สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องระบายนิดนึงคือเราอยากไปเรียนต่อต่างประเทศมากๆมันเป็นความฝันของเราเลย เข้าเรื่องกันดีกว่านะคะ ตอนเราอายุ
11 ปี พ่อบอกกับเราว่า ให้เราเรียนหนังสือเก่งๆเขาจะส่งไปเรียนเมืองนอก แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรนะคะ ไม่ได้คิดจะไปด้วยเพราะกลัว อะไรหลายๆอย่าง จนเราอยู่ ป.6 เทอม 2 เราชอบฝรั่งมากตอนนั้น เลยหันมาฝึกภาษาอังกฤษบอกก่อนนะคะว่า ภาษาอังกฤษเราแย่มากๆ พอเราฝึกภาษา+ กับเราอยากไปเรียนที่อเมริกาด้วยค่ะ ก็เลยบอกพ่อว่า อยากไปเรียนอเมริกา เขาก็แค่บอกกลับเรามาว่า สอบเข้าให้ได้ ถ้าได้ก็ไปได้ไปหมดแหละ เราก็เลยตั้งใจฝึกภาษา หาข้อมูลเรียนต่ออเมริกา แต่เราคิดว่าค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างจะแพงอยู่ เลยคิดจะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอเมริกา เราก็ศึกษาข้อมูลมานานจนเรา ขึ้นม.1 เราก็หยุดพักไปแต่ก็หาอยู่นะคะแต่ไม่ได้จริงจังเหมือนตอนแรกๆ แต่พอเราจบม.1 เราก็กลับมาจริงจังใหม่ + ฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน ทุกเวลา วางแพลน ศึกษาวีซ่า ค่าใช้จ่ายต่างๆจนมานานนถึงเกือบปีเลยค่ะ จนปี2022 นี่ เราจริงจังมากๆ ปรึกษาเอเจ้น ปรึกษาคนรับทำวีซ่า ปรึกษาทั้งคนที่อยู่อเมริกา ศึกษาเรื่องที่อยู่ว่าเราต้องออยู่ยังไงเมื่อเรายังอายุไม่ถึง 18 ทำงานได้มั้ย
โรงเรียนเป็นยังไง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เยอะมากเลยค่ะแต่บทสรุปก็คือล้มเหลว เพราะเราท้อกับเรื่องวีซ่า+ เราไปแบบไม่มีผู้ปกครอง ค่าใช้จ่ายต่างๆมันเกินเลยไปเยอะมาก (บ้านเราค่อนข้างจะมีฐานะ) แต่เราเกรงใจพ่อ กลัวมันแพงเกินไปแล้วเขาจะไม่ให้ไป เลยเปลี่ยนประเทศไปเบลเยี่ยมแทนค่ะ พอดีว่าพี่สาวเรา(ญาติ) เขาอยู่ที่นั้นพอดี เราก็ทักไปปรึกษาเขาเรื่อง โรงเรียน ต่างๆนาๆ เยอะมากค่ะ พี่เราก็ไปคุยกับทาง ร.ร กับ สถาบันสอนภาษาให้ทุกอย่างมันกลับง่ายมาก + ค่าใช้จ่ายคือต่ำมาก (ขออนุญาตไม่ระบุตัวเลขนะคะ) ส่วนเรื่องที่อยู่ พี่บอกว่าให้เราไปอยู่กับเขา ทุกอย่างมันลงตัวมากๆ เราเลยตัดสินใจว่าจะไปเรียนที่เบลเยี่ยมนี่แหละ เราเลยไปบอกทั้งครอบครัวว่า เราสามารถเข้า ร.ร ที่เบลเยี่ยมได้แล้วนะ (เราเข้าได้แล้วนะคะ ตอนนีทาง ร.ร กำลังออกใบรับรองมาให้) เขาก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อ ปู่เราก็พูดว่า เรียนที่ไทยยังไม่รอดเลยจะไปเรียนเมืองนอก ส่วนย่าเราก็บอกว่า เรียนเก่งให้เท่าคนอื่นก่อนเถอะ แม่เราก็พูดว่า อย่าเพ้อเจ้อ (แต่ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราถามแม่แล้วนะคะว่า ถ้าหนูเข้าเรียนที่ต่างประเทศได้จะให้ไปมั้ย เขาก็บอกให้) ส่วนคนอื่นๆในครอบครัวก็พูดว่า เป็นไปไม่ได้หรอก ทำอะไรก็ไม่เป็น เพ้อเจ้อ ไม่มีทาง เยอะมากเลยค่ะคำพูดที่ออกมาจากครอบครัว แต่เราก็ไม่ท้อเราก็ขนันฝึกภาษา + กับแอบทำเรื่องกับพี่เราที่อยู่เบลเยี่ยม
เรามีแพลนไว้ว่าจะให้ ทาง ร.ร ออกใบรับรองมาให้ก่อนเพื่อจะเป็นหลักฐานให้พวกเขาได้เห็นว่า เราเข้าได้แล้วจริงๆ แต่มันติดที่มันต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องเอกสารต่างๆ ตอนแรกพี่บอกแค่700+ เท่านั้น เราก็โอเค แต่พอมาสักพักพี่ไปคุยกับทาง ร.ร อีกทีเขาบอกว่า 3,000+ รวมเอกสารทุกอย่าง จองที่นั่งของสถาบันสอนภาษา เอกสารยื่นวีซ่า เราก็เลยตึ้บเลยค่ะ 3 พัน เราจะเอามาจากไหนแล้วที่กดดันไปกว่านั้นคือ ทางร.ร เขารีบเอาเพราะใช้เวลายื่นเรื่องค่อนข้างจะนานด้วยความที่เราเป็นคนไทยแท้ พ่อแม่ก็ไม่ได้ติดตามมา + สถานที่ที่จะต้องทำเอกสารมันจะปิดด้วย เพราะมันต้องเป็นคิว คนจากประเทศอื่นๆก็มาทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน เราต้องโอนจองไว้ก่อน
ทางนู้นจะเอา อาทิตย์นี้ด้วยค่ะ เราเครียดมากๆ ไม่รู้จะหามาจากไหน ไปร.ร ก็ไม่ได้ไป ไม่มีรายได้อะไรเลยค่ะ ถ้าจะไปยืมเงินพี่ก่อนก็เกรงใจเขาเพราะพี่เขาก็ช่วยจ่ายค่าภาษีให้แล้ว หลายพันเลยค่ะ เราเครียดมากๆ ไม่รู้จะทำยังไง แต่ตอนมันมีวิธีนึงคือ เราต้อวไปคุยกับพ่อ ไปตกลงให้เรียบร้อย ว่ายังไงให้ไปมั้ย แต่พอเราพูดเรื่องนี้เขาไม่เคยจริงจังเลยค่ะ เขาเอาแต่พูดคำเดิมๆสอบให้ได้ก่อน พอเราบอกสอบได้แล้ว เขาก็พูดว่า อยู่ไม่ได้หรอก บลาๆ
แต่เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นอกจากเปิดใจคุยกับเขาจริงจัง เราทำการบ้านมาอย่างดี นั่งจดข้อดีของการไปเรียนต่างประเทศ วิถึชีวิตของคนเบลเยี่ยม ระบบการศึกษา ค่าใช้จ่าย เอกสาร เหตุผลที่อยากไป ข้อมูลต่างๆ เรื่องโรงเรียน เรื่องสถาบันสอนภาษา แต่ติดที่ว่า เราเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับพ่อเท่าไหร่ค่ะ ไม่สนิทกับพ่อเลยค่ะ แม้กระทั่งขอเขาซื้อของกินยังไม่กล้าขอเลยค่ะ เราคิดหนักมาก เครียด รู้สึกท้อ เหนื่อยมากเลยค่ะ นอนคิดนอนร้องไห้ทุกคืน กลัวคำตอบ เพราะเราโดนพ่อปฏิเสธมาทั้งชีวิตเรากลัวมากๆเลยค่ะ พอเรากังวลก็เกิดอาการแพนิค เพราะส่วนตัวเราเป็นแพนิค+ ซึมเศร้า อยู่แล้วมันทรมานมากเลยค่ะ คิดเรื่องนี้น้ำตาก็ไหลตลอด พอเราไปปรึกษาคนในครอบครัวก็เจอแต่คำพูดแย่ๆ เราพยายามจะพูดกับเขาต่อหลายครั่งแต่ก็ไม่กล้า มีแต่คำพูดอยขในหัว ถ้าไม่ได้ไปละ เราปวดหัวมากเลยค่ะ ทั้งที่เราพยายามมาตลอด 3-4 ปีนี้
*เหตุผลที่เราอยากไปนะคะ หลักๆคือ ร.ร ที่เราอยู่ปัจจุบันที่ไทยนะคะ สังคมค่อนข้างจะ toxic + ความฝันของเราที่อยากไปสัมผัสเมืองนอก อยากมีประสบการณ์ อีกอย่างเราเป็นคนชอบภาษามากๆเลยค่ะตอนแรกกะจะฝึกแค่ภาษาอังกฤษ จนในสุดเราก็รู้ตัวเองว่า เราชอบภาษา เราถนัดด้านนี้ จนตอนนี้เราพูดได้ทั้งหมด 5 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ
ฝรั่งเศส เวียดนาม ดัตซ์ ถ้าเราได้ไปเรามีแพลนอนาคตอยู่เต็มหัวไปหมด ถ้าได้ไปก็จะทำงานเก็บเงินเพื่อส่งตัวเองเรียนต่ออเมริกา ในมหาวิทยาลัย เราวางแพลนไว้หมดแล้วค่ะ ถ้าเราได้ไปเรียนที่เบลเยี่ยม นี่แหละค่ะคือสิ่งที่เรากลัวมากที่สุด ถ้าพ่อปฏิเสธ ทุกอย่างอนาคตที่เราวางแพลนไว้มันจะล้มเหลว สลายไปเลยนะคะ ถ้าบางคนคิดว่าไปเรียบเบลเยี่ยมจบมา หรืออเมริกาจะไปทำงานอะไร พ่อที่เขาไม่อยากให้ไปเพราะ เรื่องนี้รึป่าว หรือค่าใช้จ่ายแพง เราขอพูดตัดหน้าไว้ก่อนเลยนะคะว่า บ้านเราทำธุรกิจส่วนตัว รายได้เดือนละ ( 500,000+ ) ค่าเทอมของเราเรียนอยู่ที่ไทยค่าเทอมของ ร.ร เอกชลปีละ (50,000+ ) ที่เบลเยี่ยมถูกกว่านะคะ กว่าเยอะเลยด้วยค่ะ (ขอไม่ระบุตัวเลข) ค่าใช้จ่ายนี่น่าจะไม่ได้ติดเราว่านะ ส่วนเรื่องอาชีพในอนาคต พ่อเราเป็นคนบอกเองค่ะว่า ถ้าเรียนจบมาก็มาช่วยบริหารธุรกิจต่อ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ไปฝึกงานที่ไหนแน่นอนค่ะ
*ทุกคนคิดว่ายังไงกันบ้างคะ * 🙏🏻🙇🏻♀️
ขอพ่อแม่ไปเรียนต่างประเทศ
11 ปี พ่อบอกกับเราว่า ให้เราเรียนหนังสือเก่งๆเขาจะส่งไปเรียนเมืองนอก แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรนะคะ ไม่ได้คิดจะไปด้วยเพราะกลัว อะไรหลายๆอย่าง จนเราอยู่ ป.6 เทอม 2 เราชอบฝรั่งมากตอนนั้น เลยหันมาฝึกภาษาอังกฤษบอกก่อนนะคะว่า ภาษาอังกฤษเราแย่มากๆ พอเราฝึกภาษา+ กับเราอยากไปเรียนที่อเมริกาด้วยค่ะ ก็เลยบอกพ่อว่า อยากไปเรียนอเมริกา เขาก็แค่บอกกลับเรามาว่า สอบเข้าให้ได้ ถ้าได้ก็ไปได้ไปหมดแหละ เราก็เลยตั้งใจฝึกภาษา หาข้อมูลเรียนต่ออเมริกา แต่เราคิดว่าค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างจะแพงอยู่ เลยคิดจะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอเมริกา เราก็ศึกษาข้อมูลมานานจนเรา ขึ้นม.1 เราก็หยุดพักไปแต่ก็หาอยู่นะคะแต่ไม่ได้จริงจังเหมือนตอนแรกๆ แต่พอเราจบม.1 เราก็กลับมาจริงจังใหม่ + ฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน ทุกเวลา วางแพลน ศึกษาวีซ่า ค่าใช้จ่ายต่างๆจนมานานนถึงเกือบปีเลยค่ะ จนปี2022 นี่ เราจริงจังมากๆ ปรึกษาเอเจ้น ปรึกษาคนรับทำวีซ่า ปรึกษาทั้งคนที่อยู่อเมริกา ศึกษาเรื่องที่อยู่ว่าเราต้องออยู่ยังไงเมื่อเรายังอายุไม่ถึง 18 ทำงานได้มั้ย
โรงเรียนเป็นยังไง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เยอะมากเลยค่ะแต่บทสรุปก็คือล้มเหลว เพราะเราท้อกับเรื่องวีซ่า+ เราไปแบบไม่มีผู้ปกครอง ค่าใช้จ่ายต่างๆมันเกินเลยไปเยอะมาก (บ้านเราค่อนข้างจะมีฐานะ) แต่เราเกรงใจพ่อ กลัวมันแพงเกินไปแล้วเขาจะไม่ให้ไป เลยเปลี่ยนประเทศไปเบลเยี่ยมแทนค่ะ พอดีว่าพี่สาวเรา(ญาติ) เขาอยู่ที่นั้นพอดี เราก็ทักไปปรึกษาเขาเรื่อง โรงเรียน ต่างๆนาๆ เยอะมากค่ะ พี่เราก็ไปคุยกับทาง ร.ร กับ สถาบันสอนภาษาให้ทุกอย่างมันกลับง่ายมาก + ค่าใช้จ่ายคือต่ำมาก (ขออนุญาตไม่ระบุตัวเลขนะคะ) ส่วนเรื่องที่อยู่ พี่บอกว่าให้เราไปอยู่กับเขา ทุกอย่างมันลงตัวมากๆ เราเลยตัดสินใจว่าจะไปเรียนที่เบลเยี่ยมนี่แหละ เราเลยไปบอกทั้งครอบครัวว่า เราสามารถเข้า ร.ร ที่เบลเยี่ยมได้แล้วนะ (เราเข้าได้แล้วนะคะ ตอนนีทาง ร.ร กำลังออกใบรับรองมาให้) เขาก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อ ปู่เราก็พูดว่า เรียนที่ไทยยังไม่รอดเลยจะไปเรียนเมืองนอก ส่วนย่าเราก็บอกว่า เรียนเก่งให้เท่าคนอื่นก่อนเถอะ แม่เราก็พูดว่า อย่าเพ้อเจ้อ (แต่ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราถามแม่แล้วนะคะว่า ถ้าหนูเข้าเรียนที่ต่างประเทศได้จะให้ไปมั้ย เขาก็บอกให้) ส่วนคนอื่นๆในครอบครัวก็พูดว่า เป็นไปไม่ได้หรอก ทำอะไรก็ไม่เป็น เพ้อเจ้อ ไม่มีทาง เยอะมากเลยค่ะคำพูดที่ออกมาจากครอบครัว แต่เราก็ไม่ท้อเราก็ขนันฝึกภาษา + กับแอบทำเรื่องกับพี่เราที่อยู่เบลเยี่ยม
เรามีแพลนไว้ว่าจะให้ ทาง ร.ร ออกใบรับรองมาให้ก่อนเพื่อจะเป็นหลักฐานให้พวกเขาได้เห็นว่า เราเข้าได้แล้วจริงๆ แต่มันติดที่มันต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องเอกสารต่างๆ ตอนแรกพี่บอกแค่700+ เท่านั้น เราก็โอเค แต่พอมาสักพักพี่ไปคุยกับทาง ร.ร อีกทีเขาบอกว่า 3,000+ รวมเอกสารทุกอย่าง จองที่นั่งของสถาบันสอนภาษา เอกสารยื่นวีซ่า เราก็เลยตึ้บเลยค่ะ 3 พัน เราจะเอามาจากไหนแล้วที่กดดันไปกว่านั้นคือ ทางร.ร เขารีบเอาเพราะใช้เวลายื่นเรื่องค่อนข้างจะนานด้วยความที่เราเป็นคนไทยแท้ พ่อแม่ก็ไม่ได้ติดตามมา + สถานที่ที่จะต้องทำเอกสารมันจะปิดด้วย เพราะมันต้องเป็นคิว คนจากประเทศอื่นๆก็มาทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน เราต้องโอนจองไว้ก่อน
ทางนู้นจะเอา อาทิตย์นี้ด้วยค่ะ เราเครียดมากๆ ไม่รู้จะหามาจากไหน ไปร.ร ก็ไม่ได้ไป ไม่มีรายได้อะไรเลยค่ะ ถ้าจะไปยืมเงินพี่ก่อนก็เกรงใจเขาเพราะพี่เขาก็ช่วยจ่ายค่าภาษีให้แล้ว หลายพันเลยค่ะ เราเครียดมากๆ ไม่รู้จะทำยังไง แต่ตอนมันมีวิธีนึงคือ เราต้อวไปคุยกับพ่อ ไปตกลงให้เรียบร้อย ว่ายังไงให้ไปมั้ย แต่พอเราพูดเรื่องนี้เขาไม่เคยจริงจังเลยค่ะ เขาเอาแต่พูดคำเดิมๆสอบให้ได้ก่อน พอเราบอกสอบได้แล้ว เขาก็พูดว่า อยู่ไม่ได้หรอก บลาๆ
แต่เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นอกจากเปิดใจคุยกับเขาจริงจัง เราทำการบ้านมาอย่างดี นั่งจดข้อดีของการไปเรียนต่างประเทศ วิถึชีวิตของคนเบลเยี่ยม ระบบการศึกษา ค่าใช้จ่าย เอกสาร เหตุผลที่อยากไป ข้อมูลต่างๆ เรื่องโรงเรียน เรื่องสถาบันสอนภาษา แต่ติดที่ว่า เราเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับพ่อเท่าไหร่ค่ะ ไม่สนิทกับพ่อเลยค่ะ แม้กระทั่งขอเขาซื้อของกินยังไม่กล้าขอเลยค่ะ เราคิดหนักมาก เครียด รู้สึกท้อ เหนื่อยมากเลยค่ะ นอนคิดนอนร้องไห้ทุกคืน กลัวคำตอบ เพราะเราโดนพ่อปฏิเสธมาทั้งชีวิตเรากลัวมากๆเลยค่ะ พอเรากังวลก็เกิดอาการแพนิค เพราะส่วนตัวเราเป็นแพนิค+ ซึมเศร้า อยู่แล้วมันทรมานมากเลยค่ะ คิดเรื่องนี้น้ำตาก็ไหลตลอด พอเราไปปรึกษาคนในครอบครัวก็เจอแต่คำพูดแย่ๆ เราพยายามจะพูดกับเขาต่อหลายครั่งแต่ก็ไม่กล้า มีแต่คำพูดอยขในหัว ถ้าไม่ได้ไปละ เราปวดหัวมากเลยค่ะ ทั้งที่เราพยายามมาตลอด 3-4 ปีนี้
*เหตุผลที่เราอยากไปนะคะ หลักๆคือ ร.ร ที่เราอยู่ปัจจุบันที่ไทยนะคะ สังคมค่อนข้างจะ toxic + ความฝันของเราที่อยากไปสัมผัสเมืองนอก อยากมีประสบการณ์ อีกอย่างเราเป็นคนชอบภาษามากๆเลยค่ะตอนแรกกะจะฝึกแค่ภาษาอังกฤษ จนในสุดเราก็รู้ตัวเองว่า เราชอบภาษา เราถนัดด้านนี้ จนตอนนี้เราพูดได้ทั้งหมด 5 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ
ฝรั่งเศส เวียดนาม ดัตซ์ ถ้าเราได้ไปเรามีแพลนอนาคตอยู่เต็มหัวไปหมด ถ้าได้ไปก็จะทำงานเก็บเงินเพื่อส่งตัวเองเรียนต่ออเมริกา ในมหาวิทยาลัย เราวางแพลนไว้หมดแล้วค่ะ ถ้าเราได้ไปเรียนที่เบลเยี่ยม นี่แหละค่ะคือสิ่งที่เรากลัวมากที่สุด ถ้าพ่อปฏิเสธ ทุกอย่างอนาคตที่เราวางแพลนไว้มันจะล้มเหลว สลายไปเลยนะคะ ถ้าบางคนคิดว่าไปเรียบเบลเยี่ยมจบมา หรืออเมริกาจะไปทำงานอะไร พ่อที่เขาไม่อยากให้ไปเพราะ เรื่องนี้รึป่าว หรือค่าใช้จ่ายแพง เราขอพูดตัดหน้าไว้ก่อนเลยนะคะว่า บ้านเราทำธุรกิจส่วนตัว รายได้เดือนละ ( 500,000+ ) ค่าเทอมของเราเรียนอยู่ที่ไทยค่าเทอมของ ร.ร เอกชลปีละ (50,000+ ) ที่เบลเยี่ยมถูกกว่านะคะ กว่าเยอะเลยด้วยค่ะ (ขอไม่ระบุตัวเลข) ค่าใช้จ่ายนี่น่าจะไม่ได้ติดเราว่านะ ส่วนเรื่องอาชีพในอนาคต พ่อเราเป็นคนบอกเองค่ะว่า ถ้าเรียนจบมาก็มาช่วยบริหารธุรกิจต่อ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ไปฝึกงานที่ไหนแน่นอนค่ะ
*ทุกคนคิดว่ายังไงกันบ้างคะ * 🙏🏻🙇🏻♀️