ในแผนกมีพนักงานธุรการคนนึงที่เป็นธุรการประจำแผนกใหญ่ ชีวิตประจำวันของเขา คือ มาทำงานสาย - เวลาทำงานไม่ค่อยอยู่ที่โต๊ะ - กลับบ้านก่อนเวลาเลิกงาน เป็นแบบนี้ทุกวัน ปัญหาคือในช่วงนี้เป็นช่วงสลับกัน Work From Home ทำให้ธุรการเดิมที่มี 2 คนก็จะเหลือคนเดียว วันไหนที่พี่คนนี้มา เรา (ที่ไม่ได้เป็นธุรการ เป็นพนักงานในแผนก) ที่นั่งอยู่ใกล้โต๊ะธุรการที่สุด จะต้องคอยดึงสายรับโทรศัพท์แทนตลอด คอยรับเรื่องให้ บางทีเดินงานแทนให้ก็มีในเวลาทีเขายังไม่มา ไม่อยู่ที่โต๊ะ หรือกลับไปแล้ว เรียกได้ว่าวันนั้นทั้งวันเราควบ 2 ตำแหน่งเลยค่ะ ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่เลย
อีกปัญหานึงที่เราไม่โอเคคือพี่เขาเอาลูกมาทำงาน ต้องเท้าความก่อนว่า "เราเกลียดเด็กมาก" ให้ขยายความคือ เสียงแหลมๆของเด็กมันเป็น trigger ที่ทำให้เราปวดหัว ปวดหู ทำงานไม่ได้ หงุดหงิดและโมโหในที่สุด เวรกรรมของเราก็คือน้องเป็นเด็กที่กรี๊ดเสียงดังในทุกเวลา เช่น หิว เศร้า เรียกหา เล่นสนุก เรามีปัญหากับเขาเสมอ ไม่เคยว่าเขาตรงๆนะคะ เพราะเราเป็นคนที่ยั้งคำพูดและน้ำเสียงไม่ได้เวลาโมโห เลยจะแค่ออกหน้า จิ๊จ๊ะ ใส่หูฟังและเงียบๆไป เขารู้ว่าเราไม่โอเคเขาก็ไม่ได้เอามาบ่อยๆ แต่เวลาเอามาทีไรก็จะเป็นแบบนี้เสมอ แล้วเวลาลูกเขาเสียงดัง เขาก็แก้ปัญหาด้วยการพูดว่า 'เงียบสิ' 'ชู่ว' แค่นั้นเลยค่ะ แล้วก็ด้วยความเบบี๋ ไม่หยุดหรอก ก็ร้องต่อไป แต่พี่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
วันนี้ที่ทนไม่ไหวต้องมาระบาย คือพี่เขามาทำงานสาย 1 ชั่วโมง ไม่ผิดค่ะ 1 ชั่วโมงเต็ม ในช่วงที่เขายังไม่มาเราก็ต้องคอยรับสายแทน พอเขาโผล่มา ไม่มาคนเดียว จูงลูกมาด้วย แต่ลูกก็คือเริ่มโตละ พูดรู้เรื่อง เราก็เบาใจว่าคงไม่กรีดร้องเสียงดังแล้ว พี่เขาก็มานั่งโต๊ะ เซ็ทที่นอนให้น้อง แล้วหายไปอีก ระหว่างนั้นเราก็รับโทรศัพท์แทนตลอด 1 ชั่วโมงผ่านไป กลับมาพร้อมถุงขนมถุงข้าวเต็มมือ เหออออ ไอเราก็นึกว่าไปตามงานที่ฝากไว้ เปล่า ไปช็อปปิ้งว่ะ แล้วปัญหาก็เกิดต่อมาอีก คือลูกแม้จะพูดรู้เรื่อง แต่ก็เสียงดัง ส่งเสียงแหลมเสียดหูตลอดเวลา งอแงเอาโน่นไปนี่ แม่เขาก็ตามเดิมค่ะพูดแค่ ชู่ว เงียบ น้องก็เงียบให้ 2 วิ และงอแงต่อ พี่เขาจะไปเดินงานก็ร้องตาม ร้องหาโน่นนี่ตลอด เล่นเสียงดังตลอดทั้งวัน เราก็ทำใจหูฟังต้องเข้าแล้ว ณ จุดๆนี้ แต่ปัญหาต่อมาเมื่อใส่หูฟังตัดเสียง คือหัวหน้าสั่งงานแล้วไม่ได้ยิน ซวยเราไปอีก ช่วงพักเที่ยงเสียงดังหนักเลยคราวนี้ พอเริ่มงานช่วงบ่าย เขาหายไปเลยค่ะ เอาลูกไปเล่นอีกฝั่งของแผนก หายไปอีก 1 ชั่วโมง เราก็ต้องดึงสายรับโทรศัพท์แทน บ่ายสองเขาถึงมานั่งโต๊ะทำงาน พอบ่ายสองครึ่งเขาปิดคอมกลับบ้านไปเลย เรานี่แบบ อื้มมมมมม ต้องเป็นธุรการแทนอีกแล้วสินะ แล้วก็ไม่ผิดคาด มีคนโทรมาต้องดึงสายอีกจนเลิกงาน
คือไม่ไหวค่ะ งานเราแทบไม่เดิน เพราะ 1. ต้องคอยทำหน้าที่เป็นรักษาการธุรการแทนโดยปริยาย เอาจริงก็ไม่อยากรับค่ะ มันไม่ใช่หน้าที่เลย แต่ด้วยความที่แผนกอื่นเขาก็ต้องติดต่องานกับแผนกเราเสมอ ทำให้จำเป็นต้องช่วยจริงๆ 2. ลูกเขาเสียงดังรบกวนการทำงานเรามาก ที่น่าเกลียดคือเขาไม่พยายามหุบปากลูกเขาอย่างจริงจัง แค่ชู่วๆๆเฉยๆ
ไม่อยากถามว่าต้องทำยังไง แค่อยากหาที่ระบายค่ะ เพราะแฟนเราเขาไม่ฟังเราแล้ว เขารำคาญเราไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ เขาจะชอบบอกว่าเข้าใจเขาเถอะ อย่าไปว่าเขาเลย เลยขอพื้นที่เล็กๆตรงนี้ระบายความในใจค่ะ
เพื่อนร่วมงาน Toxic : มาสาย ไม่ทำงาน ออกก่อนเวลา เอาลูกมาส่งเสียงดัง
อีกปัญหานึงที่เราไม่โอเคคือพี่เขาเอาลูกมาทำงาน ต้องเท้าความก่อนว่า "เราเกลียดเด็กมาก" ให้ขยายความคือ เสียงแหลมๆของเด็กมันเป็น trigger ที่ทำให้เราปวดหัว ปวดหู ทำงานไม่ได้ หงุดหงิดและโมโหในที่สุด เวรกรรมของเราก็คือน้องเป็นเด็กที่กรี๊ดเสียงดังในทุกเวลา เช่น หิว เศร้า เรียกหา เล่นสนุก เรามีปัญหากับเขาเสมอ ไม่เคยว่าเขาตรงๆนะคะ เพราะเราเป็นคนที่ยั้งคำพูดและน้ำเสียงไม่ได้เวลาโมโห เลยจะแค่ออกหน้า จิ๊จ๊ะ ใส่หูฟังและเงียบๆไป เขารู้ว่าเราไม่โอเคเขาก็ไม่ได้เอามาบ่อยๆ แต่เวลาเอามาทีไรก็จะเป็นแบบนี้เสมอ แล้วเวลาลูกเขาเสียงดัง เขาก็แก้ปัญหาด้วยการพูดว่า 'เงียบสิ' 'ชู่ว' แค่นั้นเลยค่ะ แล้วก็ด้วยความเบบี๋ ไม่หยุดหรอก ก็ร้องต่อไป แต่พี่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
วันนี้ที่ทนไม่ไหวต้องมาระบาย คือพี่เขามาทำงานสาย 1 ชั่วโมง ไม่ผิดค่ะ 1 ชั่วโมงเต็ม ในช่วงที่เขายังไม่มาเราก็ต้องคอยรับสายแทน พอเขาโผล่มา ไม่มาคนเดียว จูงลูกมาด้วย แต่ลูกก็คือเริ่มโตละ พูดรู้เรื่อง เราก็เบาใจว่าคงไม่กรีดร้องเสียงดังแล้ว พี่เขาก็มานั่งโต๊ะ เซ็ทที่นอนให้น้อง แล้วหายไปอีก ระหว่างนั้นเราก็รับโทรศัพท์แทนตลอด 1 ชั่วโมงผ่านไป กลับมาพร้อมถุงขนมถุงข้าวเต็มมือ เหออออ ไอเราก็นึกว่าไปตามงานที่ฝากไว้ เปล่า ไปช็อปปิ้งว่ะ แล้วปัญหาก็เกิดต่อมาอีก คือลูกแม้จะพูดรู้เรื่อง แต่ก็เสียงดัง ส่งเสียงแหลมเสียดหูตลอดเวลา งอแงเอาโน่นไปนี่ แม่เขาก็ตามเดิมค่ะพูดแค่ ชู่ว เงียบ น้องก็เงียบให้ 2 วิ และงอแงต่อ พี่เขาจะไปเดินงานก็ร้องตาม ร้องหาโน่นนี่ตลอด เล่นเสียงดังตลอดทั้งวัน เราก็ทำใจหูฟังต้องเข้าแล้ว ณ จุดๆนี้ แต่ปัญหาต่อมาเมื่อใส่หูฟังตัดเสียง คือหัวหน้าสั่งงานแล้วไม่ได้ยิน ซวยเราไปอีก ช่วงพักเที่ยงเสียงดังหนักเลยคราวนี้ พอเริ่มงานช่วงบ่าย เขาหายไปเลยค่ะ เอาลูกไปเล่นอีกฝั่งของแผนก หายไปอีก 1 ชั่วโมง เราก็ต้องดึงสายรับโทรศัพท์แทน บ่ายสองเขาถึงมานั่งโต๊ะทำงาน พอบ่ายสองครึ่งเขาปิดคอมกลับบ้านไปเลย เรานี่แบบ อื้มมมมมม ต้องเป็นธุรการแทนอีกแล้วสินะ แล้วก็ไม่ผิดคาด มีคนโทรมาต้องดึงสายอีกจนเลิกงาน
คือไม่ไหวค่ะ งานเราแทบไม่เดิน เพราะ 1. ต้องคอยทำหน้าที่เป็นรักษาการธุรการแทนโดยปริยาย เอาจริงก็ไม่อยากรับค่ะ มันไม่ใช่หน้าที่เลย แต่ด้วยความที่แผนกอื่นเขาก็ต้องติดต่องานกับแผนกเราเสมอ ทำให้จำเป็นต้องช่วยจริงๆ 2. ลูกเขาเสียงดังรบกวนการทำงานเรามาก ที่น่าเกลียดคือเขาไม่พยายามหุบปากลูกเขาอย่างจริงจัง แค่ชู่วๆๆเฉยๆ
ไม่อยากถามว่าต้องทำยังไง แค่อยากหาที่ระบายค่ะ เพราะแฟนเราเขาไม่ฟังเราแล้ว เขารำคาญเราไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ เขาจะชอบบอกว่าเข้าใจเขาเถอะ อย่าไปว่าเขาเลย เลยขอพื้นที่เล็กๆตรงนี้ระบายความในใจค่ะ