บรรทัดฐาน และมาตรฐานของการตัดสินตรวจสอบของสำนักพุทธฯ และมหาเถรสมาคมคืออะไร?

จากกรณีต่างๆ ที่พระสงฆ์ถูกกล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นการฉันหมูกระทะ เสพเมถุน หรืออย่างกรณีพระที่เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองก็ตาม 
ทางมหาเถรสมาคมและสำนักพุทธมีรูปแบบการไต่สวนอย่างไรบ้าง
ลักษณะการทำงานของมหาเถรสมาคมไม่มีกระบวนการไต่สวนตามพระไตรปิฎก เช่น การไต่สวนตามอธิกรณ์ 7 หรือกระบวนการสัมมุขาวินัย 
ที่คล้ายกับกระบวนการของศาลที่ต้องรวบรวมหลักฐานพยาน และแต่งตั้งพระจำนวน 5 รูป ในการตัดสินอธิกรณ์ว่าผิดข้อไหนตามบัญญัติของพระพุทธเจ้าบ้าง อันที่จริง การฉันหมูกระทะหรือฉันเย็นนั้น ผิดศีลในวิกาลโภชนาหลังเที่ยงหลังบ่าย หรือการดื่มเหล้าก็เป็นเพียง ‘สุราเมระยะ มัชชะ ปะมาทัฏฐานา’ 

แต่เมื่อไม่มีกระบวนการนี้ เราจะไม่รู้เลยว่าพระที่ฉันเหล้าได้ไปทำร้ายคนอื่นไหม กินแล้วมึนเมาขับรถชนใครเสียชีวิตหรือเปล่า อย่างในพระไตรปิฎกก็ระบุว่า ดื่มได้ 1 องคุลี สามารถดื่มได้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกินเป็นนิจ อย่างกรณีของ ‘หมอปลา’ ที่เข้าไปตรวจสอบและกดดันพระที่ฉันหมูกระทะ 
และดื่มเหล้าทำนองให้สึกออกมา ในแง่หนึ่งหมอปลาทำถูกในการตรวจสอบ แต่อีกแง่หนึ่งก็ทำไม่ถูกในกระบวนการพระธรรมวินัย รวมถึงสำนักพุทธฯ 
ที่หมอปลาเชิญเข้าไปตรวจสอบร่วมด้วย

นี่คือปัญหาของคนที่ทำงานในสำนักงานพระพุทธศาสนาหรือพระที่อยู่ในมหาเถรสมาคม คุณไม่เคยใช้กระบวนการไต่สวนที่พระพุทธเจ้าบัญญัติมากว่า 2,500 ปี แต่คุณเป็นใครไม่รู้ เปรียบตัวเองประหนึ่งพระพุทธเจ้าในการชี้ถูกชี้ผิดว่าใครสมควรที่จะสึก มันไม่ได้ อย่างเช่นกรณีของผม 
ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ตาม ผมถามหน่อยว่ามันมีบทบัญญัติข้อไหนที่ห้ามไม่ให้พระ หรือสามเณรแสดงความเห็นทางการเมือง 
ที่ทำไปไม่ได้ทำร้ายใคร 

ผมเรียกร้องให้เกิดความรุนแรงหรือเปล่าก็ไม่ สิ่งที่ผมกระทำ ไม่ได้ผิดกฎปาราชิก แต่คุณกลับตั้งสำนักงานพุทธฯ ประสานกำลังกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ใครเห็นผมอยู่วัดไหนให้แจ้งสำนักงานพุทธฯ เพื่อที่เขาจะมาจับผม และกล่าวว่าผมดูหมิ่นสมเด็จพระสังฆราชฯ 
ซึ่งในพระไตรปิฎกมันไม่มีข้อไหนเลยที่ผิด ที่ห้ามดูหมิ่นสมเด็จพระสังฆราชฯ

โฟล์ค’ - สหรัฐ สุขคำหล้า

https://www.facebook.com/themomentumco/photos/a.1636533129971718/2972849496340068/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่