รีวิวเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในรอบ 902 วัน
นับแต่วันที่จีนมีข่าวโควิดผมก็ไม่ได้บินอีกเลย
ปรับมาทำงานผ่านระบบออนไลน์ก็พบว่าเวอร์คและมีประสิทธิภาพดี ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่เสียเวลาเดินทาง ทำงานได้มากกว่าในเวลาที่เท่ากัน ไม่เหนื่อยด้วย
จุดเริ่มการเดินทาวครั้งนี้มีมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
ที่ได้รับการติดต่อจากผู้จัดงานกัวเตมาลาอควาซิมโพเซียมที่เคยพบกันสมัยผมไปบรรยายงานAqua expo ที่เอกวาดอร์ในปี 2012 ได้
ส่งจดหมายเชิญเข้าร่วมบรรยายผ่านระบบออนไลน์ไปเมื่อเดือน ตค 2564
หลังบรรยายจบ เขาแสดงความจำนงว่า ปีหน้า มิถุนา ถ้าเดินทางได้อยากให้มาบรรยายเรื่องอื่นให้อีก
มีนา 65 ผมก็ได้รับจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการ...และตอบตกลงไป
(ครั้นเมษาก็มี การติดต่อให้ไปบรรยายในงานเวียดชริมพ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานที่อยากไปร่วมมาก แต่เวลาดันตรงกัน!!!)
จึงเรียนแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้านายให้ท่านเมตตาไปแทน..
และแจ้งทางผู้ติดต่อให้เชิญเจ้านายไปแทนเนื่องจากผมติดรับไปบรรยายให้ฝั่งอเมริกากลางแล้ว..
ตลอดเวลาที่เตรียมการก็มีความหวั่นว่าถึงวันแล้วจะไม่สามารถไปได้!!
สองความกังวลที่มีคือ..
+++กังวลแรก จะขึ้นเครื่องได้ไหม?
พยายามคิดต่อเช็คข้อมูลข่าวสาร
ติดต่อสถานทูตเอกวาดอร์ หาเบอร์ทุกที่ในเน็ต ไม่มีเบอร์ใดใช้ได้ เช็คข้อมูลในเน็ต ให้เพื่อนร่วมงานที่เอกวาดอร์เช็คให้อีกทาง ได้ความเบื้องต้นว่า ใช้ผลการฉีดวัคซีนร่วมกับกรอกใบแจ้งรายละเอียดสุขภาพก็เข้าได้แล้ว
สถานทูตกัวเตมาลา ติดต่อไป เจอคุณมัชฌิมา จนท คนไทย ให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำดีมาก น่ารักมากๆ ขอบคุณมากครับ..
สนามบินสุวรรณภูมิ มีสายด่วน ต่อเข้าไป มี จนท รับตลอด ให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ ลงลึกไม่ได้ เน้นว่าการตรวจเอกสาร จะตรวจตามที่ประเทศปลายทางระบุไว้เท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษ
สายการบิน เคแอลเอ็ม ติดต่อยากมาก โทรไปสามสิบครั้งจึงจะมีคนรับสักครั้ง ระบุไว้ว่า เปิดให้บริการตอน 8.30-16.30 น จันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น
มีแอพ ให้ใช้ แต่ยังมีคุณภาพไม่ครอบคลุมแม้จะมีช่องทางให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์แต่ก็ติดต่อยาก เช่นกัน
ยังมีช่องทางว้อทแอพ และเฟซเมสเซงเจอร์ ที่ติดต่อไปกี่ที ก็มีแต่บอทตอบ ไม่สามารถปรึกษาอะไรได้ บอกบอทไปว่าขอคุยกับคน ปรากฏว่ามีคนตอบมาหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง เลยไม่ได้คุยกัน
สรุปจึงเลือกเตรียมเอกสารเเบบเต็มพิกัด
1. วัคซีนไข้เหลือง สำหรับกลับเข้าไทย ต้องหาถึง6ที่จึงจะได้ ที่ รพ บำรุงราษฎร์ โดนไปห้าพันบาท (ขอบคุณต้นสังกัดผู้ให้การสนับสนุน)
2. หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งถ้าขอเป็นอิเล็คทรอนิกส์ จะคิวยาวมาก สมัครวันที่6ได้คิววันที่25 ไม่กล้าเสี่ยงเพราะใกล้วันบินเกินไปจึงถือใบรีบรองฉีดวัคซีไปขอที่สาธารณสุขจังหวัด ใช้เวลา 1วันพร้อมเงิน 50บาท
3. เนื่องจากผมติดโควิดวันที่28/4-8/5 จึงไปขอใบรับรองแพทย์และผลตรวจเอทีเคไว้ก่อนหนึ่งฉบับในวันที่2/5 ไว้กันเหนียว
4. ไปตรวจพีซีอาร์72ชม ก่อนบิน ผลเป็นบวกที่ CT32, 34, 36 หมอระบุให้ในใบรับรองแพทย์ว่าเป็นซากเชื้อ ไม่สามารถเป็นผู้แพร่เชื้อได้
5. ตรวจเอทีเคอีกรอบ โดย รพ เจ้าประจำ พร้อมระบุว่าfollow up after covid และระบุว่าหายเป็นปกติแล้ว
6. ถือวีซ่าอเมริกา ที่นับเป็นเล่มที่ 1 เล่มต่อเนื่อง1,2 และเล่มปัจจุบัน รวม 4 เล่ม (ไม่ได้เอ็นดอร์ส)
7. พิมพ์หนังสือเชิญ ตั๋วกลับ โปรแกรมการบรรยาย ติดตัวไว้ และได้ใช้ เพราะเจ้าหน้าที่ขอดูประกอบการอนุญาติให้ขึ้นเครื่อง
+++กังวลสอง ถ้าไม่ได้กลับควรเตรียมการอะไรบ้าง??
หากนี่คือการจากลาครอบครัว คือการได้เห็นทุกคนและอยู่กับทุกอย่างที่สร้าง ที่เป็น ในชั่วชีวิตนี้เป็นครั้งสุดท้าย
สาเหตุ ก็เพราะ การเดินทางครั้งนี้ต้องขึ้นเครื่องที่มีข่าวตกบ่อยๆ อยู่ถึง6เที่ยวด้วยกัน !!!
ไม่เกิดก็ดีไปแต่ถ้าสมมุติว่ามันเกิด จะทำอย่างไร?
อย่างแรกเลย ซื้อประกัน
อย่างสอง ปลดเฟอร์นิเจอร์ เผื่อเป็นไรไป คนที่บ้านก็ยังได้ใช้
อย่างสาม เอาของที่มีคนมาฝากไว้คืนเจ้าของเขาไป
ที่ลืมทำคือพินัยกรรม
มีคนห่วงใยไปดูดวงให้ว่าชะตาชีวิตไม่ตายโหงจึงพอหวังได้ว่าจะได้กลับมาเยือนบ้านเรือนที่เคยเนาว์
เครื่องออกตอน 00.10 ของวันที่30 พค 65
มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอน 20.40 น
สายการบินเคแอลเอ็มอยู่ที่แถวQ
เดินเข้าไปเช็คอิน มีคนน้อยมากเพราะเคาเตอร์เพิ่งเปิด
เอกสารทุกอย่างถูกตรวจตอนเช็คอินโดย จนทหน้าเคาเตอร์ และเพราะค่อนข้างซับซ้อน จึงใช้เวลานาน ร่วม20นาที
โชคดีที่อ่านเจอในเน็ตว่า ควรไปถึงก่อนสัก3-4ชม ตอนเข้าคิว จุดเช็คอินเพิ่งเปิดมีคนรอคิวก่อนหน้าเพียงคนเดียว
แต่ขณะเดินออกจากเคาเตอร์หันไปมอง พบว่ามีคนรอคิวอยู่70-80คน เพิ่มขึ้นเพียบในช่วงสั้น
และตอนเครื่องจะออกปรากฏว่าผู้โดยสารยังมาไม่ครบต้องรอ
จึงแนะนำว่าควรไปแต่เนิ่นๆ
จุดเช็คกระเป๋าคนน้อยมาก เปิดแค่ฝั่งละไลน์เดียว
จุดตรวจคนออกจากเมือง ใช้คนตรวจ ไม่เปิดระบบออโต้
อ่านจอดูประตูขึ้นเครื่องแล้วเดินไปรอ
การเดินทางขาไป
บินจากสุววรณภูมิไป อัมเสตอร์ดัม 11.55 ชม
รอต่อเครื่องที่อัมเสตอร์ดัม 5.50 ชม
บินต่อไปปานามาอีก 10.50 ชม
รอต่อเครื่องอีก2.10 ชม
บินจากปานามาไปกัวเตมาลาอีก 2.2 ชม
รวม 32.05 ชม
เมื่อรู้ว่าได้ไปแน่ๆ จึงทักไปบอกเพื่อนๆที่เปรู เอกวาดอร์ เม็กซิโก อเมริกา ว่า หากสะดวกก็แวะมาเจอกัน..
ตอนนี้มีตอบรับมาสามคน
เหมือนมางานreunite เลย เพียงแต่ผองเพื่อนกลุ่มนี้อยู่คนละฟากโลก ยากมากที่จะเจอตัวเป็นๆ แต่คุยกันเกือบทุกเดือนมากว่าสิบปี
บนเครื่อง คนเต็มทุกที่นั่ง ระบบไฟลท์เอนเตอร์เทนเมนท์ พัฒนาไปมาก หนังเยอะ ชอบข้อมูลการเดินทาง ที่กดดูได้ตลอดหลากหลายวิว ทั้งโหมดนักบิน หน้าต่างซ้ายขวา มองเครื่องซ้ายขวา ตามเครื่องตรงๆ ไนท์วิว ....มีที่ชาร์จไฟให้ เป็นพอร์ตยูเอสบี ลองเสียบแล้ว ชาร์จไม่ได้
ที่เสียบหูฟังใช้แจคทั่วไป ถ้าเรามีหูฟังแบบสายก็ใช้ได้เลย
ระบบปรับอากาศในห้องโดยสารปรับไว้อุ่นๆ ไม่หนาวแบบที่กลัวก่อนขึ้น กำลังหลับสบายเลย
การเดินทางแทบจะเหมือนภาวะปกติ ผู้คนแน่นเครื่อง กัปตันประกาศว่าการใส่หน้ากากระหว่างเดินทางนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำแต่ไม่บังคับ (recommended but not mandate)
มาตราการโควิดบนเครื่องไม่มีอะไร คนเปิดหน้ากากคุยกันเป็นปรกติเหมือนก่อนโควิด
แอร์เคแอลเอ็มมักเป็นผู้มีอาวุโสสูง หลายท่านปรากฏรอยย่นเหนือริมฝีปาก สจ๊วตก็เช่นกัน
อาหารมื้อแรกเป็นผัดไทที่รสชาติตามมาตรฐานอาหารที่จัดไว้สำหรับให้คนทุกชาติทานได้ ได้ทานตอนเวลา ตีสองของวันที่30 ในไทย
มื้อต่อมาได้ทานก่อนลงเครื่องที่อัมเสตอร์ดัม ตรงกับเวลาไทย 11โมง และ6โมงเช้าของอัมเสตอร์ดัม
ระยะทางสุวรรณภูมิ -สกิปโฮล 10,050 กม ใช้เวลาบินที่11.20 ชม
ผ่านหลายทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลแคสเปียน ทะเลดำ นั่งดูจอไปหลับไปเพลินๆ ก็ถึงแล้ว
สนามบินสกิปโฮล ผมเคยมา5-6 ครั้ง ไม่ได้มาหกปีดูแปลกตาไปบ้าง
ผู้โดยสารทรานสิทต้องผ่านการเช็คกระเป๋าอีกรอบ ร้านค้าในสนามบินยังคงเหมือนเดิม เดินๆไปไม่นานก็เห็น รร ที่เคยมานอนพัก ผู้คนไม่ใส่หน้ากากกันเป็นส่วนใหญ่
ตอนนี้กำลังนั่งรอต่อเครื่องครับ
วันนี้เป็นวันแรกของการเดินทาง
จะมาอัพข้อมูลทุกวันจนกว่าจะจบทริปวันที่ 18 มิย ครับ
ตอนนี้ลงข้อมูลผ่านแทบเบล็ตอาจเนียบเรียงเนื้อหาได้ไม่ดีนัก ถ้ามีผิดพลาดขออภัยด้วยครับ
เข้าคอมได้จะลงรูปให้ชมครับ
จบทริปจะมานั่งเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ ใส่ครบเครื่องไว้เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนคนไทยได้อ่านกันครับ
[CR] รีวิวการเดินทางไปทำงานที่กัวเตมาลาหลังโควิด
นับแต่วันที่จีนมีข่าวโควิดผมก็ไม่ได้บินอีกเลย
ปรับมาทำงานผ่านระบบออนไลน์ก็พบว่าเวอร์คและมีประสิทธิภาพดี ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่เสียเวลาเดินทาง ทำงานได้มากกว่าในเวลาที่เท่ากัน ไม่เหนื่อยด้วย
จุดเริ่มการเดินทาวครั้งนี้มีมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
ที่ได้รับการติดต่อจากผู้จัดงานกัวเตมาลาอควาซิมโพเซียมที่เคยพบกันสมัยผมไปบรรยายงานAqua expo ที่เอกวาดอร์ในปี 2012 ได้
ส่งจดหมายเชิญเข้าร่วมบรรยายผ่านระบบออนไลน์ไปเมื่อเดือน ตค 2564
หลังบรรยายจบ เขาแสดงความจำนงว่า ปีหน้า มิถุนา ถ้าเดินทางได้อยากให้มาบรรยายเรื่องอื่นให้อีก
มีนา 65 ผมก็ได้รับจดหมายเชิญอย่างเป็นทางการ...และตอบตกลงไป
(ครั้นเมษาก็มี การติดต่อให้ไปบรรยายในงานเวียดชริมพ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานที่อยากไปร่วมมาก แต่เวลาดันตรงกัน!!!)
จึงเรียนแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้านายให้ท่านเมตตาไปแทน..
และแจ้งทางผู้ติดต่อให้เชิญเจ้านายไปแทนเนื่องจากผมติดรับไปบรรยายให้ฝั่งอเมริกากลางแล้ว..
ตลอดเวลาที่เตรียมการก็มีความหวั่นว่าถึงวันแล้วจะไม่สามารถไปได้!!
สองความกังวลที่มีคือ..
+++กังวลแรก จะขึ้นเครื่องได้ไหม?
พยายามคิดต่อเช็คข้อมูลข่าวสาร
ติดต่อสถานทูตเอกวาดอร์ หาเบอร์ทุกที่ในเน็ต ไม่มีเบอร์ใดใช้ได้ เช็คข้อมูลในเน็ต ให้เพื่อนร่วมงานที่เอกวาดอร์เช็คให้อีกทาง ได้ความเบื้องต้นว่า ใช้ผลการฉีดวัคซีนร่วมกับกรอกใบแจ้งรายละเอียดสุขภาพก็เข้าได้แล้ว
สถานทูตกัวเตมาลา ติดต่อไป เจอคุณมัชฌิมา จนท คนไทย ให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำดีมาก น่ารักมากๆ ขอบคุณมากครับ..
สนามบินสุวรรณภูมิ มีสายด่วน ต่อเข้าไป มี จนท รับตลอด ให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ ลงลึกไม่ได้ เน้นว่าการตรวจเอกสาร จะตรวจตามที่ประเทศปลายทางระบุไว้เท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษ
สายการบิน เคแอลเอ็ม ติดต่อยากมาก โทรไปสามสิบครั้งจึงจะมีคนรับสักครั้ง ระบุไว้ว่า เปิดให้บริการตอน 8.30-16.30 น จันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น
มีแอพ ให้ใช้ แต่ยังมีคุณภาพไม่ครอบคลุมแม้จะมีช่องทางให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์แต่ก็ติดต่อยาก เช่นกัน
ยังมีช่องทางว้อทแอพ และเฟซเมสเซงเจอร์ ที่ติดต่อไปกี่ที ก็มีแต่บอทตอบ ไม่สามารถปรึกษาอะไรได้ บอกบอทไปว่าขอคุยกับคน ปรากฏว่ามีคนตอบมาหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง เลยไม่ได้คุยกัน
สรุปจึงเลือกเตรียมเอกสารเเบบเต็มพิกัด
1. วัคซีนไข้เหลือง สำหรับกลับเข้าไทย ต้องหาถึง6ที่จึงจะได้ ที่ รพ บำรุงราษฎร์ โดนไปห้าพันบาท (ขอบคุณต้นสังกัดผู้ให้การสนับสนุน)
2. หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งถ้าขอเป็นอิเล็คทรอนิกส์ จะคิวยาวมาก สมัครวันที่6ได้คิววันที่25 ไม่กล้าเสี่ยงเพราะใกล้วันบินเกินไปจึงถือใบรีบรองฉีดวัคซีไปขอที่สาธารณสุขจังหวัด ใช้เวลา 1วันพร้อมเงิน 50บาท
3. เนื่องจากผมติดโควิดวันที่28/4-8/5 จึงไปขอใบรับรองแพทย์และผลตรวจเอทีเคไว้ก่อนหนึ่งฉบับในวันที่2/5 ไว้กันเหนียว
4. ไปตรวจพีซีอาร์72ชม ก่อนบิน ผลเป็นบวกที่ CT32, 34, 36 หมอระบุให้ในใบรับรองแพทย์ว่าเป็นซากเชื้อ ไม่สามารถเป็นผู้แพร่เชื้อได้
5. ตรวจเอทีเคอีกรอบ โดย รพ เจ้าประจำ พร้อมระบุว่าfollow up after covid และระบุว่าหายเป็นปกติแล้ว
6. ถือวีซ่าอเมริกา ที่นับเป็นเล่มที่ 1 เล่มต่อเนื่อง1,2 และเล่มปัจจุบัน รวม 4 เล่ม (ไม่ได้เอ็นดอร์ส)
7. พิมพ์หนังสือเชิญ ตั๋วกลับ โปรแกรมการบรรยาย ติดตัวไว้ และได้ใช้ เพราะเจ้าหน้าที่ขอดูประกอบการอนุญาติให้ขึ้นเครื่อง
+++กังวลสอง ถ้าไม่ได้กลับควรเตรียมการอะไรบ้าง??
หากนี่คือการจากลาครอบครัว คือการได้เห็นทุกคนและอยู่กับทุกอย่างที่สร้าง ที่เป็น ในชั่วชีวิตนี้เป็นครั้งสุดท้าย
สาเหตุ ก็เพราะ การเดินทางครั้งนี้ต้องขึ้นเครื่องที่มีข่าวตกบ่อยๆ อยู่ถึง6เที่ยวด้วยกัน !!!
ไม่เกิดก็ดีไปแต่ถ้าสมมุติว่ามันเกิด จะทำอย่างไร?
อย่างแรกเลย ซื้อประกัน
อย่างสอง ปลดเฟอร์นิเจอร์ เผื่อเป็นไรไป คนที่บ้านก็ยังได้ใช้
อย่างสาม เอาของที่มีคนมาฝากไว้คืนเจ้าของเขาไป
ที่ลืมทำคือพินัยกรรม
มีคนห่วงใยไปดูดวงให้ว่าชะตาชีวิตไม่ตายโหงจึงพอหวังได้ว่าจะได้กลับมาเยือนบ้านเรือนที่เคยเนาว์
เครื่องออกตอน 00.10 ของวันที่30 พค 65
มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอน 20.40 น
สายการบินเคแอลเอ็มอยู่ที่แถวQ
เดินเข้าไปเช็คอิน มีคนน้อยมากเพราะเคาเตอร์เพิ่งเปิด
เอกสารทุกอย่างถูกตรวจตอนเช็คอินโดย จนทหน้าเคาเตอร์ และเพราะค่อนข้างซับซ้อน จึงใช้เวลานาน ร่วม20นาที
โชคดีที่อ่านเจอในเน็ตว่า ควรไปถึงก่อนสัก3-4ชม ตอนเข้าคิว จุดเช็คอินเพิ่งเปิดมีคนรอคิวก่อนหน้าเพียงคนเดียว
แต่ขณะเดินออกจากเคาเตอร์หันไปมอง พบว่ามีคนรอคิวอยู่70-80คน เพิ่มขึ้นเพียบในช่วงสั้น
และตอนเครื่องจะออกปรากฏว่าผู้โดยสารยังมาไม่ครบต้องรอ
จึงแนะนำว่าควรไปแต่เนิ่นๆ
จุดเช็คกระเป๋าคนน้อยมาก เปิดแค่ฝั่งละไลน์เดียว
จุดตรวจคนออกจากเมือง ใช้คนตรวจ ไม่เปิดระบบออโต้
อ่านจอดูประตูขึ้นเครื่องแล้วเดินไปรอ
การเดินทางขาไป
บินจากสุววรณภูมิไป อัมเสตอร์ดัม 11.55 ชม
รอต่อเครื่องที่อัมเสตอร์ดัม 5.50 ชม
บินต่อไปปานามาอีก 10.50 ชม
รอต่อเครื่องอีก2.10 ชม
บินจากปานามาไปกัวเตมาลาอีก 2.2 ชม
รวม 32.05 ชม
เมื่อรู้ว่าได้ไปแน่ๆ จึงทักไปบอกเพื่อนๆที่เปรู เอกวาดอร์ เม็กซิโก อเมริกา ว่า หากสะดวกก็แวะมาเจอกัน..
ตอนนี้มีตอบรับมาสามคน
เหมือนมางานreunite เลย เพียงแต่ผองเพื่อนกลุ่มนี้อยู่คนละฟากโลก ยากมากที่จะเจอตัวเป็นๆ แต่คุยกันเกือบทุกเดือนมากว่าสิบปี
บนเครื่อง คนเต็มทุกที่นั่ง ระบบไฟลท์เอนเตอร์เทนเมนท์ พัฒนาไปมาก หนังเยอะ ชอบข้อมูลการเดินทาง ที่กดดูได้ตลอดหลากหลายวิว ทั้งโหมดนักบิน หน้าต่างซ้ายขวา มองเครื่องซ้ายขวา ตามเครื่องตรงๆ ไนท์วิว ....มีที่ชาร์จไฟให้ เป็นพอร์ตยูเอสบี ลองเสียบแล้ว ชาร์จไม่ได้
ที่เสียบหูฟังใช้แจคทั่วไป ถ้าเรามีหูฟังแบบสายก็ใช้ได้เลย
ระบบปรับอากาศในห้องโดยสารปรับไว้อุ่นๆ ไม่หนาวแบบที่กลัวก่อนขึ้น กำลังหลับสบายเลย
การเดินทางแทบจะเหมือนภาวะปกติ ผู้คนแน่นเครื่อง กัปตันประกาศว่าการใส่หน้ากากระหว่างเดินทางนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำแต่ไม่บังคับ (recommended but not mandate)
มาตราการโควิดบนเครื่องไม่มีอะไร คนเปิดหน้ากากคุยกันเป็นปรกติเหมือนก่อนโควิด
แอร์เคแอลเอ็มมักเป็นผู้มีอาวุโสสูง หลายท่านปรากฏรอยย่นเหนือริมฝีปาก สจ๊วตก็เช่นกัน
อาหารมื้อแรกเป็นผัดไทที่รสชาติตามมาตรฐานอาหารที่จัดไว้สำหรับให้คนทุกชาติทานได้ ได้ทานตอนเวลา ตีสองของวันที่30 ในไทย
มื้อต่อมาได้ทานก่อนลงเครื่องที่อัมเสตอร์ดัม ตรงกับเวลาไทย 11โมง และ6โมงเช้าของอัมเสตอร์ดัม
ระยะทางสุวรรณภูมิ -สกิปโฮล 10,050 กม ใช้เวลาบินที่11.20 ชม
ผ่านหลายทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลแคสเปียน ทะเลดำ นั่งดูจอไปหลับไปเพลินๆ ก็ถึงแล้ว
สนามบินสกิปโฮล ผมเคยมา5-6 ครั้ง ไม่ได้มาหกปีดูแปลกตาไปบ้าง
ผู้โดยสารทรานสิทต้องผ่านการเช็คกระเป๋าอีกรอบ ร้านค้าในสนามบินยังคงเหมือนเดิม เดินๆไปไม่นานก็เห็น รร ที่เคยมานอนพัก ผู้คนไม่ใส่หน้ากากกันเป็นส่วนใหญ่
ตอนนี้กำลังนั่งรอต่อเครื่องครับ
วันนี้เป็นวันแรกของการเดินทาง
จะมาอัพข้อมูลทุกวันจนกว่าจะจบทริปวันที่ 18 มิย ครับ
ตอนนี้ลงข้อมูลผ่านแทบเบล็ตอาจเนียบเรียงเนื้อหาได้ไม่ดีนัก ถ้ามีผิดพลาดขออภัยด้วยครับ
เข้าคอมได้จะลงรูปให้ชมครับ
จบทริปจะมานั่งเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ ใส่ครบเครื่องไว้เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนคนไทยได้อ่านกันครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้