ลิเวอร์พูลประเมินตัวเองพลาด เลยทำให้วางแผนเล่นกับรีลมาดริดผิดพลาดใช่ไหม

นัดชิง ucl ลิเวอร์พูลบุกใส่รีลมาดริดเยอะมาก สุดท้ายก็ทำประตูไม่ได้ โดนสวนกลับตูมเดียวเสียประตู พลาดแชมป์ ucl ไป

   ลิเวอร์พูลมั่นใจเกมรุกของตัวเองมากว่าจะต้องทำประตูได้ แต่รีลมาดริดเน้นเหนียวไว้ก่อน ขอโอกาสสวนกลับดีๆ แล้วเป็นรีลมาดริดที่ทำได้

   จากที่เคยดูบอลมา ถ้าทีมนึงเป็นฝ่ายบุก อีกฝ่ายเน้นรับ ทีมที่เป็นฝ่ายบุกต้องมีศักยภาพการบุกที่เหนือกว่าจริงๆหรือมีศักยภาพทีมโดยองครวมที่เหนือกว่าฝ่ายเน้นรับจริงๆ ทีมเน้นบุกถึงจะเอาชนะทีมเน้นรับได้ ถ้าศักยภาพทั้ง 2 ฝ่ายเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน ฝ่ายตั้งรับมักจะไม่แพ้นะ เสมอหรือหาทางเล่นสวนกลับยิงประตูเอาชนะทีมบุกได้

   ลิเวอร์พูลนี่เป็นทีมบุกที่ดีจนได้ชื่อว่าเครื่องจักรสีแดง แต่สังเกตอยู่อย่างนึง ถ้าลิเวอร์พูลเจอทีมระดับเดียวกันอย่างแมนซิตี้หรือเชลซีแบบฟูลทีม มักจะเอาชนะไม่ได้ ชนะเชลซี 2 ถ้วยก็เพราะจุดโทษ เจอแมนซิตี้ 2 นัดในพรีเมียร์ลีกก็เอาชนะไม่ได้ เหมือนเครื่องจักรสีแดงมันทำงานไม่เต็มที่
   พอมาเจอรีลมาดริดที่เทียบทั้งเกมบุก ศักยภาพตัวผู้เล่น สมดุลทีม องค์รวมของทีมทั้งหมด ลิเวอร์พูลไม่ได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ลิเวอร์พูลเลือกที่จะเป็นฝ่ายบุกใส่ รีลมาดริดเป็นฝ่ายตั้งรับรอสวน ผลออกมาก็เป็นอย่างที่เห็น

   ถ้าลิเวอร์พูลเลือกที่จะยอมปรับเกมส์เน้นเหนียวไว้เมื่อรู้แล้วว่า รีลมาดริดไม่ยอมบุกแลก น่าจะ work กว่า มีสิทธิ์เสมอในเวลา แล้วไปเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ
   ลิเวอร์พูลน่าจะเล่นบุกได้ดีต่อเมื่อรีลมาดริดยอมบุกแลกด้วย เกมจะเปิดมากกว่า ช่องว่างในเกมรับของรีลมาดริดจะเปิดมากกว่านี้

   ถ้ายังจำได้ในปี 2005 ที่ลิเวอร์พูลเจอเชลซี  ซึ่งศักยภาพทีมตอนนั้น เชลซีมีดีกว่า  คนมองว่าเชลซีของมูรินโญ่จะผ่านเข้ารอบชิงได้ แต่ลิเวอร์พูลเน้นเคี่ยว เน้นเล่นเหนียวกว่าเชลซี สุดท้ายลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเข้ารอบชิง

   ถ้าลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายบุกและสามารถเอาชนะได้นี่ นึกถึงรอบชิง ucl ปี 2019 ที่เจอสเปอร์สและเจอบียาร์เรอัลปีนี้ เพราะศักยภาพโดยองค์รวมของทีมเหนือกว่า

   ถ้า ucl ปีต่อไปนี่ ถ้าเจอรีลมาดริดหรือทีมไหนที่ศักยภาพทีมเท่ากัน แล้วเขาเน้นตั้งรับ ก็ไม่น่าจะเล่นอย่างปีนี้แล้วนะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ความคิดเรา เราไม่คิดว่าลิเวอร์พูลจะผิดแผนตรงไหน

ลิเวอร์พูลจะดีที่สุด ก็คือการเล่นในเกมของตัวเอง เล่นเป็นตัวเอง เพรสใส่คู่แข่งตั้งแต่แดนบน แดนกลาง และการดักเช็คล้ำหน้าของแบ็คโฟร์

เกมระดับนี้ เราจะหวังให้เห็นเกมที่คุณภาพต่างกันได้ยังไง
การที่คุณจะชนะในเกมชิงชนะเลิศ UCL กับทีมระดับมาดริด คุณต้องเล่นดีที่สุด แบบเต็ม 90 นาที

เราไม่คิดว่ากลางลิเวอร์พูลจะแย่กว่ามาดริดมากมายอย่างที่วิเคราะห์กัน ถ้ามันแย่ขนาดนั้น คงคุมเกมและสร้างสรรค์ช่วยเกมรุกให้จบด้วยการยิง 24 ครั้ง เข้ากรอบ 9 ครั้งไม่ได้

รีล มาดริดก็ทำตามแผน เบนซ์บอกก่อนเกมว่า ต้องใช้การแก้เพรสในแดนหน้าหรือแดนกลาง เพื่อหาวิธีโจมตีลิเวอร์พูล และมาดริดทำสำเร็จ ก็คือจังหวะเสียประตู เพราะฝั่งซ้ายไปรุมเพรส แต่เค้าแก้ได้ แบ็คซ้ายร็อบโบ้หลุดตำแหน่ง กลางซ้ายติอาโก้ก็ไม่ทันแล้ว ดิอาซลงมาช่วยไม่ทัน  บัลเบรเด้มีพื้นที่ ก็ปาดไปแบบเฉียบมาก เทรนท์ก็กังวลตัวกลาง ไม่ทันระวังตัววิ่งสอด ก็โดนไป

ต้องชมกลางมาดริด เค้าก็เล่นในแบบของเค้า ใช้จุดเด่นของชุดกลางที่เก๋า คุมจังหวะได้ดี เค้าไม่แพ้การเพรสของลิเวอร์พูล กองหลังก็ทันเกม เวิลด์คลาส เกมรุกก็ทำได้เมื่อมีโอกาส

ส่วนลิเวอร์พูล ถ้าไม่นับช่วงหลังเสียประตู ที่ต้องปรับมาเล่น 4-2-4 ก็ต้องบอกว่าสามารถตัดเกมรุกของมาดริดได้ดี ทั้งเทรนท์ที่มีจังหวะตัด ดักได้หลายครั้งให้เห็น และโคนาเต้ที่เล่นดี (มีโดนลอดขาครั้ง เฮนโด้มาช่วย) ฟานไดจค์กับร็อบโบ้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย

บอสคล็อปป์บอกว่าภูมิใจในลูกทีมแล้ว ไม่ใช่เกมที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่แย่ ถ้าใน 9 ลูกที่ยิงเข้ากรอบ เปลี่ยนเป็นประตูซัก 1 ลูก มันก็จะไม่เป็นแบบนี้ แต่ฟุตบอล สุดท้ายมันก็วัดกันที่ผลการแข่งขัน ถ้าคุณชนะต่อให้เอาอลิสไปยืนหน้าเป้า คุณก็ทำถูก

เราไม่คิดว่าแผนของคล็อปป์วันนั้นจะผิด ชุดผู้เล่นก็ดีที่สุดเท่าที่มี เพียงแต่ผู้เล่นไม่ได้เล่นอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด และมันไม่ชนะเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่