โควิดป่วยใหม่ 3,854 ดับ 26 กำลังรักษา 4.2 หมื่นราย
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3372767
โควิดป่วยใหม่ 3,854 ดับ 26 กำลังรักษา 4.2 หมื่นราย
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 3,854 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 3,854 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,223,067 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 6,031 ราย หายป่วยสะสม 2,205,476 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 42,534 ราย และ เสียชีวิต 26 ราย
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 882 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 11 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 12.9
“ทวี” จี้รื้อโครงสร้างสภานโยบายฯ ปมอุดมศึกษาไทยแพ้เพื่อนบ้าน
https://www.nationtv.tv/news/378874658
อุดมศึกษาไทยแพ้เพื่อนบ้าน “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” จี้รื้อโครงสร้างสภานโยบายฯ หลังมหาวิทยาลัยไทยไม่ติด 1 ใน 500 อันดับของโลก ตามหลังสิงคโปร์-มาเลย์ สะท้อนนโยบายอุดมศึกษาของประเทศ
พ.ต.อ.
ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระรับทราบรายงานการพัฒนาการอุดมศึกษาฯ โดยระบุตอนหนึ่งว่า เนื่องจากสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ถือว่าเป็นเรื่องของอนาคต ตนได้พูดในสภานี้มาครั้งหนึ่งแล้วว่า ถ้าจะดูอดีตสังคมใดให้ไปดูที่พิพิธภัณฑ์ ถ้าจะดูปัจจุบันให้ไปดูที่หน่วยปฏิบัติ แต่ถ้าจะดูอนาคตให้ไปดูที่การศึกษาให้ไปดูที่เยาวชนคืออนาคต
พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายที่ชิงออกก่อนที่จะมีสภาผู้แทนราษฎร เราต้องยอมรับว่ากฎหมายที่ออกในยุคที่ผู้นำยึดอำนาจ หรือยุคที่ผู้นำรัฐประหาร จะเป็นกฎหมายที่เป็นลัทธิชาตินิยม ที่แบ่งเขาแบ่งเรา เห็นคนอื่นเป็นฝ่ายตรงข้ามเสมอ
จะเห็นได้ว่าเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องของอนาคต คณะกรรมการสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ใน 28 คน มีถึง 16 คนอยู่ในคณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดนี้เราก็พบว่าบริหารบ้านเมืองสร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างความยากจน คุณภาพชีวิตของได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง ประธานสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ก็เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯก็เป็นประธานนโยบายทางเศรษฐกิจ เราก็จะเห็นว่า เศรษฐกิจเรายิ่งล้าหลังเมื่อไปเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงมีความรู้สึกเห็นใจต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 9 ท่านที่ท่านถูกเลือกมาจากตัวแทนอธิการบดี
ในรายงานนี้ก็มีข้อมูลที่เราจะเห็นได้ว่า ในระดับอุดมศึกษาของเราเมื่อไปเทียบกับอุดมศึกษาของโลกที่มี 1,527 มหาวิทยาลัยนั้น อันดับ 1 ใน 100 ไม่มีมหาวิทยาลัยของไทยติดอยู่ จะมีแค่ประเทสสิงคโปร์ 2 มหาวิทยาลัย ถ้า 1 ใน 500 มหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็ไม่มี มีแค่ประเทศมาเลเซีย 1 มหาวิทยาลัย ถ้าตั้งแต่ 500 – 1,000 ของไทยมีอยู่ 4 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม้ฟ้าหลวง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ส่วนมาเลเซียมีถึง 8 มหาวิทยาลัย
ข้อมูลนี้ทำให้ไม่มั่นใจว่า คณะกรรมการของสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีวัตถุประสงค์ถึง 11 ข้อ อยากจะเรียนถามว่า บุคคลที่ทำหน้าที่โดยตำแหน่ง ใน 1 ปีคณะกรรมการประชุมกี่ครั้ง ตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่มีรายชื่อมาประชุมด้วยตนเองหรือไม่ และถ้ามีรายละเอียดการประชุมก็อยากจะทราบว่า มีวาระลักษณะอย่างไรบ้าง เพราะเนื้อหาบางทีรายงานเล็กๆ ยังมีคุณค่ามากกว่ารายการการศึกษาของสภาหลายๆ ฉบับที่เกี่ยวกับการศึกษา
หนึ่งในนโยบายที่ตนเห็นและอยากจะช่วยให้สภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ลงไปคิด ซึ่งมีอยู่ในรายงานฉบับนี้แล้ว ก็คือการเรียนมหาวิทยาลัยของเยาวชนไทยลดลง เพราะอัตราการเกิดลด แสดงว่าในอนาคตเรื่องการศึกษามหาวิทยาลัยอาจจะต้องเปลี่ยนจากการให้การศึกษาต่อนักศึกษาที่เป็นเยาวชน เปลี่ยนไปสู่บุคคลที่สูงอายุ
ที่สำคัญที่รายงานเขียนเอาไว้ คือการลดความเหลื่อมล้ำ ให้เข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา วันนี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งจะมีกฎหมายในหมวดปฏิรูปประเทศ จริงๆ ให้ปฏิรูปกฎหมายให้เสร็จใน 1 ปี และให้มีผลใน 5 ปี แต่วันนี้รัฐธรรมนูญใช้มาครบ 5 ปีเมื่อวันที่ 6 เม.ย.65 มีกฎหมายอีกจำนวนมาก น่าจะหลายสิบหรือเป็นร้อยฉบับที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
แม้แต่กฎหมายเรื่องปฏิรูปการศึกษา รัฐธรรมนูญบอกว่าให้เสร็จภายใน 1 ปี โดยให้มีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รัฐธรรมนูญเราเขียนไว้ชัดเจนเลยว่า มาตรา 54 วรรค 6 ผู้ยากไร้ให้มีกองทุน แต่รัฐไปมีกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาที่ได้งบประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท กลับใช้เงินทั้งหมดกับคนไม่ยากไร้ ก็คือให้คนเรียนฟรี 15 ปี ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเอาเงินไป แต่กองทุนนี้ก็เดินเข้าไปหาคนเรียนฟรี แต่คนที่ยากไร้ต้องไปกู้เงิน กู้ กยศ.
“ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลคสช.ยังไปออก พ.ร.บ.กยศ. เมื่อปี 610 ให้มีดอกเบี้ยจาก 1 สลึงเป็นร้อยละ 7.5 และเบี้ยปรับอีก 18 เปอร์เซนต์ รวมเป็น 25 เปอร์เซนต์ อันนี้คือมะเร็งร้ายที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ที่สำคัญพอไปดูงบการเงินของ กยศ.จะมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับถึง 20 เปอร์เซนต์ ไปหากินกับคนที่เรียนหนังสือ แสดงว่าท่านไม่ได้ส่งเสริมการศึกษา ผมก็อยากจะฝากทางสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ช่วยเอาข้อมูลว่าสภานี้ทำอะไรกันบ้าง เพราะรายงานเหมือนตัดแปะมาเท่านั้น” พ.ต.อ.
ทวี กล่าว
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้พุ่ง ช่วงหยุดยาวของสหรัฐฯ
https://www.prachachat.net/economy/news-942534
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในช่วงหยุดยาวของสหรัฐฯ Memorial Day ของสหรัฐฯ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่าราคาน้ำมันปรับเพิ่มขานรับ ความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ในช่วงวันหยุดยาว Memorial Day ของสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลขับขี่ ประกอบกับอุปทานน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ สนับสนุนการทรงตัวของราคาน้ำมันในระดับสูง
สหภาพยุโรปพยายามหาข้อยุติสำหรับมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ก่อนการประชุมสุดยอดในวันที่ 30-31 พ.ค. แม้ว่าฮังการียืนยันที่จะไม่ร่วมมาตรการดังกล่าว เพราะพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียในระดับสูง หลายฝ่ายคาดว่าสหภาพยุโรปจะมีมติหยุดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียทางเรือเพียงอย่างเดียว ส่วนทางท่อจะยังสามารถนำเข้าได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะหยุดการนำเข้าเช่นกัน
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 27 พ.ค. ปรับลด 1 แท่น แตะระดับ 727 แท่น นับเป็นการลดลงครั้งแรกของแท่นขุดเจาะในรอบ 31 สัปดาห์ โดยตั้งแต่วิกฤติรัสเซีย-ยูเครน สหรัฐฯ สนับสนุนให้ผู้ผลิตเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อลดความกังวลอุปทานที่อาจได้รับผลกระทบจากการยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
ที่มา:Thaioil
JJNY : ป่วยใหม่ 3,854 ดับ 26│อุดมศึกษาไทยแพ้เพื่อนบ้าน│ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม│สมชัย เชื่อ กกต.ไม่กล้าให้ใบส้ม ‘ชัชชาติ’
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3372767
โควิดป่วยใหม่ 3,854 ดับ 26 กำลังรักษา 4.2 หมื่นราย
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 3,854 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 3,854 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,223,067 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 6,031 ราย หายป่วยสะสม 2,205,476 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 42,534 ราย และ เสียชีวิต 26 ราย
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 882 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 11 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 12.9
“ทวี” จี้รื้อโครงสร้างสภานโยบายฯ ปมอุดมศึกษาไทยแพ้เพื่อนบ้าน
https://www.nationtv.tv/news/378874658
อุดมศึกษาไทยแพ้เพื่อนบ้าน “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” จี้รื้อโครงสร้างสภานโยบายฯ หลังมหาวิทยาลัยไทยไม่ติด 1 ใน 500 อันดับของโลก ตามหลังสิงคโปร์-มาเลย์ สะท้อนนโยบายอุดมศึกษาของประเทศ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระรับทราบรายงานการพัฒนาการอุดมศึกษาฯ โดยระบุตอนหนึ่งว่า เนื่องจากสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ถือว่าเป็นเรื่องของอนาคต ตนได้พูดในสภานี้มาครั้งหนึ่งแล้วว่า ถ้าจะดูอดีตสังคมใดให้ไปดูที่พิพิธภัณฑ์ ถ้าจะดูปัจจุบันให้ไปดูที่หน่วยปฏิบัติ แต่ถ้าจะดูอนาคตให้ไปดูที่การศึกษาให้ไปดูที่เยาวชนคืออนาคต
พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายที่ชิงออกก่อนที่จะมีสภาผู้แทนราษฎร เราต้องยอมรับว่ากฎหมายที่ออกในยุคที่ผู้นำยึดอำนาจ หรือยุคที่ผู้นำรัฐประหาร จะเป็นกฎหมายที่เป็นลัทธิชาตินิยม ที่แบ่งเขาแบ่งเรา เห็นคนอื่นเป็นฝ่ายตรงข้ามเสมอ
จะเห็นได้ว่าเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องของอนาคต คณะกรรมการสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ใน 28 คน มีถึง 16 คนอยู่ในคณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดนี้เราก็พบว่าบริหารบ้านเมืองสร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างความยากจน คุณภาพชีวิตของได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง ประธานสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ก็เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯก็เป็นประธานนโยบายทางเศรษฐกิจ เราก็จะเห็นว่า เศรษฐกิจเรายิ่งล้าหลังเมื่อไปเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงมีความรู้สึกเห็นใจต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 9 ท่านที่ท่านถูกเลือกมาจากตัวแทนอธิการบดี
ในรายงานนี้ก็มีข้อมูลที่เราจะเห็นได้ว่า ในระดับอุดมศึกษาของเราเมื่อไปเทียบกับอุดมศึกษาของโลกที่มี 1,527 มหาวิทยาลัยนั้น อันดับ 1 ใน 100 ไม่มีมหาวิทยาลัยของไทยติดอยู่ จะมีแค่ประเทสสิงคโปร์ 2 มหาวิทยาลัย ถ้า 1 ใน 500 มหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็ไม่มี มีแค่ประเทศมาเลเซีย 1 มหาวิทยาลัย ถ้าตั้งแต่ 500 – 1,000 ของไทยมีอยู่ 4 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม้ฟ้าหลวง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ส่วนมาเลเซียมีถึง 8 มหาวิทยาลัย
ข้อมูลนี้ทำให้ไม่มั่นใจว่า คณะกรรมการของสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีวัตถุประสงค์ถึง 11 ข้อ อยากจะเรียนถามว่า บุคคลที่ทำหน้าที่โดยตำแหน่ง ใน 1 ปีคณะกรรมการประชุมกี่ครั้ง ตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่มีรายชื่อมาประชุมด้วยตนเองหรือไม่ และถ้ามีรายละเอียดการประชุมก็อยากจะทราบว่า มีวาระลักษณะอย่างไรบ้าง เพราะเนื้อหาบางทีรายงานเล็กๆ ยังมีคุณค่ามากกว่ารายการการศึกษาของสภาหลายๆ ฉบับที่เกี่ยวกับการศึกษา
หนึ่งในนโยบายที่ตนเห็นและอยากจะช่วยให้สภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ลงไปคิด ซึ่งมีอยู่ในรายงานฉบับนี้แล้ว ก็คือการเรียนมหาวิทยาลัยของเยาวชนไทยลดลง เพราะอัตราการเกิดลด แสดงว่าในอนาคตเรื่องการศึกษามหาวิทยาลัยอาจจะต้องเปลี่ยนจากการให้การศึกษาต่อนักศึกษาที่เป็นเยาวชน เปลี่ยนไปสู่บุคคลที่สูงอายุ
ที่สำคัญที่รายงานเขียนเอาไว้ คือการลดความเหลื่อมล้ำ ให้เข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา วันนี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งจะมีกฎหมายในหมวดปฏิรูปประเทศ จริงๆ ให้ปฏิรูปกฎหมายให้เสร็จใน 1 ปี และให้มีผลใน 5 ปี แต่วันนี้รัฐธรรมนูญใช้มาครบ 5 ปีเมื่อวันที่ 6 เม.ย.65 มีกฎหมายอีกจำนวนมาก น่าจะหลายสิบหรือเป็นร้อยฉบับที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
แม้แต่กฎหมายเรื่องปฏิรูปการศึกษา รัฐธรรมนูญบอกว่าให้เสร็จภายใน 1 ปี โดยให้มีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รัฐธรรมนูญเราเขียนไว้ชัดเจนเลยว่า มาตรา 54 วรรค 6 ผู้ยากไร้ให้มีกองทุน แต่รัฐไปมีกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาที่ได้งบประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท กลับใช้เงินทั้งหมดกับคนไม่ยากไร้ ก็คือให้คนเรียนฟรี 15 ปี ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเอาเงินไป แต่กองทุนนี้ก็เดินเข้าไปหาคนเรียนฟรี แต่คนที่ยากไร้ต้องไปกู้เงิน กู้ กยศ.
“ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลคสช.ยังไปออก พ.ร.บ.กยศ. เมื่อปี 610 ให้มีดอกเบี้ยจาก 1 สลึงเป็นร้อยละ 7.5 และเบี้ยปรับอีก 18 เปอร์เซนต์ รวมเป็น 25 เปอร์เซนต์ อันนี้คือมะเร็งร้ายที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ที่สำคัญพอไปดูงบการเงินของ กยศ.จะมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับถึง 20 เปอร์เซนต์ ไปหากินกับคนที่เรียนหนังสือ แสดงว่าท่านไม่ได้ส่งเสริมการศึกษา ผมก็อยากจะฝากทางสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ช่วยเอาข้อมูลว่าสภานี้ทำอะไรกันบ้าง เพราะรายงานเหมือนตัดแปะมาเท่านั้น” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้พุ่ง ช่วงหยุดยาวของสหรัฐฯ
https://www.prachachat.net/economy/news-942534
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในช่วงหยุดยาวของสหรัฐฯ Memorial Day ของสหรัฐฯ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่าราคาน้ำมันปรับเพิ่มขานรับ ความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ในช่วงวันหยุดยาว Memorial Day ของสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลขับขี่ ประกอบกับอุปทานน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ สนับสนุนการทรงตัวของราคาน้ำมันในระดับสูง
สหภาพยุโรปพยายามหาข้อยุติสำหรับมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ก่อนการประชุมสุดยอดในวันที่ 30-31 พ.ค. แม้ว่าฮังการียืนยันที่จะไม่ร่วมมาตรการดังกล่าว เพราะพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียในระดับสูง หลายฝ่ายคาดว่าสหภาพยุโรปจะมีมติหยุดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียทางเรือเพียงอย่างเดียว ส่วนทางท่อจะยังสามารถนำเข้าได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะหยุดการนำเข้าเช่นกัน
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 27 พ.ค. ปรับลด 1 แท่น แตะระดับ 727 แท่น นับเป็นการลดลงครั้งแรกของแท่นขุดเจาะในรอบ 31 สัปดาห์ โดยตั้งแต่วิกฤติรัสเซีย-ยูเครน สหรัฐฯ สนับสนุนให้ผู้ผลิตเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อลดความกังวลอุปทานที่อาจได้รับผลกระทบจากการยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
ที่มา:Thaioil