รีวิว beyerdynamic DT700 PRO X และ DT900 PRO X คู่แฝดพี่น้อง ที่ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพด้านการทำเพลง
.
รีวิวโดย Admin หูฟังคลับ
วันนี้แอดมินเห็น beyerdynamic ได้มีการออกหูฟังในซีรีย์ใหม่ จึงได้ขอหยิบยืมมาฟังและทำรีวิวให้ชมกันครับ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างเพราะแบรนนี้มีหูฟังระดับตำนาน ที่ไม่เคยหลับไหล อย่าง DT770 PRO ซึ่งโดยส่วนตัวแอดมินชอบรุ่นนี้มากๆ จึงต้องขอเอา Series ใหม่มาลองหน่อยครับ

.
เกริ่นก่อนว่า DT700 PRO X และ DT900 PRO X เป็นซีรี่ย์ใหม่ ไม่ได้ออกมาแทนรุ่นในตำนานแต่อย่างใดนะครับ เพราะดูจากในโบรชัวร์ เป็นการเพิ่มรุ่น เพิ่มทางเลือกเข้ามาให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกมากขึ้นครับ รุ่นในตำนานยังคงมีการผลิต มีขายอยู่ ไม่ได้หายไปจากตลาดแน่นอน ใครที่กังวลเรื่องนี้ขอให้สบายใจได้

.
beyerdynamic DT700 PRO X และ DT900 PRO X เป็นหูฟังในกลุ่มที่เน้นการทำงานแบบมืออาชีพ และเพิ่มปรับปรุงบางอย่างให้ใช้งานใน Lifestyle ชีวิตประจำวันได้มากขึ้นครับ หลักๆที่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นในตำนานยอดนิยมก็มีดังต่อไปนี้ครับ
1.ดีไซน์ ที่มีความทันสมัย Modern และ Minimal สวยเรียบหรูมากขึ้น
2.เอียร์แพดออกแบบใหม่ กำมะหยี่นุ่มสบายเหมือนเดิม แต่ทรงจะดูมีสันมีมุม ที่ชัดเจนมากขึ้น Headband ด้านบน ออกแบบกลไกสามารถถอดเปลี่ยนได้ แบบทันสมัยมากขึ้นคล้ายๆระบบคลิ๊กล๊อค (DT770 PRO จะออกแบบเป็นกระดุมถอดเปลี่ยน)
3.สายออกแบบให้สามารถถอดเปลี่ยนได้ ขั้วแบบ Mini XLR ทรงกลม มีสายสั้น 1.8 เมตร และสายยาว 3 เมตรให้เลือกใช้ สายแบบตรงไม่มีการทำขดม้วนแต่อย่างใดครับ
4.ไดรเวอร์เทคโนโลยีใหม่ STELLAR.45 driver เน้นความต้านทานต่ำกว่าเดิมมากๆ Impedance: 48 Ohm เน้นขับง่าย เอาใช้ผู้ใช้งานกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ หรือการทำงานกับโทรศัพท์ หรือ Tablet ให้เหมาะมากขึ้นกว่าเดิมครับ
.

แพ๊คเกจ
เป็นกล่องกระดาษ ตามมาตรฐานของ Beyerdynamic ครับ มีสาย 2 เส้น หัวแปลงขนาดใหญ่ และถุงผ้าสำหรับใส่หูฟังให้มาในชุดครบครันเช่นเดิม
.


งานประกอบ
รุ่นนี้เป็นการผลิต Made In Germany ทำได้ดีตามมาตรฐาน Beyerdynamic ทุกอย่างประกอบแน่นหนา ดูแข็งแรง น่าจะทนไม้ทนมือได้ดีในระดับหนึ่งครับ ความเนี้ยบการทำสีทำได้ดี หูฟังสีแบบด้าน ไม่เงา พลาสติดกแบบด้าน โครงก้านโลหะเป็นอลูมิเนียมดำด้าน มีข้อดีคือไม่เกิดคราบมันและรอยนิ้วมือครับ หูฟังมีเฉพาะสีดำ เท่านั้นนะครับ ไม่ได้เน้นแฟชั่นสำหรับซีรี่ย์นี้
.
ความสบายในการสวมใส่
DT700 PRO X และ DT900 PRO X ให้ความสบายในการสวมใส่ในระดับเดียวกัน โครงสร้างหูฟังหลักเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ DT700 PRO X เป็นหูฟังแบบปิด และ DT900 PRO X เป็นหูฟังแบบกึ่งเปิดครับ ทั้งคู่แอดมินลองสวมใส่เป็นระยะเวลาพอสมควร ก็ไม่รู้สึกถึงความเมี่อยล้าแต่อย่างใด และไม่ได้รู้สึกร้อนหู เพราะว่าเอียร์แพดกำมะหยี่ ช่วยให้ระบายอากาศในขณะสวมใส่ได้ดีครับ บางคนอาจจะกล่าวว่า DT900 PRO X น่าจะใส่นานๆได้ดีกว่า เพราะเป็นแบบกึ่งเปิด แต่สำหรับตัวผมเอง ที่ใช้ในห้องแอร์ ถือว่าไม่มีความต่างของ 2 รุ่นนี้ครับ เพราะเอียร์แพดช่วยระบายความร้อนได้ดีอยู่แล้ว โดยรวมคือ ใช้งานยาวๆ ทำงานยาวๆได้ดี ไม่มีปัญหาครับ




.
รีวิวเรื่องเสียง
ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนว่า ความเห็นเรื่องเสียง เป็นความชอบและความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกันได้นะครับ สำหรับ DT700 PRO X และ DT900 PRO X ในภาพรวมให้โทนเสียงไปในทางคล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว โทนเสียงทั้งคู่มาในแนว Natural ปรุงแต่งน้อย ค่อนข้าง Flat เพราะเป็นคาแรกเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานสดูดิโอทั้งคู่อยู่แล้วครับ หากจะเทียบไปถึงรุ่นพี่อย่าง DT770 PRO ก็เรียกได้ว่า เสียงมาในโทนคล้ายกันทั้ง 3 รุ่นเลยครับ
ความแตกต่างเรื่องเสียงที่พบ ระหว่าง DT700 PRO X และ DT900 PRO X อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ
DT700 PRO X แอดมินรู้สึกว่า เสียงกลางย่านต่ำ จะถูกบูสมาน้อยกว่าเล็กน้อย ทำให้ได้ความโปร่งและรู้สึกฟังสบายเป็นธรรมชาติมากกว่านิดนึง เรียกสั้นๆคือรู้สึกว่า Flat มากกว่า โปร่งโล่งมากกว่า
ส่วน DT900 PRO X จะมีการบูสเสียงกลางย่านต่ำ ที่มากกว่าเล็กน้อย ทำให้การฟังเพลงได้ความสุนทรีย์มากขึ้น ฟังเพลงได้มีความสนุกสนาน รู้สึกมาความ Color มากขึ้นเล็กน้อย (ย้ำว่า เล็กน้อย ไม่ได้ถึงกับแนววัยรุ่นนะครับ) เรียกสั้นๆคือรู้สึกว่า Flatแบบแต่งเสียงนิดๆ มีความฟังสนุกมากขึ้น
.


ความเหมาะสมในการใช้งาน
DT700 PRO X และ DT900 PRO X ทั้งคู่เหมาะใช้ทำงานมืออาชีพ ทำเพลง Mix เพลงได้สบายๆทั้งคู่ ใช้ฟังเพลงก็ทำได้ดี ให้เสียงเป็นธรรมชาติ แต่แอดมินจะออกความเห็น ว่ารุ่นใด เหมาะกับงานลักษณะใดมากกว่านะครับ
DT700 PRO X เหมาะมากๆกับงาน ห้องอัดเสียง งานมอนิเตอร์ในห้องอัด และในสตูดิโอบันทึกเสียง งานพวกนี้เรียกได้ว่า ยืนหนึ่งเทียบชั้นรุ่นพี่ในตำนานอย่าง DT770 PRO ได้แน่นอน ยิ่งใครใช้ไมค์คอนเดนเซอร์ ต้องใช้หูฟังแบบ Closed Type เลยรุ่นนี้ได้เลยไม่ต้องลังเลครับ ส่วนงาน Mastering งาน Mixing ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ
DT900 PRO X เหมาะกับงาน Mastering งาน Mixing และงานมอนิเตอร์ฟังเสียง แต่อาจจะไม่เหมาะกับงานในห้องอัดเสียงที่ใช้ไมค์คอนเดนเซอร์ครับ เพราะเป็นหูฟังแบบกึ่งเปิด เสียงมีโอกาสหลุดเข้าไมค์ได้ และพวกการฟังเพลงเพื่อการผ่อนคลายทั่วไป ก็ทำได้ดีครับ
ทั้งคู่ ออกแบบมาให้ โอห์มต่ำ ทำให้ถ้าห้องอัดแบบที่ไม่ได้อลังการ ไม่ได้มีอุปกรณ์กำลังขับสูง ก็สามารถใช้หูฟัง DT700 PRO X และ DT900 PRO X ได้อย่างสบายครับ จริงๆคือใช้ Ipad ฟัง ยังทำได้สบายๆเลยด้วยครับ โอห์มต่ำขนาดนี้


.
ข้อสังเกตุ
เขียนรีวิวมาซะยาว ต้องมีคนคิดแน่ว่า จะไม่รีวิวข้อสังเกตุหรือจุดด้อยบ้างเลยเหรอ แอดมินพยายามหา ก็จะมีจุดสังเกตุดังนี้ครับ อย่างแรกคือ หูฟัง 2 รุ่นนี้มีน้ำหนักประมาณ 350 กรัม ซึ่งมากกว่ารุ่นพี่ Dt770 PRO ในตำนานพอสมควร ทำให้ใช้ไปนานๆอาจรู้สึกหนักกว่ารุ่นเก่าได้ครับ อีกส่วนคือ Adapter แปลงแจ๊ค 3.5 เป็น 6.3 นั้น มีการออกแบบเกลียวรูปแบบใหม่ เกลียวจะเล็กอยู่ขอบในๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่เหมือนกับ Adapter ในสมัยก่อน หากทำชิ้นส่วนนี้หายอาจจะหาซื้อได้ยากกว่าแบบเดิมครับ เท่าที่แอดมินนึกออกก็มี 2 ส่วนนี้ครับ
.
สรุป
beyerdynamic DT700 PRO X และ DT900 PRO X เป็นหูฟังแนว Studio Monitor สำหรับยุคสมัยใหม่ ที่อุปกรณ์ต้นทางถึงจะมีกำลังขับน้อย ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆ เพราะทั้งคู่ให้โอห์มที่ต่ำ แนวเสียงเป็นไปทาง Flat ราบเรียบ โทนธรรมชาติ ปรุงแต่งน้อย ใช้ทำงานได้ดี แต่หากเทียบกันแล้ว DT700 PRO X ให้ความ Flat ราบเรียบที่มากกว่า DT900 PRO X สามารถซื้อไปใช้งานอัดเสียง ทำงานเพลงได้อย่างดีมาก แต่ถ้าจะนำไปใช้มอนิเตอร์ขณะอัดเสียงด้วยไมค์คอนเดนเซอร์ ควรเลือกรุ่น DT700 PRO X ที่เป็นหูฟังระบบปิดครับ ใครที่สนใจก็หาซื้อได้ตามร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าของ Beyerdynamic นะครับ อย่าลืม เลือกของที่นำเข้าโดยศูนย์ไทยด้วยนะครับ จะมีสติกเกอร์ Brand Identity and Innovation อยู่หน้ากล่องครับ
 
สุดท้ายนี้ ขอบคุณ บริษัท Brand Identity and Innovation ที่ให้ยืมหูฟังมารีวิว และฟังจนฟินไปหลายเพลงเลยครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้า สวัสดีครับ