เราอยากแชร์ประสบการณ์ ก่อนหน้านี้เคยตั้งกระทู้หาโรงแรมสำหรับกินบุฟเฟ่ต์ มีหลายคนมาแนะนำ และในที่สุดเราก็เลือกไปที่ โรงแรมแมริออท สุรวงศ์ (บอกได้เนอะ เพราะไม่ได้จะโจมตีเขา) โดยเราเลือกเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า
สาเหตุที่เลือกไปโรงแรมนี้ เพราะดูรีวิวมาเยอะ เห็นอาหารดูน่ากิน โดยเฉพาะพวกเบเกอรี่ เห็นแล้วอยากกิน เราชอบกินขนม เบเกอรี่ อยากกินพวกขนมปังต่างๆ คนที่เคยไปก็บอกว่าอร่อย แถมราคาก็ไม่แพงมาก บวกกับค่าเดินทางแล้วด้วย
เมื่อเราไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง (ไปคนเดียว มีคนไปคนเดียวเยอะแยะ) เราก็ได้รู้ว่าบุฟเฟ่ต์ไม่ค่อยเหมาะกับคนอย่างเรา อาหารของที่นี่ใช้ได้เลย มีขนมอย่างที่เราชอบกิน แถมแอร์ในห้องก็เย็นพอดี ไม่หนาว แต่เป็นเราเองที่กินได้ไม่คุ้ม เพราะ
1. เรากินน้ำเยอะ กินน้ำไป 2 แก้ว แถมน้ำมะพร้าวอีกลูกนึง (เยอะไหม) ก็เลยอิ่มเร็ว แต่ไม่กินน้ำก็ไม่ได้ มันเป็นนิสัยไปแล้ว กินข้าวคำน้ำคำ ในใจคิดอยากกินน้ำเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะมีเครื่องดื่มหลายอย่าง
2. แป้งทำให้อิ่มเร็ว เราชอบพวกขนมปัง/เค้กไง แต่พอกินจริงๆ ก็กินได้ไม่เยอะอย่างที่ใจอยาก เพราะอิ่ม แถมเลี่ยนด้วยเมื่อกินไปสักพัก มีตั้งหลายอย่างที่ยังไม่ได้กิน เพราะอิ่มซะก่อน
3. อาหารอื่นๆ เราไม่ค่อยได้กิน เพราะอาหารอะไรที่เราไม่เคยกิน เราก็ไม่คิดจะลอง บางอย่างเราไม่รู้วิธีกิน เราก็ไม่ตัก ก็จะกินแค่โจ๊ก อุด้ง ขนมจีบ อย่างละนิดหน่อย (มีก๋วยเตี๋ยว สลัด พวกกับข้าว อาหารอินเดีย ซีเรียล ไอศกรีม แต่เราไม่ได้กิน) เมนูไข่ดูน่ากิน เราได้ลองไข่เบเนดิกส์ แต่ไม่ถูกปาก (หรือเรากินไม่เป็นก็ไม่รู้) ยังไม่ได้ลองออมเล็ต เพราะเลี่ยนกับไข่เบเนดิกส์ ไม่มีซีฟู้ดเพราะเป็นมื้อเช้า (มั้ง)
4. เราเป็นคนกินช้า แต่นั่นไม่สำคัญหรอก เขากำหนดเวลากิน 2 ชม. เรากินอิ่มตั้งแต่ ชม. แรก แต่ก็นั่งกินต่อไปเรื่อยๆจนใกล้ครบ 2 ชม. (พอใกล้หมดเวลา 15 นาทีจะมีพนักงานมาแจ้ง) สภาพเราก่อนออกจากห้องอาหารคือนั่งตัวงอ พยายามยัดขนมปังให้หมดจาน และน้ำมะพร้าวอีกลูก
พอกินเสร็จ เราก็มาคิดคำนวณราคาของแต่ละอย่างที่เรากินไป คำนวณคร่าวๆ แล้วปรากฎว่าเกือบคุ้มกับราคาที่จ่ายไป แปลว่ายังไม่คุ้ม หลังจากนี้เราคงไม่ไปกินบุฟเฟ่ต์อีกนาน จนกว่าจะหายรู้สึกเลี่ยน แต่เราชอบบรรยาศห้องอาหารในโรงแรม ถ้าจะไปกินอีกคงต้องฝึกวิทยายุทธ์ในการกินให้มากกว่านี้
ประสบการณ์กินบุฟเฟ่ต์ ที่ทำให้ได้รู้ว่าไม่เหมาะกับตัวเอง
สาเหตุที่เลือกไปโรงแรมนี้ เพราะดูรีวิวมาเยอะ เห็นอาหารดูน่ากิน โดยเฉพาะพวกเบเกอรี่ เห็นแล้วอยากกิน เราชอบกินขนม เบเกอรี่ อยากกินพวกขนมปังต่างๆ คนที่เคยไปก็บอกว่าอร่อย แถมราคาก็ไม่แพงมาก บวกกับค่าเดินทางแล้วด้วย
เมื่อเราไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง (ไปคนเดียว มีคนไปคนเดียวเยอะแยะ) เราก็ได้รู้ว่าบุฟเฟ่ต์ไม่ค่อยเหมาะกับคนอย่างเรา อาหารของที่นี่ใช้ได้เลย มีขนมอย่างที่เราชอบกิน แถมแอร์ในห้องก็เย็นพอดี ไม่หนาว แต่เป็นเราเองที่กินได้ไม่คุ้ม เพราะ
1. เรากินน้ำเยอะ กินน้ำไป 2 แก้ว แถมน้ำมะพร้าวอีกลูกนึง (เยอะไหม) ก็เลยอิ่มเร็ว แต่ไม่กินน้ำก็ไม่ได้ มันเป็นนิสัยไปแล้ว กินข้าวคำน้ำคำ ในใจคิดอยากกินน้ำเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะมีเครื่องดื่มหลายอย่าง
2. แป้งทำให้อิ่มเร็ว เราชอบพวกขนมปัง/เค้กไง แต่พอกินจริงๆ ก็กินได้ไม่เยอะอย่างที่ใจอยาก เพราะอิ่ม แถมเลี่ยนด้วยเมื่อกินไปสักพัก มีตั้งหลายอย่างที่ยังไม่ได้กิน เพราะอิ่มซะก่อน
3. อาหารอื่นๆ เราไม่ค่อยได้กิน เพราะอาหารอะไรที่เราไม่เคยกิน เราก็ไม่คิดจะลอง บางอย่างเราไม่รู้วิธีกิน เราก็ไม่ตัก ก็จะกินแค่โจ๊ก อุด้ง ขนมจีบ อย่างละนิดหน่อย (มีก๋วยเตี๋ยว สลัด พวกกับข้าว อาหารอินเดีย ซีเรียล ไอศกรีม แต่เราไม่ได้กิน) เมนูไข่ดูน่ากิน เราได้ลองไข่เบเนดิกส์ แต่ไม่ถูกปาก (หรือเรากินไม่เป็นก็ไม่รู้) ยังไม่ได้ลองออมเล็ต เพราะเลี่ยนกับไข่เบเนดิกส์ ไม่มีซีฟู้ดเพราะเป็นมื้อเช้า (มั้ง)
4. เราเป็นคนกินช้า แต่นั่นไม่สำคัญหรอก เขากำหนดเวลากิน 2 ชม. เรากินอิ่มตั้งแต่ ชม. แรก แต่ก็นั่งกินต่อไปเรื่อยๆจนใกล้ครบ 2 ชม. (พอใกล้หมดเวลา 15 นาทีจะมีพนักงานมาแจ้ง) สภาพเราก่อนออกจากห้องอาหารคือนั่งตัวงอ พยายามยัดขนมปังให้หมดจาน และน้ำมะพร้าวอีกลูก
พอกินเสร็จ เราก็มาคิดคำนวณราคาของแต่ละอย่างที่เรากินไป คำนวณคร่าวๆ แล้วปรากฎว่าเกือบคุ้มกับราคาที่จ่ายไป แปลว่ายังไม่คุ้ม หลังจากนี้เราคงไม่ไปกินบุฟเฟ่ต์อีกนาน จนกว่าจะหายรู้สึกเลี่ยน แต่เราชอบบรรยาศห้องอาหารในโรงแรม ถ้าจะไปกินอีกคงต้องฝึกวิทยายุทธ์ในการกินให้มากกว่านี้