JJNY : 5in1 ยุทธพงษ์ซัดทัพฟ้า│ศิริกัญญาย้ำโหวตคว่ำ│​อดีตกกต.มองปมชัชชาติ│เป๊ปซี่ขึ้นราคา│ชูวิทย์เทียบ ชัชชาติ-ประยุทธ์

ฝ่ายค้านคว่ำแน่งบฯ66 ‘ยุทธพงษ์’ ซัดทัพฟ้าใช้เงินซื้อเครื่องบินรบ ไร้อาวุธ จี้ ‘ประยุทธ์’ ต้องตอบให้ได้ 
https://www.matichon.co.th/politics/news_3371783
   

  
ฝ่ายค้านคว่ำแน่งบฯ66 ‘ยุทธพงษ์’ ซัดทัพฟ้าใช้เงินซื้อเครื่องบินรบ ไร้อาวุธ จี้ ‘ประยุทธ์’ ต้องตอบให้ได้ 
 
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสภียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่จะเข้าสภาฯในวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติว่าจะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯ เพราะงบฯ66 กู้จนเต็มเพดาน งบพัฒนาประเทศแทบจะไม่มี ประชาชนเดือดร้อน อดอยาก หิวโหย น้ำมันแพง ของแพง แต่รัฐบาลบอกไม่มีเงินช่วย แต่รัฐบาลกลับมีเงินไปซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุด F-35 โดยกองทัพอากาศ ในงบฯ66 จะซื้อก่อน 2 ลำ ราคาลำละ 78 ล้านเหรียญดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทย 2,700 ล้านบาท ซึ่งจะซื้อทั้งหมด 8 ลำ แต่ปีนี้จะซื้อก่อน 2 ลำ ซึ่งปรากฏว่าเป็นเครื่องบินเปล่าไม่มีอาวุธ ตรงนี้จึงต้องนำไปอภิปรายฯว่าไปซื้อเครื่องบินเปล่าไม่มีอาวุธมาอีกแล้ว จะซื้อมาทำไม และมีเหตุผลความจำเป็นอย่างไรถึงต้องซื้อเครื่องบินรบ จะไปรบกับใคร
 
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องตอบในฐานะเป็นนายกฯ และรมว.กลาโหม นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถรับหลักการ งบฯ66 ได้” นายยุทธพงศ์ กล่าว
  
ด้าน นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงจะอยู่ไม่ถึงทันการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะในการพิจารณางบฯ 66 หากไม่ผ่านหรือถูกคว่ำ ความรับผิดชอบคงอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว และมีอย่างเดียวคือต้องลาออก โดยตนจะอภิปรายเกี่ยวกับทางตันของงบฯ66 ในการจัดงบประมาณฯ ปีนี้มีมูลค่าถึง 3.18 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลจัดเก็บรายได้แค่ 2.4 ล้านล้านบาท ดังนั้นก็ต้องกู้เงินมาเสริมให้งบประมาณเพียงพอ จำนวน 695,000 ล้านบาท การจัดเก็บภาษีรายได้ส่วนใหญ่มาจากภาษีอากรของประชาชนเป็นส่วนใหญ่
  
นายจิรพงษ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯ การจัดเก็บรายได้ของเราไม่เข้าเป้า การบริหารรายรับค่อนข้างแย่มาก แต่ที่น่าสงสัยมากที่สุด เมื่อจัดเก็บรายได้ไม่พอ บวกกับเงินกู้ไปแล้วก็ยังไม่พอ แต่กลับกู้เงียบ โดยปีงบประมาณ 63 และ 64 จำนวนเงินกู้มากกว่างบประมาณที่ขอกู้ในสภาฯ งบตัวนี้อนุมัติโดยครม.โดยใช้พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ ที่แก้ไขปรับปรุงเมื่อปี 61 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และการออกนโนบายในการจัดเก็บภาษีเป็นลักษณะเสือนอนกิน ขูดรีดภาษีต่างๆ จากประชาชน โดยเฉพาะการออกมาตรการภาษีต่างๆ ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ที่ออกก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อปี 62 จึงทำให้ที่ดินราคาสูงแต่กลับไปปลูกกล้วยเพื่อให้เสียภาษีต่ำๆ
 

 
ก้าวไกล จัด 15 ขุนพล ชำแหละงบ 66 ‘ศิริกัญญา’ ย้ำโหวตคว่ำ​ จี้สภาฯ คุยกันด้วยเหตุผลหลักฐาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3372249
 
ก้าวไกล จัด 15 ขุนพล ชำแหละงบ 66 ‘ศิริกัญญา’ ย้ำโหวตคว่ำ​ จี้สภาฯ คุยกันด้วยเหตุผลหลักฐาน อย่าเล่นเกมการเมือง
 
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายนโยบาย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า พรรคก้าวไกลเตรียมผู้อภิปรายไว้ประมาณ 15 คน เช่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่จะอภิปรายภาพรวมของงบประมาณ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค อภิปรายงบกระทรวงกลาโหม ส่วนตนไม่ได้อภิปรายเป็นกระทรวง แต่จะตรวจการบ้านแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายนโยบายให้หน่วยงานราชการไปทำ สรุปแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร รวมถึงตรวจผลงาน 3 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบกลางที่ได้งบประมาณมากที่สุดและงบกระทรวงกลาโหมที่มากกว่างบกระทรวงสาธารณสุขนั้น ต้องย้ำกับประชาชนว่าควรเข้าไปดูรายละเอียดว่ารายการอะไรที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง สำหรับงบกลางในส่วนที่เพิ่มขึ้นคือ สวัสดิการของข้าราชการ ขณะที่กระทรวงกลาโหมส่วนที่เพิ่มขึ้นคือ งบบุคลากร ซึ่งสะท้อนปัญหาหลายอย่างของโครงสร้างงบประมาณกับระบบราชการไทยว่า มันใหญ่เทอะทะไปด้วยขนาดของกำลังคนภาครัฐ กระทรวงกลาโหมที่มีกองทัพที่เต็มไปด้วยคน ซึ่งเอาคนไปสู้กับประเทศอื่นในตอนนี้ก็คงจะไม่ชนะแน่ๆ ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯ ในวาระ 1 อย่างแน่นอน
 
เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าเล่นเกมการเมืองมากเกินไป น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ในประวัติศาสตร์ เราเคยโหวตรับร่างพ.ร.บ.งบฯ ในวาระ 1 แค่ครั้งเดียว คือ ในปี 63 ซึ่งตอนนั้นงบประมาณออกมาล่าช้ามาก เนื่องจากมีการเลือกตั้งกลางปี เราจึงคิดว่า ณ วันนั้นแก้ไขอะไรไม่ทัน จึงจำเป็นที่จะต้องโหวตรับร่างไปก่อน แต่หลังจากนั้นมาเราไม่เคยโหวตรับร่างในวาระ 1 อีกเลย ซึ่งถ้างบประมาณทั้ง 4 ปีไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงจะต้องยึดหลักตามหลักการของเรา คือ ไม่โหวตรับร่าง ส่วนเรื่องเกมการเมือง กลุ่มที่จะเป็นตัวแปรสำคัญไม่ใช่พรรคฝ่ายค้าน แต่คือกลุ่มที่แตกย่อยมาจากฝั่งรัฐบาล แน่นอนว่าเขาก็จะเล่นเกมการเมืองในกฎหมายใหญ่ๆ อยู่แล้ว ก็ปล่อยให้เขาเล่นไป
 
“ยืนยันกับประชาชนว่าเราทำหน้าที่ถูกต้องตามหลักการและตรงไปตรงมา ไม่ใช่การเล่นเกมการเมือง ถ้าประชาชนจะเสียประโยชน์ครั้งใหญ่ ในการที่จะได้รับประโยชน์จากงบประมาณอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราก็ไม่สามารถที่จะหยวนๆ ยอมให้งบปีนี้ผ่านไปได้ง่ายๆ”​ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าจำนวนเสียงฝ่ายค้านยังเป็นรองฝ่ายรัฐบาล แต่เราจะอภิปรายด้วยหลักการและเหตุผลข้อเท็จจริง อยากให้สภาฯ มีวุฒิภาวะโดยการพูดคุยกันด้วยเหตุผลและหลักฐานมากกว่าเล่นเกมการเมือง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เสียงฝ่ายค้านจะน้อย และร่างพ.ร.บ.งบฯ ผ่านวาระ 1 ก็ยังคงมีชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) และอนุกมธ. ที่สามารถปรับแก้ ซึ่งปกติในชั้นกมธ.จะตัดงบได้อย่างเดียว ถ้าครั้งนี้ซ้ำรอยเดิมเหมือนปีที่แล้วที่ตัดลดงบประมาณได้แล้ว แต่ไปโอนเข้างบกลางทั้งหมด เรารับไม่ได้และจะเสนอว่า ตัดได้เท่าไหร่ก็ให้พับโครงการไปเลยจะดีกว่า
  

 
อดีต กกต.มองปม ‘ชัชชาติ’ ถูกร้อง 2 เรื่อง ไม่มีน้ำหนักพอ คนจำนวนมากรอดูความเที่ยงธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3372302
 
อดีต กกต.มองปม ‘ชัชชาติ’ ถูกร้อง 2 เรื่อง ไม่มีน้ำหนักพอ คนจำนวนมากรอดูความเที่ยงธรรม
 
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม นายโคทม อารียา อดีตกรรมการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเพทมหานคร ถูกร้องเรื่องป้ายหาเสียงรีไซเคิล และการดูถูกระบบราชการ ในแง่กฎหมายสามารถเอาผิดได้หรือไม่ ว่า ต้องดูข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ตนฟังดูข้อเท็จจิงเกี่ยวกับเรื่องป้ายหาเสียงก็คิดว่าไม่มีน้ำหนักอะไรมาก ส่วนเรื่องการดูถูกราชการ ก็รับฟังไว้ แต่อย่าไปให้น้ำหนักอีกเหมือนกัน เพราะเสียงของคนประมาณ 1.3 ล้าน  กับความเห็นของคนอีกจำนวนหนึ่ง ที่ไม่ได้หยิบยกเรื่องที่มีน้ำหนักมาออกจนเป็นเหตุให้ต้องพิจารณาในข้อกฎหมาย
 
นายโคทม กล่าวว่า ถ้าหากเข้าข่ายการที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต หรือไม่เที่ยงธรรมก็ว่ากันไปอย่างหนึ่ง เช่น การซื้อเสียงไม่สุจริต คำว่าไม่เป็นธรรม ก็หมายความว่า ทำให้คู่แข่งขันเสียเปรียบ แต่อย่างเรื่องป้ายหาเสียงตนมองว่า มันดูไม่ชัด ไม่ได้มีคนที่จะรับ เพราะต้องมีคนให้กับคนรับ แต่นี้เป็นเพียงการออกความเห็นเกี่ยวกับป้ายของตัวเองว่า สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งป้ายของคนอื่นก็เอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้เหมือนกันใช่หรือไม่
 
ส่วนเรื่องที่บอกนายชัชชาติวิจารณ์ราชการ ก็ไม่ได้ทำให้เกิดการไม่สุจริต สมมุติหากการพูดเช่นนั้นมีผลทำให้ราชการไม่เลือกนายชัชชาติ มันก็ไม่ได้ทำให้นายชัชชาติได้คะแนน การไม่สุจริตต้องหาวิธีการที่ทำให้ตัวเองได้คะแนนเพิ่ม ทั้งนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันในการแข่งขันจนต้องยกขึ้นมาทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต
 
เมื่อถามว่า 2 เรื่องที่มีการร้องนายชัชชาติ จะมีผลต่อการประกาศการรับรองการเป็นผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ นายโคทม กล่าวว่า ต้องถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งในความเห็นของตนข้อเท็จจริงอ่อน ไม่มีน้ำหนัก แต่คนตัดสิน คือ กกต. แต่อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากที่ทั้งเลือกและไม่เลือกนายชัชชาติ ก็เฝ้าดูอยู่ว่ากกต.จะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม
 

 
เป๊ปซี่ ประกาศขึ้นราคาทุกขนาด แบกต้นทุนแพ็กเกจจิ้งไม่ไหว
https://www.prachachat.net/marketing/news-942383
   
“เป๊ปซี่” ยักษ์น้ำดำประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกทุกไซซ์ 1-2 บาท ต่อขวด/กระป๋อง หลังต้นทุนแพ็กเกจจิ้งทั้ง “ขวดพลาสติก-กระป๋องอะลูมิเนียม” พุ่งกระฉูด เผยราคาใหม่มีผลตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ แต่ให้แคมเปญส่วนลดยืนราคาเดิมถึงสิ้นเดือน
 
วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวจากบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมและอื่น ๆ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าผลจากต้นทุนแพ็กเกจจิ้งที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นขวดพลาสติก กระป๋องอะลูมิเนียม ทำให้บริษัทพิจารณาที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า โดยเบื้องต้นจะมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำอัดลม “เป๊ปซี่” ทุกขนาด และทุกแพ็กเกจจิ้ง ในอัตรา 1-2 บาทต่อขวด/กระป๋อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่