สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นขออนุญาตเกริ่นก่อนว่าจขกท. เรียนจบแล้ว ตอนนี้อยู่ช่วยงานที่บ้านเกือบปี เรียนรู้งานที่บ้านได้ประมาณ 70% กำลังพัฒนางานให้ดีขึ้นๆ จากที่แม่ทำคนเดียวมาตลอด และแม่ก็มีความคิดเห็นว่าจะออกรถเพิ่มอีก 1 คัน เพื่อจะได้ขยับขยายงานมากขึ้น (งานอาศัยใช้รถเพื่อติดต่อลูกค้า)
ตอนนี้จขกท. ไม่ได้อยากเรียนต่อต่างประเทศเพื่อต่อยอดงานอื่นๆ จากภาษา แค่ต้องการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อีกอย่างคือตั้งใจทำต่อที่บ้าน 100%
โดยคิดไว้ประมาณนี้
1. ซื้อรถและช่วยงานที่บ้านต่อไป เก็บเงินค่อยไปต่างประเทศ (เที่ยว เรียน หรืออื่นๆ)
2. ไปเรียนต่อตามตั้งใจ (แต่แม่จะไม่มีคนช่วย..และอาจจะเหนื่อยเหมือนเดิม)
3. ไม่ซื้อรถ ไม่เรียนต่อ ตั้งใจทำงานเต็มที่ เพราะมีเงินก็สามารถทำได้ทั้ง 2 หรืออีกหลายๆอย่าง
เนื่องจากที่บ้านไม่ได้มีเงินมากนัก.. เลยต้องเลือก (แม่สนับสนุนเต็มที่ทุกทาง) เพราะถ้าเราเลือกทั้ง 2 เท่ากับรถที่ออกมาสูญเปล่า ไม่มีคนใช้ (เพื่อหาเงิน) แถมยังเพิ่มภาระให้แม่
แก้คำผิด ...
อัปเดตตอนนี้ จขกท. ซื้อรถเรียบร้อยและทำงานต่อที่บ้าน ไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี อาจจะเหนื่อยงานบ้างแต่คงเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขและลงตัวสุดๆ ค่ะ
ซื้อรถ vs เรียนต่อ
ก่อนอื่นขออนุญาตเกริ่นก่อนว่าจขกท. เรียนจบแล้ว ตอนนี้อยู่ช่วยงานที่บ้านเกือบปี เรียนรู้งานที่บ้านได้ประมาณ 70% กำลังพัฒนางานให้ดีขึ้นๆ จากที่แม่ทำคนเดียวมาตลอด และแม่ก็มีความคิดเห็นว่าจะออกรถเพิ่มอีก 1 คัน เพื่อจะได้ขยับขยายงานมากขึ้น (งานอาศัยใช้รถเพื่อติดต่อลูกค้า)
ตอนนี้จขกท. ไม่ได้อยากเรียนต่อต่างประเทศเพื่อต่อยอดงานอื่นๆ จากภาษา แค่ต้องการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อีกอย่างคือตั้งใจทำต่อที่บ้าน 100%
โดยคิดไว้ประมาณนี้
1. ซื้อรถและช่วยงานที่บ้านต่อไป เก็บเงินค่อยไปต่างประเทศ (เที่ยว เรียน หรืออื่นๆ)
2. ไปเรียนต่อตามตั้งใจ (แต่แม่จะไม่มีคนช่วย..และอาจจะเหนื่อยเหมือนเดิม)
3. ไม่ซื้อรถ ไม่เรียนต่อ ตั้งใจทำงานเต็มที่ เพราะมีเงินก็สามารถทำได้ทั้ง 2 หรืออีกหลายๆอย่าง
เนื่องจากที่บ้านไม่ได้มีเงินมากนัก.. เลยต้องเลือก (แม่สนับสนุนเต็มที่ทุกทาง) เพราะถ้าเราเลือกทั้ง 2 เท่ากับรถที่ออกมาสูญเปล่า ไม่มีคนใช้ (เพื่อหาเงิน) แถมยังเพิ่มภาระให้แม่
แก้คำผิด ...
อัปเดตตอนนี้ จขกท. ซื้อรถเรียบร้อยและทำงานต่อที่บ้าน ไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี อาจจะเหนื่อยงานบ้างแต่คงเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขและลงตัวสุดๆ ค่ะ