ตามหลักการทำงานแล้วถึงเรื่องจะจริงไม่จริงค่ายต้องรีบออกมาแอคชั่นไม่งั้นคนจะยิ่งพูดถึงและข่าวจะถูกบิดจากสารจริงไกลออกไปเรื่อยๆ จะเป็นการปฏิเสธหรือยอมรับอันนั้นก็ต้องแล้วแต่ว่าสถานการณ์หน้างานจะเป็นยังไง ยิ่งออกมาเร็วเรื่องก็อาจจะเงียบลงได้ หรือถึงจะกระพือไกลขึ้นก็เป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเพราะค่ายออกมาให้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว ถือว่าได้ทำหน้าที่คอนโทรลสถานการณ์แล้ว จะฟ้องร้องหรืออะไรนอกจากนี้ถือว่าเป็นเรื่องเพิ่มเติมเข้ามา สิ่งพวกนี้ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการ damage control ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสินค้าของค่ายหรือก็คือศิลปิน

แต่เราแปลกใจมากว่าสิ่งพวกนี้กลับไม่เกิดขึ้นเลย แม้แต่จากค่ายที่ถือว่ามีกระบวนการ damage control ได้ดีก็ไม่มี หรือแม้แต่จากตัวศิลปินเองที่ดูจากการตอบโต้ข่าวลืออันเก่าก็สามารถทำได้อย่างอิสระก็ไม่มี พูดตามตรงเราแปลกใจมากๆ

ยิ่งประกอบกับท่าทีของ (น่าจะ) อดีตคนรักของหนึ่งในสองศิลปินกับคนในครอบครัวของเขา เรายิ่งมองว่าไม่ปกติ

เราคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้อาจจะ (1) ค่ายเองก็จนแต้มไม่รู้หาทางออกจากเรื่องนี้ยังไง เพราะบุคคลที่ 3 ของเรื่องนี้เองก็มีพื้นที่สื่ออยู่มาก สื่อพร้อมจะสนใจคำพูดเค้า ถ้าค่ายพูดอะไรออกมาที่ ‘ไม่ถูกใจหรือถูกต้อง’ บุคคลที่ 3 คนนี้คงไม่ยอมอยู่เฉยๆให้ค่ายได้พูดตามใจ กับ (2) กำลังรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้อง ชนิดรวบหัวรวบหางไม่มีทางหลุดมือไปได้กับคนที่ปล่อยข้อมูลเท็จแบบนี้ใส่ศิลปินที่เป็นที่นิยมสุดๆของค่ายให้เป็นเคสตัวอย่าง

เราเชียร์ให้เป็นอย่างที่ 2 นะ เพราะถ้าเป็นอย่างแรกเรามองไม่ออกเลยว่าเรื่องจะจบลงได้ดียังไงจริงๆ

ปล. ส่วนเรื่องเอาข่าวนี้มากลบข่าวอีกอันนึง เราว่าไม่มีนักธุรกิจคนไหนจะยอมแลกวงดังค้างฟ้าใต้ค่ายตัวเองมาเป็นกระสอบทรายแทนว่าที่พึ่งจะเริ่มตั้งไข่หรอกค่ะ แถมศิลปินที่เกี่ยวข้องยังไม่ใช่ศิลปินตัวเองทั้งหมดอีก เราว่าข้อนี้ตัดทิ้งไปได้เลย