ทายาทรุ่น 3 ลัมโบร์กีนี ผนึกสตาร์ทอัพ จะนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากอิตาลีแบรนด์ Iso มาขายในไทย วิ่งได้ไกล 130 กม.
เทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าในไทยมาไม่หยุด จนยิ่งนับวันก็ยิ่งเห็นแบรนด์ต่างชาติหลายแบรนด์เริ่มเข้ามาตีตลาดในไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ทายาทรุ่น 3 ของแบรนด์รถสปอร์ตหรูอย่าง ‘ลัมโบร์กีนี’ ก็พาแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากอิตาลีเข้ามาลุยตลาดในไทยด้วย
นายเฟอร์รุชโช ลัมโบร์กีนี ประธานและเจ้าของแบรนด์ ‘Iso’ ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลลัมโบร์กีนี บอกว่า แบรนด์ Iso ซึ่งเป็นแบรนด์ยานยนต์เก่าแก่ของอิตาลี ได้ร่วมมือกับ 2 พันธมิตรอย่าง บริษัท Giken Mobility และสตาร์ทอัพอย่าง เอดิสัน มอเตอร์ ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายใต้แบรนด์ “Iso” รุ่น Iso UNO-X
โดยเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นแรกของแบรนด์ที่มีเครื่องยนต์ไฟฟ้า ออกแบบโดยเอดิสัน มอเตอร์ เพื่อทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังในปี 2565 นี้
ทายาทลัมโบร์กีนีบอกว่า ที่เข้ามาทำตลาดในไทยจริงจังเป็นเพราะไทยมียอดการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าก็กำลังคึกคักในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ และการตระหนักถึงประโยชน์ของยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อเดือน พ.ย. 64 ที่ผ่านมา Iso ได้เปิดตัว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่น Iso UNO-X อย่างเป็นทางการไปแล้วในงาน EICMA งานแสดงรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นที่อิตาลี
ซึ่งปี 2565 นี้ พร้อมเปิดตัวและเปิดตลาดในโซนเอเชีย โดยประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้สัมผัสกับประสิทธิภาพและความพรีเมียมทางด้านการออกแบบและเทคโนโลยีของรถ Iso UNO-X
Iso UNO-X มีดีไซน์ทรงสปอร์ต ล้ำสมัย แบตเตอรี่ สามารถทำระยะขับขี่ได้ 130 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 115 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ช่วงล่างถูกออกแบบมาจากรถแข่ง เรียกว่า Trellis Suspension ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดความการสั่นสะเทือน และเพิ่มความคงทนและความเบาสบายในการขับขี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของงานออกแบบจากเอดิสัน มอเตอร์
มอเตอร์ไซค์ดังกล่าวยังอยู่ระบบนิเวศอัจฉริยะของ Giken Mobility ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Google Play และ App Store เพื่อควบคุมรถจักรยานยนต์ ตรวจสอบสถานะได้แบบเรียลไทม์ วางแผนการเดินทาง คำนวณระยะทางในการเดินทาง และดูประวัติการเดินทางในเวลาเดียวกัน
อีกทั้งแอปพลิเคชันจะรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อใช้วิจัยและพัฒนาในอนาคต เพื่อช่วยให้วิศวกรปรับปรุงและพัฒนาการออกแบบและการทำงานของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
#TODAYBizview
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม TODAY Bizview จากทีม workpointTODAY
ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี
กับเพจ TODAY Bizview
https://www.facebook.com/todaybizview
ติดตามรายการ TOMORROW เทรนด์สำคัญของโลกเพื่อวันพรุ่งนี้
ทาง YouTube
https://www.youtube.com/playlist...
ติดตามรายการของ workpointTODAY
ทาง YouTube
https://www.youtube.com/c/WorkpointToday/
ติดต่อโฆษณาอีเมล advertorial@workpointnews.com
ทายาทรุ่น 3 ลัมโบร์กีนี จะนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากอิตาลีแบรนด์ Iso มาขายในไทย ชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกล 130 กม.
เทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าในไทยมาไม่หยุด จนยิ่งนับวันก็ยิ่งเห็นแบรนด์ต่างชาติหลายแบรนด์เริ่มเข้ามาตีตลาดในไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ทายาทรุ่น 3 ของแบรนด์รถสปอร์ตหรูอย่าง ‘ลัมโบร์กีนี’ ก็พาแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากอิตาลีเข้ามาลุยตลาดในไทยด้วย
นายเฟอร์รุชโช ลัมโบร์กีนี ประธานและเจ้าของแบรนด์ ‘Iso’ ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลลัมโบร์กีนี บอกว่า แบรนด์ Iso ซึ่งเป็นแบรนด์ยานยนต์เก่าแก่ของอิตาลี ได้ร่วมมือกับ 2 พันธมิตรอย่าง บริษัท Giken Mobility และสตาร์ทอัพอย่าง เอดิสัน มอเตอร์ ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายใต้แบรนด์ “Iso” รุ่น Iso UNO-X
โดยเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นแรกของแบรนด์ที่มีเครื่องยนต์ไฟฟ้า ออกแบบโดยเอดิสัน มอเตอร์ เพื่อทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังในปี 2565 นี้
ทายาทลัมโบร์กีนีบอกว่า ที่เข้ามาทำตลาดในไทยจริงจังเป็นเพราะไทยมียอดการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าก็กำลังคึกคักในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ และการตระหนักถึงประโยชน์ของยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อเดือน พ.ย. 64 ที่ผ่านมา Iso ได้เปิดตัว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่น Iso UNO-X อย่างเป็นทางการไปแล้วในงาน EICMA งานแสดงรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นที่อิตาลี
ซึ่งปี 2565 นี้ พร้อมเปิดตัวและเปิดตลาดในโซนเอเชีย โดยประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้สัมผัสกับประสิทธิภาพและความพรีเมียมทางด้านการออกแบบและเทคโนโลยีของรถ Iso UNO-X
Iso UNO-X มีดีไซน์ทรงสปอร์ต ล้ำสมัย แบตเตอรี่ สามารถทำระยะขับขี่ได้ 130 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 115 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ช่วงล่างถูกออกแบบมาจากรถแข่ง เรียกว่า Trellis Suspension ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดความการสั่นสะเทือน และเพิ่มความคงทนและความเบาสบายในการขับขี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของงานออกแบบจากเอดิสัน มอเตอร์
มอเตอร์ไซค์ดังกล่าวยังอยู่ระบบนิเวศอัจฉริยะของ Giken Mobility ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Google Play และ App Store เพื่อควบคุมรถจักรยานยนต์ ตรวจสอบสถานะได้แบบเรียลไทม์ วางแผนการเดินทาง คำนวณระยะทางในการเดินทาง และดูประวัติการเดินทางในเวลาเดียวกัน
อีกทั้งแอปพลิเคชันจะรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อใช้วิจัยและพัฒนาในอนาคต เพื่อช่วยให้วิศวกรปรับปรุงและพัฒนาการออกแบบและการทำงานของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
#TODAYBizview
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม TODAY Bizview จากทีม workpointTODAY
ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี
กับเพจ TODAY Bizview https://www.facebook.com/todaybizview
ติดตามรายการ TOMORROW เทรนด์สำคัญของโลกเพื่อวันพรุ่งนี้
ทาง YouTube https://www.youtube.com/playlist...
ติดตามรายการของ workpointTODAY
ทาง YouTube https://www.youtube.com/c/WorkpointToday/
ติดต่อโฆษณาอีเมล advertorial@workpointnews.com