ปวดคอ
ปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจําวันเนื่องจากกิจกรรมของคนเราต้องทําในท่านั่ง ทําให้คอต้องทําหน้าที่รับน้ำหนักจากศีรษะตลอดทั้งวัน รวมทั้งคอยังเป็นอวัยวะที่สามารถเคลื่อนไหว ได้หลายทิศทาง ทั้งก้ม เงย เอียงและหมุน ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทําให้พบปัญหาปวดคอได้ 50% ในช่วงชีวิตของเรา
สาเหตุของการปวดคอ
1. ลักษณะท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
2. ภาวะข้อเสื่อม/ ข้ออักเสบ
3. ภาวะเครียดทางจิตใจ
4. อุบัติเหตุบริเวณคอ
5. สาเหตุอื่นๆ เช่น มีกระดูกคอผิดปกติแต่กําเนิด สายตาผิดปกติ เป็นต้น
อาการ
ปวดตึงหรือตื้อบริเวณคอ อาจร้าวมาที่บ่า สะบักหรือแขน ในบางรายอาจมีอาการอ่อนแรงร่วมกับ อาการชา เคลื่อนไหวคอได้น้อยลง
การรักษา
เมื่อมีอาการปวดคอควรหยุดพัก
- ประคบด้วยความร้อนหรือความเย็นประมาณ 15-20 นาที
- ใช้เครื่องพยุงคอหรือผ้าขนหนูม้วนที่หนาและยาวพอที่จะรับน้ำหนัก พันรอบคอไว้ เพื่อจํากัดการเคลื่อนไหว และลดแรงกดจากน้ำหนักของศีรษะ
- รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลหรือแอสไพริน เป็นต้น ถ้าหากว่ารับประทานยา 5-7 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
การบริหารกล้ามเนื้อคอเป็นส่วนสําคัญที่สุดในการรักษา เพราะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทําให้ลดโอกาสที่จะปวดคอในครั้งต่อไป
การป้องกันการปวดคอ
จัดท่าในชีวิตประจําวันให้เหมาะสม เช่น ไม่นอนคว่ำเป็นประจํา ระวังและหลีกเลี่ยงอิริยาบถและท่าทางที่ต้องมีการก้มและเงยคอบ่อย ๆ
การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
การบริหารกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น อาจทําภายหลังจากประคบอุ่น เนื่องจากความร้อนจะช่วยให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นดีขึ้นและบรรเทาอาการปวดด้วย
การบริหารกล้ามเนื้อคอเพื่อสร้างความแข็งแรง
ควรเริ่มต้นทําเมื่ออาการปวดคอลดลง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รู้ทันอาการปวดคอและวิธีป้องกัน ข้อมูลจาก https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/april-2022/prevent-neck-pain
รู้ทันอาการปวดคอและวิธีป้องกัน
ปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจําวันเนื่องจากกิจกรรมของคนเราต้องทําในท่านั่ง ทําให้คอต้องทําหน้าที่รับน้ำหนักจากศีรษะตลอดทั้งวัน รวมทั้งคอยังเป็นอวัยวะที่สามารถเคลื่อนไหว ได้หลายทิศทาง ทั้งก้ม เงย เอียงและหมุน ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทําให้พบปัญหาปวดคอได้ 50% ในช่วงชีวิตของเรา
1. ลักษณะท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
2. ภาวะข้อเสื่อม/ ข้ออักเสบ
3. ภาวะเครียดทางจิตใจ
4. อุบัติเหตุบริเวณคอ
5. สาเหตุอื่นๆ เช่น มีกระดูกคอผิดปกติแต่กําเนิด สายตาผิดปกติ เป็นต้น
ปวดตึงหรือตื้อบริเวณคอ อาจร้าวมาที่บ่า สะบักหรือแขน ในบางรายอาจมีอาการอ่อนแรงร่วมกับ อาการชา เคลื่อนไหวคอได้น้อยลง
เมื่อมีอาการปวดคอควรหยุดพัก
- ประคบด้วยความร้อนหรือความเย็นประมาณ 15-20 นาที
- ใช้เครื่องพยุงคอหรือผ้าขนหนูม้วนที่หนาและยาวพอที่จะรับน้ำหนัก พันรอบคอไว้ เพื่อจํากัดการเคลื่อนไหว และลดแรงกดจากน้ำหนักของศีรษะ
- รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลหรือแอสไพริน เป็นต้น ถ้าหากว่ารับประทานยา 5-7 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
จัดท่าในชีวิตประจําวันให้เหมาะสม เช่น ไม่นอนคว่ำเป็นประจํา ระวังและหลีกเลี่ยงอิริยาบถและท่าทางที่ต้องมีการก้มและเงยคอบ่อย ๆ
การบริหารกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น อาจทําภายหลังจากประคบอุ่น เนื่องจากความร้อนจะช่วยให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นดีขึ้นและบรรเทาอาการปวดด้วย
ควรเริ่มต้นทําเมื่ออาการปวดคอลดลง