เรื่องที่ 41 : ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน เดอะมูฟวี่ 25 เจ้าสาวฮาโลวีน ชิบุยะเกือบวอดวาย ด้วยไฟแห่งความตาย

หลังจากที่พิษของโควิดทำให้กำหนดการฉายจากเดิมต้องถูกเลื่อนตั้งแต่ภาค 24 ในที่สุดโคนัน เดอะมูฟวี่ภาคที่มาแรงในญี่ปุ่นในขณะนี้ก็เข้าฉายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการสักที กับภาพยนตร์ที่เป็นการนับห้าครั้งที่ 5 แล้ว แถมยังพ่วงมาด้วยตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นในสี่สัปดาห์แรกที่ฉาย และทำเงินไปกว่า 8 พันล้านเยน คราวนี้คอนเซปต์ของเรื่องจึงหยิบนำความตายและงานรื่นเริงอย่างฮาโลวีนมาเป็นตัวเชื่อมเรื่อง แต่มันจะดีอย่างที่คนว่าไว้มั้ยนะ แถมครั้งนี้ยังได้นักพากย์โคนันคนใหม่อย่าง นภัสวรรณ์ วัชรีวงศ์ ณ อยุธยา มาพากย์เสียงเป็นครั้งแรกด้วยในฐานะ โคนัน คนใหม่

เรื่องย่อ

โคนันและผองเพื่อนเดินทางไปที่งานแต่งงานของทาคางิและซาโต้ คู่รักประจำตำรวจนครบาลที่ในที่สุดก็ได้จูงมือเข้าประตูวิวาห์ แต่ในขณะนั้น ทาคางิก็ถูกทำร้ายจนทำให้ซาโต้นึกถึงอดีตเกี่ยวกับคนที่ตัวเองเคยชอบอย่าง ผู้หมวดมัสซึดะ ในขณะเดียวกันตำรวจสันติบาลก็เดินทางมาต้อนจับคนร้ายในคดีวางระเบิดเมื่อหลายวันก่อนที่แหกคุกออกมาได้อย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อทุกอย่างมารวมกัน งานฮาโลวีนอันแสนรื่นเริง กำลังจะกลายเป็นเทศกาลแห่งเปลวเพลิง ที่อาจทำให้ทั้งชิบุยะต้องมอดไหม้ไม่เหลือซาก เมื่อคนรอบตัวโคนันดันตกเป็นเป้าหมายของมือวางระเบิด "พลาเมีย" และความจริงที่ซ่อนไว้ในความทรงจำของสหายที่ตายไปของฟุรุยะ เรย์อาจเป็นกุญแจไขคดีทั้งหมด 

รีวิว

เดอะมูฟวี่ภาคนี้ทำหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติทั้งในด้านการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลกระชับฉับไวมาก ช่วงแรกที่ตัดสลับกับดนตรีงานแต่งงานที่บิ๊วอารมณ์ แอบทำจังหวะเสียเพราะรวบไปเนี่ยแหละ มันทำให้แอบรู้สึกว่าหนังรีบเฉลยปมไวไปนิด หลังจากนั้นหนังก็ประเคนคดีเข้าหาใส่โคนัน แต่ก็ไม่วายจะมอบพื้นที่ให้กับโฟกัสหลักของภาคอย่างทาคางิกับซาโต้ที่มีปมสำคัญที่แอบรู้สึกว่ามันเบาไปหน่อยกับคนดูทั่วไปที่ไม่เคยดูซีรีส์มาก่อน แถมเดิมพันก็ไม่ได้สูงพอกับการเป็นเมนหลักของเรื่องด้วย แต่เรื่องความสำคัญคือหวานจนน่าอิจฉาเลยล่ะ เช่นเดียวกับกลุ่มของตำรวจที่บทบาทสำคัญเฉลี่ยตามความเหมาะสม ตัวละครรับเชิญของภาคก็มีความสำคัญแตกต่าง แต่ก็อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก

ในขณะที่ตัวฟุรุยะไม่ได้เป็นบทเด่นหลักหรือขโมยซีนทั้งเรื่องอย่างที่คิด เขามีหน้าที่เชื่อมเรื่องความสัมพันธ์ของสี่พยัคฆ์นักเรียนตำรวจเสียมากกว่า ซึ่งช่วงนั้นมันเจ๋งประหนึ่งดูหนังแอ็คชั่นชั้นดีเลยด้วย จนยิ่งน่าสลดหดหู่กับชะตากรรมของสหายที่ล่วงลับไปของเขา ในขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นความร่วมมือของเขากับโคนันตลอดทั้งเรื่อง เมื่อเทียบกับภาค 22 ประหนึ่งหนังมิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ลเลย

พาร์ทของคดี ไม่ได้ซับซ้อน แต่ค่อนข้างจะมีชั้นเชิงน่าติดตามชวนลุ้นขึ้นมากว่าภาคที่แล้วโข แม้จะเดาคนร้ายได้ง่าย แต่ก็ไม่สามารถหามูลเหตุจูงใจที่สมเหตุสมผลได้จนโคนันต้องมาเฉลย และไม่ต้องคิดว่าภาพรวมคดีมันจะเข้าใจยากเหมือนภาคที่แล้ว คราวนี้มันย่อยง่ายกว่า และพาร์ทแอ็คชั่นก็ไม่ได้ใส่มาแบบพร่ำเพรื่อ แต่ใส่มาเพื่อเล่าเรื่องและโชว์ความสามารถของโคนันแบบไม่เฝือมากนัก เมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ เพราะรอบนี้หนังให้ความสำคัญกับ "ความร่วมมือ" เป็นพิเศษ

ประเด็นของเรื่อง ภาคก่อน ๆ หนังแตะประเด็นทางสังคมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นภาค 23 กับ 24 ที่พูดถึงทุนนิยม ภาคนี้ก็จะมาพูดเรื่องวินาศกรรม การก่อการร้าย ความดีและความชั่วที่ส่งต่อผ่านกาลเวลา หยิบนำเอาตัวละครจากประเทศรัสเซียมาเป็นกลไกสำคัญในการเล่าเรื่อง ทำให้นึกถึงกลิ่นอายของเดอะมูฟวี่ 3 ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษที่โครงสร้างมันคล้าย ๆ กัน แต่เปลี่ยนจากฆาตกรรมเป็นวางระเบิดแทน และสกิลใหม่ที่พ่อสอนให้ในฮาวายของโคนันก็ได้ใช้ด้วย

หนังยืนยันจุดยืนของโคนันที่หลังจากเห็นชัดในตอนท้ายภาค 24 ภาคนี้ผลักตัวละครโคนันให้มีความเห็นอกเห็นใจ และไม่ได้ต้องการจะฆ่าใครเพื่อแก้แค้นทั้งนั้น ในขณะที่คนร้ายคือไม่ได้จำเป็นต้องมีปมน่าสลดหดหู่อะไร แค่เสียหน้าไม่ได้แค่นั้น ซึ่งคนร้ายภาคนี้โหดมากจริง ๆ ความสามารถทั้งหลากหลาย และทำเอาโคนันกับฟุรุยะไขว้เขวไปเลย แต่ชอบความยัดดีเทลในอดีตให้เชื่อมระหว่างโคนันกับห้าพยัคฆ์นักเรียนตำรวจมาก ๆ มันทำให้เจ้าสาวฮาโลวีนไม่สำคัญเท่ามิตรภาพของฟุรุยะกับโคนันเลย

เสียงพากย์ ยอดเยี่ยมมาก พี่หยกสามารถทำข้อสอบผ่าน ทำให้โคนันคนใหม่ในฉบับภาพยนตร์กลมกลืนและเข้าหูได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยอมรับเลยว่าพี่เขาปรับปรุงมาหมดทุกจุด ทั้งตรงที่เสียงแอบโดด ๆ ในโคนันเดอะซีรีส์ คราวนี้เขาสามารถคุมเสียงไล่สูงต่ำได้อย่างแนบเนียน และเชื่อว่าเราจะชินหูได้อีกไม่นาน กลับกัน ลุง ๆ ป้า ๆ ที่พากย์ไทยปกติ ก็มีบ้างที่จะเนือย ๆ ก็พากย์มา 25 ปีตั้งแต่สมัย VDO ก่อนไทก้าอีกนะ เอาจริง ๆ

และสิ่งที่ไม่พูดไม่ได้ เสียงพากย์ไทยรับเชิญ เซอร์ไพรส์มาก นี่น่าจะเป็นบาร์ใหม่ของนักพากย์รับเชิญของโคนันเดอะมูฟวี่จริง ๆ

พากย์ดีทั้งสองตัวละครเลย

หลายบาท Vtuber จากช่องหลายบาทหลายสตางค์ ให้เสียงพากย์เป็น คริสทีน ตัวละครรับเชิญในเรื่องคือดีมาก

ช่วงแรกยังเกร็ง ๆ เพราะเหมือนต้องโฟกัสกับบท ช่วงหลังเนียนไปกับตัวละครจนไม่น่าเชื่อ 

มายดารินก็คืออารมณ์นักพากย์มาสุดมาก เสียงหวานแต่พากย์ตัวละครถึงใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง

ภาคหน้าขอนักพากย์รับเชิญที่ตั้งใจและตรงกับบทแบบนี้แหละ

และอีกคนที่พูดไม่ได้คือ พงษ์เทพ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (เจ้าของเสียงพากย์มิซึฮิโกะและชิราโทริในตำนานไทก้า) ที่มารับเชิญให้เราหวนคิดถึงอดีต

โปรดักชั่น ตูมตามสะใจมาก สเกลไม่ได้เล่นใหญ่ แต่ก็ชวนลุ้น มีการใช้กราฟิก 3D ประกอบการเล่าเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในโคนัน

ดนตรีประกอบ มันมีความนุ่ม ละมุน ไม่โฉ่งฉ่างหรือเร้าอารมณ์แต่ค่อย ๆ มาไปสำรวจตัวละครและเป็นสไตล์ใหม่ที่โคนันไม่เคยทำมาก่อน มันเลยค่อนข้างเจ๋ง เพราะมันส่งให้บาร์โคนันเดอะมูฟวี่สูงขึ้นมาก ๆ ประหนึ่งพวกหนังฟอร์มยักษ์ฮอลลีวู้ดเลย ดนตรีมันช่วยเร้าอารมณ์ตัวละครในจังหวะที่เหมาะสมและให้กลิ่นอายความเป็นเทศกาลฮาโลวีนของญี่ปุ่นที่เป็นจุดเด่นจุดขายในภาพยนตร์โคนัน

บทรันกับไฮบาระไม่ใช่โฟกัส เลยมาเหมือนเป็นตัวพลิกเกมมากกว่า ซึ่งก็ดีแหละ 

แต่ก็แอบเสียดายที่ภาคนี้ไม่มีพื้นที่หรือความเหมาะสมพอสำหรับทั้งสองคน

ทำไมไม่แปลเพลงซับไทย เพลง bump of chicken - chronostasis เนื้อหามันเกี่ยวกับตัวละครในเรื่องด้วย เซ็งมาก

โดยรวมแล้วถือเป็นเดอะมูฟวี่ที่ดีที่สุดในช่วงหลัง ๆ ตั้งแต่ภาค 20 เป็นต้นมา หยิบเรื่องระเบิดมาเล่าแบบมีชั้นเชิงกว่าภาคก่อน ๆ แล้วเขย่ามันด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวทั้งตัวบท ตัวละคร และโปรดักชั่นที่จัดเต็ม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงทำเงินติด TOP 3 ของโคนันทุกภาคไปแล้ว

แฟนโคนันจึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ

8.5/10

หักช่วงต้นที่รวบรัดและบทตัวละครบางตัวที่น้อยมากอย่างลุงโมริ รันและไฮบาระ

ปล. เดอะมูฟวี่ 26 ภาคหน้าที่ฉายทีเซอร์ท้ายเรื่อง ถ้ายังแบ่งบทให้รันกับไฮบาระแบบนี้อีกก็น่าผิดหวังนะ

ปีหน้า พบกับ องค์กรชายชุดดำ

เสียงยินพูดขึ้นในใต้ทะเลลึก "อยากเจอเธอมานานแล้ว เชอร์รี่" เวทีต่อไปคือ เรือดำน้ำเหรอ หรือ มหาสมุทร เรือยอร์ช?

ไม่มีเซ็ตป๊อบคอร์นเดอะมูฟวี่ขาย ซึ่งทุกภาคที่ฉายไทยมีหมด น่าผิดหวังสุด ๆ ไม่คิดว่าระดับเด็กซ์จะไม่สามารถเอาเซ็ตมาขายได้

ขอแท็ก Detective Conan: The Bride of Halloween ด้วยจ้า