เพราะตอนนี้หาเงินหาไม่ทันจริงๆค่ะ ด้วยภาระต่างๆ ทางบ้านทำงานอยู่คนเดียว เป็นเสาหลักเลยก็ว่าได้ และที่บ้านตอนนี้ก็มีปัญหา ต้องขึ้นศาล มีค่าใช้จ่าย คดียึดเยื้อมา2ปีแล้วค่ะ หมดกับค่าคดีความไปก็หลายแสนค่ะ ต้องขึ้นศาลอีกวันที่ 16/06 นี้ค่ะ
จะกราบขอคำปรึกษา จากพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ
1.มีเจ้าหนี้เสนอรีไฟแนนซ์ ยอดจัด 300,000 ปิดยอดต้นให้ 200,000 จะเหลือส่วนต่างที่กลับมาใช้ 100,000
ผ่อน 6,720x72 = 483,850 จากเดิมอีกแค่ 3 ปีก็จะหมดงวดแล้ว เหมือนเริ่มนับ1ใหม่อีกครั้ง
2.หาเงินไปจ่ายค่าซ่อมก่อน เอารถออกมาก่อน ถ้าขับได้ ขับดี ก็กัดฟันอดทนไปจนหมดงวดไม่ต้องรีไฟแนนซ์
3.ซ่อมเสร็จ เอาตีเทินแลกรถใหม่ไปเลย(ในกรณีคิดจะรีไฟแนนซ์นะคะ คือไหนๆจะเริ่มต้นผ่อนใหม่อยู่แล้ว ราคาผ่อนใหม่ก็พอๆกับผ่อนมือ 1 ไม่ต้องรี ตีเทินไปเลย)
ปล. ขอเพิ่มเติมเรื่องรถนะคะ เข้าศูนย์ 2 ครั้ง อู่นอก 3 ครั้ง ทั้งศูนย์และอู่ บอกว่าถ้าไม่มองเรื่องอื่น คือเครื่องยนต์ดี แน่น เงียบ ทุกอย่างที่เปลี่ยนจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะรถมันหลายปี เนื่องจากสภาพก็เสื่อมตามอายุการใช้งาน ลงทุนเงินสักก้อนเปลี่ยนอะไหล่เก่าๆนิดหน่อย ก็ขับได้อีกหลายปี เป็นผญ ขับ ดูแลเช็ครถไม่เป็น รถเน้นใช้ไปทำธุระสะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ขับอยู่แล้ว ซ่อมให้พอขับได้ และคนรอบข้างส่วนใหญ่ไม่อยากให้ขาย ไม่อยากให้รี อันนี้พูดในกรณีไม่มีเงินพอจะออกป้ายแดงหรือไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มนะคะ ใจลึกๆก็แอบเสียดายถ้าขายทิ้งจริงๆ เหมือนที่ผ่านมาเหมือนเช่าเขาขับ ผ่อนไป 200,000 กว่าแล้ว อารมณ์ซื้อมาแล้ว ก็ซ่อมก็ใช้ๆไปอ่ะค่ะ
ตอนนี้ทางบ้านก็หาเงิน หมุนเงินไม่ทัน ถ้ารีก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ ผ่อนใหม่ จากมีหนี้อยู่ 230,000 ไปรีไฟแนนซ์ มีหนี้เพิ่มมาอีกเป็น 483,850 แต่ยังเป็นรถคันเก่าอยู่ แต่จะมีเงินส่วนต่างมาใช้ฉุกเฉิน 100,000
แต่ถ้ารีไฟแนนซ์ .ก็มีแอบคิดในใจอีกว่า ไหนๆก็ผ่อนพอๆกับมือ1 แล้ว ก็เอาตีเทินแลกใหม่ไปเลย เริ่มต้นผ่อนใหม่เหมือนกัน
สรุปนะคะ ระหว่าง
รีไฟแนนซ์ เพื่อเอางานมาจ่ายค่าซ่อม แล้วก็ลองขับลองใช้ไปก่อน และเงินที่เหลือเอาไว้เผื่อฉุกเฉินขึ้นศาลนัดถัดไป เริ่มผ่อนใหม่ รถคันเดิม
หรือหาเงินไปจ่ายค่าซ่อมออกมาก่อน ไม่ต้องรี ถ้าซ่อมแล้วดี ขับได้ ก็ผ่อนยอดเดิมไป อีกแค่แป๊บเดียวก็หมด
หรือจะขาย/ตีเทิน เอาใหม่ไปเลย จะได้จบๆ เริ่มต้นใหม่เหมือนกัน