ประมาณกลางเดือน 9 ถึงต้นเดือน 10

เป็นช่วงเวลาที่ดี ในการสร้างข่าวดีทั่วโลก

จีน ปราบโควิดอยู่หมัดกลับมาเปิดประเทศ
เศรษฐกิจเดินหน้า เร่งเคลียร์หนี้ประชาชน

ญี่ปุ่นเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว
ถึงผมจะอยากไปหน้าร้อนมากกว่าก็เถอะ

ไต้หวัน เกาหลี ก็เร่งออกชิพได้
เพราะซัพพลายเริ่มกลับมา

ออสเตรเลีย อินเดียไม่ค่อยได้ตามข่าว
แต่คิดว่าน่าจะโดนปัญหาเงินเฟ้ออยู่บ้าง

ตะวันออกกลาง กาตาร์ปลายปีมีบอลโลก
คาดว่าเงินสะพัด ไม่ค่อยน่าห่วง

รัสเซีย-ยูเครน เจรจากันได้ เริ่มฟื้นฟู
อียูแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้ กลับไปซื้อก๊าซรัสเซียได้

สหรัฐแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้ และราคาหุ้นควรทำ
All Time New High อีกครั้ง เนื่องจากเลือกตั้ง

อ่าวแล้วหนี้สินโลกล่ะทำไง
ผมเคยบอกว่าดูดออกหมดไม่ไหวหรอก
เพราะสภาพคล่องจะหายหมด ต้องให้รัฐใช้ภาษี
มาดูดเอาเงินเฟ้อไปสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
ให้รองรับประชากร ให้จำนวนขยายตัว

เป้าหมายผมคือ ให้มูลค่าเศรษฐกิจมันเพิ่ม
ขึ้นมาเทียบกับหนี้ พร้อมๆกับให้หนี้ลด
คล้ายๆ แปลง "หนี้เป็นทุน" นั่นล่ะ
(Liabilities to Equities)

ส่วนใครที่ไหนถ้าสร้างมากเกินไป จนมันล้น
ก็เร่งอุปสงค์มาชดเชย เพราะมันมีแค่นั้น
แต่การสร้างอุปสงค์หลักๆ หมายถึงเพิ่มคน
คุณก็ต้องไปคิดเรื่องปัจจัยการดำเนินชีวิตด้วย

ทีนี้ถ้าจำนวนประชากรล้น ก็ต้องเตรียมผ่องถ่าย
ถ้าขยายไปนอกโลกได้ = ขอบข่ายเศรษฐกิจจะกว้างขี้น
ก็เกิดช่องให้เงินหมุนเข้าไปได้

ใช่แล้ว ที่ผมหมายมั่นไว้คือหลังจากปีนี้ไป
ประเทศมหาอำนาจทั่วโลก ต้องทุ่มกำลัง
เพื่อผลักดันให้เข้าเศรษฐกิจระดับอวกาศ

นอกจากเป็นการขยายขนาดเศรษฐกิจแล้ว
ยังผลักหนี้ก้อนยักษ์ เข้าสู่เศรษฐกิจอวกาศ
เป็นการโยกหนี้ไป ไว้ในอุตสาหกรรมที่ใหญ่
มูลค่าสูงกว่า ถ้าจัดการได้ดี
ก็สามารถแปลงหนี้ไปเป็นทุนได้เอง

และการจะให้เศรษฐกิจที่อื่นหมุนเวียน
ต้องมีผู้ที่ทำให้หมุน จะเอาจากไหน
ประชากรโลกที่ให้สร้างขึ้นมาเพื่อการนี้ไง

แต่การทำแบบนี้อันตราย เพราะประชากร
เพิ่มแบบ Exponential ถ้าใช้วิธีนี้ต่อไปเรื่อยๆ
มันจะทำให้ล้นอวกาศสักวัน ก็คงอีกหลายแสนปี