สวัสดีค่ะทุกคน
Update เรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเลยตั้งแต่คลอดน้องคนแรกค่ะ ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่บูมคลอดลูกคนแรก (คลอดที่กทม.ไม่ได้คลอดที่หาดใหญ่กับหมอสมนึก) หลังผ่าคลอดในครั้งนั้นส่งผลให้ภายในไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ มีพังผืด และถุงน้ำ และไปทำให้ท่อนำไข่ผิดรูปอีกแล้ว แต่.....บูมไม่เคยทราบ เพราะหลังจากที่คลอดก็ปั๊มนมให้ลูกทานจนเกือบ3 ปี แล้วเพิ่มมาตัดสินใจปล่อยให้มีน้องคนที่2 และก็เป็นตามที่หวังไว้เลยค่ะ พอปล่อยให้ท้องปุ๊ปก็ติดเลยค่ะ (ช่วงเดือนเมษายน 2562) แต่เป็นการท้องนอกมดลูก (ครั้งที่1) ฝังตัวที่ท่อนำไข่ฝั่งซ้าย (ทราบเพราะไปฝากครรภ์ไม่เจอถุงตั้งครรภ์และบวกกับอายุครรภ์ที่ยังน้อยเลยไม่เจอ) จู่ๆวันนึงเกิดอาการปวดท้องแบบรุนแรง ตัวงอ เดินไม่ได้ เข้าสู่กระบวนการรักษา (หมอที่กทม.) หมอวินิจฉัยว่าท้องนอกมดลูกและต้องตัดท่อออก1ข้าง อย่างเร่งด่วน เพราะไม่งั้นถ้าท่อแตกจะอันตรายได้ เลยต้องรีบตัดสินใจผ่าด่วนวันนั้นเลยค่ะ (ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องเหมือนผ่าคลอดทุกอย่างแค่ไม่มีลูกออกมา) หมอบอกให้พัก 2 -3 เดือนค่ะ แล้วบูมก็ลองปล่อยอีกครั้ง ในเดือนมิ.ย.62 ก็ติดอีกค่ะ (ท้องที่3) ท้องรอบนี้บูมตรวจเจอแล้วรีบมาติดตามอาการตลอดเลยค่ะ ผลก็เหมือนเดิมอีก ค่าเลือด HCG สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่เจอถุงตั้งครรภ์ หมอ(กทม.)วินิจฉัย เหมือนเดิมเลยค่ะ ท้องนอกมดลูก(ครั้งที่2) รอบนี้น้องฝังตัวฝั่งขวา (ที่เหลือท่อนำไข่อยู่ข้างเดียว) แต่......รอบนี้บูมยังไม่มีอาการปวดท้องเลย โทรติดต่อกลับไปขอแนวทางการรักษาที่หมอสมนึก (หาดใหญ่) หมอแจ้งว่าหากอายุครรภ์ยังไม่มาก แล้วหมอวินิจฉัยแล้วว่านอกมดลูก สามารถฉีดยาสลาย(methotrexate)ได้ ไม่จำเป็นต้องตัดท่อทิ้ง หมอแนะนำว่าให้ลองปรึกษาหมอที่รักษาว่ทขอเป็นฉีดยาสลายได้ไหม จะได้ไม่ต้องตัดท่ออีกข้างอีก ตอนนั้นคิดว่าอยากจะมารักษากับหมอแต่ต้องมาคอยติดตามบ่อยหน่อยเราไม่สะดวกแน่ๆ ต้องบินไป 2วันครั้งๆ จนกว่าค่าเลือดHCGจะลดลงในระดับปกติ(เหมือนท้องแรกแน่ๆ) เลยลองสอบถามที่หมอที่ไปรักษามา (ต้องบอกว่าตอนนั้นหาหมอ 3คน 3รพ.เลยค่ะ) หมอที่1และที่2 แจ้งว่าที่รพ.ไม่มียาฉีดสลายตัวนี้ (methotrexate) เลยมาหาหมอที่3 เล่าเรื่องราวให้แกฟัง ที่รพ.ก็ไม่มียาตัวนี้ แต่....มีที่รพ.ภูมิพล เดี๋ยวหมอจะทำเรื่องส่งตัวให้ โอ้ยยยย...เหมือนน้ำชโลมใจเลยค่ะนาทีนั้น รีบขอใบส่งตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ต้องไปรพ.หลายรอบเลยค่ะ เพื่อตรวจเลือด check-up และเข้ารับการฉีดยาสลาย (methotrexate) เป็นการฉีดเข้าสะโพกปกติเลยค่ะ และนอนดูอาการ ไม่กี่วันก็จะมีเลือดคล้ายๆประจำเดือนออกมาค่ะ ในระหว่างนั้นต้องคอยติดตาม เจาะเลือดดูค่าHcg ด้วยว่าลดลงหรือไม่ เพื่อจะได้มาฉีดเข็มที่2 แต่ในเคสบูม ฉีดเข็มแรกก็เริ่มเห็นผลค่ะ พอติดตามผลเลือดเรื่อยๆ ค่าเลือดลดลงในระดับที่ปกติ ก็ปิดแผนการมีลูกคนที่2 เลยค่ะ ไม่เอาแล้วววว กลัวแล้ววววว เข็ดแล้ววววว เจ็บเยอะแล้วววววว😅😅
แต่.....................หลังจากจบสิ้นการรักษาบูมก็หมั่นสังเกตตัวเองบ่อยๆค่ะ ว่าเอ๊ะ...ปกติประจำเดือนของเราจะมา5วันแล้วหมดสนิท เป๊ะๆ แต่ในรอบหลังจากการรักษาเหมือนประจำเดือนจะหมดช้าลง (มาปกติๆ5วัน นอกจากนั้นมาแบบกระปิดกระปอยติดแผ่นอนามัย) จาก5วันเป็น 10วัน และเป็น 14วัน และเป็นเลือดสีคล้ำๆ มีกลิ่น เลยกลับมาหาหมอสมนึกอีกครั้ง (กุมภาพันธ์ 64) หมอวินิจฉัยว่าอาการที่เราเป็นเกิดจากมีพังพืดเกาะเยอะมาก และมีถุงน้ำอยู่ด้านในขนาดเริ่มจะใหญ่ และมันส่งผลให้เวลาประจำเดือนมามันจะไหลย้อนกลับขึ้นไปออกมาไม่หมดมีเลือดเก่าอยู่ภายในถุงด้วย หมอแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการส่องกล้อง เราเลยตัดสินใจจะมารักษาเลยค่ะ แต่.......ตอนนั้นสถานการณ์โควิด ทำให้การเดินทางไม่สะดวกและเดินทางลำบาก เลยยังไม่ได้รักษา พอเดือนกันยายน (2564) เริ่มเดินทางได้เราก็มารักษาเลยค่ะ ผ่าตัดใหญ่ดมยาอีกแล้ว ระยะเวลา การรักษา2วัน1คืน หมอก็รักษาทั้งพังผืดและถุงน้ำเคลียจนหมดและให้CD เรากลับมาดูด้วย (น่ากลัวมากๆเลยค่ะ ยิ่งตอนที่หมอคีบทะลวงถุงน้ำ😅😅) รอบนี้ไม่ค่อยเจ็บ รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ห้องพักฟื้นแล้ว จบการรักษาบูมก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลยค่ะ
***รอบนี้คือทานยาคุม ไม่กล้าท้องอีก กลัวไปเลย***
แต่..........จู่ๆเดือน ธันวาคม(2564) ประจำเดือนขาด เลยลองเอาที่ตรวจตั้งครรภ์มาตรวจเล่นๆ เพราะคิดว่าน่าจะเพราะฮอร์โมน ไม่ท้องแน่ๆเพราะยาคุมเราก็ทานไม่ขาด แต่ผลกลับคาดไม่ถึงเลยค่ะ จุ่มตรวจปุ๊ป 2ขีด วิ่งตามกันมาติดๆกันเลย ท้องงงงงงงงอีกแล้วววว!!!!!! ตอนั้นภาพแรกที่แวปเข้ามาคือนอกมดลูกอีกแล้วแน่ๆเลย คิอไปต่างๆนาๆสารพัด รีบไปหาหมอเลยค่ะ และหมอ(กทม.) ซาวน์ปุ๊ปเจอถุงตั้งครรภ์เลยค่ะ ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย ไม่นอกมดลูกแล้ว ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเสียใจอีกแล้ว เหมือนได้ปลดปล่อยความวิตกกังวล คบสามเครียดเลยค่ะ เลยรีบหาไฟล์บินไปให้หมอสมนึกตรวจอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก็ตามคาดไว้เลยค่ะ ท้องเองธรรมชาติ เด็กฝังตัวตำแหน่งปกติ สมบูรณ์ตามเกณฑ์เลยค่ะ โล่งอกไปเลย ไม่ต้องปวดท้องฉับพลันรุนแรง ไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆเพื่อรอการรักษาอีก ฝากครรภ์ตามปกติเลยค่ะ
***จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทำให้รู้ว่า ตั้งแต่ผ่าตัดต่อท่อ ท่อก็ไม่กลับไปตันอีก เพราะจากการท้องธรรมชาติ 4ท้องเลย และการคอยสังเกตอาการผิดปกติของเราแล้วรีบรักษา โชคดีมากๆค่ะที่บูมรักษากับหมอทัน กลัวอะไรมันจะกลายเป็นอย่างอื่น ถือว่าการรักษาแต่ละครั้งคิดไม่ผิดเลยค่ะ***
สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะคะ กว่าจะมีลูกสักคนไม่ง่ายเลยจริงๆ จะให้ท่อตัน หรือตีบ อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ อย่างน้อยเราก็ยังมีทางเลือกในการรักษา
....จากบูมคนเดิมที่เคยท่อตันทั้ง2ข้าง หมอบอกเสมือนเป็นหมัน ไม่สามารท้องเองได้ ตอนนี้ท่อไม่ตันและท้องเองได้เหมือนคนอื่นแล้วค่ะ....❤️❤️
Updateต่อจากกระทู้ที่1 ตอนนี้ท้องที่4 และลูกคนที่2 (จากผู้ที่เคยท่อนำไข่ตันแล้วท้อง)
Update เรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเลยตั้งแต่คลอดน้องคนแรกค่ะ ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่บูมคลอดลูกคนแรก (คลอดที่กทม.ไม่ได้คลอดที่หาดใหญ่กับหมอสมนึก) หลังผ่าคลอดในครั้งนั้นส่งผลให้ภายในไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ มีพังผืด และถุงน้ำ และไปทำให้ท่อนำไข่ผิดรูปอีกแล้ว แต่.....บูมไม่เคยทราบ เพราะหลังจากที่คลอดก็ปั๊มนมให้ลูกทานจนเกือบ3 ปี แล้วเพิ่มมาตัดสินใจปล่อยให้มีน้องคนที่2 และก็เป็นตามที่หวังไว้เลยค่ะ พอปล่อยให้ท้องปุ๊ปก็ติดเลยค่ะ (ช่วงเดือนเมษายน 2562) แต่เป็นการท้องนอกมดลูก (ครั้งที่1) ฝังตัวที่ท่อนำไข่ฝั่งซ้าย (ทราบเพราะไปฝากครรภ์ไม่เจอถุงตั้งครรภ์และบวกกับอายุครรภ์ที่ยังน้อยเลยไม่เจอ) จู่ๆวันนึงเกิดอาการปวดท้องแบบรุนแรง ตัวงอ เดินไม่ได้ เข้าสู่กระบวนการรักษา (หมอที่กทม.) หมอวินิจฉัยว่าท้องนอกมดลูกและต้องตัดท่อออก1ข้าง อย่างเร่งด่วน เพราะไม่งั้นถ้าท่อแตกจะอันตรายได้ เลยต้องรีบตัดสินใจผ่าด่วนวันนั้นเลยค่ะ (ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องเหมือนผ่าคลอดทุกอย่างแค่ไม่มีลูกออกมา) หมอบอกให้พัก 2 -3 เดือนค่ะ แล้วบูมก็ลองปล่อยอีกครั้ง ในเดือนมิ.ย.62 ก็ติดอีกค่ะ (ท้องที่3) ท้องรอบนี้บูมตรวจเจอแล้วรีบมาติดตามอาการตลอดเลยค่ะ ผลก็เหมือนเดิมอีก ค่าเลือด HCG สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่เจอถุงตั้งครรภ์ หมอ(กทม.)วินิจฉัย เหมือนเดิมเลยค่ะ ท้องนอกมดลูก(ครั้งที่2) รอบนี้น้องฝังตัวฝั่งขวา (ที่เหลือท่อนำไข่อยู่ข้างเดียว) แต่......รอบนี้บูมยังไม่มีอาการปวดท้องเลย โทรติดต่อกลับไปขอแนวทางการรักษาที่หมอสมนึก (หาดใหญ่) หมอแจ้งว่าหากอายุครรภ์ยังไม่มาก แล้วหมอวินิจฉัยแล้วว่านอกมดลูก สามารถฉีดยาสลาย(methotrexate)ได้ ไม่จำเป็นต้องตัดท่อทิ้ง หมอแนะนำว่าให้ลองปรึกษาหมอที่รักษาว่ทขอเป็นฉีดยาสลายได้ไหม จะได้ไม่ต้องตัดท่ออีกข้างอีก ตอนนั้นคิดว่าอยากจะมารักษากับหมอแต่ต้องมาคอยติดตามบ่อยหน่อยเราไม่สะดวกแน่ๆ ต้องบินไป 2วันครั้งๆ จนกว่าค่าเลือดHCGจะลดลงในระดับปกติ(เหมือนท้องแรกแน่ๆ) เลยลองสอบถามที่หมอที่ไปรักษามา (ต้องบอกว่าตอนนั้นหาหมอ 3คน 3รพ.เลยค่ะ) หมอที่1และที่2 แจ้งว่าที่รพ.ไม่มียาฉีดสลายตัวนี้ (methotrexate) เลยมาหาหมอที่3 เล่าเรื่องราวให้แกฟัง ที่รพ.ก็ไม่มียาตัวนี้ แต่....มีที่รพ.ภูมิพล เดี๋ยวหมอจะทำเรื่องส่งตัวให้ โอ้ยยยย...เหมือนน้ำชโลมใจเลยค่ะนาทีนั้น รีบขอใบส่งตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ต้องไปรพ.หลายรอบเลยค่ะ เพื่อตรวจเลือด check-up และเข้ารับการฉีดยาสลาย (methotrexate) เป็นการฉีดเข้าสะโพกปกติเลยค่ะ และนอนดูอาการ ไม่กี่วันก็จะมีเลือดคล้ายๆประจำเดือนออกมาค่ะ ในระหว่างนั้นต้องคอยติดตาม เจาะเลือดดูค่าHcg ด้วยว่าลดลงหรือไม่ เพื่อจะได้มาฉีดเข็มที่2 แต่ในเคสบูม ฉีดเข็มแรกก็เริ่มเห็นผลค่ะ พอติดตามผลเลือดเรื่อยๆ ค่าเลือดลดลงในระดับที่ปกติ ก็ปิดแผนการมีลูกคนที่2 เลยค่ะ ไม่เอาแล้วววว กลัวแล้ววววว เข็ดแล้ววววว เจ็บเยอะแล้วววววว😅😅
แต่.....................หลังจากจบสิ้นการรักษาบูมก็หมั่นสังเกตตัวเองบ่อยๆค่ะ ว่าเอ๊ะ...ปกติประจำเดือนของเราจะมา5วันแล้วหมดสนิท เป๊ะๆ แต่ในรอบหลังจากการรักษาเหมือนประจำเดือนจะหมดช้าลง (มาปกติๆ5วัน นอกจากนั้นมาแบบกระปิดกระปอยติดแผ่นอนามัย) จาก5วันเป็น 10วัน และเป็น 14วัน และเป็นเลือดสีคล้ำๆ มีกลิ่น เลยกลับมาหาหมอสมนึกอีกครั้ง (กุมภาพันธ์ 64) หมอวินิจฉัยว่าอาการที่เราเป็นเกิดจากมีพังพืดเกาะเยอะมาก และมีถุงน้ำอยู่ด้านในขนาดเริ่มจะใหญ่ และมันส่งผลให้เวลาประจำเดือนมามันจะไหลย้อนกลับขึ้นไปออกมาไม่หมดมีเลือดเก่าอยู่ภายในถุงด้วย หมอแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการส่องกล้อง เราเลยตัดสินใจจะมารักษาเลยค่ะ แต่.......ตอนนั้นสถานการณ์โควิด ทำให้การเดินทางไม่สะดวกและเดินทางลำบาก เลยยังไม่ได้รักษา พอเดือนกันยายน (2564) เริ่มเดินทางได้เราก็มารักษาเลยค่ะ ผ่าตัดใหญ่ดมยาอีกแล้ว ระยะเวลา การรักษา2วัน1คืน หมอก็รักษาทั้งพังผืดและถุงน้ำเคลียจนหมดและให้CD เรากลับมาดูด้วย (น่ากลัวมากๆเลยค่ะ ยิ่งตอนที่หมอคีบทะลวงถุงน้ำ😅😅) รอบนี้ไม่ค่อยเจ็บ รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ห้องพักฟื้นแล้ว จบการรักษาบูมก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลยค่ะ
***รอบนี้คือทานยาคุม ไม่กล้าท้องอีก กลัวไปเลย***
แต่..........จู่ๆเดือน ธันวาคม(2564) ประจำเดือนขาด เลยลองเอาที่ตรวจตั้งครรภ์มาตรวจเล่นๆ เพราะคิดว่าน่าจะเพราะฮอร์โมน ไม่ท้องแน่ๆเพราะยาคุมเราก็ทานไม่ขาด แต่ผลกลับคาดไม่ถึงเลยค่ะ จุ่มตรวจปุ๊ป 2ขีด วิ่งตามกันมาติดๆกันเลย ท้องงงงงงงงอีกแล้วววว!!!!!! ตอนั้นภาพแรกที่แวปเข้ามาคือนอกมดลูกอีกแล้วแน่ๆเลย คิอไปต่างๆนาๆสารพัด รีบไปหาหมอเลยค่ะ และหมอ(กทม.) ซาวน์ปุ๊ปเจอถุงตั้งครรภ์เลยค่ะ ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย ไม่นอกมดลูกแล้ว ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเสียใจอีกแล้ว เหมือนได้ปลดปล่อยความวิตกกังวล คบสามเครียดเลยค่ะ เลยรีบหาไฟล์บินไปให้หมอสมนึกตรวจอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก็ตามคาดไว้เลยค่ะ ท้องเองธรรมชาติ เด็กฝังตัวตำแหน่งปกติ สมบูรณ์ตามเกณฑ์เลยค่ะ โล่งอกไปเลย ไม่ต้องปวดท้องฉับพลันรุนแรง ไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆเพื่อรอการรักษาอีก ฝากครรภ์ตามปกติเลยค่ะ
***จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาทำให้รู้ว่า ตั้งแต่ผ่าตัดต่อท่อ ท่อก็ไม่กลับไปตันอีก เพราะจากการท้องธรรมชาติ 4ท้องเลย และการคอยสังเกตอาการผิดปกติของเราแล้วรีบรักษา โชคดีมากๆค่ะที่บูมรักษากับหมอทัน กลัวอะไรมันจะกลายเป็นอย่างอื่น ถือว่าการรักษาแต่ละครั้งคิดไม่ผิดเลยค่ะ***
สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะคะ กว่าจะมีลูกสักคนไม่ง่ายเลยจริงๆ จะให้ท่อตัน หรือตีบ อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ อย่างน้อยเราก็ยังมีทางเลือกในการรักษา
....จากบูมคนเดิมที่เคยท่อตันทั้ง2ข้าง หมอบอกเสมือนเป็นหมัน ไม่สามารท้องเองได้ ตอนนี้ท่อไม่ตันและท้องเองได้เหมือนคนอื่นแล้วค่ะ....❤️❤️