ขอวิธีคุยเก่งๆ

กระทู้คำถาม
มันเริ่มตั้งเเต่เปิดเทอมหลังโควิดค่ะ ส่วนตัวเป็นคนโลกส่วนตัวสูงแล้วก็คุยไม่เก่งคิดเรื่องที่จะคุยกับเพื่อนไม่ออกเลยค่ะ เราเลยพูดเเต่เรื่องลามกอ่ะคะเเบบว่าทำตัวทะลึ่งทั้งที่ไม่ได้คิดเเบบนั้นจริงๆค่ะ มันเป็นวิธีที่เราไม่ค่อยชอบเเต่ก็ทำเพราะเราไม่รู้จะคุยอะไรเเละเหงามากๆเลยค่ะ พอเราทำตัวทะลึ่งเราเห็นว่าเพื่อนสนใจเราเลยพูดเเต่เรื่องเเบบนี้ เเต่มันก็สนใจได้สักพักเเหละค่ะ เพราะเราต่อบทสนทนาของเพื่อนไม่ได้เลย เเล้วพอเราไม่พูดเพื่อนก็ลืมเราไปเลยค่ะไม่ชวนเราคุยด้วยเลยเราเข้าใจนะคะว่าเราคุยไม่สนุกตบมุกก็ไม่เก่งหัวเราะก็ฝืดๆ ด้วยเเถมเราก็ไม่ได้หน้าตาดีโดดเด่นอะไรเลย เวลาเพื่อนเราถ่าย   tiktok กันเราอยากไปเต้นด้วยนะคะ เเต่เราไม่มั่นใจในตัวเองเลย เราน่าจะลองเดินไปขอเพื่อนลองเต้นดูเเต่เราไม่กล้าค่ะเรากลัวเพื่อนลำบากใจ เราเต้นไม่เก่ง ร้องเพลงก็เพี้ยน หลังจากที่เรารู้ว่าเราทำตัวทะลึ่งไปก็ไม่ได้ช่วยให้เราคุยกับเพื่อนได้เราเลยลองเปลี่ยนวิธีค่ะ เราลองเล่าเกี่ยวกับชีวิตเราดู เช่น เห้ยวันนี้อยู่ๆเเม่ก็โอนเงินให้ประมาณนี้ค่ะ ซึ่งในวันนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งพอเรามานั่งทบทวนดูมันดูอวดๆยังไงก็ไม่รู้เราไม่ได้มีเจตนาทำตัวเเบบนั้นเลย เเต่เราไม่รู้จะคุยอะไร หลังจากที่เราคิดว่าทำเเบบนี้ไปก็ไม่ช่วยอีกนั่นเเหละเราเลยเลิกทำกลับมาทำตัวธรรมชาติเลยค่ะ ซึ่งปกติเราเงียบมากๆ เลยค่ะ เเล้วพอเราไม่พูดอะไรเลยเพื่อนเหมือนไม่เห็นเราเลยเหมือนเราเป็นอากาศธาตุเลยค่ะ เพื่อนสนิทที่คิดว่าสนิทด้วยก็ไปคุยกับคนอื่นเเล้วทิ้งเคาไว้ข้างหลัง เราขออธิบายนะคะกลุ่มเรามี 5 คน
เราสนิทกับเพื่อนคนนึงมากๆค่ะ เราเคยคิดด้วยนะคะว่าทำไมเราไม่เจอกับเพื่อนคนนี้ให้เร็วกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเราเจอเเต่คนเข้ามาหาเพราะเรียนเก่งให้เราทำทุกอย่างเรียกง่ายๆ เดอะเเบก นั่นเเหละค่ะ พอเราหมดประโยชน์ก็ไม่สนใจเวลาเดินด้วยก็นก็ทิ้งเราไว้ข้างหลัง มีครั้งนึงมีงานกลุ่มร้องเพลง ซึ่งเราร้องเพลงเพี้ยนค่ะเรารู้ตัวว่าไม่ถนัดด้านนี้ เราก็หวังว่าเพื่อนที่เราเคยช่วยจะให้เราอยู่ด้วย เเต่เราคงหวังมากไปเค้าไม่รับเราเข้าค่ะ เราเลยต้องร่อนเร่ไปขอคนอื่นอยู่ เราผิดมากเลยเหรอที่ร้องเพลงไม่เก่ง เเล้วก็อีกครั้งตอนมีประกวดเต้นเพื่อนก็ตั้งกลุ่มไปเเข่งกันเเล้วขาดคนพอดี เราอยากก้าวข้ามกรอบตัวเองเราเลยลองขอดู เเต่เพื่อนเมินข้ามเราไปเลยค่ะทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเรา  เราเจอเเบบนี้จนชินไปเลยค่ะ ทำให้เราปิดใจกับเรื่องเพื่อนไปเลยค่ะ ทำให้เรามักคิดลบไว้ก่อนจะบวกเสมอค่ะ เราได้รู้เเล้วค่ะว่าถ้าเราไม่สวยไม่เก่งไม่เด่นคนอื่นๆก็พร้อมชี้ให้เราเป็นเเกะดำผลักไสเราออกจากวง เราทนไปจนเรียนจบประถม เรามาต่อมัธยมที่อื่น เเละได้เจอกับเพื่อนกลุ่มใหม่ 5 คน (เป็นเพื่อนหลุ่มปัจจุบันที่กล่าวถึงด้านบนนะคะ) ก่อนจะเปิดเทอมขึ้นม.1 เราลองเสี่ยงทักคนอื่นดู เพราะเราคิดว่าถ้าหากอยากอยู่ในสังคมรอดก็จำเป็นต้องมีเพื่อน เพราะ ถ้าเราเปลกเเยกคงมีคนพร้อมเหยียบเสมอนั่นเเหละค่ะ เเละยังเผื่อไว้เวลามีงานกลุ่มจะได้ทำงานได้ เเต่เราไม่ได้หวังให้เพื่อนมาช่วยเราคิดอะไรอีกเเล้วค่ะ เราคิดว่ามีไว้เเค่เอาเข้ากลุ่มก็พอที่เหลือเรื่องงานเราจะจัดการเองค่ะ เรากลั้นใจเสี่ยงทักไปสองคน วันเปิดเทอมเราเดินไปหาคยทึ่เคาทักปรากฎว่าหนุ่งในนั้นมาจากรร.เดียวกันเเถมชื่อเหมือนกันอีก เราก็เลยไปกับเพื่อนคนนี้ ส่วนเพื่อนอีกคนก็ไปอยู่กลุ่มเดียวกับหัวหน้าห้องค่ะ ตั้งเเต่นั่นเราก็เริ่มสนิทกับเพื่อนคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆค่ะเเถมเคายะงบังเอิญเลขที่ใกช้กันอีก เราสนิทกันมากจนคุยกันได้ทุกเรื่องเลย ปกติเราจะไม่ค่อยเล่นโซเชียลหรือไลน์เท่าไหร่ เรียกง่ายๆ ก็ดองเเชทนั่นเเหละค่ะ เเต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะเพราะเราเป็นคนเพื่อนน้อยอยู่เเล้ว เเต่พอเพื่อนคนนี้ทักมาเราก็จะตอบเสมอ เพราะเราเห็นเพื่อนคนนี้สำคัญมากๆ เรายอมเปิดใจเรื่องเพื่อนอึกสักครั้งยอมทถ่มความรู้สึกให้เพื่อนคนนี้ เราหวังดีกับเค้ามากๆ เรารักเพื่อนคนนี้มาก เราจริงใจกับเพื่อนคนนี้จริงๆ เราคิดตลอดเลยว่าโชคดีจังที่ได้เจอ เราอยากรักษาเพื่อนคนนี้เอาไว้ตลอด เราเขียนไดอารี่ให้เพื่อนคนนึ้ด้วยตั้งใจจะให้ตอนจบม.3 เป็นเรื่องราวของเรากับเพื่อนคนนี้ค่ะ เราเปิดอกคุยกับเพื่อนคนนี้ว่าดราเคยเจอเพื่อนเเย่ๆม่เยอะซึ่งมันบังเอิญมากที่เราเจอมาเเบบเดียวกัน เราก็เลยยิ่งสนิทกันไปอีก เรารู้สึกไว้วางใจ ให้ใจเพื่อนคนนี้อย่างที่ไม่เคยให้ใจใครมาก่อนตั้งเเต่เจอเรื่องเเย่ๆตอนป.2 เราตัดสินใจเล่าเรื่องครอบครัว ที่เราไม่เคยเเม้เเต่จะคุยกับพ่อเเม่ให้เพื่อนคนนี้ฟังซึ่งครอบครัวเรากับเพื่อนไม่ได้อบอุ่น เราคอยเป็นเซฟโซนให้กันมาตลอด เรารู้ว่าตลอดไปไม่มีจริง เเต่ถ้าทำได้อยากอยู่กับเพื่อนคนนี้ไปนานๆจังเลยนะคะ เราสนิทกันมากจนเจอเพื่อนอีกสามคนเเต่เพื่อนก็ยังสนิทกับเราเหมือนเดิม ซึ่งพอเราได้อยู่กับเพื่อนคนนี้นานๆเพื่อนก็สร้างความมั่นใจให้เรามากขึ้นพอที่จะคุยได้เก่งขึ้น เราเลยไม่มีปัญหากับเรื่องนี้เลยค่ะ เเต่ก็เเค่มี.1กับม.2 หลังจากนั้นพอมี.2เราก็เรียนออยไลน์ทั้งเทอม ซึ่งเราชอบมากเลยนะคะ ไม่ต้องไปเจอคนเยอะๆ เรากับเพื่อนก็สนิทกัยเหมือนเดิมออกจะสนิทกันจนเป็นเพื่อนรักไปเเล้วด้วย  เราคุยเเค่กับเพื่อนคนนี้ตอนช่วงเรียนออนไลน์ทำให้ดราไม่ค่อยสนิทกับอึกสามคนเท่าไหร่ เราก็เลยพยายามคถยกับอีกสามคนดู ซึ่งเราคุยได้เเปปเดียวก็เด๊ดเเอร์  เราหาเรื่องคุยลื่นไหลเเบบเพื่อนคนนั้ไม่ได้เลย พอมาช่วงเปิดเทอมม.3 เรากับเพื่อนคนนี้ก็ยังสนิทกันดีเเต่เรากับอีกสามคนดูไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ เราไม่ได้ชอบไปห้างเเล้วก็ไม่ได้ชอบเล่นโซเชี่ยลหรือตามเทรนอะไร ทำให้ไม่มีเรื่องคุยเลย เราพยายามตามเทรนเเต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าวตลอดศัพท์วัยรุ่นบางคำเรายังไม่รู้เลย ต้องยอมรับเเหละค่ะว่าเราเป็นคนน่าเบื่อ ชีวิตประจำวันเราตื่นเช้ามาก็อาบน้ำกินข้าวไปเรียน เเล้วก็ทำงานที่ครูสั่งให้เสร็จพอทำเสร็จก็อ่านนิยายรอเลิกคาบ พอเลิกเรียนเราคิดอย่างเดียวว่าอยากกลับบ้านเราไม่ชอบไปเที่ยวหรือเดินห้าง เราอยากกลับบ้านมากๆ พอเรากลับถึงบ้านก็ทำการบ้านที่ครูสั่ง หลังทำเสร็จก็อาบน้ำมานอนอ่านหนังสือหรือนิยายเเล้วก็นอนค่ะ วนเเบบ นี้ทุกวัน สำหรับคนอื่นมันคงเป็นชีวิตที่ค่อนข้างน่าเบื่อดูใช้ชีวิตไม่คุ้ม เเต่สำหรับเรามันสบายใจที่สุดเลยค่ะมันสงบมากๆเรามีความสุขที่สุดตอนอยู่คนเดียวจริงๆนั่นเเละค่ะ เเต่พอมีสังคมไปรร.เราจำเป็นต้องมีเพื่อนเนาต้องเข้าสังคมเพื่อทำงาน
เราก็ใช้ชีวิตเเบบนี้ไปเรื่อยจนวันนึงเพื่อนคนึงในกลุ่มป่วยเลยกลับบ้านกลางคัน เราก็เลยเหลือกัน4คน ซึ่งเราไม่มีปัญหาอะไรนะคะ เเต่ตั้งเเต่เมื่อไหร่ไม่รุ้ที่เพื่อนคนนั้นค่อยๆห่างเราไป เพื่อนคนนั้นไม่ค่อยคุยกับเราเหมือนเดิม เพื่อนคนนั่นไปคุยกับอีกคนมากขึ้น ตอนเดินด้วยกันเพื่อนจะเดินด้วยกันสามคน เราเหมือนเเกะหลุดฝูงเดินตาหลังอีกเเล้ว ไม่มีใครหันมาคุยกับเราเลย เพื่อนเหมือนคุยอะไรกันสักอย่างซึ่งเราไม่รู้เรื่องด้วย อย่างที่บอกเราตามเทรนไม่ทัน เเม้เเต่เครื่องศิลปินเราก็คุยไม่รู้เรื่อง
เพื่อนคนนั้นไม่นั่งกับเราเหมือนเดิม เพื่อนคนนั้นไปนั่งกับอีกคนในกลุ่มที่ดูช่วงสองวันนี้คุยกันเยอะมากเพื่อนดูสนิทกันคุยกันรู้เรื่อง เรารู้สึกเหมือนโดนทิ้ง ขอวิธีคุยเก่งๆได้มั้ยคะช่วยเเนะนำเราที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่