สวัสดีเพื่อนๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวพันทิปทุกคนนะฮะ ในที่สุดก็มาถึงวันที่ตลาดรถยนต์บ้านเรากลับมาคึกคักกันอีกครั้ง สังเกตจากงานมอเตอร์โชว์ที่คนเพียบ ค่ายรถต่าง ๆ ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากขึ้น รวมถึงคนรอบตัวผมเองนี่แหละที่เริ่มปัดฝุ่นโครงการออกรถใหม่กันหลายคน ก็เป็นเรื่องดีที่ทุกอย่างกำลังเดินหน้าต่อ…ไหน ๆ ก็พูดถึงเรื่องการออกรถใหม่แล้ว หนึ่งในรถยนต์ที่ติดลมบนและเห็นบนท้องถนนเยอะขึ้น เพื่อน ๆ คิดว่าเป็นรถรุ่นไหนกันบ้าง เฉลยเลยดีกว่า คำตอบคือ Honda HR-V e:HEV นั่นเอง
หลายคนอาจจะคิดว่า เพราะความอเนกประสงค์ที่ใช้งานในเมืองก็ดี นอกเมืองก็เยี่ยม หน้าตาดีไซน์เป็นปัจจัยที่ทำให้เจ้า Honda HR-V e:HEV ได้รับความนิยม แต่จริง ๆ แล้ว คำตอบมีมากกว่านั้นนะเออ เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเล็ง Honda HR-V e:HEV ไว้ ถ้าจะบอกว่ารีวิวนี้เป็นการป้ายยาก็ไม่เถียง 😆 ไปหาคำตอบพร้อมกันเลยดีกว่า
มั่นใจในระบบขับเคลื่อน Full Hybrid
ที่แรง ประหยัดน้ำมัน พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี
ทุกอย่างมีแต่จะแพงขึ้น ถ้ามีตัวเลือกที่ให้ความประหยัด ในขณะที่เรื่องสมรรถนะก็ไม่ดรอป ยังไงก็ย่อมดีกว่า ทำให้เวลานี้การมองหารถยนต์ Hybrid เป็นคำตอบที่น่าสนใจ เพราะมันช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้จริง และนี่ก็เป็นจุดเด่นหนึ่งของ Honda HR-V e:HEV เพราะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน Full Hybrid ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน
แล้วความเป็น Full Hybrid ของฮอนด้า มันทำงานอย่างไร ประหยัดน้ำมันแค่ไหน คำถามนี้เพื่อน ๆ น่าจะสงสัยกันใช่ไหมล่ะ จะอธิบายให้ฟัง ระบบขับเคลื่อน Full Hybrid ของฮอนด้าหรือที่รู้จักกันในชื่อ e:HEV เป็นระบบที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) โดยทุกอย่างที่ว่ามาจะทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การออกตัว การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ การใช้ความเร็วสูง และระหว่างลดความเร็ว
ทำให้ไม่ว่าจะขับขี่แบบไหน ระบบ Full Hybrid ก็จะทำการปรับโหมดให้เหมาะสม เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่สูงสุด ขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นการใช้พลังงานเชื้อเพลิงให้เหมาะสมที่สุดด้วย ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ในช่วงออกตัวและใช้ความเร็วต่ำ, โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) ในช่วงใช้ความเร็วสูง
อุ่นใจมากขึ้นกับการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 10 ปี (รับประกัน 5 ปีแรกทั้งระบบแบบไม่จำกัดระยะทาง ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริด และระบบสายไฟไฮบริด พร้อมดูแลด้วยช่างผู้ชำนาญงานและเครื่องมือพิเศษ โดยได้ขยายระยะเวลาเฉพาะแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มอีก 5 ปี (ตั้งแต่ปีที่ 6-10) ทั้งนี้เงื่อนไขการรับประกันดังกล่าวเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
มั่นใจในดีไซน์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
พื้นที่ภายในกว้างขวาง ทั้งที่นั่ง และ Cargo Space
แกนหลักของความเป็นรถ SUV คือเกิดมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานที่หลากหลายมิติ ขับในเมืองก็ดี นอกเมืองก็ได้ ขนของก็เยี่ยม ซึ่งพอมันอเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลายแล้ว ทำให้รถยนต์ประเภทนี้ ตรงโจทย์เข้าอย่างจังกับไลฟ์สไตล์วิถีชีวิตของคนเราที่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงมากที่สุด จากเดิมคนเรามีกันคนละหนึ่งอาชีพ เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่ามีกันคนละหลาย ๆ อาชีพ ตอนนี้พ่อแม่รุ่นใหม่ก็มีการแบ่งเวลาส่วนตัวออกไปเฮฮา ทำกิจกรรม ออกทริปเดินทางท่องเที่ยว ทั้งหมดที่ว่าก็เป็นอีกคำตอบที่ทำให้ Honda HR-V e:HEV ได้รับความนิยม เพราะมันเป็นรถที่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างสบาย ทั้งที่นั่ง และ Cargo Space โดยเฉพาะกับส่วนของเบาะหลังที่สามารถปรับพับเรียบ วางของได้เต็มพื้นที่ หรือจะปรับให้เบาะหน้าเอนเชื่อมต่อกับเบาะหลังเพื่อวางของแนวยาวก็ได้เช่นกัน ในขณะที่เรื่องของหน้าตาดีไซน์รถ ก็ให้ความสปอร์ตพรีเมียม ดูโดดเด่นในทุกมิติ
มั่นใจยิ่งขึ้นกับบริการหลังการขาย
ด้วยศูนย์บริการที่ครอบคลุม พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
มาถึงหัวข้อสุดท้าย บริการหลังการขาย เป็นหัวข้อหนึ่งที่ผมเองใช้เป็นโจทย์ ตอนจะซื้อรถด้วยเหมือนกัน และคิดว่าก็น่าจะมีเพื่อน ๆ จำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญเรื่องบริการหลังการขายด้วยเหมือนกัน ทำไมบริการหลังการขายถึงสำคัญ เพราะมันจะโยงกลับไปที่เรื่องของวิถีชีวิตของคนเราที่มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น มีการเดินทางมากขึ้น บางอาชีพ บางคน รถเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองเลยก็ว่าได้ ลำพังถ้าใช้งานเฉพาะในเมือง ก็คงไม่ต้องห่วงอะไรมากใช่ไหมครับ แต่ถ้าต้องเดินทางออกต่างจังหวัดแล้ว บริการหลังการขาย หรือการมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมมันทำให้ได้ความอุ่นใจ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดขึ้นอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอย่างน้อยก็มีศูนย์ฯ พร้อมที่จะช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันฮอนด้า มีศูนย์บริการทั้งหมด 229 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
นอกจากเรื่องของศูนย์บริการแล้ว การเช็กระยะ หรือการซ่อมตัวถังและสี ก็สำคัญเหมือนกัน ซึ่งชื่อเสียงด้านบริการหลังการขายของฮอนด้าเค้าก็ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Service Mind ของทีมพนักงาน, ทีมช่างผ่านการฝึกและอบรมอย่างสม่ำเสมอ
แต่ที่อยากพูดถึงและแนะนำคือ บริการเช็กระยะที่เหมาะสมกับยุคที่ไม่ (ควร) ต้องรอนานเพิ่มความแออัดแบบนี้ ได้แก่ Honda Drop & Go บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ ณ จุดบริการ ซึ่งเราสามารถดูสถานะเช็กระยะผ่านมือถือได้ จ่ายเงินผ่านออนไลน์ กับอีกบริการหนึ่งคือ Honda Quick Service บริการเช็กระยะแบบเร่งด่วน ไม่ต้องรอคิว รับรถกลับได้เลย
ของแบบนี้สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สุดท้ายแล้ว Honda HR-V e:HEV จะใช่รถที่ตามหาหรือไม่ ต้องไปดูและตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ถ้ามัดรวมความต้องการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์, ดีไซน์โดน, ใช้งานได้หลากหลาย, ระบบขับเคลื่อน Full Hybrid, ศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ Honda HR-V e:HEV น่าสนใจ ถ้ายังไงก็แวะไปชม Honda HR-V e:HEV ตัวจริงกันได้ ถ้าใจบอกว่าใช่ น้องเซลล์พร้อมให้บริการ
จบพิธีการป้ายยาอย่างเป็นทางการก็ได้เวลาต้องขอตัวลา และขอให้ทุกคนมีความสุขกับรถใหม่
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.honda.co.th/en/hrvehev
[Advertorial]
[BR] Honda HR-V e:HEV กับ ความมั่นใจที่ไม่ใช่แค่สมรรถนะการขับขี่ ดีไซน์ และเทคโนโลยีความปลอดภัยเท่านั้น
หลายคนอาจจะคิดว่า เพราะความอเนกประสงค์ที่ใช้งานในเมืองก็ดี นอกเมืองก็เยี่ยม หน้าตาดีไซน์เป็นปัจจัยที่ทำให้เจ้า Honda HR-V e:HEV ได้รับความนิยม แต่จริง ๆ แล้ว คำตอบมีมากกว่านั้นนะเออ เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเล็ง Honda HR-V e:HEV ไว้ ถ้าจะบอกว่ารีวิวนี้เป็นการป้ายยาก็ไม่เถียง 😆 ไปหาคำตอบพร้อมกันเลยดีกว่า
แล้วความเป็น Full Hybrid ของฮอนด้า มันทำงานอย่างไร ประหยัดน้ำมันแค่ไหน คำถามนี้เพื่อน ๆ น่าจะสงสัยกันใช่ไหมล่ะ จะอธิบายให้ฟัง ระบบขับเคลื่อน Full Hybrid ของฮอนด้าหรือที่รู้จักกันในชื่อ e:HEV เป็นระบบที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) โดยทุกอย่างที่ว่ามาจะทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การออกตัว การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ การใช้ความเร็วสูง และระหว่างลดความเร็ว
ทำให้ไม่ว่าจะขับขี่แบบไหน ระบบ Full Hybrid ก็จะทำการปรับโหมดให้เหมาะสม เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่สูงสุด ขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นการใช้พลังงานเชื้อเพลิงให้เหมาะสมที่สุดด้วย ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ในช่วงออกตัวและใช้ความเร็วต่ำ, โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) ในช่วงใช้ความเร็วสูง
อุ่นใจมากขึ้นกับการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 10 ปี (รับประกัน 5 ปีแรกทั้งระบบแบบไม่จำกัดระยะทาง ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริด และระบบสายไฟไฮบริด พร้อมดูแลด้วยช่างผู้ชำนาญงานและเครื่องมือพิเศษ โดยได้ขยายระยะเวลาเฉพาะแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มอีก 5 ปี (ตั้งแต่ปีที่ 6-10) ทั้งนี้เงื่อนไขการรับประกันดังกล่าวเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
นอกจากเรื่องของศูนย์บริการแล้ว การเช็กระยะ หรือการซ่อมตัวถังและสี ก็สำคัญเหมือนกัน ซึ่งชื่อเสียงด้านบริการหลังการขายของฮอนด้าเค้าก็ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Service Mind ของทีมพนักงาน, ทีมช่างผ่านการฝึกและอบรมอย่างสม่ำเสมอ
แต่ที่อยากพูดถึงและแนะนำคือ บริการเช็กระยะที่เหมาะสมกับยุคที่ไม่ (ควร) ต้องรอนานเพิ่มความแออัดแบบนี้ ได้แก่ Honda Drop & Go บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ ณ จุดบริการ ซึ่งเราสามารถดูสถานะเช็กระยะผ่านมือถือได้ จ่ายเงินผ่านออนไลน์ กับอีกบริการหนึ่งคือ Honda Quick Service บริการเช็กระยะแบบเร่งด่วน ไม่ต้องรอคิว รับรถกลับได้เลย
จบพิธีการป้ายยาอย่างเป็นทางการก็ได้เวลาต้องขอตัวลา และขอให้ทุกคนมีความสุขกับรถใหม่
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน