รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะครับ เป็นเรื่องปวดหัวและคิดหาทางออกอย่างมากกับปัญหาขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านครับ
- ผมจะขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านเป็นชื่อผมกู้คนเดียว พิจารณาคุณสมบัติ เงินเดือน รายได้ มูลค่าบ้านแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร ประวัติเครดิตบูโรดี
- ผมแต่งงานจดทะเบียนและมีลูกแล้ว ภรรยาไม่ได้ทำงาน ดูแลลูกที่บ้าน
- ผมจะซื้อบ้านใหม่ยื่นขอสินเชื่อชื่อผมคนเดียว เตรียมเอกสารเพื่อยื่นกู้ มีใบให้คู่สมรสเซ็นต์ยินยอมตรวจเครดิตบูโรด้วย
ปัญหาเริ่มจากตรงนี้ ภรรยาสารภาพว่ามีติดหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดอยู่ 2 ใบ ใบละประมาณ 3 หมื่น รวมประมาณ 6 หมื่นบาท ไม่ส่งมา 4-5 เดือนแล้วเพราะคิดเอง เออเอง ตั้งใจจะทำ cut loss จ่ายทีเดียว
ปรกติค่าใช้จ่ายที่บ้านผมรับผิดชอบทั้งหมด ภรรยาขาดตกอะไร ต้องการอะไรก็แจ้งผมได้ ผมจะคอยปรามของฟุ่มเฟือยที่เกินพอดี เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะพฤติกรรมการใช้จ่ายของภรรยามีปัญหามาตลอดตั้งแต่คบกันและยังทำงานอยู่ ผมปิดหนี้บัตรให้หลายรอบ รวมถึงหนี้ กยศ ของภรรยาผมก็ปิดให้ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน เรื่องใช้จ่ายเงินผมเลยควบคุมทั้งหมด ตอนนี้ให้ภรรยาอยู่บ้านเลี้ยงลูกและใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่คิดว่าจะแอบมีหนี้เสียบัตรเครดิตโผล่มาให้ surprise อีก (บัตรเป็นชื่อเขาทั้งหมดตั้งแต่เขายังทำงานอยู่)
เลยมารบกวนขอคำปรึกษาครับ ถ้าผมยื่นขอสินเชื่อไป แน่นอนว่าธนาคารเช็คเครดิตบูโรของภรรยาที่จดทะเบียนด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นชื่อผมกู้คนเดียวก็ตาม ข้อมูลนี้ตามที่ธนาคารให้กรอกเอกสารเลยครับ (เคยมีถกเถียงกันว่าธนาคารจะตรวจบูโรเฉพาะชื่อผู้กู้ แต่ข้อมูลล่าสุดแจ้งว่าตรวจของคู่สมรสที่เซ็นต์ยินยอมให้ตรวจด้วยครับ) ผมควรแก้ปัญหาอย่างไรดี
1. ถ้าผมไปปิดหนี้เสียของภรรยาให้หมดก่อน รอ status ของบัญชีภรรยาเปลี่ยนเป็น ปิดบัญชี แล้วยื่นกู้ จะมีโอกาสผ่านไหมครับ แต่ถ้าตามที่อ่านมา ประวัติหนี้เสียมันเกิดไปแล้ว (ค้างจ่ายเกิน 90 วัน) ต่อให้ปิดบัญชีแล้วก็ต้องรอร่วม 3 ปีกว่าประวัติบูโรจะหาย โอกาสที่จะกู้ไม่ผ่านเพราะประวัติเสียของภรรยาเลยยังมีสูงอยู่
2. การหย่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไหมครับ ตอนยื่นกู้จะได้ไม่มีภรรยามาเกี่ยวข้อง และทางธนาคารจะมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมไหม เช่น ต้องหย่ากันเป็นระยะเวลากี่วัน กี่เดือนถึงจะไม่มีปัญหาครับ
หรือมีวิธีการอื่นๆ อีกไหมครับ ผมว่าเรื่องหย่าก็เป็นเรื่องใหญ่และวุ่ยวายเหมือนกัน ตอนนี้ก็มีลูกแล้วด้วย กับปัญหาเงินแค่ 6 หมื่นบาทที่ภรรยาผมไปทำหนี้เสียไว้ คิดแล้วก็เจ็บใจจริงๆ มันมีผลกับเครดิตของผมที่จะใช้เป็นล้านๆ ได้ขนาดนี้ ผมก็สวดภรรยาไปยกใหญ่แล้ว เขาไม่คิดว่าจะกระทบกับผมขนาดนี้ แต่ปัญหามันเกิดแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขกันไปครับ เครียดเลย ขอบคุณมากครับ
ขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านคนเดียว แต่ภรรยามีประวัติติดเครดิตบูโร ต้องหย่าก่อนยื่นกู้จะช่วยได้ไหมครับ
- ผมจะขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านเป็นชื่อผมกู้คนเดียว พิจารณาคุณสมบัติ เงินเดือน รายได้ มูลค่าบ้านแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร ประวัติเครดิตบูโรดี
- ผมแต่งงานจดทะเบียนและมีลูกแล้ว ภรรยาไม่ได้ทำงาน ดูแลลูกที่บ้าน
- ผมจะซื้อบ้านใหม่ยื่นขอสินเชื่อชื่อผมคนเดียว เตรียมเอกสารเพื่อยื่นกู้ มีใบให้คู่สมรสเซ็นต์ยินยอมตรวจเครดิตบูโรด้วย
ปัญหาเริ่มจากตรงนี้ ภรรยาสารภาพว่ามีติดหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดอยู่ 2 ใบ ใบละประมาณ 3 หมื่น รวมประมาณ 6 หมื่นบาท ไม่ส่งมา 4-5 เดือนแล้วเพราะคิดเอง เออเอง ตั้งใจจะทำ cut loss จ่ายทีเดียว
ปรกติค่าใช้จ่ายที่บ้านผมรับผิดชอบทั้งหมด ภรรยาขาดตกอะไร ต้องการอะไรก็แจ้งผมได้ ผมจะคอยปรามของฟุ่มเฟือยที่เกินพอดี เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะพฤติกรรมการใช้จ่ายของภรรยามีปัญหามาตลอดตั้งแต่คบกันและยังทำงานอยู่ ผมปิดหนี้บัตรให้หลายรอบ รวมถึงหนี้ กยศ ของภรรยาผมก็ปิดให้ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน เรื่องใช้จ่ายเงินผมเลยควบคุมทั้งหมด ตอนนี้ให้ภรรยาอยู่บ้านเลี้ยงลูกและใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่คิดว่าจะแอบมีหนี้เสียบัตรเครดิตโผล่มาให้ surprise อีก (บัตรเป็นชื่อเขาทั้งหมดตั้งแต่เขายังทำงานอยู่)
เลยมารบกวนขอคำปรึกษาครับ ถ้าผมยื่นขอสินเชื่อไป แน่นอนว่าธนาคารเช็คเครดิตบูโรของภรรยาที่จดทะเบียนด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นชื่อผมกู้คนเดียวก็ตาม ข้อมูลนี้ตามที่ธนาคารให้กรอกเอกสารเลยครับ (เคยมีถกเถียงกันว่าธนาคารจะตรวจบูโรเฉพาะชื่อผู้กู้ แต่ข้อมูลล่าสุดแจ้งว่าตรวจของคู่สมรสที่เซ็นต์ยินยอมให้ตรวจด้วยครับ) ผมควรแก้ปัญหาอย่างไรดี
1. ถ้าผมไปปิดหนี้เสียของภรรยาให้หมดก่อน รอ status ของบัญชีภรรยาเปลี่ยนเป็น ปิดบัญชี แล้วยื่นกู้ จะมีโอกาสผ่านไหมครับ แต่ถ้าตามที่อ่านมา ประวัติหนี้เสียมันเกิดไปแล้ว (ค้างจ่ายเกิน 90 วัน) ต่อให้ปิดบัญชีแล้วก็ต้องรอร่วม 3 ปีกว่าประวัติบูโรจะหาย โอกาสที่จะกู้ไม่ผ่านเพราะประวัติเสียของภรรยาเลยยังมีสูงอยู่
2. การหย่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไหมครับ ตอนยื่นกู้จะได้ไม่มีภรรยามาเกี่ยวข้อง และทางธนาคารจะมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมไหม เช่น ต้องหย่ากันเป็นระยะเวลากี่วัน กี่เดือนถึงจะไม่มีปัญหาครับ
หรือมีวิธีการอื่นๆ อีกไหมครับ ผมว่าเรื่องหย่าก็เป็นเรื่องใหญ่และวุ่ยวายเหมือนกัน ตอนนี้ก็มีลูกแล้วด้วย กับปัญหาเงินแค่ 6 หมื่นบาทที่ภรรยาผมไปทำหนี้เสียไว้ คิดแล้วก็เจ็บใจจริงๆ มันมีผลกับเครดิตของผมที่จะใช้เป็นล้านๆ ได้ขนาดนี้ ผมก็สวดภรรยาไปยกใหญ่แล้ว เขาไม่คิดว่าจะกระทบกับผมขนาดนี้ แต่ปัญหามันเกิดแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขกันไปครับ เครียดเลย ขอบคุณมากครับ