หนังสือ The Chamber of the Vamps หรือในชื่อภาษาไทย สุสานแวมไพร์ เป็นนวนิยายที่เขียนมาเพื่อ เล่าถึงเหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่สองในรูปแบบใหม่ใส่อภินิหารและความแฟนตาซีเข้าไปเพื่อให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
สำหรับใครที่ชอบหรือสนใจในเรื่องของสงครามโลกครั้งที่สองก็จะสนุกกับการโยงเรื่องราวและเชื่อมต่อเหตุการณ์ได้อย่างเข้าใจลึกซึ้ง
ส่วนใครที่ไม่ชอบประวัติศาสตร์หรือไม่มีความรู้ในด้านนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะเนื้อเรื่องอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบแบบเข้าใจง่ายแต่ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือแฟนตาซีและเต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการแต่ทว่ามันถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใหญ่อ่านเพราะมีฉากรุนแรงในหนังสืออยู่มากเพราะฉะนั้นแนะนำให้ผู้ที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไปอ่านเรื่องนี้นะคะ
เหตุผลที่เขียนเรื่องนี้เพราะความชื่นชอบและสนใจเรื่องของประวัติศาสตร์และสงครามมาตั้งแต่เด็กๆเพราะมันเป็นสิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์พึงกระทำต่อกันและมันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของความเศร้าโศกและความสิ้นหวังแม้แต่ศาสนาหรืออภินิหารก็ไม่สามารถมาหยุดยั้งความตายได้
ผู้อ่านจะได้ตระหนักรู้ถึง เหตุผลของความเกลียดชังที่นำไปสู่การเหยียดเชื้อชาติ การโฆษณาชวนเชื่อในสงคราม เหตุผลของบุคคลนั้นๆที่ทำให้กลายเป็นปีศาจร้าย ตัวละครที่มีความตื้นลึกหนาบางที่เขียนออกมาอย่างแยบยล และสัมผัสจินตนาการอันมืดมนของผู้แต่ง
นอกจากเรื่องนี้จะเกี่ยวกับสงครามนักเขียนยังมีความสงสัยในเรื่องของศาสนามาแต่ช้านานในเรื่องของบาปกรรมและกิเลสผู้แต่งเลยหยิบ บาปทั้งเจ็ดมาไตร่ตรองและเขียนออกมาในรูปแบบใหม่ให้คนเข้าใจว่ากิเลสที่กล่าวมานั้น ไม่ว่าจะเป็น ความทะนงตน ความหิวกระหาย ความโกรธแค้น ราคะ ความริษยา ความเกียจคร้านและความโลภ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพราะมันคือสันดานดิบที่ซ่อนอยู่ในมนุษย์ทุกๆคน
ท้ายที่สุดขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่สนใจและเข้ามาอ่านเรื่องนี้แน่นอนว่าการเขียนหนังสือหรือการทำงานทุกอย่างหวังสิ่งตอบแทนที่เหมือนกันคือชื่อเสียงหรือเงินทองแต่สิ่งที่ผู้แต่งต้องการมากกว่านั้นคือให้ผู้อ่านได้อะไรกลับไปจากการอ่านเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะรักนวนิยายเรื่องนี้เหมือนกับผู้แต่งนะคะ
Vol.1Passion of pride [ความทระนงตน]
เรื่องราวถือกำเนิดขึ้นหลังจากเผ่าพันธุ์แวมส์ได้เกิดการฆ่าล้างกันสุดท้ายปัญหาทุกอย่างก็จบด้วยการตายของอีเวียน่าสตรีผู้เป็นผู้นำแห่งเผ่าพันธุ์เมอดิวเลี่ยนและเปลี่ยนผ่านมือสู่หญิงสาวคนใหม่ที่ไม่รู้เลยว่าเธอเป็นคนอย่างไรจะนำกลีบกุหลาบที่สงบสุขหรือเปลวเพลิงที่รุกโชดช้วงมาสู่ดินแดนลาบรินท์
การเดินทางของหญิงสาวที่เข้ามาอยู่ในวังวนที่เธอไม่รู้จักการพบเจอเผ่าพันธุ์หลายเผ่าที่แอบซ่อนและเกิดใหม่ความขัดแย้งในอดีตการณ์ที่เป็นฉนวนถึงปัจจุบันเธอจะใช้มันเพื่อทำสิ่งใดเมื่อหญิงสาวธรรมดาๆได้มีอำนาจเหลือล้นอย่างที่ไม่เคยฝาดฝันไว้
["ในความอัปลักษณ์มีความงามในความงามก็อาจจะมีความอัปลักษณ์เช่นกัน"]
Vol.2Passion of Glutton [ความตะกละ]

หลังจากการหลับใหลของแกสตอนล่วงเลยมานับทศวรรษเขาก็ได้ตื่นขึ้นจากความเคียดแค้นเต็มหัวใจ ความโลภ ความโหดร้าย ความเห็นแก่ตัวได้เข้ามากัดกินใจของเขาจนหมดสิ้น
ไม่เหลือจิตใจที่จะมอบให้ใครได้อีกกลายเป็นก้อนเนื้อที่ไร้ชีวิตเขาตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไรเขาจะทำสิ่งใดในโลกาใบนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่ตระหนักรู้
แล้วเมื่อเขากลับไปที่บัลลังก์ของเขามีเพียงความว่างเปล่าที่รอรับเขาอยู่มีแต่เพียงผู้ทรยศและหักหลังเขาจึงทำทุกอย่างเพื่อทวงบัลลังก์และอำนาจกลับคืนมาอย่างกระเหือดกระหาย
["อย่าตัดสินผู้หิวกระหายถ้ายังไม่รู้จักความอดยากที่แท้จริง"]
Vol.3Passion of wrath [ความโกรธแค้น]

ไซม่อนชายผู้ถูกกระทำอย่างไม่ใช่มนุษย์ถูกจับมาเป็นทาสซํ้าแล้วซํ้าเล่ารวมถึงแกสตอน แชนเทล และคนอื่นๆ ที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์มาอยู่ใต้นํ้ามือของกษัตรย์เดรโก้และบางส่วนถูกขายประมูลเป็นแรงงานชั้นดีกับผู้มากดีมีเงินทองพวกเขาต่างกระจัดกระจายไปอย่างไร้อำนาจและศักด์สรีเมื่อความอดทนของไซม่อนมีจำกัดและเขายังมีโชคช่วยเหนือคนอื่นใดที่เขาพบเจอกับทาสติดอาวุธชาววูกันด้าที่มาช่วยปลดเอกเขาจากการเป็นทาสและได้เวลาที่เขาจะโต้กลับต่อชาวอารยาที่กระทำต่อชาววูกันด้าอย่างไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ความโกรธแค้นในจิตใจของเขาจะบุกทลายชาวอารยาให้สิ้นซาก
["ความโกรธแค้นระงับได้ด้วยการเอาคืนไม่ใช่การอภัย"]
Vol.4 Passion of lust [ราคะ]

โลเวทต้าเป็นเพียงคนเดียวที่ยอมอยู่ในเมืองมนุษย์เพื่อบริการชายหนุ่มในทุกๆวันและเรียนวิถีการเอาตัวรอดจากนางโรมตาบอดสาวสนิทข้างกายในแบบฉบับของเดสโมดอสไฟราคะของเธอค่อยๆพรุ่งพร่านและนั้นต้องจบลงด้วยความตายของอีกฝ่ายทุกครั้งไป
แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเธอค้นพบความรักที่แท้จริงกับชายแปลกหน้าผู้อ่อนโยนที่ยอมมาเป็นวีรบุรุษเพื่อให้เธอออกจากวังวนแห่งนี้คือการเอาเขี้ยวในพุ่มไม้ออกไปจากชีวิตเธอแต่แล้วทุกอย่างก็ต้องจบลงด้วยความตายไม่ต่างจากเช่นทุกครั้งแล้วถึงเวลาที่พี่ชายอย่างลูคัสจะได้ออกโลงเพื่อช่วยเหลือน้องสาวของเขาออกจากเรื่องเลวร้ายแบบนี้เสียทีและเอาเมืองอนาโตเลียกลับมาจากมือโจนัสชายผู้ที่ทำให้อนาโตเลียเสื่อมโทรมและพรากสวรรค์บนดินที่เคยถูกขนานนามไว้
["ความรักคือความใคร่ถ้าไม่ใช่ไหนลองรักคนแคระหรือคนขี้ริ้วขี้เหร่ดูสิ"]
Vol.5 Passion of Envy [ความริษยา]
หลังจากที่พวกแวมส์เอาชนะเผ่าพันธุ์ของมนุษย์จนไม่เหลือเศษซากเลยจัดพิธีงานเลี้ยงของเดสโมดอสเพื่อหวังว่าจะรวบรวมพวกแวมส์ทุกเผ่าพันธุ์ให้เป็นหนึ่งเพื่อต่อกรกับกับมนุษย์ที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวันงานเลี้ยงล้วนแล้วอาจจะมีความสุขแต่ไม่เลยทุกอย่างมีการแข่งขัน มีความอิจฉาและการดูถูกเหยียบยํ้าที่ใดมีความแตกต่างที่นั้นย่อมมีความขัดแย้ง แต่ความริษยาของใครจะมากล้นเท่าเบรฟหญิงสาวสวยพราวสเหน่ห์ที่ไม่สามารถเอาหัวใจของแกสตอนมาครอบครองได้ ความงามของเมอดิวเลี่ยนนั้นกลบความงามของเดสโมดอสไปจนหมดสิ้นทุกคนต่างจับจ้องในการแข่งขันจนลืมศัตรูคู่แค้นอย่างมนุษย์ไปจนทำให้กษัตรย์เดรโก้หาช่องโหว่มาตีวังของโคลัคคาสให้ย่อยยับเป็นการทวงคืนจนโคลัคคาสแทบไม่มีที่ยืน
["ความอิจฉาเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะกับคนที่รู้สึกต่อยต่ำและไร้ค่า"]
Vol.6 Passion of sloth [ความเกียจคร้าน]
เมลานี่ ดูราเมน หญิงสาวที่โดนปฎิเสธจากมนุษย์และเผ่าพันธุ์แวมส์เธอเร่ร่อนอยู่นานกับความหว่าเหว่อำนาจที่อยู่ในมือนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยนอกจากมิตรจากเหล่าสัตว์และผืนป่าที่คอยอยู่เคียงข้างกายเธอ เมลานี่ตัดสินใจไม่รับฟังความตายของใครใดๆ เมินเฉยต่อความตายและตั้งหลักอย่างสงบที่เกาะแห่งโคดหินในที่ที่แสนเงียบสงบแต่แล้วความฝันของเธอก็ต้องพังทลายเมื่อไซม่อนมาขอความช่วยเหลือจากพลังของเธอให้เข้าร่วมกับวาลิแคลนที่เคยปฎิเสธเธอมาตลอด
ส่วนโคลัคคาสก็ยังคงหวงความเป็นใหญ่ตามฆ่าความลับของเผ่าพันธุ์อีวาชานให้ไม่มีใครล่วงรู้ เผ่าพันธุ์ที่เป็นผู้สร้างและเจ้าของป่าผู้ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งใดๆ ในดินแดนลาบรินธ์
["การเป็นคนดีบางทีมันก็เหนื่อยการเป็นคนเลวก็เหนื่อยไม่ต่างกันสุดท้ายแล้วไม่ทำอะไรเลยดีที่สุด"]
Vol.7 Passion of greed [ความโลภ]

เมื่อพระราชาเดรโก้ได้ขึ้นเป็นใหญ่อีกครั้งเขาไม่ได้เสียใจในการตายของลูกของเขาแม้แต่น้อยเป้าหมายต่อไปของเขาคือเลือดของพวกแวมส์เขาไม่สนว่าใครเป็นลูกของเขาหรือใครเป็นใครสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือพลังและอำนาจให้อยู่เหนือทุกสิ่งทุกปวงเมื่อพลังและอำนาจมาอยู่ในมือคนโลภเมื่อนั้นโลกใบนี้ก็จะสูญสิ้นสงครามที่ยืดยาวนี้จะจบลงเช่นไรคงต้องมีใครสักคนหนึ่งต้องอยู่รอดต่อไป
["อำนาจมีประโยชน์เมื่อข้าเห็นค่าของมันแล้วพอข้าเห็นค่าของมันข้ากลับอยากได้มันโดยไม่มีที่สิ้นสุด"]
ติดตามนิยายได้ที่ Readawrite ธัญวลัย และ Fictionlog
[CR] รีวิวหนังสือ ดาร์คแฟนตาซี เรื่อง The Chamber of the Vamps (สุสานแวมไพร์)
เหตุผลที่เขียนเรื่องนี้เพราะความชื่นชอบและสนใจเรื่องของประวัติศาสตร์และสงครามมาตั้งแต่เด็กๆเพราะมันเป็นสิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์พึงกระทำต่อกันและมันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของความเศร้าโศกและความสิ้นหวังแม้แต่ศาสนาหรืออภินิหารก็ไม่สามารถมาหยุดยั้งความตายได้
ผู้อ่านจะได้ตระหนักรู้ถึง เหตุผลของความเกลียดชังที่นำไปสู่การเหยียดเชื้อชาติ การโฆษณาชวนเชื่อในสงคราม เหตุผลของบุคคลนั้นๆที่ทำให้กลายเป็นปีศาจร้าย ตัวละครที่มีความตื้นลึกหนาบางที่เขียนออกมาอย่างแยบยล และสัมผัสจินตนาการอันมืดมนของผู้แต่ง
นอกจากเรื่องนี้จะเกี่ยวกับสงครามนักเขียนยังมีความสงสัยในเรื่องของศาสนามาแต่ช้านานในเรื่องของบาปกรรมและกิเลสผู้แต่งเลยหยิบ บาปทั้งเจ็ดมาไตร่ตรองและเขียนออกมาในรูปแบบใหม่ให้คนเข้าใจว่ากิเลสที่กล่าวมานั้น ไม่ว่าจะเป็น ความทะนงตน ความหิวกระหาย ความโกรธแค้น ราคะ ความริษยา ความเกียจคร้านและความโลภ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพราะมันคือสันดานดิบที่ซ่อนอยู่ในมนุษย์ทุกๆคน
ท้ายที่สุดขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่สนใจและเข้ามาอ่านเรื่องนี้แน่นอนว่าการเขียนหนังสือหรือการทำงานทุกอย่างหวังสิ่งตอบแทนที่เหมือนกันคือชื่อเสียงหรือเงินทองแต่สิ่งที่ผู้แต่งต้องการมากกว่านั้นคือให้ผู้อ่านได้อะไรกลับไปจากการอ่านเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะรักนวนิยายเรื่องนี้เหมือนกับผู้แต่งนะคะ
การเดินทางของหญิงสาวที่เข้ามาอยู่ในวังวนที่เธอไม่รู้จักการพบเจอเผ่าพันธุ์หลายเผ่าที่แอบซ่อนและเกิดใหม่ความขัดแย้งในอดีตการณ์ที่เป็นฉนวนถึงปัจจุบันเธอจะใช้มันเพื่อทำสิ่งใดเมื่อหญิงสาวธรรมดาๆได้มีอำนาจเหลือล้นอย่างที่ไม่เคยฝาดฝันไว้
หลังจากการหลับใหลของแกสตอนล่วงเลยมานับทศวรรษเขาก็ได้ตื่นขึ้นจากความเคียดแค้นเต็มหัวใจ ความโลภ ความโหดร้าย ความเห็นแก่ตัวได้เข้ามากัดกินใจของเขาจนหมดสิ้น
ไม่เหลือจิตใจที่จะมอบให้ใครได้อีกกลายเป็นก้อนเนื้อที่ไร้ชีวิตเขาตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไรเขาจะทำสิ่งใดในโลกาใบนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่ตระหนักรู้
แล้วเมื่อเขากลับไปที่บัลลังก์ของเขามีเพียงความว่างเปล่าที่รอรับเขาอยู่มีแต่เพียงผู้ทรยศและหักหลังเขาจึงทำทุกอย่างเพื่อทวงบัลลังก์และอำนาจกลับคืนมาอย่างกระเหือดกระหาย
ไซม่อนชายผู้ถูกกระทำอย่างไม่ใช่มนุษย์ถูกจับมาเป็นทาสซํ้าแล้วซํ้าเล่ารวมถึงแกสตอน แชนเทล และคนอื่นๆ ที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์มาอยู่ใต้นํ้ามือของกษัตรย์เดรโก้และบางส่วนถูกขายประมูลเป็นแรงงานชั้นดีกับผู้มากดีมีเงินทองพวกเขาต่างกระจัดกระจายไปอย่างไร้อำนาจและศักด์สรีเมื่อความอดทนของไซม่อนมีจำกัดและเขายังมีโชคช่วยเหนือคนอื่นใดที่เขาพบเจอกับทาสติดอาวุธชาววูกันด้าที่มาช่วยปลดเอกเขาจากการเป็นทาสและได้เวลาที่เขาจะโต้กลับต่อชาวอารยาที่กระทำต่อชาววูกันด้าอย่างไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ความโกรธแค้นในจิตใจของเขาจะบุกทลายชาวอารยาให้สิ้นซาก
โลเวทต้าเป็นเพียงคนเดียวที่ยอมอยู่ในเมืองมนุษย์เพื่อบริการชายหนุ่มในทุกๆวันและเรียนวิถีการเอาตัวรอดจากนางโรมตาบอดสาวสนิทข้างกายในแบบฉบับของเดสโมดอสไฟราคะของเธอค่อยๆพรุ่งพร่านและนั้นต้องจบลงด้วยความตายของอีกฝ่ายทุกครั้งไป
แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเธอค้นพบความรักที่แท้จริงกับชายแปลกหน้าผู้อ่อนโยนที่ยอมมาเป็นวีรบุรุษเพื่อให้เธอออกจากวังวนแห่งนี้คือการเอาเขี้ยวในพุ่มไม้ออกไปจากชีวิตเธอแต่แล้วทุกอย่างก็ต้องจบลงด้วยความตายไม่ต่างจากเช่นทุกครั้งแล้วถึงเวลาที่พี่ชายอย่างลูคัสจะได้ออกโลงเพื่อช่วยเหลือน้องสาวของเขาออกจากเรื่องเลวร้ายแบบนี้เสียทีและเอาเมืองอนาโตเลียกลับมาจากมือโจนัสชายผู้ที่ทำให้อนาโตเลียเสื่อมโทรมและพรากสวรรค์บนดินที่เคยถูกขนานนามไว้
ส่วนโคลัคคาสก็ยังคงหวงความเป็นใหญ่ตามฆ่าความลับของเผ่าพันธุ์อีวาชานให้ไม่มีใครล่วงรู้ เผ่าพันธุ์ที่เป็นผู้สร้างและเจ้าของป่าผู้ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งใดๆ ในดินแดนลาบรินธ์
เมื่อพระราชาเดรโก้ได้ขึ้นเป็นใหญ่อีกครั้งเขาไม่ได้เสียใจในการตายของลูกของเขาแม้แต่น้อยเป้าหมายต่อไปของเขาคือเลือดของพวกแวมส์เขาไม่สนว่าใครเป็นลูกของเขาหรือใครเป็นใครสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือพลังและอำนาจให้อยู่เหนือทุกสิ่งทุกปวงเมื่อพลังและอำนาจมาอยู่ในมือคนโลภเมื่อนั้นโลกใบนี้ก็จะสูญสิ้นสงครามที่ยืดยาวนี้จะจบลงเช่นไรคงต้องมีใครสักคนหนึ่งต้องอยู่รอดต่อไป
ติดตามนิยายได้ที่ Readawrite ธัญวลัย และ Fictionlog
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม