JJNY : สภาอุตฯ ห่วงค่าครองชีพพุ่งกำลังซื้อลด│หมอธีระห่วงตาบอดคลำช้าง│ก้าวไกลแนะเติมเงินทุกคน│ลูกชุมพลมอบตัวคดีซื้อกามดญ.

สภาอุตฯ ห่วงค่าครองชีพพุ่ง กำลังซื้อลด แนะรัฐลดภาษีน้ำมัน-ลดค่าไฟ-ออกคนละครึ่ง
https://ch3plus.com/news/economy/morning/290263
 
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทย และสมาคมธนาคารไทย ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ จะมีการหารือภาพรวมเศรษฐกิจการส่งออก อัตราเงินเฟ้อทั่วไป
 
ยอมรับว่าขณะนี้เอกชนมีความกังวลต่อปัจจัยลบหลายด้าน ที่มีแนวโน้มจะกดดันให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นซึ่งจะสะท้อนไปยังราคาสินค้าปรับขึ้นต่อเนื่องอันจะมีผลให้เงินเฟ้อของไทยสูงขึ้นอีก ซึ่งจะบั่นทอนกำลังซื้อของคนไทย แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะรับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลได้เปิดการท่องเที่ยว เต็มรูปแบบตั้งแต่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
 
แต่จากวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ กังวลว่าจะยิ่งทำให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นซึ่งทำให้กำลังซื้อลดลง จึงเห็นว่ารัฐควรจะขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 บาท/ลิตร ดังกล่าวไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน
 
ขณะเดียวกันค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ ได้ปรับขึ้นเมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐาน ต้องจ่ายถึง 4 บาท/หน่วย เหล่านี้ ล้วนมีผลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากค่าพลังงาน รวมทั้งมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ เช่น คนละครึ่ง เหล่านี้ระยะสั้นจำเป็นต้องมีแต่ระยะกลางและยาว เราต้องมองความยั่งยืนด้วยการสร้างงาน สร้างรายได้เพิ่มให้กับประชาชน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XsCx0i8-Jyc

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

  
หมอธีระ ห่วงตาบอดคลำช้าง แนะรายงานยอดโควิดรวม ATK ประเมินสถานการณ์จริง
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3333050

หมอธีระ ห่วงตาบอดคลำช้าง แนะรายงานยอดโควิดรวม ATK ประเมินสถานการณ์จริง
 
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก ระบุว่า
 
“9 พฤษภาคม 2565
 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 299,977 คน ตายเพิ่ม 611 คน รวมแล้วติดไปรวม 517,204,266 คน เสียชีวิตรวม 6,276,327 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอิตาลี
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 75.44 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 87.56
 
การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 47.92 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 35.51
…สถานการณ์ระบาดของไทย
 
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ถึงแม้ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนเสียชีวิตที่รายงานนั้นลดลงก็ตาม
 
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 24.88% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
 
…เปรียบเทียบจำนวนการตรวจ RT-PCR ต่อประชากร 1,000 คน
หากลองเทียบกันระหว่างประเทศที่ตอนนี้มีจำนวนการติดเชื้อใหม่รายวันสูงเป็น 10 อันดับแรก
 
จะพบว่าประเทศส่วนใหญ่จะเพิ่มกำลังการตรวจคัดกรองโรคด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR เพื่อเร่งควบคุมการระบาดภายในประเทศ
ในขณะที่ของไทยเรา ตั้งแต่ระลอกสอง สาม และสี่ในปัจจุบันนั้น จำนวนการตรวจต่อประชากร 1,000 คนนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและคงที่มาตลอด
เป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าการประเมินสถานการณ์การระบาดจริงนั้นจำเป็นที่จะต้องรวมจำนวนการตรวจด้วย ATK เข้ามาด้วย และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นขีดจำกัดของระบบการตรวจคัดกรองโรคที่จะรองรับการระบาดในอนาคตด้วย
 
…ด้วยข้อจำกัดเรื่องระบบการตรวจคัดกรอง และระบบการรายงานจำนวนการติดเชื้อ (รวมถึงการรายงานจำนวนการเสียชีวิตที่เห็นกันชัดเจนตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมา)
 
อาจต้องระวังให้ดี เพราะการวางแผนนโยบายด้วยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้เป็นแบบตาบอดคลำช้างได้ และเสี่ยงต่อภาวะคุกคามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยอาจส่งผลให้เกิดความสูญเสียและผลกระทบตามมาดังที่ได้บทเรียนจากระลอกอัลฟ่าและเดลต้า
 
ระบบรายงานจำนวนการติดเชื้อควรนำเสนอทั้ง RT-PCR และ ATK และจำนวนรวม เพื่อนำมาใช้ในการประเมินสถานการณ์ วางแผนมาตรการต่างๆ และจะทำให้ประชาชนในสังคมได้ตระหนักถึงสถานการณ์
 
เฉกเช่นเดียวกับจำนวนการเสียชีวิต ควรนำเสนอทั้ง Death from COVID-19 และ Death with COVID-19 และจำนวนรวม เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์จริง และสังคมได้รับรู้รายละเอียด เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติ ป้องกันตัวอย่างดีขึ้น
 
…สถานการณ์ปัจจุบัน การระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง กระจายทั่ว และมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดการระบาดปะทุขึ้นได้หลังจากเปิดประเทศ การป้องกันตัวระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันยังจำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ การใส่หน้ากากเสมอ คือหัวใจสำคัญ”
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10224294764869246
 

 
ก้าวไกล ห่วงสินค้าปรับราคายกแผง แนะรัฐเติมเงินทุกคน 1 พันต่อเดือน
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7038276
 
“ศิริกัญญา” ห่วง ราคาสินค้าทยอยปรับขึ้นแบบหน้ากระดาน ส่งผลเศรษฐกิจชะลอตัว เสนอรัฐบาลแก้ปัญหาค่าครองชีพ เติมเงินเข้ากระเป๋าปชช.โดยตรง 1,000 บาทต่อเดือน
 
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีปัญหาสินค้าราคาแพงว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน เม.ย. ซึ่งลดลงมาเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 4.65% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.2564
 
ซึ่งเดือน เม.ย.มีการปรับขึ้นราคาสินค้าแบบหน้ากระดาน 270 กว่ารายการ มีรายการใหม่ที่เพิ่งปรับขึ้น 182 รายการ แต่เมื่อเข้าสู่เดือนพ.ค.พบว่าสินค้ากำลังทยอยปรับราคาขึ้นแบบหน้ากระดาน เช่น ไข่ไก่เบอร์ 4 ขึ้นเป็น 4 บาทต่อฟอง หมูเนื้อแดง ขึ้นไปแตะ 200 บาทต่อกิโลกรัม มาม่าที่แม้รัฐบาลจะขอร้องผู้ประกอบการให้ตรึงราคาแต่ก็อั้นไม่ไหวแล้ว โดยมีทีท่าจะปรับขึ้นเป็น 7 บาทต่อซอง รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง เบียร์ น้ำมันปาล์มขวด น้ำมันดีเซล แก๊สหุงต้ม
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า การขึ้นราคาสินค้าแบบหน้ากระดานน่ากังวลใจเป็นอย่างยิ่ง และพิสูจน์ให้เห็นว่ามาตรการที่รัฐบาลใช้อยู่ตอนนี้ คือการอุดหนุนเฉพาะบางสินค้าจนอุดหนุนไม่ไหว เพราะไม่ได้มีปัญหาเฉพาะราคาพลังงานเท่านั้น แต่สงครามยูเครน-รัสเซีย ยังทำให้ราคาอาหารสัตว์และสินค้าอื่นๆ พุ่งขึ้นไปด้วย และนี่จะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการขึ้นราคาสินค้า ทั้งนี้ หากดูฝั่งเงินเฟ้อที่เป็นราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่ายขึ้นเพียงแค่ 4.65% เท่านั้น
 
แต่ฝั่งต้นทุนของผู้ประกอบการ ขึ้นไปถึง 12.8% แล้ว เท่ากับว่าการที่ราคาสินค้ายังไม่ขึ้นตอนนี้ ทางฝั่งผู้ประกอบการเป็นผู้แบกรับ แต่ไม่สามารถส่งผ่านราคามาที่ผู้บริโภคได้ เนื่องจากกำลังซื้อหดหายหรือหากขึ้นราคาก็ขายไม่ได้อยู่ดี จึงเป็นภาวะที่เศรษฐกิจน่าจะมีการชะลอตัวเป็นอย่างมากจากปัญหาค่าครองชีพ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาแค่ผู้บริโภค แต่ผู้ประกอบการที่รับสินค้ามาขาย เมื่อทางต้นทางขึ้นราคาสินค้า แต่ไม่สามารถขึ้นราคาต่อได้ก็จะเป็นความยากลำบากสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยที่จะทำมาหากินในช่วงเวลาแบบนี้
 
“สิ่งที่เราเรียกร้องและอยากฝากคำถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คือ ต่อจากนี้จะมีมาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชนอีกหรือไม่ ท่านจะทำเพียงแค่ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเพื่อตรึงราคาสินค้าเพียงอย่างเดียวต่อไปหรือไม่ เพราะเราพบแล้วว่ามันทำไม่ได้จริง
 
แม้แต่เงินที่จะใช้อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลตอนนี้ก็หมดลงแล้ว กองทุนน้ำมันติดลบไปแล้ว 56,000 ล้านบาท ถึงจะมีผู้เสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติมก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะสถานะทางการคลังล่าสุด ไตรมาสแรกของปี 2565 พบว่า เงินที่รัฐจัดเก็บได้ สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วเพียงแค่พันกว่าล้านบาท ถ้ารัฐตัดสินใจลดภาษีสรรพสามิตลงอีกก็อาจจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณได้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เราจึงเสนอว่า จำเป็นต้องมีการเติมเงินทางฝั่งรายได้ใส่กระเป๋าประชาชน โดยการช่วยเหลือค่าครองชีพโดยตรง 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเงินสดหรือเติมผ่านแอปฯ แบบที่รัฐบาลถนัดก็ได้ ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เนื่องจากสินค้าขึ้นราคาหน้ากระดาน ไม่สามารถช่วยเหลือเป็นกลุ่มๆ แบบเดิมอีกต่อไป ถ้าเราเติมค่าครองชีพให้ประชาชน ธุรกิจรายเล็กรายย่อยที่รับสินค้ามาราคาแพงอยู่แล้วก็จะสามารถขายราคาที่แพงขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะงักงันแบบทุกวันนี้
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า ต้นเดือนมิ.ย. จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีจงบประมาณ พ.ศ.2566 วาระที่ 1 ซึ่งจะเป็นงบก้อนสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อจัดสรรงบฯ มา 4 ปีแล้วยังไม่ตรงใจ ตรงจุด ตรงเป้าแบบที่ประชาชนต้องการ พรรคก้าวไกลขอเชิญทุกคนเข้าร่วมโครงการ Hackathon งบ 66 งบประมาณแบบไหนที่ประชาชนอยากได้ ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 28-29 พ.ค. ท่านใดที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่