คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0SKcVxBPPgkKWaRofgm6nCArcrHFG7MUAJSiBNt63mp8ZbcU5JptciVbeJRxd37A5l

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 30 พ.ค. 2565)
รวม 137,642,238 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 30 พฤษภาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 52,083 โดส
เข็มที่ 1 : 4,428 ราย
เข็มที่ 2 : 10,371 ราย
เข็มที่ 3 : 37,284 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,736,301 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 52,637,512 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 28,268,425 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0DXy3Kryu8VhhkmBv3S2M3PCFB66Rvqw54fapevSUv6Ry6Gs4o6NT7tj5AqRQ1y5Pl

อาการที่พบบ่อยเมื่อติดเชื้อโควิด ไอ เจ็บคอ
ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองตามวิธีดังนี้ควบคู่กับการรักษาของแพทย์ได้
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02pScTfu7YjqFZGVPW7fXRgomcJWxw1N3FRnUqqMQoWuwbUr8QbytqvGQ1XV5EVLWkl

รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2565 จำนวน 21 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0jmZ3as7z81DHvo4bj8Q36XKWX1vY4x3z4jW7hvzKiZmVCM7reMzq1cW8X7NHTYE6l

ระวัง !!! พฤติกรรมและ 10 จุดเสี่ยงแพร่เชื้อในโรงเรียน
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid022cDg1KiUXb5dvqUbszN246PLF3zQvqg3odeNTj5jpxECojXn9KcCvJPpgKLAQX22l

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย
(มีผลวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป)
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02diDxW8X3oZB5jnL2t8zBb2XqrhZwThoeemTCJbcFMfjgn6teKecaBjoAeHWxkdgSl&id=100068069971811

ศบค. ประกาศล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ไทยจะปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยอีกครั้ง โดยยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบ สำหรับคนไทยซึ่งไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass เปิดจุดผ่านแดนทางบกทุกจุดภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
โดยทางศบค.มีมาตรการโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทยดังนี้
สำหรับคนไทย
• ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass
• ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้าประเทศ
สำหรับชาวต่างชาติ
• ยังต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
• ผู้ที่ได้รับวัคซีนตามข้อกำหนด ให้แนบหลักฐานวัคซีนพร้อมกับเอกสารประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
• ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด ให้แสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 ได้ทั้งแบบ Professional ATK หรือ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
โดยก่อนหน้านี้ ศบค. ได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศตามสถานการณ์ โดยได้ยกเลิก Test & Go ทำให้สถิติผู้เดินทางเข้าประเทศในเดือน พ.ค.65 เฉลี่ยถึงวันละ 20,000 คน โดยททท. คาดการณ์ว่าในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 500,000 คนต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดระยะใกล้ ส่วนช่วงไฮซีซั่น ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน เพิ่มตลาดระยะไกลทั้งยุโรปและสหรัฐฯ และหวังจะเห็นนักท่องเที่ยวจีน เริ่มกลับมาไทยปลายปีนี้ต่อไปถึงเทศกาลตรุษจีนปี 66 ซึ่งจะส่งผลให้ตลอดปี 65 มีโอกาสสูงที่นักท่องเที่ยวจะมาไทย 7-10 ล้านคน สร้างรายได้รวม 1.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นการฟื้นตัว 50% เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนวิกฤตโควิด-19
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/pfbid02rMMKqQR27GkEscmfLhWSPutoatcFqNMvHwBd8p7W7XkRmgdiw5yeGptSUPphT1zWl

สธ. ปรับรายงานโควิด-19 เฉพาะผู้ป่วยที่รับการรักษาใน รพ. เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ กลุ่ม 608 ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงแถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ภาพรวมช่วงนี้อยู่ในระยะขาลงทั้งประเทศ ผู้เสียชีวิตยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ครึ่งหนึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีน
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 จะปรับมาตรการเพื่อผ่อนคลายมากขึ้น และปรับระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นการรายงานเฉพาะจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น
การตรวจ ATK เป็นประจำทุกสัปดาห์ของประชาชนจึงไม่จำเป็น แต่ยกเว้น 3 กลุ่ม ที่ต้องตรวจทุกสัปดาห์ คือ 1.ผู้ที่มีอาการ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ เป็นต้น 2.ผู้ดูแลใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงสูง คือ ผู้ดูแลผู้สูงอายุและเด็กเล็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน 3.ผู้อยู่ในสถานที่หรือกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันจำนวนมากและเสี่ยงแพร่ระบาด เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ พนักงานยังต้องตรวจเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0sqX2uJAGBYc7fHeWxyvoTUhb7dJWWv4a9emS1dedMHqPfuJ6hRxMcW6dygbW9qVJl

รัฐบาล ยัน ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย ย้ำ ทุกหน่วยงานคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรในไทย โดยในส่วนของผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้มาต่อเครื่องในไทย 2 ชั่วโมง บินมาจากยุโรป เพื่อไปออสเตรเลีย เมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทางแล้วจึงพบว่าเป็นผู้ป่วยยืนยัน ระหว่างต่อเครื่องผู้ป่วยรายนี้ยังไม่มีอาการป่วย จึงถือว่าผู้สัมผัสใกล้ชิดไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เพราะตอนใกล้ชิดยังไม่ได้ป่วย จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัย
รัฐบาล ยังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้โดยสารเครื่องบิน ลูกเรือ รวม 12 คน ยังไม่พบว่ามีอาการ และจะติดตามให้ครบ 21 วัน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบาย เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคร่งครัด รัดกุมในการทำงานเพื่อปกป้องประชาชนไทยให้ปลอดภัย ซึ่งกรมควบคุมโรคเตรียมทีมสอบสวนโรคทุกจังหวัด หากพบผู้ป่วยเข้ามาต้องสอบสวนให้ทันภายใน 24 ชั่วโมงแรก รวมถึงติดตามเตรียมเวชภัณฑ์ ยา และวัคซีนด้วย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0iLZ4eqXGZTywGJeLh3sp8wmFk8BA4PLCfV5XvjgLyyDHrwYaqZpX8eV8nVkqGiQ9l

1 มิ.ย.นี้ ยุติให้บริการแอป “หมอชนะ/MorChana” รองรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่น
กระทรวงสาธารณสุข แจ้งตั้งแต่พรุ่งนี้ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน “หมอชนะ/MorChana” เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด19 ดีขึ้น และเป็นการรองรับโรคโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น รวมการมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทย ไม่ได้กำหนดให้ผู้ดินทางต้องใช้แอปหมอชนะแล้ว ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะลบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหมอชนะต่อไป
แอปหมอชนะ คือ ระบบเก็บข้อมูลการเดินทางของประชาชน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและประเมินระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด19 จากสถานที่ต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการวิเคราะห์ระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อของประชาชนที่เข้ารักษาได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เสริมมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ให้มีประสิทธิภาพและวัดผลได้ โดยระบบจะแบ่งระดับของความเสี่ยงเป็น 4 ระดับ คือ
สีเขียว : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีอาการ ไม่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
สีเหลือง : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงน้อย ซึ่งอาจจะมีอาการไข้หวัด แต่ไม่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
สีส้ม : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นคนที่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา แต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่เด่นชัด คนในกลุ่มนี้ต้องกักตัวอยู่กับบ้านจนครบ 14 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวัง ถ้ามีอาการควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
สีแดง : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะทั้งมีอาการ และมีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา จะต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที
https://www.facebook.com/Rachadaspoke/posts/pfbid0K9JZGNhQuPdr7BR3vFPTAyC9aNALES1zGyFjiQKYaRNG6CThio8oYbLLHHij5PWel

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0SKcVxBPPgkKWaRofgm6nCArcrHFG7MUAJSiBNt63mp8ZbcU5JptciVbeJRxd37A5l

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 30 พ.ค. 2565)
รวม 137,642,238 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 30 พฤษภาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 52,083 โดส
เข็มที่ 1 : 4,428 ราย
เข็มที่ 2 : 10,371 ราย
เข็มที่ 3 : 37,284 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,736,301 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 52,637,512 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 28,268,425 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0DXy3Kryu8VhhkmBv3S2M3PCFB66Rvqw54fapevSUv6Ry6Gs4o6NT7tj5AqRQ1y5Pl

อาการที่พบบ่อยเมื่อติดเชื้อโควิด ไอ เจ็บคอ
ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองตามวิธีดังนี้ควบคู่กับการรักษาของแพทย์ได้
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02pScTfu7YjqFZGVPW7fXRgomcJWxw1N3FRnUqqMQoWuwbUr8QbytqvGQ1XV5EVLWkl

รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2565 จำนวน 21 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0jmZ3as7z81DHvo4bj8Q36XKWX1vY4x3z4jW7hvzKiZmVCM7reMzq1cW8X7NHTYE6l

ระวัง !!! พฤติกรรมและ 10 จุดเสี่ยงแพร่เชื้อในโรงเรียน
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid022cDg1KiUXb5dvqUbszN246PLF3zQvqg3odeNTj5jpxECojXn9KcCvJPpgKLAQX22l

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย
(มีผลวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป)
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02diDxW8X3oZB5jnL2t8zBb2XqrhZwThoeemTCJbcFMfjgn6teKecaBjoAeHWxkdgSl&id=100068069971811

ศบค. ประกาศล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ไทยจะปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยอีกครั้ง โดยยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบ สำหรับคนไทยซึ่งไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass เปิดจุดผ่านแดนทางบกทุกจุดภายในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
โดยทางศบค.มีมาตรการโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทยดังนี้
สำหรับคนไทย
• ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass
• ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้าประเทศ
สำหรับชาวต่างชาติ
• ยังต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
• ผู้ที่ได้รับวัคซีนตามข้อกำหนด ให้แนบหลักฐานวัคซีนพร้อมกับเอกสารประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
• ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด ให้แสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 ได้ทั้งแบบ Professional ATK หรือ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
โดยก่อนหน้านี้ ศบค. ได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศตามสถานการณ์ โดยได้ยกเลิก Test & Go ทำให้สถิติผู้เดินทางเข้าประเทศในเดือน พ.ค.65 เฉลี่ยถึงวันละ 20,000 คน โดยททท. คาดการณ์ว่าในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 500,000 คนต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดระยะใกล้ ส่วนช่วงไฮซีซั่น ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน เพิ่มตลาดระยะไกลทั้งยุโรปและสหรัฐฯ และหวังจะเห็นนักท่องเที่ยวจีน เริ่มกลับมาไทยปลายปีนี้ต่อไปถึงเทศกาลตรุษจีนปี 66 ซึ่งจะส่งผลให้ตลอดปี 65 มีโอกาสสูงที่นักท่องเที่ยวจะมาไทย 7-10 ล้านคน สร้างรายได้รวม 1.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นการฟื้นตัว 50% เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนวิกฤตโควิด-19
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/pfbid02rMMKqQR27GkEscmfLhWSPutoatcFqNMvHwBd8p7W7XkRmgdiw5yeGptSUPphT1zWl

สธ. ปรับรายงานโควิด-19 เฉพาะผู้ป่วยที่รับการรักษาใน รพ. เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ กลุ่ม 608 ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงแถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ภาพรวมช่วงนี้อยู่ในระยะขาลงทั้งประเทศ ผู้เสียชีวิตยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ครึ่งหนึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีน
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 จะปรับมาตรการเพื่อผ่อนคลายมากขึ้น และปรับระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นการรายงานเฉพาะจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น
การตรวจ ATK เป็นประจำทุกสัปดาห์ของประชาชนจึงไม่จำเป็น แต่ยกเว้น 3 กลุ่ม ที่ต้องตรวจทุกสัปดาห์ คือ 1.ผู้ที่มีอาการ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ เป็นต้น 2.ผู้ดูแลใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงสูง คือ ผู้ดูแลผู้สูงอายุและเด็กเล็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน 3.ผู้อยู่ในสถานที่หรือกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันจำนวนมากและเสี่ยงแพร่ระบาด เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ พนักงานยังต้องตรวจเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0sqX2uJAGBYc7fHeWxyvoTUhb7dJWWv4a9emS1dedMHqPfuJ6hRxMcW6dygbW9qVJl

รัฐบาล ยัน ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย ย้ำ ทุกหน่วยงานคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรในไทย โดยในส่วนของผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้มาต่อเครื่องในไทย 2 ชั่วโมง บินมาจากยุโรป เพื่อไปออสเตรเลีย เมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทางแล้วจึงพบว่าเป็นผู้ป่วยยืนยัน ระหว่างต่อเครื่องผู้ป่วยรายนี้ยังไม่มีอาการป่วย จึงถือว่าผู้สัมผัสใกล้ชิดไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เพราะตอนใกล้ชิดยังไม่ได้ป่วย จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัย
รัฐบาล ยังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้โดยสารเครื่องบิน ลูกเรือ รวม 12 คน ยังไม่พบว่ามีอาการ และจะติดตามให้ครบ 21 วัน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบาย เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคร่งครัด รัดกุมในการทำงานเพื่อปกป้องประชาชนไทยให้ปลอดภัย ซึ่งกรมควบคุมโรคเตรียมทีมสอบสวนโรคทุกจังหวัด หากพบผู้ป่วยเข้ามาต้องสอบสวนให้ทันภายใน 24 ชั่วโมงแรก รวมถึงติดตามเตรียมเวชภัณฑ์ ยา และวัคซีนด้วย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid0iLZ4eqXGZTywGJeLh3sp8wmFk8BA4PLCfV5XvjgLyyDHrwYaqZpX8eV8nVkqGiQ9l

1 มิ.ย.นี้ ยุติให้บริการแอป “หมอชนะ/MorChana” รองรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่น
กระทรวงสาธารณสุข แจ้งตั้งแต่พรุ่งนี้ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน “หมอชนะ/MorChana” เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด19 ดีขึ้น และเป็นการรองรับโรคโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น รวมการมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทย ไม่ได้กำหนดให้ผู้ดินทางต้องใช้แอปหมอชนะแล้ว ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะลบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหมอชนะต่อไป
แอปหมอชนะ คือ ระบบเก็บข้อมูลการเดินทางของประชาชน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและประเมินระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด19 จากสถานที่ต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการวิเคราะห์ระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อของประชาชนที่เข้ารักษาได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เสริมมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ให้มีประสิทธิภาพและวัดผลได้ โดยระบบจะแบ่งระดับของความเสี่ยงเป็น 4 ระดับ คือ
สีเขียว : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีอาการ ไม่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
สีเหลือง : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงน้อย ซึ่งอาจจะมีอาการไข้หวัด แต่ไม่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
สีส้ม : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นคนที่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา แต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่เด่นชัด คนในกลุ่มนี้ต้องกักตัวอยู่กับบ้านจนครบ 14 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวัง ถ้ามีอาการควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
สีแดง : สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะทั้งมีอาการ และมีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา จะต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที
https://www.facebook.com/Rachadaspoke/posts/pfbid0K9JZGNhQuPdr7BR3vFPTAyC9aNALES1zGyFjiQKYaRNG6CThio8oYbLLHHij5PWel
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน💕31พ.ค.ไทยไม่ติดTop10โลก/ป่วย3,955คน หายป่วย6,607คน ตาย21คน รักษาอยู่39,861คน/มาตรการรับมือโควิดหลังคลายล็อก
https://www.sanook.com/news/8569506/
https://www.bangkokbiznews.com/news/1007350
https://www.bbc.com/thai/thailand-61642967
สถานการณ์โควิดดีขึ้นต่อเนื่อง จำนวนผู้รักษาอยู่ไม่ถึงสี่พันคน
มีมาตรการเปลี่ยนแปลงหลังคลายล็อกเมื่อโควิดขาลง
ติดตามค่ะ