ข้ออ้างของพม่าอังวะในการตีกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 จนยับเยินถือว่าเกินกว่าเหตุไปไหมครับ

กระทู้สนทนา
คื่อช่วงสมัยครั้งรัชกาลของสมเด็จพระเอกาทศรถเป็นต้นมาพม่ากับกรุงศรีอยุธยาแทบไม่มีสงครามกันเลย หนำซ้ำยังออกแนวมีไมตรีกันแบบห่างๆ ด้วยซ้ำ จวบจนมาถึงรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทางฝั่งพม่าสามารถรวมชาติจัดตั้งเป็นราชวงส์คองบองขึ้นมาได้โดยพระเจ้าอลองพญาและพระองค์มีพระดำริที่ปราบกรุงศรีอยุธยาลงอย่างราบคราบ จึงเป็นเหตุให้เกิดข้ออ้างต่างๆ ในการเข้าตีกรุงศีอยุธยา เช่น ข้ออ้างที่ทางอยุธยารับเครื่องบรรณาการจากทวาย ข้ออ้างอยุธยายึดเรือสินค้าของพม่า และข้ออ้างการสนับสนุนมอญและเมืองชายขอบให้กระด้างกระเดื่องต่อพม่า

เอาล่ะ ถ้าตามหลักฐานที่ว่ามากรุงศรีอยุธยาก็มีส่วนผิดด้วยแหละ โดยเฉพาะการรับเครื่องบรรณาการจากทวายซึ่งตอนนั้นเป็นของพม่า และยึดเรือสินค้าของพม่า ส่วนการนับสนุนมอญและเมืองชายขอบให้กระด้างกระเดื่องต่อพม่าอันนี้มองว่ามันนามธรรมมากเลยน่ะครับ หลักฐานการสนับสนุนก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรขนาดนั้น ก็ชาวมอญหนีการปราบปรามอย่างหนักของพม่าเข้ามาพึ่งกรุงศรีฯ แล้วจะให้กรุงศรีทำยังไง ถึงแม้ว่าพม่าจะมองเหตุผลของฝั่งตัวเองว่าเป็นภัยคุกคามก็เหอะ แต่จากเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามามันถึงขั้นที่ทำให้พม่ากระทำต่อกรุงศรีอยุธยาจนเป็นโศกนาฏกรรมเลยเหรอครับ ฆ่าและทารุณผู้บริสุทธิ์ทั้งเด็ก คนแก่ ผู้ป่วย สตรี ฆ่านักบวชอย่างพระสงฆ์และนักบวชในศาสนาอื่นๆ ตลอดจนทำลายบ้านเมืองจนพังพินาศ แทบสิ้นบ้านสิ้นเมือง คือยึดไว้เป็นเมืองขึ้นก็ได้ หรือถ้าจะกวาดต้อนผู้คนไปก็ไม่เห็นต้องทำรุนแรงอะไรขนาดนั้น เพราะตอนกรุงแตกสภาพชาวอยุธยาที่หลงเหลืออยู่ในเมืองอย่าว่าแต่แรงที่จะจับดาบเลย แรงจะวิ่งจะเดินคงแทบจะไม่มี อดอยากบวกกับเจ็บป่วยจากสงครามที่ยืดเยื้อมาก่อนหน้านั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่