สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ฮ่าๆๆ เอาคอมมอนเซนส์คิดเอาก็ได้ว่าจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างไทย อีแร้งสมัยนั้นอย่างจักรวรรดิอังกฤษกับฝรั่งเศสมีหรือจะปล่อยผ่านโง่ๆ ที่มันทำไม่ได้เพราะสยามได้รัสเซียสมัยนู๊นช่วยขัดคอพวกนั้นไว้ ไม่งั้นอังกฤษฝรั่งเศสจะคอยตอดดินแดนไปตั้งมากมายเพื่ออะไร เพื่อทิ้งชิ้นปลามันอย่างอ่าวไทยไว้เนี่ยนะ แถมฮากว่ายังไปเชื่อคำแก้ตัวของพวกที่รุกรานชาวบ้าน แบบนั้นก็ไม่ต่างกับเชื่อทุกคำพูดของรัสเซียตอนนี้เลยดิ
เอาจริงๆที่แปลกใจยิ่งกว่าคือ มันยังมีพวกที่อยากเป็น "ทาส" ฝรั่งขนาดนั้นอยู่อีกเหรอสมัยนี้ อันนี้น่าอดสูยิ่งกว่า ตัวเรารอดจากการเป็น "ทาส" ต่างชาติมาได้หวุดหวิดยังจะรู้สึกแย่ งงตรรกะว่ะ
เอาจริงๆที่แปลกใจยิ่งกว่าคือ มันยังมีพวกที่อยากเป็น "ทาส" ฝรั่งขนาดนั้นอยู่อีกเหรอสมัยนี้ อันนี้น่าอดสูยิ่งกว่า ตัวเรารอดจากการเป็น "ทาส" ต่างชาติมาได้หวุดหวิดยังจะรู้สึกแย่ งงตรรกะว่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
ในช่วงล่าอาณานิคมสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีรัฐกันชนเลย ในทวิปแอฟริกาก็ไม่มีรัฐกันชนเส้นเขตแดนแบ่งชนกันเลย ที่อังกฤษกับฝรั่งเศสต้องตกลงกันอย่างนั้นเพราะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กัน ฝรั่งเศสจะยึดอังกฤษก็มีกลัวจะเสียผลประโยชน์ ผลประโยชน์ของอังกฤษในสยามก็เกิดจากการทำข้อตกลงกันระหว่างสยามกับประเทศต่างๆ เพื่อบาลานซ์ผลประโยชน์กัน ถ้าฝรั่งเศสหรืออังกฤษไม่ต้องกังวลว่าประเทศอื่นๆ จะเสียผลประโยชน์และจะทำให้มีปัญหาระหว่างประเทศก็คงยึดไปแล้วจะทำเป็นรัฐกันชนทำไม
ยังมีคอลัมนิสต์ฝรั่งเศสเขียนชื่นชม ร.5 เรื่องการทำให้สยามไม่ตกเป็นเมืองขึ้นเลย แสดงว่าสยามยึดยาก ซึ่งเขียนลงหนังสือพิมพ์ Le Matin ฉบับ 18 June 1907 ดูไฟล์ดิจิตอลของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้ที่ https://gallica.bnf.fr/ark:/12148/bpt6k568365j
ดูตรงที่เขียนหัวบทความว่า Un vrai Roi (กษัตริย์ที่แท้จริง) มีคนแปลเนื้อหามาว่าอย่างนี้
นักการเมืองยุโรปคุยกันนักหนาว่ารู้จักคิงจุฬาลงกรณ์เป็นอย่างดี บางคนรู้ลึกขนาดว่า พระองค์มีชายาถึง ๘๐๐ คน บางคนก็ว่าพระองค์จะอภิเษกกับพระขนิษฐาเท่านั้น แต่ทว่า คนอังกฤษกับคนฝรั่งเศสก็ยื้อแย่งประเทศของพระองค์อย่างไม่เป็นผลเท่าไหร่ และก็ยังไม่มีใครฮุบประเทศนี้ได้จริงๆ จังๆ เสียทีขนาดส่งเรือรบเข้าไปถึงกลางใจเมืองหลวง แต่ด้วยกลการเมืองที่เดอะคิงใช้หลอกล่อพวกเรา เรือรบเหล่านั้นก็ต้องถอยทัพออกมาหมดพร้อมกับเงิน (ค่าไถ่) ที่พระองค์มอบให้เราเพียงหยิบมือ ช่างเป็นเรื่องประหลาดและเหลือเชื่อ แทนที่เราจะตั้งหน้ารบกันจริงๆ เรากลับต้องตั้งต้นคืนดีกันเพราะเราได้แค่เขมรไว้มาครอบครอง ฝรั่งเศสก็กลายเป็นเพื่อนบ้านของสยามไปโดยปริยาย
เราได้สมบัติจากนครวัดมาไว้เชยชมมากมายแล้วก็จริง แต่ก็ยังเอื้อมไปไม่ถึงตัวนครวัดที่เป็นต้นตอของสมบัติเหล่านั้น ทำให้เราดูคล้ายกับแมลงหวี่ยุ่งๆ ที่คอยสร้างความรำคาญให้วัว แต่ก็ทำอะไรวัวไม่ได้ และ แล้วฝรั่งเศสก็สูญเสียจันทบุรีไป ทุกครั้งที่มีการลงนามในกระดาษเราก็จะพูดว่ามันเป็นชัยชนะทางการทูตร่ำไป แต่ที่แท้แล้วเราไม่เคยชนะอะไรเลย ฝรั่งเศสต้องสูญเสียเงินเท่าไหร่เพื่อแลกกับผืนแผ่นดินที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหล่านั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๐๔ (พ.ศ. ๒๔๔๗) เราทุ่มเงินหลายล้านฟรังก์เพื่อพัฒนาท่าเรือเมืองตราด ที่ทดแทนจันทบุรีมาได้ โดยที่เราวาดฝันไว้ว่ามันจะกลายเป็นเมืองท่า Le Havre อันยิ่งใหญ่ แต่แล้วมันก็กลายเป็นภาพลวงตาทั้งเพ ดูตามแผนที่มันช่างเป็นทำเลสุดวิเศษ แต่ที่จริงต้องใช้เวลาเดินเท้าเป็นวันๆกว่าจะเข้าไปถึงมัน
ผู้ชนะที่แท้จริงน่าจะเป็นเดอะคิง พระองค์สามารถทำให้เราถอยออกไปได้แบบถอนรากถอนโคน การสิ้นสุดอำนาจของฝรั่งเศสในดินแดนของพระองค์ไม่ใช่เหตุบังเอิญ พระองค์รายล้อมไปด้วยพันธมิตรที่ไม่น้อยหน้าใครในยุโรป คือปรินซ์วัลเดอมาร์ ผู้มีพระชายาเป็นเจ้าหญิงชาวฝรั่งเศส คือปรินเซสมารี ปรินซ์วัลเดอมาร์ เป็นพระเชษฐาของจักรพรรดินีมารียา ฟีโยโดรอฟนา ของรัสเซีย ทำให้เดาได้ไม่ยากนักว่าใครคือผู้ปกป้องราชอาณาจักรเล็กๆนี้ มันเป็นความกดดันสำหรับฝรั่งเศสในการทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งถึงแม้ฝรั่งเศสจะเดินหน้าไปก่อน แต่แท้ที่จริงกลับเป็นเดนมาร์กที่แซงหน้าเราขึ้นไปเห็นได้ชัดจากผลประโยชน์ของชาวเดนมาร์กจำนวนมหาศาลที่ฝังรากอยู่ได้อย่างมั่นคง ในธุรกิจเหมืองแร่ การเดินเรือ สัมปทานรถรางไฟฟ้า และอื่นๆในขณะที่มีชาวฝรั่งเศสเพียง ๑ คน รับราชการอยู่ในราชสำนักสยาม สยามก็ว่าจ้าง ๘๗ อังกฤษ, ๕๐ เยอรมัน, ๓๘ เดนมาร์ก, ๘ เบลเยียม, ๗ อิตาเลียน และที่เหลือเป็นชาวญี่ปุ่น อย่างนี้หรือที่เรียกเราชัยชนะทางการเมืองของฝรั่งเศส?
ขณะนี้ฝรั่งเศสกำลังถอยหลังมาอยู่ที่จุดศูนย์ เราได้แต่ความเกลียดชังในขณะที่ชาวเดนมาร์กได้หน้า พวกเราหมดสิ้นแล้วในสยาม ถ้าจะมีอะไรเหลืออยู่คงเป็นเจ้าหญิงมารี ออเล-อง เท่านั้นที่จะช่วยผลักดันทางอ้อมให้สนธิสัญญาฉบับนี้เป็นจริงขึ้นมา การที่จะได้เขมรส่วนในกลับมาเป็นของเราเท่ากับเรียกขวัญกำลังใจทั้งหมดที่ฝรั่งเศสทุ่มเทลงไปในเขมรคืนมาด้วย
คิงจุฬาลงกรณ์ได้ทรงกระทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาชนของพระองค์ การยอมเสียสละแผ่นดินเขมรที่เหลืออยู่ ๔๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร และประชากร ๒๘๐,๐๐๐ คน ทำให้พระองค์เป็นผู้มีสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียวในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอันกว้างใหญ่ มิสเตอร์ปิชอง และ มิสเตอร์ดูตัสตาร์ อธิบายว่ามันอาจจะเป็นภารกิจขั้นตอนสุดท้ายที่เราทำได้ แต่ความสำเร็จก็อาจจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าหญิงมารีจะไม่ใช้อิทธิพลของเธอกับพระเจ้ากรุงสยาม ผลที่สุด สยามก็พบเสถียรภาพทางการเมืองซึ่งเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของชาวสยาม คิงจุฬาลงกรณ์ที่จะกลับมาเยือนยุโรปอีกครั้งกำลังเสด็จมาในนามของผู้นำที่เป็นเอกราชจริงๆ
ยังมีคอลัมนิสต์ฝรั่งเศสเขียนชื่นชม ร.5 เรื่องการทำให้สยามไม่ตกเป็นเมืองขึ้นเลย แสดงว่าสยามยึดยาก ซึ่งเขียนลงหนังสือพิมพ์ Le Matin ฉบับ 18 June 1907 ดูไฟล์ดิจิตอลของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้ที่ https://gallica.bnf.fr/ark:/12148/bpt6k568365j
ดูตรงที่เขียนหัวบทความว่า Un vrai Roi (กษัตริย์ที่แท้จริง) มีคนแปลเนื้อหามาว่าอย่างนี้
นักการเมืองยุโรปคุยกันนักหนาว่ารู้จักคิงจุฬาลงกรณ์เป็นอย่างดี บางคนรู้ลึกขนาดว่า พระองค์มีชายาถึง ๘๐๐ คน บางคนก็ว่าพระองค์จะอภิเษกกับพระขนิษฐาเท่านั้น แต่ทว่า คนอังกฤษกับคนฝรั่งเศสก็ยื้อแย่งประเทศของพระองค์อย่างไม่เป็นผลเท่าไหร่ และก็ยังไม่มีใครฮุบประเทศนี้ได้จริงๆ จังๆ เสียทีขนาดส่งเรือรบเข้าไปถึงกลางใจเมืองหลวง แต่ด้วยกลการเมืองที่เดอะคิงใช้หลอกล่อพวกเรา เรือรบเหล่านั้นก็ต้องถอยทัพออกมาหมดพร้อมกับเงิน (ค่าไถ่) ที่พระองค์มอบให้เราเพียงหยิบมือ ช่างเป็นเรื่องประหลาดและเหลือเชื่อ แทนที่เราจะตั้งหน้ารบกันจริงๆ เรากลับต้องตั้งต้นคืนดีกันเพราะเราได้แค่เขมรไว้มาครอบครอง ฝรั่งเศสก็กลายเป็นเพื่อนบ้านของสยามไปโดยปริยาย
เราได้สมบัติจากนครวัดมาไว้เชยชมมากมายแล้วก็จริง แต่ก็ยังเอื้อมไปไม่ถึงตัวนครวัดที่เป็นต้นตอของสมบัติเหล่านั้น ทำให้เราดูคล้ายกับแมลงหวี่ยุ่งๆ ที่คอยสร้างความรำคาญให้วัว แต่ก็ทำอะไรวัวไม่ได้ และ แล้วฝรั่งเศสก็สูญเสียจันทบุรีไป ทุกครั้งที่มีการลงนามในกระดาษเราก็จะพูดว่ามันเป็นชัยชนะทางการทูตร่ำไป แต่ที่แท้แล้วเราไม่เคยชนะอะไรเลย ฝรั่งเศสต้องสูญเสียเงินเท่าไหร่เพื่อแลกกับผืนแผ่นดินที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหล่านั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๐๔ (พ.ศ. ๒๔๔๗) เราทุ่มเงินหลายล้านฟรังก์เพื่อพัฒนาท่าเรือเมืองตราด ที่ทดแทนจันทบุรีมาได้ โดยที่เราวาดฝันไว้ว่ามันจะกลายเป็นเมืองท่า Le Havre อันยิ่งใหญ่ แต่แล้วมันก็กลายเป็นภาพลวงตาทั้งเพ ดูตามแผนที่มันช่างเป็นทำเลสุดวิเศษ แต่ที่จริงต้องใช้เวลาเดินเท้าเป็นวันๆกว่าจะเข้าไปถึงมัน
ผู้ชนะที่แท้จริงน่าจะเป็นเดอะคิง พระองค์สามารถทำให้เราถอยออกไปได้แบบถอนรากถอนโคน การสิ้นสุดอำนาจของฝรั่งเศสในดินแดนของพระองค์ไม่ใช่เหตุบังเอิญ พระองค์รายล้อมไปด้วยพันธมิตรที่ไม่น้อยหน้าใครในยุโรป คือปรินซ์วัลเดอมาร์ ผู้มีพระชายาเป็นเจ้าหญิงชาวฝรั่งเศส คือปรินเซสมารี ปรินซ์วัลเดอมาร์ เป็นพระเชษฐาของจักรพรรดินีมารียา ฟีโยโดรอฟนา ของรัสเซีย ทำให้เดาได้ไม่ยากนักว่าใครคือผู้ปกป้องราชอาณาจักรเล็กๆนี้ มันเป็นความกดดันสำหรับฝรั่งเศสในการทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งถึงแม้ฝรั่งเศสจะเดินหน้าไปก่อน แต่แท้ที่จริงกลับเป็นเดนมาร์กที่แซงหน้าเราขึ้นไปเห็นได้ชัดจากผลประโยชน์ของชาวเดนมาร์กจำนวนมหาศาลที่ฝังรากอยู่ได้อย่างมั่นคง ในธุรกิจเหมืองแร่ การเดินเรือ สัมปทานรถรางไฟฟ้า และอื่นๆในขณะที่มีชาวฝรั่งเศสเพียง ๑ คน รับราชการอยู่ในราชสำนักสยาม สยามก็ว่าจ้าง ๘๗ อังกฤษ, ๕๐ เยอรมัน, ๓๘ เดนมาร์ก, ๘ เบลเยียม, ๗ อิตาเลียน และที่เหลือเป็นชาวญี่ปุ่น อย่างนี้หรือที่เรียกเราชัยชนะทางการเมืองของฝรั่งเศส?
ขณะนี้ฝรั่งเศสกำลังถอยหลังมาอยู่ที่จุดศูนย์ เราได้แต่ความเกลียดชังในขณะที่ชาวเดนมาร์กได้หน้า พวกเราหมดสิ้นแล้วในสยาม ถ้าจะมีอะไรเหลืออยู่คงเป็นเจ้าหญิงมารี ออเล-อง เท่านั้นที่จะช่วยผลักดันทางอ้อมให้สนธิสัญญาฉบับนี้เป็นจริงขึ้นมา การที่จะได้เขมรส่วนในกลับมาเป็นของเราเท่ากับเรียกขวัญกำลังใจทั้งหมดที่ฝรั่งเศสทุ่มเทลงไปในเขมรคืนมาด้วย
คิงจุฬาลงกรณ์ได้ทรงกระทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาชนของพระองค์ การยอมเสียสละแผ่นดินเขมรที่เหลืออยู่ ๔๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร และประชากร ๒๘๐,๐๐๐ คน ทำให้พระองค์เป็นผู้มีสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียวในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอันกว้างใหญ่ มิสเตอร์ปิชอง และ มิสเตอร์ดูตัสตาร์ อธิบายว่ามันอาจจะเป็นภารกิจขั้นตอนสุดท้ายที่เราทำได้ แต่ความสำเร็จก็อาจจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าหญิงมารีจะไม่ใช้อิทธิพลของเธอกับพระเจ้ากรุงสยาม ผลที่สุด สยามก็พบเสถียรภาพทางการเมืองซึ่งเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของชาวสยาม คิงจุฬาลงกรณ์ที่จะกลับมาเยือนยุโรปอีกครั้งกำลังเสด็จมาในนามของผู้นำที่เป็นเอกราชจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 14
ลอร์ดซอส เบอรี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ กับบารอง เดอ กัวแซล รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส ทำข้อตกลงให้สยามเป็นรัฐกันชน ที่ลอนดอน วันที่ 15 มกรา ปี 1896สาระมี 6 ข้อ
1.รัฐบาลอังกฤษกับรัฐบาลฝรั่งเศส สัญญาไว้ต่อกันว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะไม่ยกกำลังพร้อมอาวุธเข้าไปยังดินแดนเหล่านี้ คือ พื้นที่ที่เป็นลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงลำคลองย่อยทั้งหลายจากแม่น้ำเหล่านี้ และจะไม่หาประโยชน์จากที่ดินที่ยังไม่ได้รับเสมอเหมือนกัน
2.ข้อความตามข้อ 1 จะไม่เป็นที่ขัดขวางในการที่ทั้งสองประเทศจะยินยอมกันต่อไป ที่จะรักษาอิสรภาพของกรุงสยาม
3.ตั้งแต่ดินแดนปากลำน้ำฮวก ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างสยามกับอังกฤษขึ้นไปจนถึงพรมแดนประเทศจีน จะไม่เป็นที่ขัดขวางในการที่อังกฤษกับฝรั่งเศสจะเข้าประเทศจีน ทางน้ำของแม่น้ำโขงจะเป็นพื้นที่ของอังกฤษและฝรั่งเศส
4.ผลประโยชน์ทางการค้าในเมืองยูนาน เมืองฟาโฮ เมืองเสฉวน ต้องเป็นที่ที่อังกฤษกับฝรั่งเศสได้เสมอเหมือนกัน
5.กองทัพข้าหลวงของทั้งสองประเทศจะออกไปปักปันเขตแดน ในหัวเมืองขึ้นของทวีปแอฟริกา
6.ทั้งสองประเทศทำสัญญาการค้ากันใหม่ในเมืองตูนิส (ตูนิเซีย)
สำหรับคนที่ถาทหาหลักฐานที่มาให้ไทยเป็นรัฐกันชน
1.รัฐบาลอังกฤษกับรัฐบาลฝรั่งเศส สัญญาไว้ต่อกันว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะไม่ยกกำลังพร้อมอาวุธเข้าไปยังดินแดนเหล่านี้ คือ พื้นที่ที่เป็นลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงลำคลองย่อยทั้งหลายจากแม่น้ำเหล่านี้ และจะไม่หาประโยชน์จากที่ดินที่ยังไม่ได้รับเสมอเหมือนกัน
2.ข้อความตามข้อ 1 จะไม่เป็นที่ขัดขวางในการที่ทั้งสองประเทศจะยินยอมกันต่อไป ที่จะรักษาอิสรภาพของกรุงสยาม
3.ตั้งแต่ดินแดนปากลำน้ำฮวก ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างสยามกับอังกฤษขึ้นไปจนถึงพรมแดนประเทศจีน จะไม่เป็นที่ขัดขวางในการที่อังกฤษกับฝรั่งเศสจะเข้าประเทศจีน ทางน้ำของแม่น้ำโขงจะเป็นพื้นที่ของอังกฤษและฝรั่งเศส
4.ผลประโยชน์ทางการค้าในเมืองยูนาน เมืองฟาโฮ เมืองเสฉวน ต้องเป็นที่ที่อังกฤษกับฝรั่งเศสได้เสมอเหมือนกัน
5.กองทัพข้าหลวงของทั้งสองประเทศจะออกไปปักปันเขตแดน ในหัวเมืองขึ้นของทวีปแอฟริกา
6.ทั้งสองประเทศทำสัญญาการค้ากันใหม่ในเมืองตูนิส (ตูนิเซีย)
สำหรับคนที่ถาทหาหลักฐานที่มาให้ไทยเป็นรัฐกันชน
ความคิดเห็นที่ 3
แล้วการเป็นเมืองขึ้น มันดีอย่างไร ไม่มีอิสระ มันน่าภูมิใจตรงใหน ดีไม่ดี ถ้าเป็นเมื่องขึ้นแล้ว อาจเหมือนพม่า หลังปลดปล่อยบ้านเมืองก็แตกแยก จนทุกวันนี้ยังหาความสงบไม่มี ส่วนเรื่อง ที่ว่า ที่ สยาม ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นเพราะ อังกฤษ กับ ฝรั่งเศษ ตกลงกันให้สยามเป็นกันชน มีหลักฐานไหม อย่าลืมว่า ฝรั่งเศษ ได้ พระตะบอง และบางส่วน กัมพูชา ที่เคยเป็นของเราไปแล้ว นั่นเพราะ การยอมตัดชิ้นเนื้อบางส่วนเพื่อรักษา ส่วนใหญ่ไว้ คิดเหรอว่า ฝรั่งเศษไม่ได้ต้องการมากกว่านั้น
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนไทยภูมิใจที่สยามไม่เป็นเมืองขึ้นตะวันตก