ค่าครองชีพพุ่ง กำลังซื้อหด ร้านค้าปลีกกระทบหนัก ความเชื่อมั่นวูบ
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/173373
ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมัน กระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน โดยผลสำรวจค้าปลีกของธปท.พบว่าดัชนีร่วงต่อเนื่อง
ค่าครองชีพสูงขึ้น เริ่มส่งสัญญาณกระทบต่อผู้ประกอบการค้าปลีก จากกำลังซื้อลดลง โดย Business Intelligence ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกทั้งภาวะปัจจุบัน และในระยะ 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลง
ดัชนีลดลงมาจากภาวะค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นซ้าเติมก้าลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอและมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐทยอยหมดลง ซึ่งกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก
ดัชนี RSI เดือนพฤษภาคมปรับลดลงทั้งภาวะปัจจุบัน และระยะ 3 เดือนข้างหน้า แม้ว่าผู้บริโภคจะคลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 สะท้อนจากกิจกรรมนอกบ้านที่มากขึ้น แต่การปรับขึ้นราคาสินค้าหลายรายการตามต้นทุนและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่มาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐหมดลง ซ้าเติมก้าลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ และกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก
ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมแตกต่างกันไปตามปัจจัยเฉพาะในแต่ละภูมิภาค ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปรับลดลงตามยอดขายหลังสินค้าหลายรายการปรับราคาสูงขึ้น ขณะที่ กทม. และภาคกลางปรับดีขึ้นจากพฤติกรรมการตุนสินค้าก่อนราคาจะขึ้น อีกทั้งร้านค้าส่วนใหญ่ท้าโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติม
ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการประเภทห้างสรรพสินค้า ร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน สอดคล้องกับความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง (Spending per bill) ปรับลดลง เพราะผู้บริโภคคลายความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด จึงเริ่มออกมาใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ลดการประกอบอาหารในบ้าน ท่องเที่ยว และท้ากิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นคาดว่าจะยังเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของก้าลังซื้อของผู้บริโภค
ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะราคาสินค้าขั้นพื้นฐานหลายหมวดที่ปรับแพงขึ้น โดยเฉพาะในหมวดสินค้าจ้าเป็น อีกทั้งยังพบว่าผู้บริโภคออกมาท้ากิจกรรมนอกบ้านมากขึ้นทั้งการท่องเที่ยว การกลับเข้าท้างานที่บริษัท และการเปิดภาคการศึกษา
ทั้งนี้ การสำรวจระหว่างวันที่ 18-25 พ.ค. จากกลุ่มตัวอย่างของธุรกิจค้าปลีกทั่วประเทศ ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของมูลค่าทั่วประเทศ
หมอธีระ สงสัย ศบค. รายงานผู้ป่วยโควิดหายนับหมื่น ชี้อย่าประมาท Long COVID
https://www.nationtv.tv/lifestyle/378874995
หมอธีระ ตั้งข้อสงสัย ศบค. รายงานสถานการณ์โควิดแบบใหม่ ทำให้ยอดผู้ป่วยหาย หวั่นสร้างผลกระทบระยะยาว พร้อมเผยงานวิจัยเยอรมนีพบผู้ติดโควิดป่วยโรคทางเดินหายในเพิ่ม 2-3 เท่าตัว เปิดเคส "ลิโอเนล เมสซิ" กับภาวะ Long COVID
1 มิถุนายน 2565 รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “
หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “
Thira Woratanarat” เป็นห่วงกรณีกระทรวงสาธารณสุข ปรับการรายงานสถานการณ์โควิดใหม่ โดยล่าสุดตัวเลขผู้ป่วยหายไปนับหมื่นราย เกรงว่าจะทำให้เกิดผลเสียระยะยาว มีรายละเอียดดังนี้...
สิ่งที่เราควรสังเกตและถาม เมื่อวาน รายงานว่ามีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 39,861 คน วันนี้ (1 มิ.ย.) รายงานว่ามีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 20,412 คน แปลว่า วันเดียวลดลงไป 19,449 คน
จำนวนดังกล่าว หากคิดเร็วๆ ด้วยเหตุด้วยผล ตัวเลขที่ลดลงนั้นก็เป็นไปได้ว่ามาจากการหายป่วย หรือเสียชีวิต แต่วันนี้รายงานจำนวนคนที่หายป่วย 5,125 คน และเสียชีวิต 28 คน
“ คำถามคือ แล้วอย่างน้อยอีก 14,296 คนหายไปไหน? (เพราะ 20,412 นี่เป็นเลขล่าสุดที่น่าจะรวมจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เข้ามาในระบบการรักษาด้วย) หรือปรับการรายงาน นำเสนอเฉพาะบางส่วน เช่น รักษาในระบบเจอแจกจบ แต่ไม่นับ HI? ซึ่งหากนำเสนอแบบนี้ก็จะยิ่งไม่สะท้อนสถานการณ์จริง และจะนำไปสู่การรับรู้ความเสี่ยงที่คลาดเคลื่อน และมีผลต่อการปฏิบัติตัวของประชาชนได้ ”
การอธิบายชี้แจงรายละเอียดจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกคนในสังคมมีความรู้เท่าทันสถานการณ์อย่างลึกซึ้ง และตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ที่สำคัญยิ่งคือ จะทำให้เกิดความเชื่อมือ เชื่อมั่น และเชื่อใจต่อระบบด้วย
พร้อมกันนี้ หมอธีระ ยังได้เปิดงานวิจัยของประเทศเยอรมนี ภาวะ Long COVID ที่ทำการวิจัยติดตามผลมานาน 2 ปี พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด มีผลทำให้ป่วยโรคทางเดินหายใจอื่นๆมากขึ้นโดยเฉลี่ยแล้ว 2-3 เท่า มีรายละเอียดดังนี้...
1 มิถุนายน 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 504,174 คน ตายเพิ่ม 1,304 คน รวมแล้วติดไป 532,536,426 คน เสียชีวิตรวม 6,313,278 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีเหนือ ไต้หวัน เยอรมัน บราซิล และฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 76.18 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 72.62 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 46.1 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 13.34
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนติดเชื้อเมื่อวาน รวม ATK ของไทย สูงเป็นอันดับ 13 ของโลก
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 14 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ถึงแม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปก็ตาม
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 12.06% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
อัพเดต Long COVID
Donnachie E และทีมงานจากประเทศเยอรมัน ทำการศึกษาอัตราการเกิดภาวะ Long COVID ในผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในแคว้นบาวาเรีย ตั้งแต่ปี 2020 ถึงมิถุนายน 2021 โดยทำการติดตามยาว 2 ปี จำนวน 391,990 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจอื่น 62,659 คน และกลุ่มที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 659,579 คน พบว่า
คนที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในระบบต่างๆ ของร่างกาย ได้รับการวินิจฉัยเป็น Post COVID syndrome หรือ Long COVID สูงราว 15%
หลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 จะพบอาการผิดปกติต่างๆ นั้นบ่อยกว่ากลุ่มเปรียบเทียบที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจอื่น และกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ติดเชื้อ โดยเฉลี่ยแล้ว 2-3 เท่า
นอกจากอุบัติการณ์เกิด Long COVID ที่ค่อนข้างสูงแล้ว ยังพบว่าอัตราการเข้ารับการดูแลรักษาอาการป่วยจาก Long COVID ก็สูงกว่าอีกสองกลุ่มที่ใช้เปรียบเทียบอีกด้วย โดยช่วงวัยที่เข้ารับการดูแลรักษามากสุดคือช่วงอายุ 40-59 ปี
ถือเป็นหลักฐานวิชาการอีกชิ้นหนึ่งที่ใช้กลุ่มประชากรที่ศึกษาจำนวนมาก และยืนยันถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19
โควิด...ติดไม่จบแค่หายแบบชิลๆ แต่ป่วย ตาย หรือเกิดผลกระทบระยะยาวอย่าง Long COVID ได้ และจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต สมรรถนะการดำรงชีวิตประจำวัน การทำงาน และเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น
ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องเสมอเวลาออกจากบ้านนะครับ สำคัญมาก
อ้างอิง : Donnachie E et al. Incidence of Post-Covid Syndrome and Associated Symptoms in Outpatient Care in Bavaria,
Germany. medRxiv. 30 May 2022.
ก่อนหน้านี้ หมอธีระ ยังได้โพสต์ข้อมูลภาวะ Long COVID ของ “ลิโอเนล เมสซิ” นักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 7 สมัย ว่า..
“ Messi เคยติดโควิดตอนมกราคม มีไข้ ไอ เจ็บคอ แต่หลังจากหาย ก็ประสบปัญหา Long COVID หรือ Post COVID condition ตามมา ดังนั้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ ย่อมดีที่สุด ใส่หน้ากากเสมอ สำคัญมาก ”
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0M4hUbZojX5q6VZ1tiTRX3nLhwmsktWZiW4g4LDbNutkB9F5JVc6UvUfC5ErwPSQfl
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02EcSAFoRvZj92ifV6vGrtWrTUhJwnGQUxD3dFYE96XqUJu12HUGz64r3AQLGHC3g1l
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02Hz2grnAHGpqQvyDigwEx8BKnTosaiRmMQVfJKKZvkesrpsPXWF4JQ4wypF7hzwGyl
อนุดิษฐ์ ปูด มีคนวิ่งเต้นแก้ทีโออาร์ซื้อโดรนทัพเรือ เป็นไม่ต้องมีอาวุธ พิรุธส่อมีเงินทอน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3377860
‘อนุดิษฐ์’ แฉ ‘เสี่ย’ ใกล้ชิดบิ๊ก ทร. วิ่งเต้นแก้ทีโออาร์ซื้อ เมล์ ยูเอวี ไร้อาวุธ ส่อมีเงินทอน
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 16.00 น. บรรยากาศการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 น.อ.
อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายในส่วนของงบกระทรวงกลาโหม ว่า กองทัพเรือ เสนอการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่ง (เมล์ ยูเอวี) กำหนดวงเงินจัดซื้อ จำนวน 4,070 ล้านบาท โดยกำหนดทีโออาร์ ชัดเจนว่า มียูเอวี 3 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง เช่น ระบบอาวุธ, สถานีควบคุม (กราว คอนโทรล) แต่มีเพื่อนของตนจากกองทัพเรือแจ้งว่า การจัดซื้อดังกล่าว มีเพียงตัวยูเอวี และระบบควบคุมไม่ติดอาวุธด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบ ทีโออาร์ระบุ ยูเอวี ติดอาวุธ แต่ก่อนที่ทีโออาร์จะประกาศใช้ ปรากฏว่ามีเสี่ย ชื่อสองพยางค์ ที่ใกล้ชิดกับ บิ๊กในกองทัพ วิ่งเต้นให้แก้ไขทีโออาร์ ให้ซื้อยูเอวี แบบไม่ซื้ออาวุธ เพราะบริษัท ที่มีชื่อสามพยางค์ ไม่สามารถเสนอราคาอาวุธมาได้ และบริษัทผู้ผลิตอาวุธที่เสี่ยเป็นตัวแทนไม่สามารถขายอาวุธให้กับประเทศไทยได้
“ผมทราบมาว่าบริษัทที่ขายยูเอวีที่ไม่ได้ติดอาวุธ จะเพิ่มจำนวนให้อีก 4 เครื่อง รวมเป็น 7 เครื่อง และลดราคาให้ 1,000 ล้านบาท เหลือ 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลดราคา หรือเพิ่มจำนวนให้ไม่ใช่ประเด็น แต่สำคัญคือ หากยูเอวีไม่ติดอาวุธ จะเป็นปัญหา ไม่สามารถสู้รบได้ ดังนั้น การจัดหาครั้งนี้อย่าชี้แจงว่าประหยัดงบประมาณประเทศ แต่คนในกองทัพเรือบอกว่าเงินภาษีประชาชนหล่น 1 ตัน ถามว่าหายไปไหน กองทัพเรือจะเอาไปใช้ทำอะไร หรือจะเอาไว้บินโชว์ แล้วยังตั้งงบประมาณมาอีก อย่างนี้สภาจะไว้ใจได้อย่างไร ผมจึงไม่สามารถไว้วางใจได้ ผมขอแจ้งให้นายกฯ ฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบว่า การซื้อยูเอวี 7 ลำไม่ติดอาวุธ มีราคาจริง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่จัดซื้อ 3,000 ล้านบาท ถือว่าโครงการนี้มีเงินทอน ทั้งนี้ มีเอกสารจากสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ระบุว่าสามารถจัดหายูเอวี แบบไม่ติดอาวุธได้ 2,000 ล้านบาท ตัวนายกฯ และคณะรัฐมนตรี บริหารงานแบบรัฐราชการบ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้จ่ายกันอย่างสุรุ่ยสุร่าย ผมไม่ได้พูดเอง โลกโซเชียลเขาบอกว่ารัฐมนตรีกลาโหมบ้ง นายกฯ บูดมาก” น.อ.
อนุดิษฐ์กล่าว
JJNY : 5in1 ค่าครองชีพพุ่ง│หมอธีระสงสัยศบค.│อนุดิษฐ์ปูดแก้ทีโออาร์ซื้อโดรนทร.│สภาระอุ│รัสเซียเห็นความเสี่ยงขัดแย้งสหรัฐ
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/173373
ค่าครองชีพสูงขึ้น เริ่มส่งสัญญาณกระทบต่อผู้ประกอบการค้าปลีก จากกำลังซื้อลดลง โดย Business Intelligence ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกทั้งภาวะปัจจุบัน และในระยะ 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลง
ดัชนีลดลงมาจากภาวะค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นซ้าเติมก้าลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอและมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐทยอยหมดลง ซึ่งกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก
ดัชนี RSI เดือนพฤษภาคมปรับลดลงทั้งภาวะปัจจุบัน และระยะ 3 เดือนข้างหน้า แม้ว่าผู้บริโภคจะคลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 สะท้อนจากกิจกรรมนอกบ้านที่มากขึ้น แต่การปรับขึ้นราคาสินค้าหลายรายการตามต้นทุนและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่มาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐหมดลง ซ้าเติมก้าลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ และกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก
ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมแตกต่างกันไปตามปัจจัยเฉพาะในแต่ละภูมิภาค ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปรับลดลงตามยอดขายหลังสินค้าหลายรายการปรับราคาสูงขึ้น ขณะที่ กทม. และภาคกลางปรับดีขึ้นจากพฤติกรรมการตุนสินค้าก่อนราคาจะขึ้น อีกทั้งร้านค้าส่วนใหญ่ท้าโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติม
ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการประเภทห้างสรรพสินค้า ร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน สอดคล้องกับความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง (Spending per bill) ปรับลดลง เพราะผู้บริโภคคลายความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาด จึงเริ่มออกมาใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ลดการประกอบอาหารในบ้าน ท่องเที่ยว และท้ากิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นคาดว่าจะยังเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของก้าลังซื้อของผู้บริโภค
ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะราคาสินค้าขั้นพื้นฐานหลายหมวดที่ปรับแพงขึ้น โดยเฉพาะในหมวดสินค้าจ้าเป็น อีกทั้งยังพบว่าผู้บริโภคออกมาท้ากิจกรรมนอกบ้านมากขึ้นทั้งการท่องเที่ยว การกลับเข้าท้างานที่บริษัท และการเปิดภาคการศึกษา
ทั้งนี้ การสำรวจระหว่างวันที่ 18-25 พ.ค. จากกลุ่มตัวอย่างของธุรกิจค้าปลีกทั่วประเทศ ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของมูลค่าทั่วประเทศ
หมอธีระ สงสัย ศบค. รายงานผู้ป่วยโควิดหายนับหมื่น ชี้อย่าประมาท Long COVID
https://www.nationtv.tv/lifestyle/378874995
หมอธีระ ตั้งข้อสงสัย ศบค. รายงานสถานการณ์โควิดแบบใหม่ ทำให้ยอดผู้ป่วยหาย หวั่นสร้างผลกระทบระยะยาว พร้อมเผยงานวิจัยเยอรมนีพบผู้ติดโควิดป่วยโรคทางเดินหายในเพิ่ม 2-3 เท่าตัว เปิดเคส "ลิโอเนล เมสซิ" กับภาวะ Long COVID
1 มิถุนายน 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เป็นห่วงกรณีกระทรวงสาธารณสุข ปรับการรายงานสถานการณ์โควิดใหม่ โดยล่าสุดตัวเลขผู้ป่วยหายไปนับหมื่นราย เกรงว่าจะทำให้เกิดผลเสียระยะยาว มีรายละเอียดดังนี้...
สิ่งที่เราควรสังเกตและถาม เมื่อวาน รายงานว่ามีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 39,861 คน วันนี้ (1 มิ.ย.) รายงานว่ามีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 20,412 คน แปลว่า วันเดียวลดลงไป 19,449 คน
จำนวนดังกล่าว หากคิดเร็วๆ ด้วยเหตุด้วยผล ตัวเลขที่ลดลงนั้นก็เป็นไปได้ว่ามาจากการหายป่วย หรือเสียชีวิต แต่วันนี้รายงานจำนวนคนที่หายป่วย 5,125 คน และเสียชีวิต 28 คน
“ คำถามคือ แล้วอย่างน้อยอีก 14,296 คนหายไปไหน? (เพราะ 20,412 นี่เป็นเลขล่าสุดที่น่าจะรวมจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เข้ามาในระบบการรักษาด้วย) หรือปรับการรายงาน นำเสนอเฉพาะบางส่วน เช่น รักษาในระบบเจอแจกจบ แต่ไม่นับ HI? ซึ่งหากนำเสนอแบบนี้ก็จะยิ่งไม่สะท้อนสถานการณ์จริง และจะนำไปสู่การรับรู้ความเสี่ยงที่คลาดเคลื่อน และมีผลต่อการปฏิบัติตัวของประชาชนได้ ”
การอธิบายชี้แจงรายละเอียดจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกคนในสังคมมีความรู้เท่าทันสถานการณ์อย่างลึกซึ้ง และตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ที่สำคัญยิ่งคือ จะทำให้เกิดความเชื่อมือ เชื่อมั่น และเชื่อใจต่อระบบด้วย
พร้อมกันนี้ หมอธีระ ยังได้เปิดงานวิจัยของประเทศเยอรมนี ภาวะ Long COVID ที่ทำการวิจัยติดตามผลมานาน 2 ปี พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด มีผลทำให้ป่วยโรคทางเดินหายใจอื่นๆมากขึ้นโดยเฉลี่ยแล้ว 2-3 เท่า มีรายละเอียดดังนี้...
1 มิถุนายน 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 504,174 คน ตายเพิ่ม 1,304 คน รวมแล้วติดไป 532,536,426 คน เสียชีวิตรวม 6,313,278 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีเหนือ ไต้หวัน เยอรมัน บราซิล และฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 76.18 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 72.62 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 46.1 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 13.34
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนติดเชื้อเมื่อวาน รวม ATK ของไทย สูงเป็นอันดับ 13 ของโลก
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 14 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ถึงแม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปก็ตาม
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 12.06% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
อัพเดต Long COVID
Donnachie E และทีมงานจากประเทศเยอรมัน ทำการศึกษาอัตราการเกิดภาวะ Long COVID ในผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในแคว้นบาวาเรีย ตั้งแต่ปี 2020 ถึงมิถุนายน 2021 โดยทำการติดตามยาว 2 ปี จำนวน 391,990 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจอื่น 62,659 คน และกลุ่มที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 659,579 คน พบว่า
คนที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในระบบต่างๆ ของร่างกาย ได้รับการวินิจฉัยเป็น Post COVID syndrome หรือ Long COVID สูงราว 15%
หลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 จะพบอาการผิดปกติต่างๆ นั้นบ่อยกว่ากลุ่มเปรียบเทียบที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจอื่น และกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ติดเชื้อ โดยเฉลี่ยแล้ว 2-3 เท่า
นอกจากอุบัติการณ์เกิด Long COVID ที่ค่อนข้างสูงแล้ว ยังพบว่าอัตราการเข้ารับการดูแลรักษาอาการป่วยจาก Long COVID ก็สูงกว่าอีกสองกลุ่มที่ใช้เปรียบเทียบอีกด้วย โดยช่วงวัยที่เข้ารับการดูแลรักษามากสุดคือช่วงอายุ 40-59 ปี
ถือเป็นหลักฐานวิชาการอีกชิ้นหนึ่งที่ใช้กลุ่มประชากรที่ศึกษาจำนวนมาก และยืนยันถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19
โควิด...ติดไม่จบแค่หายแบบชิลๆ แต่ป่วย ตาย หรือเกิดผลกระทบระยะยาวอย่าง Long COVID ได้ และจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต สมรรถนะการดำรงชีวิตประจำวัน การทำงาน และเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น
ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องเสมอเวลาออกจากบ้านนะครับ สำคัญมาก
อ้างอิง : Donnachie E et al. Incidence of Post-Covid Syndrome and Associated Symptoms in Outpatient Care in Bavaria,
Germany. medRxiv. 30 May 2022.
ก่อนหน้านี้ หมอธีระ ยังได้โพสต์ข้อมูลภาวะ Long COVID ของ “ลิโอเนล เมสซิ” นักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 7 สมัย ว่า..
“ Messi เคยติดโควิดตอนมกราคม มีไข้ ไอ เจ็บคอ แต่หลังจากหาย ก็ประสบปัญหา Long COVID หรือ Post COVID condition ตามมา ดังนั้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ ย่อมดีที่สุด ใส่หน้ากากเสมอ สำคัญมาก ”
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid0M4hUbZojX5q6VZ1tiTRX3nLhwmsktWZiW4g4LDbNutkB9F5JVc6UvUfC5ErwPSQfl
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02EcSAFoRvZj92ifV6vGrtWrTUhJwnGQUxD3dFYE96XqUJu12HUGz64r3AQLGHC3g1l
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02Hz2grnAHGpqQvyDigwEx8BKnTosaiRmMQVfJKKZvkesrpsPXWF4JQ4wypF7hzwGyl
อนุดิษฐ์ ปูด มีคนวิ่งเต้นแก้ทีโออาร์ซื้อโดรนทัพเรือ เป็นไม่ต้องมีอาวุธ พิรุธส่อมีเงินทอน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3377860
‘อนุดิษฐ์’ แฉ ‘เสี่ย’ ใกล้ชิดบิ๊ก ทร. วิ่งเต้นแก้ทีโออาร์ซื้อ เมล์ ยูเอวี ไร้อาวุธ ส่อมีเงินทอน
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 16.00 น. บรรยากาศการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายในส่วนของงบกระทรวงกลาโหม ว่า กองทัพเรือ เสนอการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่ง (เมล์ ยูเอวี) กำหนดวงเงินจัดซื้อ จำนวน 4,070 ล้านบาท โดยกำหนดทีโออาร์ ชัดเจนว่า มียูเอวี 3 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง เช่น ระบบอาวุธ, สถานีควบคุม (กราว คอนโทรล) แต่มีเพื่อนของตนจากกองทัพเรือแจ้งว่า การจัดซื้อดังกล่าว มีเพียงตัวยูเอวี และระบบควบคุมไม่ติดอาวุธด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบ ทีโออาร์ระบุ ยูเอวี ติดอาวุธ แต่ก่อนที่ทีโออาร์จะประกาศใช้ ปรากฏว่ามีเสี่ย ชื่อสองพยางค์ ที่ใกล้ชิดกับ บิ๊กในกองทัพ วิ่งเต้นให้แก้ไขทีโออาร์ ให้ซื้อยูเอวี แบบไม่ซื้ออาวุธ เพราะบริษัท ที่มีชื่อสามพยางค์ ไม่สามารถเสนอราคาอาวุธมาได้ และบริษัทผู้ผลิตอาวุธที่เสี่ยเป็นตัวแทนไม่สามารถขายอาวุธให้กับประเทศไทยได้
“ผมทราบมาว่าบริษัทที่ขายยูเอวีที่ไม่ได้ติดอาวุธ จะเพิ่มจำนวนให้อีก 4 เครื่อง รวมเป็น 7 เครื่อง และลดราคาให้ 1,000 ล้านบาท เหลือ 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลดราคา หรือเพิ่มจำนวนให้ไม่ใช่ประเด็น แต่สำคัญคือ หากยูเอวีไม่ติดอาวุธ จะเป็นปัญหา ไม่สามารถสู้รบได้ ดังนั้น การจัดหาครั้งนี้อย่าชี้แจงว่าประหยัดงบประมาณประเทศ แต่คนในกองทัพเรือบอกว่าเงินภาษีประชาชนหล่น 1 ตัน ถามว่าหายไปไหน กองทัพเรือจะเอาไปใช้ทำอะไร หรือจะเอาไว้บินโชว์ แล้วยังตั้งงบประมาณมาอีก อย่างนี้สภาจะไว้ใจได้อย่างไร ผมจึงไม่สามารถไว้วางใจได้ ผมขอแจ้งให้นายกฯ ฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบว่า การซื้อยูเอวี 7 ลำไม่ติดอาวุธ มีราคาจริง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่จัดซื้อ 3,000 ล้านบาท ถือว่าโครงการนี้มีเงินทอน ทั้งนี้ มีเอกสารจากสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ระบุว่าสามารถจัดหายูเอวี แบบไม่ติดอาวุธได้ 2,000 ล้านบาท ตัวนายกฯ และคณะรัฐมนตรี บริหารงานแบบรัฐราชการบ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้จ่ายกันอย่างสุรุ่ยสุร่าย ผมไม่ได้พูดเอง โลกโซเชียลเขาบอกว่ารัฐมนตรีกลาโหมบ้ง นายกฯ บูดมาก” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว