ลุงข้างทาง ตอน 16 (Furryjit)

เมื่อมองไปทางคนที่ลากตัวน้องนาถยาไป ประกายสายตาท่านวับวาบด้วยอารมณ์ แต่ด้วยฐานะยศความเป็นกึ่งเทพ ทำให้ท่านต้องปิดกั้นการแสดงออก เพราะท่านได้บันดาลโทสะมาแล้วครั้งหนึ่ง แสร้งทำทีเป็นหันหน้าไปทางอื่น พูดลอยๆมา 

“เฮ่อ เห็นทีจะห้ามความโกรธของทายาทพญาชาละวันไม่ได้เสียแล้ว มนุษย์บางคนก็ต่ำทรามเกิน เห็นแก่อามิสสินจ้างจนละเลยบาป”

ในขณะที่คนอื่นฟังแล้วยังขบคิดความหมายไม่ออก แต่นายตะโขงผู้ที่มีความใกล้ชิดเป็นบ่าวนายกับท่านนรคินทร์มานาน รู้แล้วว่าพญานาคได้กล่าวนิรโทษให้กับเขาแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 

ท่านพญาจระเข้จะไม่ได้รับความผิดใดๆตามมาในการกระทำ

“พวกสารเลว ท่านให้ท้ายแล้ว ทีของกรูล่ะ” นายตะโขงตะโกนก้องในใจ ปิดตาสำรวมสติร่ายพึมพำ ทันใดนั้นท่อนหางอันหนั่นหนาก็ผุดออกมาจากข้างหลังท่าน ผิวนั้นตะปุ่มตะป่ำมีเกร็ดแหลมงอกออกมาเป็นแถว ยาวสักสี่ห้าวาเห็นจะได้

ไม่มีใครในห้องนั้นเตรียมพร้อมทันกับสิ่งที่เห็น หางอันทรงพลังประเมินแรงไม่ได้ ตวัดฟาดไปมาอย่างใจนึก โดนใครคนไหนเข้าก็กระเด็นปลิวไปกระแทกกับกำเแพงจนบุบแตกยับเยิน หรือถ้าโดนข้าวของกระทบกระจายก็ระเนระนาด

น่าแปลกที่พอสงบรู้ตัวอีกที ครอบครัวแสนสุขอยู่อย่างปลอดภัยครบถ้วนกัน
อย่างงงๆ น้องนาถยาไม่มีใครควบคุมอีกแล้ว ยืนตัวตรง เหลียวไปรอบข้างก็แลเห็นชายฉกรรจ์ที่คุมตัวเองข้างๆต่างนอนคว่ำหงายอยู่

เกือบทั้งหมดล้มกลิ้งเกลือกด้วยความเจ็บปวด ไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีคนหนึ่งคนใดลุกขึ้นมาได้ในเวลาสั้นๆ บางคนก็สิ้นสติไปเลย

เสียงโอดโอ้ย ครวญครางด้วยความเจ็บ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะบาดแผล และกระดูกที่เคลื่อนที่ หรือมิเช่นนั้นก็แตกไม่เป็นชิ้นเดียวกันดังขึ้น

น้องนาถยาสติคืนก็รีบเดินตัวสั่นมาหาพี่สาว ซึ่งรีบกอดเธอไว้  พอคุณพิมได้น้องสาวกลับมาอย่างปลอดภัย ก็เป็นห่วงคนอื่นๆในครอบครัวเช่นกัน 

เจ้าจ๋านน้ำตาหลั่งทะลักข้างร่างที่ไร้ลมหายใจของนรา จนกระทั่งรู้ว่าเพื่อนรักคงไม่กลับมาแล้ว มันผุดลุกขึ้นมายืนเคียงข้างเจ้าหยก ประกาศเสียงกร้าว

“วันนี้กรูยอมตายล่ะ ใครมีส่วนทำให้เพื่อนกรูเป็นอย่างนี้ พวกยิ้มได้รับผลตอบแทนอย่างสาสมแน่”

พูดจบก็หันไปทางคุณพิมภรรยาคู่ชีวิต ออกคำสั่งกับเธอเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่แต่งงานอยู่ร่วมกินกันมา

“น้องพิมพานาถยาออกไป ฝากดูแลคุณมาลัยด้วย โถ น่าสงสาร แต่งงานได้สองคืนก็เป็นหม้ายเสียแล้ว เดี๋ยวพี่จะจัดการไอ้พวกนี้ให้เอง”

หยาดน้ำตาคงพร่าสองตาเจ้าจ๋านไปหมด หูของมันคงอื้อด้วย จึงไม่เห็นรอบข้างว่า ไอ้บรรดาคนที่มันแค้นนั้น บัดนี้นอนกระจัดกระจายเกลื่อนห้อง สภาพร่อแร่แทบทั้งนั้นด้วยฤทธิ์ของท่านตะโขง

ยกเว้นรองผู้กำกับการกับเจ้าชาญที่พอหยุดตะลึงหงายกับภาพเหตุการณ์ ถอยร่นไปทางประตูห้อง เตรียมเผ่นหนี จึงเกือบปะทะก้บร่างทรงพลานุภาพร่างหนึ่งที่กำลังย่างก้าวเข้ามาในห้อง

คนใจชั่วทั้งสองไม่มีโอกาสแม้จะกระทบถูกผิวกายท่าน ก็มีอันร่างกระเด็นพุ่งย้อนหลังกลับมาในห้อง ราวกับถูกแรงอัดอากาศอย่างหนักยันมา หลังปลิวลงกระแทกอักกับพื้น

ไอ้ชาญเพิ่งจะโดนนราซัดหมอบมา จึงทนเจ็บได้พอทำเนา แต่ท่านรองสารวัตรปกติอยู่ดีมีสุขมาตลอด ด้วยยศอำนาจบารมีทางราชการที่คุ้มอยู่  เคยแต่ข่มเหงคนอื่นเป็นส่วนใหญ่ พอเข้าเองบ้างถึงกับสะโอดสะโอย นอนกองกับพื้นทุรนทุราย

ชายชราที่หน้าย่น หากแต่ร่างกายยังคงดูแกร่ง สง่าผึ่งผาย เดินปรี่เข้ามาในห้องกวาดสายตามองไปรอบ แล้วก็ทักท่านหนึ่งที่มีศักดิ์เทียบเท่ากันอย่างพอเป็นมารยาท

“อ้าว ท่านนรคินทร์  มาตั้งแต่เมื่อไหร่ “

กล่าวจบก็ไม่ได้รอฟังคำตอบรับ มองไปทางที่หญิงมาลัยแสดงท่าทีกอดลมกอดแล้งด้วยจิตของความเป็นห่วงใย

“โถ ไอ้นรา วิญญาณหลุดจากร่างแล้ว เอ๊ะ” ท่านมองไปยังร่างที่ไร้จิตวิญญาณของหลานชายท่านในอดีตชาติ

“อวัยวะภายในแหลกแล้ว แต่ที่เอ็งยังไม่พ้นสภาพความมีชีวิต เพราะมีคนช่วยดึงวิญญาณเอ็งออกมาจากร่างก่อนถูกทำร้าย ทำให้เอ็งไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดอันใด มิเช่นนั้นเอ็งจะขาดใจตายเพราะพิษบาดแผลไปแล้ว”

ร่างสตรีในชุดขาวที่ทับซ้อนก้าวออกมา นั่นคือผีนางพรายนั่นเอง คราวนี้นางสามารถ
ปรากฎกายต่อทุกผู้ทุกคนให้เห็นได้อย่างโจ่งแจ้ง ไม่ใช่แค่เฉพาะเจาะจงแค่ตัวบุคคล แต่ใบหน้าบูดบวมน้ำยังคงไว้ซึ่งสภาพเดิม

เธอมองไปยังน้องนาถยา พูดขึ้นด้วยเสียงแสดงออกถึงความรักอย่างลึกซึ้ง

“พี่ไม่ได้ทิ้งน้องตอนถูกจับตัว แต่คุณนราโดนแทงด้วยมีดลงอาคมอย่างปัจจุบันทันด่วน ไอ้เลวคนที่ทำ มันตั้งใจให้ตายคาที่ คมมีดได้ตัดใส้คุณผู้ชายคนดีนั้นไปแล้ว ถ้าพี่พรายไม่ไปฉุดวิญญาณคุณนราออกมาก่อน ชีวิตแกจะดับทันที เพราะความสาหัสทางบาดแผลมันสุดที่มนุษย์จะทนทานได้”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่