ในวัย 25 ปี สุข ทุกข์ ร้าย ดี ของแต่ละคนเป็นอย่างไร?


ในวัย 25 ปี สุข ทุกข์ ร้าย ดี ของแต่ละคนเป็นอย่างไร?
สำหรับตัวผมนั้น...
.
วัย 25 ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ได้วิเศษวิโส ต้องพยายามทำให้น่าหวาดกลัว ด้วยความเชื่อบ้าบอคอแตกที่กล่าวอ้างกัน
.
แค่วัยหนึ่ง วันวัยที่ผลัดใบจากชีวิตก้าวเข้าสู่วัยทำงานได้  3-4 ปี 
.
เลข 3 ถึง 4 มีความหมาย เหมือนชีวิตจะขยับเขยื้อนอีกครั้งเมื่อถึงเวลาดังกล่าว 
เราเรียน ม.ต้น 3 ปี 
ปวช. 3 ปี 
มหา'ลัย 4 ปี 
ทุกการเปลี่ยนผ่านของชีวิตอยู่ในระยะเวลาที่ว่า
.
25 เป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ผ่านการใช้ชีวิตทำงานมาสักพัก จนตกตะกอนบางอย่างกับตัวเองได้บ้างว่า ชีวิตจะเดินไปทางไหน แต่ไม่ต้องรีบนัก นั่งพักมันตรงทางแยกก่อนก็ได้ ไม่มีโพเดียมรางวัลเกียรติยศสำหรับคนที่เดินนำหน้าไปก่อน
.
นั่งพักเพื่อทบทวน บางครั้งช่วงเวลาที่ผ่านมา เราก็ทำสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิตหล่นหาย เพื่อน ความรัก ครอบครัว ความฝัน ความทรงจำ 
.
และก็เป็นอีกวัยหนึ่งที่เราพยายามเก็บอะไรหลายอย่าง เข้ามาแบกไว้ในชีวิต เพียงเพื่อว่าหากใครสักคนมองเข้ามาหาเรา เขาจะได้เห็นว่าเราไม่ได้มีชีวิตกลวงเปล่า เหมือนเราพยายามสร้างตัวตนอย่างหนักหน่วงในช่วงเวลาวัย 25 
.
เลข 25 คือตรงกลางระหว่างเลข 2 กับเลข 3 ไม่ประหลาดนัก ถ้าเราจะมีความรู้สึกอึดอัดบางอย่างในช่วงเวลา อยากย้อนกลับไปสนุกแบบช่วงวัยรุ่นก็ทำไม่ได้ด้วยภาระหน้าที่ชีวิตค้ำคอ อยากมั่นคงในหน้าที่การงาน หรือชัดเจนในทางเดินชีวิตเหมือนคนที่โตกว่านี้ก็ยังไปไม่ถึง เพราะยังต้องอาศัยเวลาในการเคี่ยวกรำชีวิตให้มากขึ้น 
.
ถ้า 25 จะบอกอะไรสักอย่าง มันคงบอกให้เราอดทนอีกหน่อย เหมือนเครื่องบินที่จะทะยานจากรันเวย์ จำเป็นต้องอาศัยเวลาเพิ่มความเร็ว หลายสิ่งหลายอย่างจะชัดเจนขึ้นไม่พรุ่งนี้ก็เป็นอีกวัน แต่ไม่มีเครื่องบินลำไหน วิ่งอยู่บนรันเวย์ตลอดไป
.
ข้อดีของมันก็มี วัย 25 เปิดโอกาสให้ได้เลือก เราโตพอที่จะตัดสินใจชีวิตได้ด้วยตัวเอง และเราก็เด็กพอที่จะเสี่ยงโดยที่ไม่มีภาระผูกพันในชีวิตให้ต้องกังวล 
.
เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อหนึ่ง ที่ถ้าจะตัดสินใจทำอะไร ก็ไม่ควรรีรอ ก่อนที่เราจะหมดไฟในวัยเยาว์ และก่อนที่ความโหยหาความมั่นคงของชีวิต จะผูกเราไว้กับอะไรสักอย่าง ที่เราไปยึดติดกับมัน
.
ถ้าจะให้บอกอะไรสักหน่อย ในฐานะคนเพิ่งผ่านทางเดินหมายเลข 25 นี้มาหมาดๆ คงจะบอกว่าให้อดทน และมีความหวัง ชีวิตจะไม่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ตลอดไป เชื่อมั่นในชีวิต ไม่ว่าจะติดหล่ม หรือติดแหง็กอยู่ท่ามกลางปัญหาอะไรก็ตามชีวิตจะหาทางดิ้นออกไปด้วยตัวของมัน ให้เวลา ไม่ต้องเร่งรีบ เสพทั้งสุขและทุกข์ที่ชีวิตมอบให้ทุกช่วงเวลา 
.
และเชื่อเถอะว่าชีวิตไม่สามารถผ่านร้อน ผ่านหนาวได้โดยตัวคนเดียว ถ้าไม่ใช่นักบวชหรือคนปลีกวิเวกเป็นวิสัย เราควรมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง เพื่อนที่รักสักคนสองคน ครอบครัวที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์บางครั้งมันดีกว่าการไม่มีอยู่เลย คนรัก...คนรักที่ถ้ามีอยู่ การจับมือกันผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ ดีกว่าการปล่อยมือกัน การไม่มีมือใดให้จับในวันที่ผ่านมรสุมชีวิตเป็นเรื่องโหดร้าย
.
แต่ไม่เป็นไรนะ...ถ้าถึงวันนี้เราเผลอปล่อยมือใครไป ไม่ต้องเฆี่ยนตีตัวเองนัก เพราะในวัย 25 เรายังเดินทางมาไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ เรายังต้องผ่านการจับมือผู้คน และปล่อยมือเขาไปในอีกหลายครั้ง เพียงแค่วันนี้หากรู้ว่าฝ่ามือไหนของใคร ให้ความอบอุ่นแก่เรา เราคงต้องจับมือพวกเขาไว้ให้มั่น 
.
วัย 25 มีครั้งเดียว มันไม่ได้โหดร้ายน่ากลัว หรือมีสูตรสำเร็จให้ทุกคนได้ผ่าน และมันจะไม่มีวันผ่านไป ตัวเราในวัย 25 จะยังคงอยู่อย่างนั้นตลอดไป 
.
เราจักต้องลอกคราบชีวิต เปลือยความปรารถนา ความอ่อนแอ ความฝันออกมาให้หมด เพื่อยอมรับทั้งบาดแผลและความงดงาม ก่อนที่จะโยนบางอย่างทิ้งไป และเก็บเฉพาะสิ่งที่จำเป็นทั้งดีและร้าย ใส่ไว้ในกล่องความทรงจำ ก่อนเดินผ่านทางเดินหมายเลข 25 นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่