วันนี้ผมมีเรื่องจะเล่าให้ทุกคนฟังว่า
"ทำไมคนส่วนใหญ่ต้องทนทำงานตลอดชีวิตไม่มีวันหยุดทำงานเกษียณตัวเองได้ง่ายๆ"
[บทที่ 1 ปฐมบทจุดเริ่มต้นของระบบทุนนิยม ฝันร้ายครั้งแรกของมนุษย์]
"การปฏิวัติเกษตร"
ครั้งหนึ่งในยุคโบราณเมื่อนานมาแล้วเป็นหลายล้านปี
คนเคยอยู่เป็นชนเผ่าใช้ชีวิตล่าสัตว์ หาของป่า เพื่อประทังชีวิตอยู่ไปวันๆมาก่อน
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่แสนปีที่ผ่านมานี้เองได้เกิด
การทำเกษตร ปลูกพืช แทนที่จะออกหาของป่า
เลี้ยงสัตว์ แทนที่จะออกไปล่าสัตว์
ที่ดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ทำเกษตร จึงสำคัญมาก
และนั้นทำให้เกิดการผลผลิตที่มากเกินกว่าจำนวนคนในเผ่าที่มี
คนในเผ่าจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ที่ดินอุดมสมบูรณ์ที่ดี ดันมีจำกัด
เกิดการแย่งชิงที่ดินที่ดีที่ว่านี้ขึ้นมา
จนต้องมีราคาในการที่จะซื้อ หรือ เอาสิ่งของมาแลกที่ดิน
เพื่อจะได้ที่ดินมา ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า ราคาที่ดิน
และผู้ที่ได้ที่ดินที่ดีนี้ไปนั้นจะทำการผลิตเนื้อสัตว์ และ พืช ไปขายได้กำไร
มากกว่า ที่ดินชั้นเลว
และยังสามารถปล่อยเช่าได้อีกด้วย
และจ้างแรงงานมาทำงานให้พวกเขาโดยจ้างค่าแรงในอัตราที่ต่ำกว่ากำไรที่ได้จาก
ธุรกิจขายเนื้อสัตว์ + พืชเกษตรนี้
ทำให้ความห่างชั้นของเงินเก็บระหว่าง แรงงานลูกจ้าง กับ นายจ้าง ยิ่งห่างกันไปเรื่อยๆ
คนส่วนน้อยจึงเริ่มรวยมากกว่าคนส่วนใหญ่ในเผ่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
[บทที่ 2 กำเนิดสิ่งที่เรียกว่า หุ้น]
"กำเนิดนรก ที่เรียกว่า ตลาดหุ้น"
เมื่อมาถึงช่วงยุคหนึ่งราวๆหลังยุคกลางพึงจบใหม่ๆ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
ในประเทศแทบยุโรป เริ่มมีการล่าอาณานิคมเพื่อที่จะนำเข้าสินค้าที่หาไม่ได้ในยุโรป เช่น เครื่องเทศ ผ้าต่างๆ
จาะประเทศโซน เอเชีย SEA
ทำให้แต่ละครั้งที่มีการส่งเรือรบ + เริขนส่งสินค้าไปต้องใช้เงินมหาศาลเกินกว่าที่บริษัทยักใหญ่ในช่วงนั้น
จะมีมันมากพอ จึงเกิดการระดมเงินทุนจากคนที่ไช่คนของบริษัท แต่อยากจะนำเงินมาเป็นหุ้นส่วนด้วย
หากบริษัทได้กำไร ก็จะแบ่งกำไรส่วนนี้ทั้งหมดให้แก่หุ้นส่วนพวกนี้ด้วย
ซึ่งมีทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อแสดงว่าเป็นเจ้าของส่วนแบ่งกำไรของหุ้นส่วนแต่ละคน
เรียกมันว่า หุ้น
และเริ่มมีการมโนทั้ง การปล่อยข่าว ผลประกอบการ งบของบริษัท ตั้งแต่ตอนนั้น
ว่า ราคาหุ้นจะไปในทิศทางไหนได้บ้าง เลยมีคนที่ไม่ได้ลงทุนกับบริษัทเลยซักบาท
แต่อยากซื้อขายหุ้นเพียงเพื่อเก็งกำไรส่วนต่างราคาของมันเท่านั้น
จึงเกิดตลาดซื้อขาย หุ้น ขึ้น เพื่อให้คนมารวมตัวกันซื้อขายเก็งกำไรที่นี้
และแน่นอนก็มีกลุ้มคนที่รวยจากการทำธุรกิจ และได้รับมรดกสืบทอดจากต้นตระกูลตั้งแต่ในช่วงยุค บทที่ 1 แล้ว
ที่เป็นตระกูลคนรวยมีทรัพสินเยอะจากยุคนั้น
จึงทำให้เขามีอำนาจเงินมหาศาลพอจะปั่นราคาหุ้นให้อยู่ในกำมือเขาได้ระดับหนึ่งเลย
และมักจะเป็นคนใหญ่คนโตที่พอจะมีอำนาจกับพวกชนชั้นสูงในประเทศ
สามารถปล่อยข่าวเพื่อปั่นราคาได้มีอิทธิพลมากขึ้นไปอีก
ซึ่งเราเรียกกันว่า รายใหญ่ หรือ เจ้ามือ นั้นเอง
พวกเจ้ามือจึงทำการปั่นราคาหุ้นตั้งแต่ยุคนั้น
ยิ่งทำให้เขาและตระกูลของพวกเขาร่ำรวยมีเงินเก็บและทรัพสินมากขึ้นไปอีก
ห่างชั้นกับคนส่วนใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ
[บทที่ 3 ทำงานเป็นลูกจ้างคนรวยไปเรื่อยๆจนวันตาย]
"อเวจีนรก : คนส่วนใหญ่ไม่มีวันมีอิสระภาพทางการเงินอีกต่อไป"
เมื่อพวกตระกูลคนรวยชนชั้นสูงในสังคมพวกนี้ มีทั้งเงินและทรัพย์สินมหาศาลจากยุคก่อนๆ
เขาจึงเป็นเจ้าของธุรกิจที่ทำการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 หรือ สินค้าและบริการที่ทุกคนไม่อาจหลีกหนีมันได้เสมอ
เช่น อาหาร น้ำ ยารักษาโรค บ้าน-อหังสาต่างๆ รถยนต์-รถเมอร์เตอร์ไซต์ ......
คนพวกนี้จึงสามารถกินรวบธุรกิจพวกนี้ได้หลายธุรกิจตกเป็นของพวกเขาด้วยอำนาจเงินและคอนเน็ตชั่นชนชั้นสูงที่พวกเขามี
ในหลายประเทศที่กฏหมายป้องกันการผูกขาดทางธุรกิจอ่อนแอ เช่น ประเทศไทย
จะโดนพวกนี้กินรวบเป็นเจ้าของธุรกิจพวกนี้เสมอ ซึ่งมักจะเป็นธุรกิจยักใหญ่เบอร์ต้นๆ ของแต่ละกลุ้มธุรกิจซะด้วย
และแน่นอนเมื่อคนส่วนใหญ่ย่อมไม่อยากทำงานจนวันตาย มีอิสระภาพทางการเงินทุกคน
อยากมีวันที่จะได้พักผ่อนไปใช้ชีวิตด้านอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการหาเงินอีกต่อไป
จึงย่อมทำงานเป็นลูกจ้างของพวกคนรวยตระกูลพวกนี้ไปเรื่อยๆ
เพื่อหวังว่าซะวันจะมีเงินเก็บจนเป็นอิสระภาพทางการเงินด้วยการทำงานให้ดีจนได้รับ
การขึ้นเงินเดือน สวัสดิการที่ดีขึ้น และเงินเพิ่มที่ได้รับในโอกาสต่างๆ
แต่สุดท้ายก็พบสัจธรรมที่ว่า ไม่ว่าเงินเดือนและโบนัสจะได้รับมากแค่ไหน
งานส่วนใหญ่ที่คนส่วนใหญ่ทำก็มอบอิสระภาพทางการเงินให้พวกเขาไม่ได้
เพราะเงินเดือน เงินเพิ่มพวกนั้นที่นายจ้างมอบให้แก่ลูกจ้างส่วนใหญ่พวกนี้
มักจะได้รับในอัตราที่ น้อยกว่า รายได้ที่นายจ้างเจ้าของธุรกิจได้รับแบบห่างชั้นมากๆเสมอ
และในหลายยุคสมัน หลายช่วงเวลา
เหล่าลูกจ้างส่วนใหญ่พวกนี้ต้องเผชิญหน้ากับ เงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นระหว่างทางด้วย
ยิ่งทำให้เงินเดือนที่ได้รับมาของพวกเขาหมดไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อประทังชีวิตซะส่วนใหญ่อย่างมหาศาล
ทางเลือกสุดท้ายในการหาเงินเพื่อสู่เส้นชัย การเป็นอิสระภาพทางการเงินของพวกเขา คือ
กำไรจากการเทรดในตลาด หุ้น คริปโต Forex ซึ่งในยุคปัจจุบันมีพร้อมให้เทรดหมดแล้ว
แต่แน่นอนท้ายสุดคนส่วนใหญ่ต้องเป็นผู้แพ้
เพราะคนรวยที่รวยมากพอจนเป็นเจ้ามือในตลาดพวกนี้
ได้เตรียมทั้ง เงิน วิชา ข้อมูล ข่าว รอรับแขกคนส่วนใหญ่ไว้อยู่แล้ว
ด้วยการสิ่งเหล่านี้ ปั่นราคาสารพัดวิธี ให้พวกคนส่วนใหญ่พวกนี้เป็นผู้แพ้ เป็นเม่าในตลาด
ขาดทุนยับ สูญเงินมหาศาล จนต้องออกจากตลาดไป
มีเพียงคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ Genius มากพอ
สามารถชนะตลาดได้อย่างยั่งยืนได้ด้วยวิชาต่างๆที่พยายามหาทางรอดตาย
จากการปั่นราคาของเจ้ามือไปได้ แต่นั้นก็ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของโลก และของไทย อยู่ดี
เมื่อเหล่าเม่าส่วนใหญ่ได้พ่ายแพ้ ขาดทุนยับจาดตลาด หุ้น คริปโต Forex ไปที่เรียบร้อยแล้ว
ก็ต้องกลับมาทำงานเป็นลูกจ้างพวกคนรวยพวกนี้ต่อ
และโดนบั่นทอนด้วย เงินเฟ้อที่หลายยุคมักเพิ่มสูงขึ้น
และวิกฤตเศรษฐกิจรูปแบบต่างๆที่รอรับแขกอยู่แล้ว
ยุคปัจจุบันจึงเป็นยุคที่คนรวยที่รวยอยู่แล้วรวยขึ้นอีกมหาศาล ห่างชั้นจากคนส่วนใหญ่ในโลกแบบไม่เห็นผฝุ่น
จนพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำงานยันลุกหลานเป็นสิบรุ่นก็อยู่ได้อย่างสบายๆ
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังต้องวนลูปนรกแห่งการทำงานหาเงินซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างทำงานให้พวกเขาไม่มีวันจบสิ้น
ซึ่งก็มีบางเรื่องเล่าลือ หรือ ทฤษฏีการเงินของโลกที่ว่า
บางทีวิกฤตเศรษฐกิจอาจเกิดจากน้ำมือของตระกูลคนรวยพวกนี้มาตั้งนานหลานยุคหลายสมัยแล้ว
ไม่ใช่เรื่องบังเอิงที่ไม่มีใครควบคุมได้ก็เป็นได้
เช่น เรื่องราวของตระกูล Rothschild Family ที่ในหลายยุคจงใจทำให้เกิดเงินเฟ้อพุ่งขึ้น
พวกที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานจนตายไม่มีวันลืมตาอ่าปากได้อีกต่อไป
แต่ที่จนถึงตอนนี้ไม่รู้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือแค่เรื่องแต่งกันแน่
(ท่อนนี้ฝั่งหูไว้หูไว้ละกันนะคับ)
โลกนี้ที่มนุษย์วิวัฒนาการมา จึงได้ก่อให้เกิดฝันร้ายที่เรียกว่า โลกทุนนิยม มากขึ้นเรื่อยๆ
จนท้ายที่สุดมันได้กลายเป็นนรกบนดินไปที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อคนส่วนใหญ่ในโลกจะไม่มีวันมีอิสระภาพทางการเงิน อีกต่อไป
วันนี้ผมมีเรื่องจะเล่าให้ทุกคนฟังว่า "ทำไมคนส่วนใหญ่ต้องทนทำงานตลอดชีวิตไม่มีวันหยุดทำงานเกษียณตัวเองได้ง่ายๆ"
"ทำไมคนส่วนใหญ่ต้องทนทำงานตลอดชีวิตไม่มีวันหยุดทำงานเกษียณตัวเองได้ง่ายๆ"
[บทที่ 1 ปฐมบทจุดเริ่มต้นของระบบทุนนิยม ฝันร้ายครั้งแรกของมนุษย์]
"การปฏิวัติเกษตร"
ครั้งหนึ่งในยุคโบราณเมื่อนานมาแล้วเป็นหลายล้านปี
คนเคยอยู่เป็นชนเผ่าใช้ชีวิตล่าสัตว์ หาของป่า เพื่อประทังชีวิตอยู่ไปวันๆมาก่อน
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่แสนปีที่ผ่านมานี้เองได้เกิด
การทำเกษตร ปลูกพืช แทนที่จะออกหาของป่า
เลี้ยงสัตว์ แทนที่จะออกไปล่าสัตว์
ที่ดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ทำเกษตร จึงสำคัญมาก
และนั้นทำให้เกิดการผลผลิตที่มากเกินกว่าจำนวนคนในเผ่าที่มี
คนในเผ่าจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ที่ดินอุดมสมบูรณ์ที่ดี ดันมีจำกัด
เกิดการแย่งชิงที่ดินที่ดีที่ว่านี้ขึ้นมา
จนต้องมีราคาในการที่จะซื้อ หรือ เอาสิ่งของมาแลกที่ดิน
เพื่อจะได้ที่ดินมา ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า ราคาที่ดิน
และผู้ที่ได้ที่ดินที่ดีนี้ไปนั้นจะทำการผลิตเนื้อสัตว์ และ พืช ไปขายได้กำไร
มากกว่า ที่ดินชั้นเลว
และยังสามารถปล่อยเช่าได้อีกด้วย
และจ้างแรงงานมาทำงานให้พวกเขาโดยจ้างค่าแรงในอัตราที่ต่ำกว่ากำไรที่ได้จาก
ธุรกิจขายเนื้อสัตว์ + พืชเกษตรนี้
ทำให้ความห่างชั้นของเงินเก็บระหว่าง แรงงานลูกจ้าง กับ นายจ้าง ยิ่งห่างกันไปเรื่อยๆ
คนส่วนน้อยจึงเริ่มรวยมากกว่าคนส่วนใหญ่ในเผ่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
[บทที่ 2 กำเนิดสิ่งที่เรียกว่า หุ้น]
"กำเนิดนรก ที่เรียกว่า ตลาดหุ้น"
เมื่อมาถึงช่วงยุคหนึ่งราวๆหลังยุคกลางพึงจบใหม่ๆ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
ในประเทศแทบยุโรป เริ่มมีการล่าอาณานิคมเพื่อที่จะนำเข้าสินค้าที่หาไม่ได้ในยุโรป เช่น เครื่องเทศ ผ้าต่างๆ
จาะประเทศโซน เอเชีย SEA
ทำให้แต่ละครั้งที่มีการส่งเรือรบ + เริขนส่งสินค้าไปต้องใช้เงินมหาศาลเกินกว่าที่บริษัทยักใหญ่ในช่วงนั้น
จะมีมันมากพอ จึงเกิดการระดมเงินทุนจากคนที่ไช่คนของบริษัท แต่อยากจะนำเงินมาเป็นหุ้นส่วนด้วย
หากบริษัทได้กำไร ก็จะแบ่งกำไรส่วนนี้ทั้งหมดให้แก่หุ้นส่วนพวกนี้ด้วย
ซึ่งมีทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อแสดงว่าเป็นเจ้าของส่วนแบ่งกำไรของหุ้นส่วนแต่ละคน
เรียกมันว่า หุ้น
และเริ่มมีการมโนทั้ง การปล่อยข่าว ผลประกอบการ งบของบริษัท ตั้งแต่ตอนนั้น
ว่า ราคาหุ้นจะไปในทิศทางไหนได้บ้าง เลยมีคนที่ไม่ได้ลงทุนกับบริษัทเลยซักบาท
แต่อยากซื้อขายหุ้นเพียงเพื่อเก็งกำไรส่วนต่างราคาของมันเท่านั้น
จึงเกิดตลาดซื้อขาย หุ้น ขึ้น เพื่อให้คนมารวมตัวกันซื้อขายเก็งกำไรที่นี้
และแน่นอนก็มีกลุ้มคนที่รวยจากการทำธุรกิจ และได้รับมรดกสืบทอดจากต้นตระกูลตั้งแต่ในช่วงยุค บทที่ 1 แล้ว
ที่เป็นตระกูลคนรวยมีทรัพสินเยอะจากยุคนั้น
จึงทำให้เขามีอำนาจเงินมหาศาลพอจะปั่นราคาหุ้นให้อยู่ในกำมือเขาได้ระดับหนึ่งเลย
และมักจะเป็นคนใหญ่คนโตที่พอจะมีอำนาจกับพวกชนชั้นสูงในประเทศ
สามารถปล่อยข่าวเพื่อปั่นราคาได้มีอิทธิพลมากขึ้นไปอีก
ซึ่งเราเรียกกันว่า รายใหญ่ หรือ เจ้ามือ นั้นเอง
พวกเจ้ามือจึงทำการปั่นราคาหุ้นตั้งแต่ยุคนั้น
ยิ่งทำให้เขาและตระกูลของพวกเขาร่ำรวยมีเงินเก็บและทรัพสินมากขึ้นไปอีก
ห่างชั้นกับคนส่วนใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ
[บทที่ 3 ทำงานเป็นลูกจ้างคนรวยไปเรื่อยๆจนวันตาย]
"อเวจีนรก : คนส่วนใหญ่ไม่มีวันมีอิสระภาพทางการเงินอีกต่อไป"
เมื่อพวกตระกูลคนรวยชนชั้นสูงในสังคมพวกนี้ มีทั้งเงินและทรัพย์สินมหาศาลจากยุคก่อนๆ
เขาจึงเป็นเจ้าของธุรกิจที่ทำการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 หรือ สินค้าและบริการที่ทุกคนไม่อาจหลีกหนีมันได้เสมอ
เช่น อาหาร น้ำ ยารักษาโรค บ้าน-อหังสาต่างๆ รถยนต์-รถเมอร์เตอร์ไซต์ ......
คนพวกนี้จึงสามารถกินรวบธุรกิจพวกนี้ได้หลายธุรกิจตกเป็นของพวกเขาด้วยอำนาจเงินและคอนเน็ตชั่นชนชั้นสูงที่พวกเขามี
ในหลายประเทศที่กฏหมายป้องกันการผูกขาดทางธุรกิจอ่อนแอ เช่น ประเทศไทย
จะโดนพวกนี้กินรวบเป็นเจ้าของธุรกิจพวกนี้เสมอ ซึ่งมักจะเป็นธุรกิจยักใหญ่เบอร์ต้นๆ ของแต่ละกลุ้มธุรกิจซะด้วย
และแน่นอนเมื่อคนส่วนใหญ่ย่อมไม่อยากทำงานจนวันตาย มีอิสระภาพทางการเงินทุกคน
อยากมีวันที่จะได้พักผ่อนไปใช้ชีวิตด้านอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการหาเงินอีกต่อไป
จึงย่อมทำงานเป็นลูกจ้างของพวกคนรวยตระกูลพวกนี้ไปเรื่อยๆ
เพื่อหวังว่าซะวันจะมีเงินเก็บจนเป็นอิสระภาพทางการเงินด้วยการทำงานให้ดีจนได้รับ
การขึ้นเงินเดือน สวัสดิการที่ดีขึ้น และเงินเพิ่มที่ได้รับในโอกาสต่างๆ
แต่สุดท้ายก็พบสัจธรรมที่ว่า ไม่ว่าเงินเดือนและโบนัสจะได้รับมากแค่ไหน
งานส่วนใหญ่ที่คนส่วนใหญ่ทำก็มอบอิสระภาพทางการเงินให้พวกเขาไม่ได้
เพราะเงินเดือน เงินเพิ่มพวกนั้นที่นายจ้างมอบให้แก่ลูกจ้างส่วนใหญ่พวกนี้
มักจะได้รับในอัตราที่ น้อยกว่า รายได้ที่นายจ้างเจ้าของธุรกิจได้รับแบบห่างชั้นมากๆเสมอ
และในหลายยุคสมัน หลายช่วงเวลา
เหล่าลูกจ้างส่วนใหญ่พวกนี้ต้องเผชิญหน้ากับ เงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นระหว่างทางด้วย
ยิ่งทำให้เงินเดือนที่ได้รับมาของพวกเขาหมดไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อประทังชีวิตซะส่วนใหญ่อย่างมหาศาล
ทางเลือกสุดท้ายในการหาเงินเพื่อสู่เส้นชัย การเป็นอิสระภาพทางการเงินของพวกเขา คือ
กำไรจากการเทรดในตลาด หุ้น คริปโต Forex ซึ่งในยุคปัจจุบันมีพร้อมให้เทรดหมดแล้ว
แต่แน่นอนท้ายสุดคนส่วนใหญ่ต้องเป็นผู้แพ้
เพราะคนรวยที่รวยมากพอจนเป็นเจ้ามือในตลาดพวกนี้
ได้เตรียมทั้ง เงิน วิชา ข้อมูล ข่าว รอรับแขกคนส่วนใหญ่ไว้อยู่แล้ว
ด้วยการสิ่งเหล่านี้ ปั่นราคาสารพัดวิธี ให้พวกคนส่วนใหญ่พวกนี้เป็นผู้แพ้ เป็นเม่าในตลาด
ขาดทุนยับ สูญเงินมหาศาล จนต้องออกจากตลาดไป
มีเพียงคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ Genius มากพอ
สามารถชนะตลาดได้อย่างยั่งยืนได้ด้วยวิชาต่างๆที่พยายามหาทางรอดตาย
จากการปั่นราคาของเจ้ามือไปได้ แต่นั้นก็ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของโลก และของไทย อยู่ดี
เมื่อเหล่าเม่าส่วนใหญ่ได้พ่ายแพ้ ขาดทุนยับจาดตลาด หุ้น คริปโต Forex ไปที่เรียบร้อยแล้ว
ก็ต้องกลับมาทำงานเป็นลูกจ้างพวกคนรวยพวกนี้ต่อ
และโดนบั่นทอนด้วย เงินเฟ้อที่หลายยุคมักเพิ่มสูงขึ้น
และวิกฤตเศรษฐกิจรูปแบบต่างๆที่รอรับแขกอยู่แล้ว
ยุคปัจจุบันจึงเป็นยุคที่คนรวยที่รวยอยู่แล้วรวยขึ้นอีกมหาศาล ห่างชั้นจากคนส่วนใหญ่ในโลกแบบไม่เห็นผฝุ่น
จนพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำงานยันลุกหลานเป็นสิบรุ่นก็อยู่ได้อย่างสบายๆ
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังต้องวนลูปนรกแห่งการทำงานหาเงินซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างทำงานให้พวกเขาไม่มีวันจบสิ้น
ซึ่งก็มีบางเรื่องเล่าลือ หรือ ทฤษฏีการเงินของโลกที่ว่า
บางทีวิกฤตเศรษฐกิจอาจเกิดจากน้ำมือของตระกูลคนรวยพวกนี้มาตั้งนานหลานยุคหลายสมัยแล้ว
ไม่ใช่เรื่องบังเอิงที่ไม่มีใครควบคุมได้ก็เป็นได้
เช่น เรื่องราวของตระกูล Rothschild Family ที่ในหลายยุคจงใจทำให้เกิดเงินเฟ้อพุ่งขึ้น
พวกที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานจนตายไม่มีวันลืมตาอ่าปากได้อีกต่อไป
แต่ที่จนถึงตอนนี้ไม่รู้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือแค่เรื่องแต่งกันแน่
(ท่อนนี้ฝั่งหูไว้หูไว้ละกันนะคับ)
โลกนี้ที่มนุษย์วิวัฒนาการมา จึงได้ก่อให้เกิดฝันร้ายที่เรียกว่า โลกทุนนิยม มากขึ้นเรื่อยๆ
จนท้ายที่สุดมันได้กลายเป็นนรกบนดินไปที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อคนส่วนใหญ่ในโลกจะไม่มีวันมีอิสระภาพทางการเงิน อีกต่อไป