JJNY : 7in1 เตือนทบ.│สื่อนอกตีข่าว│บขส.โคราชปิด│สวนน้ำแสนสนุกปิด│เชื่อมั่นต่ำสุดรอบ8ด.│โจ้เตือนป้อม│ฑูตรัสเซียเจอสาดสี

อดีตทูต เตือน ทบ. ออกคำสั่ง ห้ามใช้ 'ลาซาด้า' ถ้าเขาฟ้องมาจะหงายเก๋ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7041199
  

  
อดีตทูต เตือน ทบ. ออกคำสั่ง ห้ามใช้ ‘ลาซาด้า’ ชอบด้วยกฎหมายมากน้อยเพียงใด? ถ้าเขาฟ้องขึ้นมาจะหงายเก๋ง ต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่?
  
หลัง กองทัพบก ออกมาประกาศแบน “ลาซาด้า” พร้อมออกคำสั่งด่วนที่สุด ห้ามทุกหน่วยทหารหรือกิจการใดๆ ของ ทบ. ใช้บริการ ถ้าฝ่าฝืน ผบ.หน่วยต้องรับผิดชอบ
 
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ความว่า 
  
เมื่อวานโพสต์กรณีลาซาด้าแบบขำๆ ไป ซึ่งเรื่องนี้มันมีอะไรที่ทั้งตลกและผิดอยู่หลายเด้ง โดยเฉพาะการห้ามไม่ให้ลาซาด้ามาส่งสินค้าในค่าย ทั้งๆที่ ปกติลาซาด้าก็ไม่ค่อยส่งของเองอยู่แล้ว แต่อันที่จริง มันมีเรื่องที่น่าขบคิดกว่านั้น ที่เป็นประเด็นจริงจังที่อยากเอามาคุยเพิ่มเติม (ที่ในภาษาอังกฤษมักใช้ขึ้นประโยคด้วยคำว่า On a serious note นะครับ)
 
ประเด็นมันมีอยู่ว่าคำสั่งห้ามส่งสินค้าลาซาด้าภายในค่ายทหารนี้ จริงๆมันถูกต้องเพียงใด? เพราะทหารก็เป็นข้าราชการ ที่ไม่สามารถเลือกปฎิบัติต่อบริษัทห้างร้านภาคเอกชนได้ ในเมื่อยังไม่มีคำสั่งศาลใดๆด้วยซ้ำว่าลาซาด้ามีความผิดอะไร?
 
การทำเช่นนี้มันจึงเข้าข่ายการกีดกัน เลือกปฏิบัติต่อบริษัทเอกชน หรือเท่ากับเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อแพลตฟอร์มบริษัทเอกชนอื่นที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกัน หรือไม่?
 
ที่สำคัญกองทัพไม่ใช่บริษัทหรือองค์กรส่วนบุคคลของใคร การห้ามเช่นนี้จึงมีคำถามตามมาว่ามีความชอบด้วยกฎหมายมากน้อยเพียงใด? ถ้าเขาฟ้องขึ้นมาจะหงายเก๋ง ต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่?
  
ทุกวันนี้ บ้านเมืองเราชอบมีคนนึกว่าหน่วยงานราชการเป็นของๆตัวเอง อย่างที่วันก่อนกระทรวงต่างประเทศก็มาเที่ยวออกแถลงการณ์ในสิ่งที่มันควรเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้บริหารเอง แต่เอากลับเอาชื่อกระทรวงมาใช้ ทำให้หลายสิ่งแลดูผิดเพี้ยนไปหมด
  
จะรอดูว่าบรรดานักรัองทั้งหลาย ที่ชอบร้องเรียนเรื่องโน้นเรื่องนี้กันนัก ว่าจะมีใครแน่จริงออกมาร้องเรื่องนี้กันบ้างไหมนะครับ?
  
https://www.facebook.com/thealternativeambassadorreturns/posts/162534479576860
 

 
ดังไปทั่วโลก! สื่อนอกแห่ตีข่าว กองทัพไทย ห้ามกำลังพลสั่งของจาก 'ลาซาด้า'
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7041976
 
ดังไปทั่วโลก! สื่อนอกแห่ตีข่าว กองทัพไทย ห้ามกำลังพลสั่งของจาก ‘ลาซาด้า’ หลังมีเอฟเฟคจากทุกเหล่าทัพออกมาแบนแพลตฟอร์มดังกล่าว
  
10 พ.ค. 2565 – จากกรณี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ให้หน่วยงานทั่วประเทศ งดสั่งสินค้าจาก Lazada รวมถึงห้ามรถส่งสินค้าเข้ามาในพื้นที่หน่วยทหาร แต่ไม่ห้ามกำลังพลในการสั่งซื้อสินค้า หากมีการสั่ง ให้ออกไปรับนอกพื้นที่หน่วยทหาร
 
เช่นเดียวกันกับ กองทัพอากาศ ที่ขอความร่วมมือกำลังพล ครอบครัว ไตร่ตรองการสั่งสินค้าผ่าน “ลาซาด้า” ส่วน กองทัพเรือ ได้ออกมาวอนประชาชน ต้องไม่อดทนอดกลั้น ในการนำผู้พิการมาใช้โฆษณาล้อเลียน พร้อมให้สนับสนุนสื่อโฆษณาที่สร้างสรรค์นั้น
 
ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานข่าวดังกล่าวว่า กองทัพไทยห้ามกำลังทหารสั่งซื้อของออนไลน์ จากแพลตฟอร์ม “ลาซาด้า” หลังจากเหตุโฆษณา  โดยยกคำสั่งของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไม่ให้ขนส่งลาซาด้า เข้าไปภายในกองทัพ ส่วนผู้ที่ซื้อ ให้ออกไปรับด้านนอกพื้นที่แทน
 
รายงานยังระบุว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับอินฟลูเอนเซอร์ ที่อยู่ในโฆษณาดังกล่าวด้วย
 
ชณะที่ “ลาซาด้า” แพลตฟอร์มออนไลน์ของ อาลีบาบา ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ออกมาขอโทษโฆษณาดังกล่าว ขณะที่ตัวแทนปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นกรณีที่เกิดขึ้น
 
นอกจากนี้ เอเอฟพี, บีบีซี, เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์, แชนแนล นิวส์ เอเชีย ต่างรายงานข่าวไปในเชิงเดียวกัน พร้อมระบุว่ามีร้านค้าจำนวนหนึ่ง ที่ระงับการจำหน่ายสินค้าในแพลตฟอร์ม “ลาซาด้า” เพราะวิดีโอโฆษณาดังกล่าว


 
ทำมา 40 ปีไปต่อไม่ไหว! เจ้าของรถโดยสาร บขส.โคราช ขายรถทิ้ง ปิดกิจการถาวร
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7041131
 
ทำมา 40 ปีไปต่อไม่ไหว! เจ้าของรถโดยสาร บขส.โคราช ขายรถทิ้ง ปิดกิจการถาวร ขาดทุนหนัก ทั้งโควิด-น้ำมันแพง เอาเงินไปให้เมียลงทุน เจอของราคาพุ่งอีก
 
กรณี นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร บขส. และ เจ้าของอู่เชิดชัย และบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ ออกมาเปิดเผยว่า ตัดสินใจประกาศขายกิจการของบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ ที่ดำเนินการการมานานกว่า 65 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้โดยสารลดน้อยลง
 
ประกอบกับปัญหาต่างๆ อาทิ การเกิดขึ้นของสายการบินราคาประหยัด และน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เนื่องจากเจ๊เกียวมีอายุมากแล้วถึง 85 ปี อีกทั้งลูกๆ ทั้ง 5 คน ก็ทำธุรกิจอื่น ไม่มีใครอยากมาสานต่อธุรกิจเดินรถ บขส.ที่มีปัญหาหลายอย่าง จึงได้ตัดสินใจประกาศขายกิจการของบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ในครั้งนี้นั้น
 
ล่าสุด วันนี้ 10 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 1479 ม.1 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบ นายมานิต อัครวงศ์วัฒนา อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นครอบครัวหนึ่ง ที่ประกอบกิจการรถโดยสาร บขส. มานานกว่า 40 ปี และได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อยลง ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลแพง ค่าครองชีพสูงขึ้นสวนทางรายได้ ทนแบกรับภาระไม่ไหว จนต้องตัดสินใจขายรถทัวร์ทิ้งทั้งหมด
 
นายมานิต เล่าว่า เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว ตนเองได้เริ่มประกอบธุรกิจเดินรถโดยสาร บขส. โดยลงทุนซื้อรถบัสแบบพัดลมมา 1 คัน วิ่งระหวางนครราชสีมา-สุรินทร์ ซึ่งพี่น้องรวมทั้งตนเอง 8 คน ก็ทำธุรกิจเดินรถโดยสาร บขส.เช่นกัน ต่อมากิจการเริ่มไปได้ดี ตนเองจึงเก็บเงินสะสมซื้อรถมาเพิ่มจนในที่สุดมีรถบัสถึง 5 คัน จึงจ้างลูกน้องช่วยขับ
 
ต่อมาก็ได้ปรับปรุงรถให้เป็นรถแอร์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ช่วงแรกก็รายได้ดี มีเงินเดือนจ้างลูกน้องถึง 15 คน กระทั่งมาช่วงปี 62 เริ่มมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้โดยสารตื่นตัวมาใช้บริการรถโดยสาร บขส.น้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 63 ลูกน้องเริ่มนำเงินมาส่งน้อยลงจนขาดทุนทุกวัน
 
ตนเองจึงตัดสินใจนำรถบัสจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันใกล้บ้านทีละคันๆ จนในที่สุดก็ต้องจอดทั้ง 5 คัน เพราะวิ่งไปก็มีแต่ขาดทุน เนื่องจากการวิ่งรถต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงลูกน้อง ค่าซ่อมบำรุง และที่หนักสุดคือค่าน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นต่อเนื่อง
 
ตอนแรกคาดว่าจะจอดไว้จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แล้วค่อยกลับมาวิ่งรถใหม่ แต่ด้วยความที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานสายวิ่งตลอดทุกเดือน และสถานการณ์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย ในช่วงต้นปี 64 ตนเองจึงตัดสินใจขายรถบัสทั้ง 5 คันทิ้งไป และเลิกกิจการเดินรถอย่างถาวร
 
โดยเงินที่ได้จากการขายรถก็ได้นำไปใช้หนี้สินต่างๆ จนหมด เหลือเพียงเล็กน้อย ให้ภรรยานำไปต่อยอดทำธุรกิจขายขนมเข่ง แต่ก็ต้องมาประสบกับปัญหาราคาวัตถุดิบแพงอีก ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมันพืช แป้ง ค่าไฟฟ้า แก๊งหุงต้ม เป็นต้น พากันขึ้นราคาพร้อมกันหมด ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะแพงขึ้นอีก ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
 
ไม่เพียงแต่ตนเองที่ต้องตัดสินใจขายรถโดยสาร ที่เป็นธุรกิจหลักของครอบครัว แต่ญาติๆ และเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจเดียวกันก็มีหลายเจ้าทยอยปิดกิจการขายรถโดยสารทิ้งไปต่อเนื่อง เพราะเขาอยู่ไม่ได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลแพงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่น้อยลง จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถโดยสาร บขส.ด้วย
 

 
สวนน้ำแสนสนุก สมุทรปราการ ประกาศปิดกิจการถาวร เปิดให้เล่นถึง 16 พ.ค.นี้
https://www.matichon.co.th/social/news_3335455
 
สวนน้ำแสนสนุก สมุทรปราการ ประกาศปิดกิจการถาวร เปิดให้เล่นถึง 16 พ.ค.นี้ สวมเสื้อยืดก็เล่นได้
 
ผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างพากันคอมเมนต์ “เสียดาย” หลังจาก สวนน้ำแสนสนุก (SansaNook) ที่ จ.สมุทรปราการ ประกาศจะปิดกิจการ โดยเปิดให้เล่นถึงวันที่ 16 พฤษภาคมนี้
 
“👉👉👉สวนน้ำจะปิดกิจการแล้วน้าาา
มาค่ะ ใครยังไม่เคยมารีบมาน้า❤️❤️❤️❤️
สวนน้ำเปิดให้เล่นถึงวันที่ 16 พ.ค.นี้
บัตร 99 บาท‼️‼️‼️ราคาเดียว
ขอบคุณลูกค้าที่มาใช้บริการและสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่เปิดขอบคุณนะคะ🙏🙏🙏🙏🙏🙏
👉👉👉เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-19.00 น
ถูกจริงๆๆ 99 บาทเท่านั้น‼️‼️‼️
ราคาเดียวทั้งเด็กและผู้ใหญ่
✅เล่นได้ทุกอย่าง ไม่จำกัดชั่วโมง
✅ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่กางเกงเจเจ เสื้อยืดได้
✅อาหารนำเข้าได้
ถ้าพร้อมแล้วมาเจอกันได้ที่📌📌สวนน้ำแสนสนุก เทพารักษ์ สมุทรปราการ”
 
นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊กของสวนน้ำแสนสนุกยืนยันว่า ไม่มีการย้ายสถานที่แต่อย่างใด ครั้งนี้เป็นการปิดกิจการถาวร
 

 
น้ำมันแพง-ค่าครองชีพพุ่งฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 8 เดือน
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/113348/
 
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 40.7 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน รับผลกระทบจากโอมิครอน - สงครามรัสเซีย-ยูเครน- น้ำมัน-สินค้าแพงดันค่าครองชีพพุ่ง
 
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงจากระดับ 42.0 มาอยู่ที่  40.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่เดือนก.ย.64 เป็นต้นมา เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 
  
ทั้งนี้รวมถึงปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งเป็นแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกให้ช้าลงหรือชะลอตัวลง และอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต รวมถึงการที่ระดับราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหาราคาสินค้าแพง ก็ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากระดับ 26.2 มาอยู่ที่ 25.4 และดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน โดยปรับตัวลดลงจากระดับ 49.4 มาอยู่ที่ระดับ 48.0
  
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 34.6 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 38.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต   49.6   โดยปรับตัวลดลงทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนมี.ค.2565  
 
“การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากความวิตกโควิด-19 ค่าครองชีพ ทำให้มีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งต้องติดตามว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงไรและยาวนานเพียงใด และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 2.5-4.0% ในปีนี้”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่