เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง ขอแทนชื่อเพื่อนว่า ฟ. นะคะ เอเป็นคนที่ค่อนข้างนิสัยดี ชอบเหลือเราตลอด แต่ติดตรงที่ทั้งฟ. และเรา เป็นคน competitive มาก แล้วคราวนี้มีงานโต้วาทีที่รร. เราและฟ. อยู่กันคนละทีม (ต้องอธิบายก่อนนะคะว่า รร. เราจะแบ่งออกเป็นสี่บ้าน มีสีฟ้า สีเขียว สีแดง และสีเหลือง) ฟ. อยู่สีฟ้า ในขณะที่เราอยู่สีเขียว แล้วปีนี้ เราได้รับเลือกให้เป็นประธานสีบ้าน ช่วงปลายปีที่แล้ว มีงานโต้วาทีตั้งแต่ Year 5 - Year 11 (้เราอยู่ Year 10 )แน่นอนว่า เราอยากชนะมาก เราไม่อยากที่จะทำให้บ้านผิดหวัง เราเลยจัดการเตรียมบทพูดให้ทุกคน ตั้งแต่รุ่นน้องยันรุ่นพี่ เราเตรียมบทที่น้องจะพูดกับมือเราเอง ฟ. เอง เขาก็เตรียมของบ้านเขา แต่น่าจะใช้เวลาไม่นานเท่าที่เราทำ เพราะเขาไม่ได้เป็นประธานบ้านสีฟ้า ซึ่งต่างจากเราที่อดหลับอดนอนนั่งเตรียมบทพูด
สรุปผลที่ออกมาคือแพ้แค่ Year 7 กับ Year 11 ค่ะ นอกนั้นชนะหมด นี่ก็เลยทำให้บ้านสีเขียวปีนี้ชนะการโต้วาที ตอนที่ผลประกาศ คือเราดูออกเลยว่า ฟ. และเพื่อนอีกหนึ่งคน พ. ไม่พอใจเรารุนแรงมาก ตอนนั้นซื่อบื่อค่ะ มองเพื่อนไม่ออก เราก็ชวนเพื่อนไปดูผลคะแนนรวม เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่ารวมแล้วบ้านไหนชนะ ครูเขาก็มาจัดการรวมคะแนนให้ ทั้งฟ. และ พ. รีบไปบอกกับครูที่จัดการเรื่องโต้วาทีว่า ปีหน้าขอเปลี่ยนกฎนะ ไม่ให้บอกหัวข้อเรื่องก่อน ที่เขาต้องการคือ ให้บอกหัวข้อการโต้วาทีก่อนแข่งแค่ครึ่งชัวโมง แล้วเตรียมกันตอนนั้นเลย เราเองก็แบบ เอ๊ะ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ ตั้งแต่นั้นมา เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรต่อ
จนกระทั้ง เรื่องนี้มันผุดขึ้นอีกครั้ง ฟ. ก็ยังคงยืนยันคำเดิม ตอนนั้นมันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายขาดลง เราทนไม่ได้แล้วจริงๆ เราก็ไม่อยากคุยกับเขาอีกเลย รู้สึกผิดหวังมากที่ฟ. ไม่ยอมรับที่บ้านของเราชนะ เขาไม่ได้พูดแสดงความยินดีด้วยซ้ำ เราก็เข้าไปถามเขาตรงๆว่า เรื่องโต้วาที ทำไมถึงยังไม่จบอีก อยากจะเปลี่ยนกฎขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่พอใจที่เราช่วยทุกคนเตรียมคำพูดใช่ไหม เขาตอบเรามาว่า แค่ไม่อยากให้เราเหนื่อย เลยพูดไปแบบนั้น แต่เราว่ามันไม่ใช่ค่ะ เราว่าเขายังไม่จบและจะเปลี่ยนกฎเพื่อให้บ้านของเขาชนะให้ได้
เราควรจัดการเรื่องนี้ยังดีคะ ที่ผ่านมา ฟ. เองก็เป็นเพื่อนที่ดีคนนึงนะ แต่การที่จะมาขอให้เปลี่ยนกฎเพื่อพยายามจะทำให้บ้านตัวเองชนะ เราทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ มันเหมือนคนแพ้แล้วพาล
เราควรเคลียร์ปัญหากับเพื่อนยังไงดี
สรุปผลที่ออกมาคือแพ้แค่ Year 7 กับ Year 11 ค่ะ นอกนั้นชนะหมด นี่ก็เลยทำให้บ้านสีเขียวปีนี้ชนะการโต้วาที ตอนที่ผลประกาศ คือเราดูออกเลยว่า ฟ. และเพื่อนอีกหนึ่งคน พ. ไม่พอใจเรารุนแรงมาก ตอนนั้นซื่อบื่อค่ะ มองเพื่อนไม่ออก เราก็ชวนเพื่อนไปดูผลคะแนนรวม เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่ารวมแล้วบ้านไหนชนะ ครูเขาก็มาจัดการรวมคะแนนให้ ทั้งฟ. และ พ. รีบไปบอกกับครูที่จัดการเรื่องโต้วาทีว่า ปีหน้าขอเปลี่ยนกฎนะ ไม่ให้บอกหัวข้อเรื่องก่อน ที่เขาต้องการคือ ให้บอกหัวข้อการโต้วาทีก่อนแข่งแค่ครึ่งชัวโมง แล้วเตรียมกันตอนนั้นเลย เราเองก็แบบ เอ๊ะ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ ตั้งแต่นั้นมา เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรต่อ
จนกระทั้ง เรื่องนี้มันผุดขึ้นอีกครั้ง ฟ. ก็ยังคงยืนยันคำเดิม ตอนนั้นมันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายขาดลง เราทนไม่ได้แล้วจริงๆ เราก็ไม่อยากคุยกับเขาอีกเลย รู้สึกผิดหวังมากที่ฟ. ไม่ยอมรับที่บ้านของเราชนะ เขาไม่ได้พูดแสดงความยินดีด้วยซ้ำ เราก็เข้าไปถามเขาตรงๆว่า เรื่องโต้วาที ทำไมถึงยังไม่จบอีก อยากจะเปลี่ยนกฎขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่พอใจที่เราช่วยทุกคนเตรียมคำพูดใช่ไหม เขาตอบเรามาว่า แค่ไม่อยากให้เราเหนื่อย เลยพูดไปแบบนั้น แต่เราว่ามันไม่ใช่ค่ะ เราว่าเขายังไม่จบและจะเปลี่ยนกฎเพื่อให้บ้านของเขาชนะให้ได้
เราควรจัดการเรื่องนี้ยังดีคะ ที่ผ่านมา ฟ. เองก็เป็นเพื่อนที่ดีคนนึงนะ แต่การที่จะมาขอให้เปลี่ยนกฎเพื่อพยายามจะทำให้บ้านตัวเองชนะ เราทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ มันเหมือนคนแพ้แล้วพาล