มีเธอแล้วเมื่อไหร่จะมีหูฟัง…ไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่ ฮ่า แต่อยากเปิดกระทู้ด้วยมุกแอร๊ย ๆ ให้น่ารักกรุบกริบแบบว่าจะได้เข้ากับไอเทมที่กำลังจะรีวิว แต่ก่อนจะเริ่มทำพิธีป้ายยา แอดก็สปอยล์ก่อนเลยว่า I love you in Every Universe อ้าว ไม่ใช่! สปอยล์ว่า ใครที่กำลังตามหาหูฟัง TWS น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เชื่อมต่อไว ที่สำคัญจ่ายแบงค์พันสองใบแล้วยังมีเงินทอน (ทอนเยอะเสียด้วย แนะนำให้ดูช่วงเวลาโปรโมชันดี ๆ กันนะ) ห้ามพลาด! ไม่ใช่แค่ราคาที่ว้าว แต่หน้าตาน้องนั้นก็ดีมากด้วย ชนิดว่าซื้อใช้เองก็อยากอวด ซื้อเป็นของขวัญก็อยาก (รีบ) ให้ พกน้องเป็นคู่หูระหว่างไปเที่ยวก็สบาย จะโดนใจแค่ไหน จะคุ้มเงินที่จะซื้อหรือเปล่า อยากรู้ต้องตามมา

ปู๊น ๆ ไม่ใช่เสียงรถไฟ แต่เป็นเสียงขอหลีกทางให้ HUAWEI FreeBuds SE ตัวเป็น ๆ เดินหน่อย ฟังจากชื่อ หลายคนก็น่าจะพอเดาได้ ว่า HUAWEI FreeBuds SE เกิดมาเพื่อเป็นหูฟัง TWS ระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟัง TWS มาใช้งานเป็นตัวแรก เปลี่ยนจากแบบมีสายมาลองแบบไร้สายอะไรประมาณนี้ โดยเฉพาะกับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือคนวัยเริ่มทำงาน ที่ไม่ได้เน้นหรือต้องการมิติเสียงที่จัดจ้านเทียบเท่าหูฟังรุ่นไฮเอนด์ เน้นใช้งานทั่วไป ฟังเพลงได้ ใช้รับสาย/โทรออกดี
สำหรับ HUAWEI FreeBuds SE มีวางขายด้วยกันสองสี คือ สี Blue และ White น้อยแต่น่ารักมาก ถ้าชอบความเรียบ ๆ เข้ากันได้กับทุกสถานการณ์จัดสีขาว แต่ถ้าชอบความมุ้งมิ้ง แบบหยิบมาใช้แล้วเพื่อนทัก จัดสีฟ้าไปเลย แต่เอาจริง แอดฯ ว่าเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสี mint คิดว่าน่าจะตรงกว่านะ เป็นฟ้า-เขียวโทนพาสเทล แต่ใด ๆ คือดีทั้งสองสี
อุปกรณ์ที่ให้มา Unbox ออกมาก็จะมี หูฟัง/เคส/สาย USB แต่ที่ว้าว คือถึงจะมาแบบราคาประหยัด แต่มีจุกหูฟังซิลิโคนแถมมาให้ 3 ขนาดด้วยนะ S M (จะอยู่ที่ตัวหูฟัง) และ L ทำให้ไม่ว่าสรีระช่องหูแบบไหนก็ใช้ได้ เปลี่ยนเองก็ง่าย สำหรับเท็กซ์เจอร์ซิลิโคนหูฟัง เนื้อจะนิ่ม บาง ไม่ทำให้เจ็บหู
ตัวเคสชาร์จดีไซน์มาเป็นรูปทรงวงรี เปิดปิดง่าย ขนาดกว้าง 3.5 ซม. ยาว 7 ซม. สูง 27.5 ซม. กะคร่าว ๆ ขนาดอยู่ที่ประมาณครึ่งฝ่ามือเท่านั้น เหมาะสำหรับการพกพา ถือง่ายไม่ลื่น ตัวก้านหูฟังยาวประมาณ 3.5 ซม. กำลังเหมาะเจาะสำหรับการแตะสั่งงาน น้ำหนักหูฟังและเคสชาร์จรวมแล้วไม่ถึง 50 กรัม พกใส่กระเป๋าของกระโปรงพริ้ว ๆ หรือกางเกงขาสั้นนี่สบาย
ตัวหูฟัง เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ HUAWEI FreeBuds SE เลยก็ว่าได้ ถูกออกแบบมาเป็นดีไซน์แบบกึ่ง In-ear ไม่ถึงกับอัดแน่นเข้าไปในหูแบบอินเอียร์ แต่ก็ยังได้ความแน่นกระชับไม่ต้องกลัวว่าหลุดหรือหล่นมากกว่าหูฟังทั่วไป และอีกข้อดีของดีไซน์แบบนี้ทำให้ระบายอากาศได้ดี ถ้าจะใช้งานติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ไม่รู้สึกอึดอัด
ในส่วนของสเปก ถึงจะเป็นรุ่นประหยัด แต่ไม่ได้มาเล่น ๆ นะจ๊ะ จัดได้ว่ามาเต็มเหมือนกัน มาพร้อมไดร์เวอร์ไดนามิก 10 มม. กรอบเสียงแบบ 3 แชนเนล ไมโครโฟนสองตัวพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงการโทร Call Noise Cancellation มีมาให้ด้วย ทำให้เวลาใช้งานโทรศัพท์ชัดเจนขึ้น และรองรับ IPX4
[BR] อยากได้! HUAWEI FreeBuds SE หูฟัง TWS ที่สีและราคาน่ารักสุดในสามโลก
ปู๊น ๆ ไม่ใช่เสียงรถไฟ แต่เป็นเสียงขอหลีกทางให้ HUAWEI FreeBuds SE ตัวเป็น ๆ เดินหน่อย ฟังจากชื่อ หลายคนก็น่าจะพอเดาได้ ว่า HUAWEI FreeBuds SE เกิดมาเพื่อเป็นหูฟัง TWS ระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟัง TWS มาใช้งานเป็นตัวแรก เปลี่ยนจากแบบมีสายมาลองแบบไร้สายอะไรประมาณนี้ โดยเฉพาะกับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือคนวัยเริ่มทำงาน ที่ไม่ได้เน้นหรือต้องการมิติเสียงที่จัดจ้านเทียบเท่าหูฟังรุ่นไฮเอนด์ เน้นใช้งานทั่วไป ฟังเพลงได้ ใช้รับสาย/โทรออกดี
สำหรับ HUAWEI FreeBuds SE มีวางขายด้วยกันสองสี คือ สี Blue และ White น้อยแต่น่ารักมาก ถ้าชอบความเรียบ ๆ เข้ากันได้กับทุกสถานการณ์จัดสีขาว แต่ถ้าชอบความมุ้งมิ้ง แบบหยิบมาใช้แล้วเพื่อนทัก จัดสีฟ้าไปเลย แต่เอาจริง แอดฯ ว่าเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสี mint คิดว่าน่าจะตรงกว่านะ เป็นฟ้า-เขียวโทนพาสเทล แต่ใด ๆ คือดีทั้งสองสี
อุปกรณ์ที่ให้มา Unbox ออกมาก็จะมี หูฟัง/เคส/สาย USB แต่ที่ว้าว คือถึงจะมาแบบราคาประหยัด แต่มีจุกหูฟังซิลิโคนแถมมาให้ 3 ขนาดด้วยนะ S M (จะอยู่ที่ตัวหูฟัง) และ L ทำให้ไม่ว่าสรีระช่องหูแบบไหนก็ใช้ได้ เปลี่ยนเองก็ง่าย สำหรับเท็กซ์เจอร์ซิลิโคนหูฟัง เนื้อจะนิ่ม บาง ไม่ทำให้เจ็บหู
ตัวเคสชาร์จดีไซน์มาเป็นรูปทรงวงรี เปิดปิดง่าย ขนาดกว้าง 3.5 ซม. ยาว 7 ซม. สูง 27.5 ซม. กะคร่าว ๆ ขนาดอยู่ที่ประมาณครึ่งฝ่ามือเท่านั้น เหมาะสำหรับการพกพา ถือง่ายไม่ลื่น ตัวก้านหูฟังยาวประมาณ 3.5 ซม. กำลังเหมาะเจาะสำหรับการแตะสั่งงาน น้ำหนักหูฟังและเคสชาร์จรวมแล้วไม่ถึง 50 กรัม พกใส่กระเป๋าของกระโปรงพริ้ว ๆ หรือกางเกงขาสั้นนี่สบาย
ตัวหูฟัง เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ HUAWEI FreeBuds SE เลยก็ว่าได้ ถูกออกแบบมาเป็นดีไซน์แบบกึ่ง In-ear ไม่ถึงกับอัดแน่นเข้าไปในหูแบบอินเอียร์ แต่ก็ยังได้ความแน่นกระชับไม่ต้องกลัวว่าหลุดหรือหล่นมากกว่าหูฟังทั่วไป และอีกข้อดีของดีไซน์แบบนี้ทำให้ระบายอากาศได้ดี ถ้าจะใช้งานติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ไม่รู้สึกอึดอัด
ในส่วนของสเปก ถึงจะเป็นรุ่นประหยัด แต่ไม่ได้มาเล่น ๆ นะจ๊ะ จัดได้ว่ามาเต็มเหมือนกัน มาพร้อมไดร์เวอร์ไดนามิก 10 มม. กรอบเสียงแบบ 3 แชนเนล ไมโครโฟนสองตัวพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงการโทร Call Noise Cancellation มีมาให้ด้วย ทำให้เวลาใช้งานโทรศัพท์ชัดเจนขึ้น และรองรับ IPX4
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน