JJNY : พาเหรดปรับราคา เริ่ม1มิ.ย.│“ชลน่าน”เตือนกกต.│‘วิโรจน์’ข้องใจกกต. รอกดปุ่มจากใคร│“สมชัย”เชื่องบฯ66 ผิดวินัยการคลัง

แพงทั้งแผ่นดิน! พาเหรดสินค้าปรับราคา เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ หลังผู้ผลิตแบกต้นทุนไม่ไหว
https://ch3plus.com/news/economy/morning/293668
 
 
มีแหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่ง บอกว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย. 65) ราคาสินค้าบริโภคอุปโภคจะเพิ่มสูงขึ้น ตามต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เช่น
 
• ครีมเทียม แบบถุงและกล่อง เพิ่มขึ้น 2-5 บาท
• กาแฟสำเร็จรูป ทุกขนาด เพิ่มขึ้น 4-5 บาท
• กาแฟกระป๋อง เพิ่มขึ้น 2 บาท
• สบู่ ครีมอาบน้ำ เพิ่มขึ้น 10%
• ปลากระป๋อง เพิ่มขึ้น 4 บาท
• น้ำนมถั่วเหลืองแบบขวด เพิ่มขึ้น 3 บาท
• น้ำจิ้มไก่ เพิ่มขึ้น 10%
 
ส่วนเดือนกรกฎาคม ก็มีอีกหลายสินค้าที่จ่อเพิ่มราคา เช่น น้ำยาซักผ้าขาว น้ำผลไม้
 
----------
 
ด้าน นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย บอกว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. ที่สินค้าปรับราคาเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้นจริง มันตรึงนานไม่ได้ เพราะสต๊อกเก่าหมด แล้วผู้ผลิตก็ได้ทยอยแจ้งร้านค้าตั้งแต่เดือนพ.ค. 
  
รวมถึงได้รับแจ้งจากผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวทุกยี่ห้อจะปรับขึ้นราคา 10% ต่อถุง 
  
นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านราคาแพงเท่านั้น แต่อาจเกิดปัญหาสินค้าขาดแคลน เพราะหลายประเทศได้เริ่มงดส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบที่จำเป็นแล้ว โดยตอนนี้มีมากกว่า 30 ประเทศแล้ว 
  
-----------
 
ด้าน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้องปรับแนวทาง ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 'มาม่า' ได้ยอมรับว่า ต้นทุนจะไม่ลงไปเท่าเดิมแน่นอน แต่ก็จะขึ้นราคาไม่ได้ตามต้นทุนจริง เพราะทางรัฐไม่ให้ขึ้น โดยตอนนี้ ต้องเน้นการส่งออกต่างประเทศ 30% ของผลผลิต
 
-----------
 
ด้าน ตระกูล 'โตทับเที่ยง' เจ้าของ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ ปุ้มปุ้ย ได้บอกว่า 7-8 ปี ที่ผ่านมา ปุ้มปุ้ย ไม่เคยปรับราคา แต่คงจำเป็นต้องปล่อยให้ปุ้มปุ้ยมีราคาตามต้นทุน
 
-----------
 
ด้าน โคคา-โคล่า เตรียม 'ปรับลดปริมาณ' โดย แฟนต้า จากขนาด 422 เป็น 375 มล. (ราคา 9 บาท) 
 
แต่...ตอนนี้ ราคาน้ำอัดลม ใน 'ร้านค้าทั่วไป' ได้ปรับราคาขึ้นแล้ว โดยมีราคา ดังนี้ 
 
โค้ก แฟนต้า สไปรท์ 
 
• ขนาด 330 มล. เป็น 12 บาท (เดิม 10 บาท)
• ขนาด 1.25 ลิตร เป็น 28-30 บาท (เดิม 24-25 บาท)
 
เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่นอัพ 
 
• ขนาด 1.26 ลิตร เป็น 27-28 บาท (เดิม 23 บาท)
• ขนาด 1.95 ลิตร เป็น 35 บาท (เดิม 32 บาท)
 
เอสโคล่า / บิ๊กโคล่า ไม่ปรับราคา
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/uO_abXGCHcs

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 

 
“ชลน่าน” เตือนกกต.ไม่รับรอง “ชัชชาติ” ระวังปชช. รับไม่ได้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_348402/

“ชลน่าน” เตือน กกต.ไม่รับรอง “ชัชชาติ” ส่งผลกระทบแน่ ชี้ต้องใช้ดุลยพินิจด้วยความรอบคอบ ระวังประชาชนรับไม่ได้
 
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่รับรองนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ ทั้งที่มีเสียงประชาชนเป็นจำนวนมากว่า การไม่รับรองส่งผลกระทบแน่นอน ในเรื่องความรู้สึกในระบอบวิถีประชาธิปไตย และความเชื่อมั่น ถ้ามีเงื่อนไขที่ฟังดูที่บอกว่าคำร้องฟังขึ้นเป็นเหตุหลให้ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก็เป็นประเด็นสำคัญ แต่สิ่งที่เราดูขณะนี้ “ชัชชาติฟีเวอร์” หรือฝ่ายประชาธิปไตยออกมาออกเสียงอย่าถล่มทลาย “ชัชชาติ” ชนะถล่มทลาย
 
สะท้อนสองเรื่องหลักคือต้องการออกจากวิกฤต การมีผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ มีความสามารถในการแก้ปัญหา ไม่แบ่งฝ่าย เข้าได้กับทุกคนและสะท้อนเรื่องคู่เทียบระหว่างนายชัชชาติ กับพล.อ.ประยุท์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เทียบภาวะผู้นำ ใน 7 วันที่ผ่านมา คู่เทียบนี้อาจเป็นเหตุให้กกต.คิดหนัก ดังนั้นไม่อยากให้กกต.ใช้ประเด็นนี้เป็นเรื่องการคิดหนักที่จะไม่รับรอง นายชัชชาติเป็นผู้ว่าฯกทม. หากเห็นว่า นายชัชชาติโดดเด่นไปกดทับภาวะผู้นำประเทศ แล้วเป็นเหตุให้พิจารณาคำร้อง

ทั้งนี้สิ่งที่พูดไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการชี้นำกกต. แต่ถ้ากกต.ไปใช้เงื่อนไขนี้พิจารณาและทำให้เกิดความล่าช้า พี่น้องประชาชนเขาจะคิดอย่างนั้น และจะมีปัญหากับประเทศโดยรวมและมีปัญหากับตัวนายกฯแน่นอน คนรับกรรมคือนายกฯ ดังนั้นกกต.ต้องใช้ดุลยพินิจพิจารณาด้วยความรอบคอบและถี่ถ้วน  ถ้าออกมาในทางตรงกันข้ามตนเชื่อว่า ประชาชนรับไม่ได้จะเกิดภาวะวิกฤต ดังนั้นต้องระวัง
 
ส่วนที่มีความพยายามร้องแขวนนายชัชชาตินั้น ต้องไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าสิ่งที่ร้องมีมูลและข้อเท็จริงหรือไม่ กรณีที่ร้องมา 3 ประเด็น ตนในฐานะที่อยู่พรรคการเมืองมาเห็นว่าเขามีสิทธิ์ร้อง แต่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะถูกฟ้องได้เหมือนกันในการไปกล่าวหาทำให้นายชัชชาติเสียหายในลักษณะกลั้นแกล้งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จะมีโทษ 5 ปีและตัดสิทธิทางการเมือง ปรับ 1 แสนบาท ดังนั้นก็ต้องพึงระวัง เพราะมีสิทธิ์ร้อง แต่การร้องต้องมีเหตุผล
 

 
‘วิโรจน์’ ข้องใจ ทำไม กกต.ยังไม่รับรอง ‘ชัชชาติ’ เตือนอย่าทำให้คนสงสัย รอการกดปุ่มจากใคร
https://www.matichon.co.th/politics/news_3374744
 
‘วิโรจน์’ ถาม กกต.รอการกดปุ่มจากใครหรือเปล่า ถึงยังไม่รับรอง ‘ชัชชาติ’
 
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณี กกต.เลื่อนการพิจารณารับรองนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อ้างว่าได้รับการร้องเรียนเรื่องกระเป๋ารีไซเคิล และข้อหาพูดปราศรัยดูถูกระบบราชการ โดยระบุว่า
 
ตกลง กกต.มีหน้าที่สนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นธรรมตามเจตจำนงของประชาชน หรือถูกมอบหมายจาก [เผล่ะจัง] ให้มาสร้างอุปสรรคขัดขวางเลือกตั้งกันแน่?
  
จากกรณีที่ กกต.ยังไม่ยอมรับรองคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.
 
จริงๆ ถ้าย้อนหลังออกไปอีกสักหน่อยกับกรณีการรับรองคุณสุรชาติ เทียนทอง ที่เขตหลักสี่ กกต.ก็ใช้เวลาถึง 59 วัน กว่าจะรับรองให้คุณสุรชาติ เทียนทอง ได้เป็น ส.ส.
 
ทำให้เราต้องตั้งคำถามถึงที่มาของ กกต.ชุดนี้ ว่ามีที่มาจากอะไร เพราะถ้าที่มาจะทำให้สังคมสามารถตั้งข้อสันนิษฐานถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ได้น่าสนใจมากขึ้น
 
1. กกต.ชุดนี้เกิดขึ้นจาก รธน.60 ที่ให้อำนาจ กกต.ล้นฟ้า กลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของ กกต. โดยอำนาจตุลาการ ยังคงขาดความชัดเจน
 
2. สนช.ที่แต่งตั้งโดย คสช.เป็นคนเลือก กกต.ชุดนี้ ถ้าไล่ลำดับกัน ก็พอจะตั้งข้อสังเกตได้ว่า กกต.ชุดนี้มีที่มาจากระบบ คสช.
 
3. สนช.สภาแต่งตั้ง ใช้เวลาสรรหา กกต.กว่า 3 ครั้ง และพิจารณา “ลับ” ทุกครั้ง ขาดความโปร่งใสอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ กกต.เป็นองค์กรที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน
 
4. กกต.ทั้ง 7 คนมาใหม่ ขณะที่ได้รับการแต่งตั้ง ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่มีประสบการณ์ในการจัดเลือกตั้ง
 
สำหรับการทำหน้าที่ของ กกต.ในการรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นครั้งนี้ ผมเข้าใจดีว่า กกต.ก็มีหน้าที่ และขั้นตอนในการตรวจสอบต่างๆ แต่ กกต.ต้องอย่าลืมว่าทุกๆ กระบวนการที่ กกต.ทำ ทุกๆ ความล่าช้าที่เกิดขึ้น กกต.แม้เป็นองค์กรอิสระ แต่อิสระที่ว่านั้นไม่ใช่อิสระจากประชาชน กกต.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงให้กับประชาชนทราบอย่างสิ้นข้อสงสัยด้วย พร้อมกับแจ้งกำหนดการในการดำเนินการให้มีความชัดเจน อย่าให้ประชาชนรู้สึกว่า กกต.ทำตามอำเภอใจของตน หรือรอการกดปุ่มจากใคร
 
สุดท้าย ผมคิดนี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่นับจากนี้ ประชาชนทุกคนจะร่วมกันตรวจสอบการทำงานของ กกต.ชุดนี้ และหากพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายหยุมหยิม ในการดำเนินการใดๆ ที่ไม่เป็นธรรม หรือขัดต่อเจตจำนงที่มาจากประชาชน ก็จำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรม ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา เพื่อดำเนินการกับ กกต.ชุดนี้
 
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการเฝ้าระวังปกป้องผลการเลือกตั้ง ที่เป็นเจตจำนงของประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่มีอำนาจบาตรใหญ่นอกระบบ หรืออำนาจที่มาจากผู้มีอำนาจกลุ่มใด เข้ามาแทรกแซง บิดเบือนมติจากประชาชน

https://www.facebook.com/wirojlak/posts/pfbid0t96ryAK5VKAVjoF7QYmW8ZVRyyyArxRBjdGtLJ8xh7iZobH6Xvq92EXSRY7SizhJl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่