เราขอระบายความรู้สึกที่มันอัดอั้นมานานคะเราคบกับแฟนมาเกือบ6ปี ตั้งแต่สมัยเรียน ก่อนจะเรียนจบแฟนจับทหารได้ใบแดง ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ตั้ง2ปี คือเรารู้สึกแย่มากเพราะนิสัยเป็นคนติดแฟนมาก มันต้องทรมานมากแน่ๆ แล้ววันที่เขาต้องไปเป็นทหารก็มาถึง จำได้ว่าช่วงแรกๆไม่ได้ติดต่อกันเลย รู้สึกว่าคิดถึงและเป็นห่วงเขามากๆ ช่วงนี้เราเรียนจบแล้วเลยตั้งใจจะไปหางานทำใกล้ๆกับค่ายที่เขาอยู่อย่างน้อยก็ได้ไปหาเขาได้ และตั้งใจว่าทำงานที่นี่เพื่อรอเขาแล้วเมื่อเค้าออกจากทหารค่อยย้ายไปทำงานด้วยกันที่อื่น
แฟนตั้งใจออกรถเก๋งเพื่อให้ที่บ้านได้ใช้โดยใช้เงินเดือนของทหารที่ได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดที่เขามี และแน่นอนว่าเขาจะไม่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ มีคำพูดนึงเขาพูดไว้ว่า”ระหว่างที่เป็นทหารค่ากินเราคงต้องรบกวนเธอก่อนนะ”ตอนนั้นเราก็โอเคเพราะคิดว่ามันคงไม่อะไรมากมาย จนวันที่เขาอยู่ในค่ายแน่นอนว่าเราจะได้เจอกันแค่เดือนละครั้งเวลากลับบ้านเขาจะมาอยู่กับเรา แน่นอนเราจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เขาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นค่ากิน ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า ค่าน้ำมันรถ ไปเที่ยวทุกอย่างเอาเป็นว่าอยากได้อะไรเราออกให้หมดซึ่งเราเต็มใจนะเพราะรู้ว่าเขาไม่มี แค่ได้มีเวลาอยู่กับเขาก็พอแล้ว เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่าแฟนขอเงินซื้อนั้นนี่บ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องแต่งรถ อะไรหลายๆแต่เราบ่นเขาตลอดนะ แต่ก็ให้ยืม แรกๆเราไม่เคยคิดว่าจะต้องเอาเงินคืนเรานะ แต่หลังๆมันเริ่มเยอะขึ้น จากหลังร้อย เป็นหลังพัน บ่อยๆเราจึงเริ่มจดบันทึกดูคร่าวๆย้ำว่าคร่าวๆค่ากินเราแทบไม่คิด คิดค่าหลักๆพวกแต่งรถ ประกันรถ ส่วนเรื่องเที่ยวเราไม่คิดเลยในจุดนี้เพราะคิดว่าเขาพาเราไปแค่นั้นพอแล้ว จนที่บ้านของแฟนก็เริ่มมายืมเงินเราบ้าง เราก็ให้นะเพราะเขาบอกว่าจะคืน นานๆไปเขาก็เงียบแล้วก็ไม่ยอมคืนเรา ตอนนั้นเราก็รู้สึกไม่โอเคกับที่บ้านแฟนเท่าไหร่นะ แต่ก็ปล่อยผ่านเพราะคิดว่าเขาคงลำบากจริงๆ ชีวิตเราเป็นแบบนี้วนเวียนอยู่2ปีในช่วงที่แฟนเราเป็นทหาร เราก็ตั้งใจทำงานเก็บเงิน ตั้งหน้าตั้งตารอแฟนออกมา แล้วไปทำงานด้วยนี่คือสิ่งที่เราคิดไว้ตั้งแต่เรียนจบ แล้ววันที่แฟนเราปลดจากทหารก็มาถึงเราดีใจมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราอดทนกับความเหงา ความเศร้า ความคิดถึง ทุกๆอย่าง ยอมรับว่าช่วงนั้นมีคนมาจีบเยอะแต่เราไม่สนใจเลย เพราะเราตั้งใจแล้วว่าเรารักคนนี้มากเราจะไม่มีวันทำเขาเสียใจแน่นอน แฟนออกจากทหารช่วงพฤศจิกาพอดี ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้แฟนจะไม่มีเงินเดือนอีก ซึ่งหลังจากนี้ที่เขาจะต้องจ่ายคือค่ารถ ค่าประกันรถ ค่าเรียนที่ต้องจ่ายคืนรัฐบาล ต่อพรบ ต่างๆมากมาย ซึ่งเรายอมรับเลยว่าช่วงนั้นเราช๊อตหนักมากเพราะเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะ เราพยายามช่วยเขาเต็มที่แต่สุดท้ายเราหมุนเงินไม่ทัน เลยตัดสินใจไปปรึกษาพ่อแม่เรา พ่อเราเลยให้เงินแฟนมาก้อนนึงคือตอนนั้น5หมื่น ให้แฟนมาตั้งตัวระหว่างที่ยังไม่ได้งานทำ ช่วงที่แฟนหางานทำเราสนับสนุนเขาเต็มที่เป็นเพื่อนเขาไปสอบที่ต่างๆเพื่อให้ได้งานทำ จนต้นปีเขาได้งานที่รังสิต ไปช่วยเขาหาห้องพักจัดแจงซื้อของใช้เข้าห้องทำความสะอาดคือช้วยทุกอย่างเราก็ดีใจกับเขานะแต่แอบคิดมากเหมือนกันเพราะหลังจากนี้ชีวิตเขาจะมีอิสระเต็มที่แล้ว เราก้พยายามหางานใกล้ๆเขาแต่ช่วงนั้นเราหางานแถวนั้นไม่ได้เลย จึงต้องทำที่เก่าไปก่อนเรื่อยๆจนกว่าจะได้ที่ใหม่ ระหว่างนั้นเรากับเขาจะได้เจอแค่เสาร์ อาทิตย์ เขาจะเป็นฝ่ายมาหาเราเพราะเราทำงาน6วัน แต่เขาจะทำงานแค่5วันอีกอย่างเราไม่มีรถด้วยเลยไม่สะดวก จากที่เจอกันทุกอาทิตย์ เป็นอาทิตย์เว้นอาทิตย์ และเดือนละครั้ง ชีวิตเราตอนนี้มีแค่การทำงาน และการรอเวลาได้เจอเขาในวันหยุดเป็นแบบนี้มา1ปีเต็ม ชีวิตเรากับเขาก็มีความสุขดีถึงจะคิดถึงกันหน่อยแต่เราก็โอเค ส่วนเรื่องเงินที่แฟนยืมเราไปเขาบอกเสมอว่าทำงานแล้วจะคืนเรา แต่พอทำงานแล้วเขาบอกว่าเงินไม่พอหมุนใช้เลยยังไม่คืนเรา ก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆเราก็ไม่ได้ว่าอะไร ปีถัดมาบริษัทแฟนเรารับสมัครตำแหน่งงานเราพอดี เราดีใจมากรีบสมัครงานอย่างเร็ว แล้วในที่สุดเราก็ได้ทำงานที่นี่คือมันดีมากๆสำหรับเราตอนนั้นละ คือที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกมันมาถีงแล้ว เราตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานเก่า เก็บข้าวของย้ายไปที่แฟนทันทีแบบไม่ลังเลอะไรเลย แล้ววันที่เราไม่คาดฝันก็มาถึง เราจับได้ว่าแฟนเรามีคนอื่น แอบคบกันมาตั้งแต่แฟนทำงานได้ปีแรก ไปถึงขั้นไหนแล้วเราคงไม่ต้องบอกเนอะ เราช็อคมาก หน้าชาไปหมดมันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เรารับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย สติเราแตกไปเลย ร้องไห้จนไม่ไหวกับสภาพตัวเองมาก ตัดสินใจเลิกกับเขาเราไม่โอเคมากๆบอกกับที่บ้านพ่อกับพ่อเราเสียใจมาก เป็นห่วงเรามาก แม่ร้องไห้ทั้งคืนเพราะสงสารเรา จนที่บ้านขึ้นมาหาเราเพราะจะรับเรากลับบ้าน ตอนนั้นเรากังวลเรื่องที่ทำงานด้วยเพราะเพิ่งตอบรับไป อีกอย่างแฟน ร้องห่มร้องไห้ขอโอกาสอีกครั้ง คือตอนนั้นเรามีเวลาตัดสินใจไม่นานเพราะไม่กี่วันเราต้องไปทำงานแล้ว เราเลยให้โอกาสเขาและยังทำงานที่นี่ต่อไป พ่อกับแม่ก็ยอมรับในการตัดสินใจของเรา แรกๆเราแย่มาก มันไม่มีความสุขเลย เราร้องไห้ทุกวัน อะไรมันแย่ไปหมดใช้ชีวิตอยุ่กับเขามีแต่ความระแวง จนมันกระทบกับกาทำงาน เราไม่มีความสุขกับการทำงาน คือเป็นหนักมากเราทนมาจน9เดือนจนเราหาทางออกไม่ได้สุดท้ายเราลาออกจากงาน ตัดสินใจกลับไปอยุ่บ้าน เพื่อลองกลับไปคิดทบทวนว่าเราสามารถให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหม เรายังต้องการเขาอยู่รึเปล่า เรากลับบ้านไปทั้งความรู้สึกเสียใจและคิดถึงเขามาก เราไปอยุ่บ้านเกือบ3เดือนมีคุยกับเขาแต่ก้ทะเลาะกันส่วนใหญ่เราไม่ค่อยเข้าใจเขาเลยว่าทำไม เขาจะต้องหงุดหงิดเราพูดอะไรไปเขาก็จะบอกว่าเราไม่เข้าใจเขา เป็นแบบนี้มาตลอด จนวันสงกรานต์แฟนมาหาเราที่บ้านคือเหมือนอะไรๆจะดีขึ้นนะ ความรุ้สึกเราก็โอเคกับเขามากขึ้นด้วย เลยตัดสินใจขึ้นมาอยุ่กับแฟนสักพักนึง มาอยุ่ได้5วัน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกแล้ว มีผู้หญิงคนนึงทักมาหาเรา บอกติดต่อแฟนเราไม่ได้เขากังวลมากคือตอนแรกคิดว่าเป็นคนที่ทำงาน พยายามไม่คิดเรื่องอื่น แต่สุดท้ายความจริงก็คือความจริงอยู่ดี เหมือนเดิมคะ คุยกันตั้งแต่เรายังอยู่กับเขานั้นละ ช็อครอบที่สองเอาเวลาไหนไปเจอกัน นัดไปกินข้าวกัน ทั้งที่เราก็อยู่ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องไปถึงไหนกันแล้วเนอะ คือเราไม่ไหวจริงๆ มันดิ่งมาก เราโดนอีกแล้วหรอ คนเราจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำๆได้กี่ครั้งกัน เราพอแล้วจริงๆ ไม่มีความรุ้สึกผิดใดๆจากแฟนเราเลยมีแค่คำพูดที่บอกว่าทำตามสัญญาที่ให้กับเราไม่ได้ ขอจบกับเรา โอ้วววว มันง่ายขนาดนี้เลยคะทุกคน คือความรู้สึกเราที่พยามจะอยู่กับเขาต่อ พยามที่จะไว้ใจเขาอีกครั้ง มันยากมากๆเลยนะ สุดท้ายตัดจบแค่คำว่าทำตามสัญญาไม่ได้ แค่นั้น
หลังจากนี้เราคงต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่สักที
ขอให้เราเจอคนที่รักเราจริงๆด้วยนะ
คนเราจะทนกับความผิดหวังได้กี่ครั้ง
แฟนตั้งใจออกรถเก๋งเพื่อให้ที่บ้านได้ใช้โดยใช้เงินเดือนของทหารที่ได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดที่เขามี และแน่นอนว่าเขาจะไม่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ มีคำพูดนึงเขาพูดไว้ว่า”ระหว่างที่เป็นทหารค่ากินเราคงต้องรบกวนเธอก่อนนะ”ตอนนั้นเราก็โอเคเพราะคิดว่ามันคงไม่อะไรมากมาย จนวันที่เขาอยู่ในค่ายแน่นอนว่าเราจะได้เจอกันแค่เดือนละครั้งเวลากลับบ้านเขาจะมาอยู่กับเรา แน่นอนเราจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เขาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นค่ากิน ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า ค่าน้ำมันรถ ไปเที่ยวทุกอย่างเอาเป็นว่าอยากได้อะไรเราออกให้หมดซึ่งเราเต็มใจนะเพราะรู้ว่าเขาไม่มี แค่ได้มีเวลาอยู่กับเขาก็พอแล้ว เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่าแฟนขอเงินซื้อนั้นนี่บ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องแต่งรถ อะไรหลายๆแต่เราบ่นเขาตลอดนะ แต่ก็ให้ยืม แรกๆเราไม่เคยคิดว่าจะต้องเอาเงินคืนเรานะ แต่หลังๆมันเริ่มเยอะขึ้น จากหลังร้อย เป็นหลังพัน บ่อยๆเราจึงเริ่มจดบันทึกดูคร่าวๆย้ำว่าคร่าวๆค่ากินเราแทบไม่คิด คิดค่าหลักๆพวกแต่งรถ ประกันรถ ส่วนเรื่องเที่ยวเราไม่คิดเลยในจุดนี้เพราะคิดว่าเขาพาเราไปแค่นั้นพอแล้ว จนที่บ้านของแฟนก็เริ่มมายืมเงินเราบ้าง เราก็ให้นะเพราะเขาบอกว่าจะคืน นานๆไปเขาก็เงียบแล้วก็ไม่ยอมคืนเรา ตอนนั้นเราก็รู้สึกไม่โอเคกับที่บ้านแฟนเท่าไหร่นะ แต่ก็ปล่อยผ่านเพราะคิดว่าเขาคงลำบากจริงๆ ชีวิตเราเป็นแบบนี้วนเวียนอยู่2ปีในช่วงที่แฟนเราเป็นทหาร เราก็ตั้งใจทำงานเก็บเงิน ตั้งหน้าตั้งตารอแฟนออกมา แล้วไปทำงานด้วยนี่คือสิ่งที่เราคิดไว้ตั้งแต่เรียนจบ แล้ววันที่แฟนเราปลดจากทหารก็มาถึงเราดีใจมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราอดทนกับความเหงา ความเศร้า ความคิดถึง ทุกๆอย่าง ยอมรับว่าช่วงนั้นมีคนมาจีบเยอะแต่เราไม่สนใจเลย เพราะเราตั้งใจแล้วว่าเรารักคนนี้มากเราจะไม่มีวันทำเขาเสียใจแน่นอน แฟนออกจากทหารช่วงพฤศจิกาพอดี ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้แฟนจะไม่มีเงินเดือนอีก ซึ่งหลังจากนี้ที่เขาจะต้องจ่ายคือค่ารถ ค่าประกันรถ ค่าเรียนที่ต้องจ่ายคืนรัฐบาล ต่อพรบ ต่างๆมากมาย ซึ่งเรายอมรับเลยว่าช่วงนั้นเราช๊อตหนักมากเพราะเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะ เราพยายามช่วยเขาเต็มที่แต่สุดท้ายเราหมุนเงินไม่ทัน เลยตัดสินใจไปปรึกษาพ่อแม่เรา พ่อเราเลยให้เงินแฟนมาก้อนนึงคือตอนนั้น5หมื่น ให้แฟนมาตั้งตัวระหว่างที่ยังไม่ได้งานทำ ช่วงที่แฟนหางานทำเราสนับสนุนเขาเต็มที่เป็นเพื่อนเขาไปสอบที่ต่างๆเพื่อให้ได้งานทำ จนต้นปีเขาได้งานที่รังสิต ไปช่วยเขาหาห้องพักจัดแจงซื้อของใช้เข้าห้องทำความสะอาดคือช้วยทุกอย่างเราก็ดีใจกับเขานะแต่แอบคิดมากเหมือนกันเพราะหลังจากนี้ชีวิตเขาจะมีอิสระเต็มที่แล้ว เราก้พยายามหางานใกล้ๆเขาแต่ช่วงนั้นเราหางานแถวนั้นไม่ได้เลย จึงต้องทำที่เก่าไปก่อนเรื่อยๆจนกว่าจะได้ที่ใหม่ ระหว่างนั้นเรากับเขาจะได้เจอแค่เสาร์ อาทิตย์ เขาจะเป็นฝ่ายมาหาเราเพราะเราทำงาน6วัน แต่เขาจะทำงานแค่5วันอีกอย่างเราไม่มีรถด้วยเลยไม่สะดวก จากที่เจอกันทุกอาทิตย์ เป็นอาทิตย์เว้นอาทิตย์ และเดือนละครั้ง ชีวิตเราตอนนี้มีแค่การทำงาน และการรอเวลาได้เจอเขาในวันหยุดเป็นแบบนี้มา1ปีเต็ม ชีวิตเรากับเขาก็มีความสุขดีถึงจะคิดถึงกันหน่อยแต่เราก็โอเค ส่วนเรื่องเงินที่แฟนยืมเราไปเขาบอกเสมอว่าทำงานแล้วจะคืนเรา แต่พอทำงานแล้วเขาบอกว่าเงินไม่พอหมุนใช้เลยยังไม่คืนเรา ก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆเราก็ไม่ได้ว่าอะไร ปีถัดมาบริษัทแฟนเรารับสมัครตำแหน่งงานเราพอดี เราดีใจมากรีบสมัครงานอย่างเร็ว แล้วในที่สุดเราก็ได้ทำงานที่นี่คือมันดีมากๆสำหรับเราตอนนั้นละ คือที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกมันมาถีงแล้ว เราตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานเก่า เก็บข้าวของย้ายไปที่แฟนทันทีแบบไม่ลังเลอะไรเลย แล้ววันที่เราไม่คาดฝันก็มาถึง เราจับได้ว่าแฟนเรามีคนอื่น แอบคบกันมาตั้งแต่แฟนทำงานได้ปีแรก ไปถึงขั้นไหนแล้วเราคงไม่ต้องบอกเนอะ เราช็อคมาก หน้าชาไปหมดมันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เรารับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย สติเราแตกไปเลย ร้องไห้จนไม่ไหวกับสภาพตัวเองมาก ตัดสินใจเลิกกับเขาเราไม่โอเคมากๆบอกกับที่บ้านพ่อกับพ่อเราเสียใจมาก เป็นห่วงเรามาก แม่ร้องไห้ทั้งคืนเพราะสงสารเรา จนที่บ้านขึ้นมาหาเราเพราะจะรับเรากลับบ้าน ตอนนั้นเรากังวลเรื่องที่ทำงานด้วยเพราะเพิ่งตอบรับไป อีกอย่างแฟน ร้องห่มร้องไห้ขอโอกาสอีกครั้ง คือตอนนั้นเรามีเวลาตัดสินใจไม่นานเพราะไม่กี่วันเราต้องไปทำงานแล้ว เราเลยให้โอกาสเขาและยังทำงานที่นี่ต่อไป พ่อกับแม่ก็ยอมรับในการตัดสินใจของเรา แรกๆเราแย่มาก มันไม่มีความสุขเลย เราร้องไห้ทุกวัน อะไรมันแย่ไปหมดใช้ชีวิตอยุ่กับเขามีแต่ความระแวง จนมันกระทบกับกาทำงาน เราไม่มีความสุขกับการทำงาน คือเป็นหนักมากเราทนมาจน9เดือนจนเราหาทางออกไม่ได้สุดท้ายเราลาออกจากงาน ตัดสินใจกลับไปอยุ่บ้าน เพื่อลองกลับไปคิดทบทวนว่าเราสามารถให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไหม เรายังต้องการเขาอยู่รึเปล่า เรากลับบ้านไปทั้งความรู้สึกเสียใจและคิดถึงเขามาก เราไปอยุ่บ้านเกือบ3เดือนมีคุยกับเขาแต่ก้ทะเลาะกันส่วนใหญ่เราไม่ค่อยเข้าใจเขาเลยว่าทำไม เขาจะต้องหงุดหงิดเราพูดอะไรไปเขาก็จะบอกว่าเราไม่เข้าใจเขา เป็นแบบนี้มาตลอด จนวันสงกรานต์แฟนมาหาเราที่บ้านคือเหมือนอะไรๆจะดีขึ้นนะ ความรุ้สึกเราก็โอเคกับเขามากขึ้นด้วย เลยตัดสินใจขึ้นมาอยุ่กับแฟนสักพักนึง มาอยุ่ได้5วัน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกแล้ว มีผู้หญิงคนนึงทักมาหาเรา บอกติดต่อแฟนเราไม่ได้เขากังวลมากคือตอนแรกคิดว่าเป็นคนที่ทำงาน พยายามไม่คิดเรื่องอื่น แต่สุดท้ายความจริงก็คือความจริงอยู่ดี เหมือนเดิมคะ คุยกันตั้งแต่เรายังอยู่กับเขานั้นละ ช็อครอบที่สองเอาเวลาไหนไปเจอกัน นัดไปกินข้าวกัน ทั้งที่เราก็อยู่ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องไปถึงไหนกันแล้วเนอะ คือเราไม่ไหวจริงๆ มันดิ่งมาก เราโดนอีกแล้วหรอ คนเราจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำๆได้กี่ครั้งกัน เราพอแล้วจริงๆ ไม่มีความรุ้สึกผิดใดๆจากแฟนเราเลยมีแค่คำพูดที่บอกว่าทำตามสัญญาที่ให้กับเราไม่ได้ ขอจบกับเรา โอ้วววว มันง่ายขนาดนี้เลยคะทุกคน คือความรู้สึกเราที่พยามจะอยู่กับเขาต่อ พยามที่จะไว้ใจเขาอีกครั้ง มันยากมากๆเลยนะ สุดท้ายตัดจบแค่คำว่าทำตามสัญญาไม่ได้ แค่นั้น
หลังจากนี้เราคงต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่สักที
ขอให้เราเจอคนที่รักเราจริงๆด้วยนะ