ประสบการณ์เฉียดตายจากการท้องนอกมดลูก

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกหลังจากที่สิงตัวเองอยู่ในพันทิปมานาน ปกติแค่อ่านกระทู้ของคนอื่นๆเท่านั้น ที่ตั้งใจมาตั้งกระทู้เพราะเป็นคำนำของคุณสามีที่เราน่าจะแชร์ประสบการณ์ที่เราประสบพบเจอมาให้กับคนอื่นๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาอ่าน ก็เลยตัดสินใจเขียนกระทู้นี้ค่ะ ยาวหน่อยนะคะ

เจ้าของกระทู้อายุ 36 ปี แต่งงานมาได้ 6 ปีแล้วค่ะ เราทั้งคู่ตัดสินใจปรึกษาคุณหมอเรื่องมีลูกด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) ตั้งแต่ต้นปี 64 เนื่องจากเจ้าของกระทู้ท่อนำไข่ตีบทั้งสองข้างทำให้ไม่สามารถมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติได้ (ตรวจเจอตอนผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่กลางปี63) แต่ติดเรื่องโควิดระบาดก็เลื่อนกันไปมา จนเริ่มกระบวนการจริงๆได้ตอนมกราคมปี 65

เราก็ดำเนินการตามคำแนะนำของคุณหมอ มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ประเมิณเรื่องฮอร์โมน ทำอัลตร้าซาวน์ และตรวจพื้นฐานอื่นๆที่คุณหมอแนะนำ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ จนวันที่ 28 กพ 65 เราไปฉีดตัวอ่อนกลับเข้ามดลูก (เราฉีดในระยะ day3) คุณหมอแจ้งว่าได้ตัวอ่อนทั้งหมด 2 ตัว (จากการเก็บไข่ได้ 2 ฟองถ้วน) ตัวอ่อนสุขภาพปกติอยู่ในเกณฑ์ 1 ตัว ส่วนอีกตัวค่อนข้างโตช้า แต่ก็ฉีดกลับเผื่อเค้าจะมีโอกาสไปโตต่อในร่างกายของเรา คุณหมอนัดตรวจฮอร์โมนการตั้งครรภ์อีกครั้งใน 2 สัปดาห์ถัดไป คือวันที่ 14 มีนาคม ก่อนกลับฉีดยากันแท้ง 1 เข็ม

หลังจากกลับมาบ้านเราปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่าง ลางาน 3 วันเพื่อลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น เดินให้น้อย พักผ่อนให้มาก สามีดูแลดีทุกอย่าง ร่างกายของเราเป็นปกติทุกอย่าง ไม่มีอาการที่จะบ่งบอกเลยว่าท้อง เลยค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าท้อง ก็คุยกับสามีถ้าไม่ท้องก็ไม่เป็นไร ทำใจไว้ประมาณนึง ระหว่างนี้ก็แข็งใจไม่ซื้อที่ตรวจมาตรวจกะว่าไปลุ้นเอาวันที่ฟังผลทีเดียว

และแล้ววันนั้นก็มาถึง เช้าวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม ก็ตื่นเต้นนิดหน่อย ไปตรวจเลือดแต่เช้า และนั่งรอผลอยู่นานพอสมควร แล้วคุณหมอแจ้งว่า ยินดีด้วย ก็คือ ท้อง ด้วยค่าฮอร์โมน BHCG  868 ตอนนั้นแอบตกใจ หูดับไปเรียบร้อย หมอพูดอ่ะไรไม่ได้ยินเลยเบลอๆ งงๆ มีแต่สามีที่คุยอยู่ กลับบ้านมาพร้อมฉีดยากันแท้ง และยาอื่นๆที่คุณหมอให้ใช้ระหว่างนี้ นัดอีกที 3 สัปดาห์ คือ วันที่ 1 เมษา เพื่อตรวจดูว่าพบถุงตั้งครรภ์หรือไม่

กลับมาบ้าน็ยังงงกับตัวเอง นี้เราท้องจริงๆแล้วใช่ไหมพอตั้งสติได้ เราดูแลตัวเองอย่างดีปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอ ทานยา ฉีดยา สอดยาตรงเวลา ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ หน้าเป็นสิวหนักมาก แต่ก็อดทนไม่กล้าใช้ยาอ่ะไรเพราะกลัวว่าจะส่งผลกับลูก จนเช้าวันที่ 17 มีนาอยู่ดีๆก็เลือดออก แต่มันออกสีน้ำตาลเข้มๆ ตกใจมากบอกสามีว่าเลือดออก แต่ผ่านไป 1 ชม เลือดก็หยุดไหลไปเอง แต่เราก็ยังกังวลอยู่เลยโทรไปถาม รพ. ว่าอาการแบบนี้เป็นอ่ะไรไหม พยาบาลแจ้งว่าไม่น่ามีอ่ะไรอาจจะเป็นไปได้ที่ตัวอ่อนกำลังฝังตัว และช่วง 12 สัปดาห์แรกการมีเลือดออกก็พบได้บ่อย แนะนำให้พักผ่อนเยอะๆ เราก็โอเคเพราะเลือดก็หยุดไหลแล้ว เลยค่อนข้างวางใจ

ทุกอย่างผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ ช่วงเช้าวันที่ 23 มีนา เลือดก็ออกอีกที่นี้หนักกว่าเดิม เลือดที่ออกเป็นสีแดงสด และมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย มันปวดหน่วงๆเหมือนเราปวดประจำเดือนกับปวดอุจจาระปนกัน และเราคิดว่านี่ไม่ปกติแน่ๆ เลยโทรให้สามีพาไปส่ง รพ. ใกล้บ้าน เราถูกนำเข้าห้องฉุกเฉินเพราะเราบอกว่าเราปวดมาก และก็ถูกส่งต่อไปทำอัลตร้าซาวน์กับคุณหมอสูติระหว่างทำอัตราซาวน์คุณหมอพบถุงตั้งครรภ์ 1 ใบในมดลูกแต่ยังไม่เห็นหัวใจ แต่คุณหมอพบว่าปีกมดลูกด้านขวามันบวมๆเหมือนมีการอักเสบ และหมอสงสัยว่าอาจจะเป็นถุงน้ำหรืออาจจะเป็นการตั้งครรภ์แฝดที่มีการตั้งครรภ์ทั้งในมดลูกและนอกมดลูกพร้อมกัน ซึ่งเคสนี้พบเจอได้น้อยมากๆและถ้าใช่ก็จะรักษายากมากๆเช่นกัน ส่วนใหญ่คือต้องยุติการตั้งครรภ์ แต่เนื่องจากด้วยความที่ครรภ์อ่อนมากๆ หมอก็ไม่สามารถยืนยันได้ แต่หมอก็บอกว่าต้องแอดมิทเพื่อดูอาการ และถ้าอาการแย่ลงฉุกเฉินจะต้องผ่าตัดทันที ตอนนั้นรู้สึกกังวลมากๆ ร้องไห้และเสียใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น คิดว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับครอบครัวของเรา จนสามีต้องเข้ามาปลอบแล้วก็บอกกับเราว่า เราทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว หลังจากนี้อ่ะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิดมันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้

สิ่งที่แปลกมากๆ คือ หลังจากทำอัลตร้าซาวน์ กลับมานอนพักในห้องพักที่ รพ. เลือดก็หยุดไหล ไม่มีอาการปวดท้อง ทุกอย่างดูเหมือนกลับมาปกติอย่างแปลกประหลาด คุณหมอเลยให้กลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น และเราตัดสินใจกลับไปที่ รพ. ที่เราทำเด็กหลอดแก้วเพื่อขอคำแนะนำจากคุณหมอเจ้าของไข้อีกครั้ง

เราตรงดิ่งไป รพ. ที่ทำเด็กหลอดแก้ว แต่วันนั้นคุณหมอเจ้าของไข้ไม่เข้าจึงเป็นทีมแพทย์ที่ช่วยดูแลแทน ซึ่งเค้าก็แจ้งว่าพบถุงตั้งครรภ์ 1 ถุงในตำแหน่งที่ปกติอยู่ในมดลูก เห็นหัวใจกะพริบเบาๆแล้ว (ตอนนั้นน่าจะอายุครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์) และก็เห็นว่าปีกมดลูกด้านขวาบวมเหมือนกันซึ่งก็บอกไม่ได้ว่าเป็นการท้องนอกมดลูกหรือไม่ เพราะอายุครรภ์น้อยมากๆ และระหว่างนี้ให้กลับไปดูอาการที่บ้าน ถ้ามีอาการปวดท้อง หรือเลือดออกก็ให้มา รพ ทันที คุณหมอนัดให้มา รพ ตามนัดเก่า คือ วันที่ 1 เมษายน ตอนนั้นบอกเลยว่ากังวลมากๆ

เรากลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน ยังทานยา ฉีดยาเหมือนเดิมตามคำแนะนำ ซึ่งอาการก็ปกติมาตลอด จนมาเช้าวันที่ 30 มีนา อยู่ดีๆเราก็รู้สึกปวดท้องเล็กน้อย รู้สึกเหมือนจะเป็นประจำเดือน แต่ก็ไม่ได้มาก ผ่านไปซักครึ่งชั่วโมงเข้าห้องน้ำ ปรากฎว่ามีเลือดออก แบบเลือดสดเหมือนเป็นประจำเดือน ตอนนั้นใจคอไม่ดีเลยคิดเลยว่าครั้งนี้ไม่รอดแน่ๆ แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากนั้นเลือดเราออกเหมือนประจำเดือน ต้องใส่ผ้าอนามัย มีลิ่มเลือดออกมา ตอนนั้นร้องไห้หนักมากอยู่ในห้องน้ำ จนสามีต้องเข้ามาปลอบ เพราะรู้เลยว่าลูกไม่อยู่กับเราแน่ๆ ซักพักก็มีลิ่มเลือดพร้อมกับเศษเนื้อลักษณะเหมือนพุงปลาหลุดออกมา (ซึ่งก็คือถุงตั้งครรภ์) มันยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเราเสียลูกแล้วจริงๆ เราไป รพ.ใกล้บ้าน และคุณหมอทำการตรวจก็ไม่เจอถุงตั้งครรภ์อีกแล้วก็คือ เราแท้งซึ่งเป็นการแท้งแบบสมบูรณ์ เพราะถุงตั้งครรภ์หลุดออกไปแล้ว หมอยังเจอว่าเลือดยังค้างอยู่เยอะพอสมควร ปีกมดลูกด้านขวาดูบวม หมอทดสอบด้วยการกดท้องแล้วถามว่าปวดไหม ตอนนั้นเราไม่ปวดเลย พอกดแล้วปล่อยมือก็ไม่ปวด หมอก็ให้กลับมาพักที่บ้านรอจนกว่าเลือดจะหยุดไหล และระหว่างนี้ถ้าเลือดออกเยอะมากผิกปกติหรือปวดท้องมากผิดปกติให้รีบมา รพ. ทันที

เรากลับบ้านมาพร้อมใจที่บอบช้ำอย่างหนัก เลือดเรายังออกอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ยังมีอาการปวดท้องร่วมอยู่ ซึ่งตอนนั้นเราก็เข้าใจว่ามันคงเป็นอาการปกติของคนที่แท้งลูก มันไม่ได้ปวดมากขนาดทนไม่ไหว เลือดที่ออกก็ไม่เยอะจนน่าตกใจ เราเลยเข้านอนแต่หัวค่ำ แต่รู้สึกตัวตื่นตอนตีสาม เพราะปวดท้องหนักมาก ลุกออกมาจากเตียงคือเดินตัวงอเข้าห้องน้ำ มันปวดหน่วงๆจนเดินแทบไม่ไหว นั่งอยู่ในห้องน้ำแล้วก็เหมือนภาพตัดไปเลย รู้สึกตัวอีกทีเหมือนหัวตัวเองพิงอยู่กับอ่ะไรบางอย่างก็คือ สามีเข้ามาในห้องน้ำแล้วยืนให้หัวเราพิงที่ตัวเค้าอยู่ ตอนนั้นสามีบอกว่าเค้าได้ยินเสียงเหมือนของตกในห้องน้ำ เรียกชื่อเราก็ไม่ตอบ เลยเปิดเข้าไปเห็นเราเป็นลมอยู่ในสภาพที่นั่งอยู่บนชักโครก คอพับ สภาพเราแย่มาก ซีด เหงื่ออกทั้งตัว และมือสั่นเหมือนชัก ซึ่งเค้าตกใจมาก 

<ต่อที่ความคิดเห็นนะคะ>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่