/// แต่ไม่ใช่ สรุปไปเลยว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ไม่ใช่เรา | อริยสัจ 21 เมษายน เวลา 12:01 \\\\

ส. ความว่างแห่งสังขารขันธ์ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในเวทนาขันธ์ ฯลฯ นับเนื่องในสัญญาขันธ์ ฯลฯ นับเนื่องในวิญญาณขันธ์ หรือ? ป. ถูกแล้ว ส. ความว่างแห่งวิญญาณขันธ์ ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในสังขารขันธ์

ความจริงมันไม่ใช่การปล่อยวาง การปล่อบวางนั้นเป็นผล มันเกิดภายหลังการมีเหตุ เหตุคือจิตวางเฉย เป็นอุเบกขา ต่ออารมณ์ ต่อผัสสะที่มากระทบ อันอารมณ์จาก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ทุกอย่างจึงมีที่มา

Q:ขณะจิตเป็นอย่างไร A:เป็นความเห็นต่อผัสสะที่มากระทบ แม้จะเห็นว่าจิตว่าง ไม่มีอะไรในจิต ก็เป็นมีความว่างเป็นผัสสะกระทบจิต จิตมีอากาสเป็นผัสสะ ก็คือ อากาสา ฌานจิต Q:ผัสสะกระทบจิตเช่นอะไรบ้าง A:เช่น ขณ

อารมณ์ที่ไม่มีรูปร่าง แต่รู้สึกได้ เรียกอารมณ์ปรมัตถ์ เป็นอารมณ์ละเอียด จิตละเอียด รูปนามละเอียด ตัวรู้ละเอียด เป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ที่เกิดดับในอากาส สติปัฐฐานด้วยอารมณ์ประเภทนี้ จะเห็

เมื่อไม่เข้าใจว่า การสติปัฐฐานเป็นอย่างไรก็อ่าน สายปฏิจสมุปบาทไม่เป็น 1.ผัสสะ-เวทนา :ปฏิจสายเกิด เวทนาดับ-ผัสสะดับ :ปฏิจสายดับ จิตนั้นเกิดดับทีละขณะต่อเนื่องกันไป รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ก็สล

ธาตุรู้กับวิญญานขันธ์ตัวเดียวกัน ต่างกันที่บทบาทขณะนั้นใหญ่หรือเล็ก เมื่อเป็นขณะใหญ่รับบทรู้ทั้งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ในขณะจิตเดียว ก็เป็นธาตุรู้ รับบทเฉพาะอารมณ์ก็เป็นวิญญานขันธ์

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นสิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่ง แล้วอะไรที่เป็นเหตุ-ปัจจัยที่มาเป็นปัจจัยปรุงแต่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเหล่านั้น ใช่อายตนะ6 รูปกระทบตา เสียงกระทบหู กลิ่นกระทบจมูก รสกระท