สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ปัญหานี้ อยู่ตรงที่ครอบครัวเขา ไม่ชอบคุณ
ไม่ชอบถึงขนาดยกเลิกงานแต่ง และแฟนคุณก็บล็อกคุณทุกช่องทาง
เดาว่า … มาจากพฤติกรรมข่มแฟน ที่คุณแสดงออกโดยไม่รู้ตัว
แฟนคุณหัวอ่อน ถูกเลี้ยงดูมาแบบ ทางบ้านว่าไง ก็ว่าตามกัน
พอมาเป็นแฟนคุณ ทำอะไรไม่ได้ดังใจ คุณก็ว่าเขา (จากที่เขาไม่ช่วยเตรียมงานแต่ง)
ซึ่งถ้าครอบครัวเขาไม่มาเห็นคงไม่เป็นไร แต่พอมาเห็นตำตา อีโก้ของความเป็นแม่
ย่อมไม่ต้องการให้ลูกชายที่แสนรักของตน ที่ตนทะนุถนอมมาอย่างดี ไปอยู่กับภรรยาที่ก้าวร้าวเอาแต่ใจ
และพวกท่านคงเปรยให้แฟนคุณรู้มานานแล้ว ว่าไม่ชอบที่คุณเป็นแบบนี้
ปัญหา จริงๆ ของเรื่องคือ คุณเอง ไม่รู้ระแคะระคายเลย (ได้ไง?)
น่าจะมีเซนส์บ้าง หรือ อย่างน้อย แฟนคุณก็น่าจะบอกคุณบ้าง (เพื่อให้คุณแก้ไขปรับปรุง)
เขากลับเลือกวิธีหนีปัญหา เงียบไว้ดีกว่า แล้วรอว่าอะไรๆอาจจะดีขึ้นมาเอง
แต่กลายเป็นว่า พอพูดทีก็หักกลางปล้องไปเลยแบบนี้
ทบทวนดูดีๆนะคะ ผู้ชายที่ไม่ร่วมแก้ปัญหาไปกับคุณ เอาแต่หนีปัญหาหัวซุกหัวซุน
แล้วปล่อยคุณเผชิญทุกอย่างตามลำพัง
มันน่าโมโห กว่าตอนที่เขาไม่ช่วยเตรียมงานแต่งหลายเท่านะคะ (จำอารมณ์น่าหงุดหงิดเหล่านั้นได้ไหม)
แต่งงานกันไป ชีวิตคู่มีเรื่องต้องเผชิญอีกมาก คุณจะต้องเป็นผู้นำครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว
และไม่มีอำนาจใด ในการว่ากล่าวสามีได้เลย เพราะทางครอบครัวเขา จะให้ท้ายอยู่ตลอด ทนได้ไหมคะ ?
อย่าให้รักบังตา จนหน้ามืดตามัวเลยค่ะ
เราไม่ตำหนิเขา ที่เขาทำตัวเป็นลูกแหง่ ตามใจพ่อแม่มากไป
แต่เราอยากให้คุณคิดสักนิด เขารักพ่อแม่เขาขนาดนั้น
คุณล่ะคะ เกรงใจพวกท่านขนาดไหน ?
และที่สำคัญที่สุด คุณน่ะ รักและเกรงใจ พ่อแม่ของคุณมากพอหรือยัง ?
เอาล่ะ แต่ถ้าคุณยังดึงดัน ว่าอยากฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้
ทางแก้ไขคือ …
ถามแฟนตรงๆ ถึงสาเหตุ ที่ทางบ้านเขาไม่ชอบคุณ
แล้วมาพิจารณาดูว่า คุณจะปรับปรุงได้ไหม หากเป็นความผิดคุณจริงๆ
และคุณมั่นใจว่า คุณแก้ไขได้ ให้เข้าไปกราบขอขมาพวกท่าน ขอโอกาสปรับปรุงตน
ส่วนแฟนของคุณน่ะ ยอมรับผิดของตัวเองมากแค่ไหน
หากรู้ตัวว่า คราวนี้ ทำเรื่องไม่สมควร ไม่มีความเป็นผู้นำ คิดจะปกป้องคุณเลย
และพร้อมจะแก้ไขจุดอ่อนตรงนี้ … ให้เขามากราบขอขมาพ่อแม่คุณ ขอโอกาสแสดงให้พวกท่านเห็น
ว่าเขาจะ เติบโตทางความคิด และจะเป็นสามีที่ดีพอสำหรับคุณ
เห็นไหมคะ … ว่ามันยาก แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ขึ้นชื่อว่าผู้บุพการีน่ะ ย่อมอยากให้บุตรธิดาของตนมีความสุขที่สุด
หากพวกท่านเห็นความรัก และความจริงใจของคุณทั้งคู่ ที่พร้อมจะจับมือแก้ปัญหาร่วมกัน
โอกาสที่พวกท่านจะใจอ่อน และยอมลงให้คนละครึ่งทาง ก็พอมีค่ะ
ไม่ชอบถึงขนาดยกเลิกงานแต่ง และแฟนคุณก็บล็อกคุณทุกช่องทาง
เดาว่า … มาจากพฤติกรรมข่มแฟน ที่คุณแสดงออกโดยไม่รู้ตัว
แฟนคุณหัวอ่อน ถูกเลี้ยงดูมาแบบ ทางบ้านว่าไง ก็ว่าตามกัน
พอมาเป็นแฟนคุณ ทำอะไรไม่ได้ดังใจ คุณก็ว่าเขา (จากที่เขาไม่ช่วยเตรียมงานแต่ง)
ซึ่งถ้าครอบครัวเขาไม่มาเห็นคงไม่เป็นไร แต่พอมาเห็นตำตา อีโก้ของความเป็นแม่
ย่อมไม่ต้องการให้ลูกชายที่แสนรักของตน ที่ตนทะนุถนอมมาอย่างดี ไปอยู่กับภรรยาที่ก้าวร้าวเอาแต่ใจ
และพวกท่านคงเปรยให้แฟนคุณรู้มานานแล้ว ว่าไม่ชอบที่คุณเป็นแบบนี้
ปัญหา จริงๆ ของเรื่องคือ คุณเอง ไม่รู้ระแคะระคายเลย (ได้ไง?)
น่าจะมีเซนส์บ้าง หรือ อย่างน้อย แฟนคุณก็น่าจะบอกคุณบ้าง (เพื่อให้คุณแก้ไขปรับปรุง)
เขากลับเลือกวิธีหนีปัญหา เงียบไว้ดีกว่า แล้วรอว่าอะไรๆอาจจะดีขึ้นมาเอง
แต่กลายเป็นว่า พอพูดทีก็หักกลางปล้องไปเลยแบบนี้
ทบทวนดูดีๆนะคะ ผู้ชายที่ไม่ร่วมแก้ปัญหาไปกับคุณ เอาแต่หนีปัญหาหัวซุกหัวซุน
แล้วปล่อยคุณเผชิญทุกอย่างตามลำพัง
มันน่าโมโห กว่าตอนที่เขาไม่ช่วยเตรียมงานแต่งหลายเท่านะคะ (จำอารมณ์น่าหงุดหงิดเหล่านั้นได้ไหม)
แต่งงานกันไป ชีวิตคู่มีเรื่องต้องเผชิญอีกมาก คุณจะต้องเป็นผู้นำครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว
และไม่มีอำนาจใด ในการว่ากล่าวสามีได้เลย เพราะทางครอบครัวเขา จะให้ท้ายอยู่ตลอด ทนได้ไหมคะ ?
อย่าให้รักบังตา จนหน้ามืดตามัวเลยค่ะ
เราไม่ตำหนิเขา ที่เขาทำตัวเป็นลูกแหง่ ตามใจพ่อแม่มากไป
แต่เราอยากให้คุณคิดสักนิด เขารักพ่อแม่เขาขนาดนั้น
คุณล่ะคะ เกรงใจพวกท่านขนาดไหน ?
และที่สำคัญที่สุด คุณน่ะ รักและเกรงใจ พ่อแม่ของคุณมากพอหรือยัง ?
เอาล่ะ แต่ถ้าคุณยังดึงดัน ว่าอยากฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้
ทางแก้ไขคือ …
ถามแฟนตรงๆ ถึงสาเหตุ ที่ทางบ้านเขาไม่ชอบคุณ
แล้วมาพิจารณาดูว่า คุณจะปรับปรุงได้ไหม หากเป็นความผิดคุณจริงๆ
และคุณมั่นใจว่า คุณแก้ไขได้ ให้เข้าไปกราบขอขมาพวกท่าน ขอโอกาสปรับปรุงตน
ส่วนแฟนของคุณน่ะ ยอมรับผิดของตัวเองมากแค่ไหน
หากรู้ตัวว่า คราวนี้ ทำเรื่องไม่สมควร ไม่มีความเป็นผู้นำ คิดจะปกป้องคุณเลย
และพร้อมจะแก้ไขจุดอ่อนตรงนี้ … ให้เขามากราบขอขมาพ่อแม่คุณ ขอโอกาสแสดงให้พวกท่านเห็น
ว่าเขาจะ เติบโตทางความคิด และจะเป็นสามีที่ดีพอสำหรับคุณ
เห็นไหมคะ … ว่ามันยาก แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ขึ้นชื่อว่าผู้บุพการีน่ะ ย่อมอยากให้บุตรธิดาของตนมีความสุขที่สุด
หากพวกท่านเห็นความรัก และความจริงใจของคุณทั้งคู่ ที่พร้อมจะจับมือแก้ปัญหาร่วมกัน
โอกาสที่พวกท่านจะใจอ่อน และยอมลงให้คนละครึ่งทาง ก็พอมีค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ปัญหาอยู่ตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้นค่ะ ถ้าเคลียร์ไม่ได้ว่าบ้านผู้ชายไม่ชอบอะไรในตัวคุณ ถ้าทางบ้านเค้าไม่บอก คุณจะไปตรัสรู้จะไปปรับตัวได้ยังไงล่ะ
ส่วนผู้ชาย เค้าเอาที่บ้านมากกว่าค่ะพอที่บ้านบอกให้เลื่อนงานปุ๊บก็เลื่อนทันที หักหน้าคุณกับพ่อแม่คุณได้หน้าตาเฉย แถมบล็อกคุณทุกช่องทาง เป็นเรา เราไม่เอาอะค่ะ ผู้ชายขี้ขลาด แทนที่จะสู้ไปกับคุณดันหนีปัญหา หนีหน้าไปเลย แล้วเค้ากลับมาทำไมถ้าไม่คิดจะแก้อะไรเนี่ย แค่เหงา กลัวไม่มีแฟนเหรอไง แต่งไปหนักกว่านี้อีกนะคะ บ้านคนจีนอีก คือคบกันแล้วบ้านผู้ชายว่าไงอะ ไม่ใช่แอบที่บ้านคบๆไป ที่บ้านผู้ชายหาเมียใหม่มาให้แต่งเค้าจะถีบส่งคุณเหมือนที่เคยทำมั้ยเนี่ย อย่าลืมนะ บ้านเค้าพูดกับแฟนมาคำเดียว ผู้ชายยังล่มงานแต่งได้เลย
ส่วนผู้ชาย เค้าเอาที่บ้านมากกว่าค่ะพอที่บ้านบอกให้เลื่อนงานปุ๊บก็เลื่อนทันที หักหน้าคุณกับพ่อแม่คุณได้หน้าตาเฉย แถมบล็อกคุณทุกช่องทาง เป็นเรา เราไม่เอาอะค่ะ ผู้ชายขี้ขลาด แทนที่จะสู้ไปกับคุณดันหนีปัญหา หนีหน้าไปเลย แล้วเค้ากลับมาทำไมถ้าไม่คิดจะแก้อะไรเนี่ย แค่เหงา กลัวไม่มีแฟนเหรอไง แต่งไปหนักกว่านี้อีกนะคะ บ้านคนจีนอีก คือคบกันแล้วบ้านผู้ชายว่าไงอะ ไม่ใช่แอบที่บ้านคบๆไป ที่บ้านผู้ชายหาเมียใหม่มาให้แต่งเค้าจะถีบส่งคุณเหมือนที่เคยทำมั้ยเนี่ย อย่าลืมนะ บ้านเค้าพูดกับแฟนมาคำเดียว ผู้ชายยังล่มงานแต่งได้เลย
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาครอบครัวกับการแต่งงาน ปัญหานี้มีทางออกมั้ย?
จากนั้น เขาก็ให้พ่อแม่ฝั่งเขามาทานข้าวด้วยกันกับครอบครัวเราแล้วก็พูดสู่ขอกัน ตกลงกันว่าเรื่องงานแต่งขอเป็นปีหน้านะ
เวลาผ่านไปประมาณเกือบ2ปีหลังจากที่เขาขอแต่งงาน เพราะโควิด รวมถึงเหตุการณ์ทางบ้านของเขาที่ทำให้ต้องจัดงานล่าช้า พอบ้านเขาหาฤกษ์มาให้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนการเตรียมงานแต่ง ตอนนี้เราก็เหมือนเตรียมงานคนเดียวเลยค่ะ แฟนเราเขาจะเป็นคนตามใจเราเสมอ ทางบ้านเราทั้งสองคนก็ไม่ได้มาบังคับอะไร แต่ในช่วงนี้แหละ ที่เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาตามใจเราทุกอย่าง เราก็อยากให้เขาแสดงความเห็นบ้าง มีหลายครั้งที่ทะเลาะกันหนัก จนครอบครัวเขามาเห็น จนกระทั่งก่อนงานแต่งไม่กี่วัน เขาคุยกับเราว่า เลื่อนงานแต่งออกไปก่อนมั้ย ด้วยเหตุผลว่าเขายังไม่พร้อม ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าไม่พร้อมอะไร เราก็คิดว่าพูดเล่น เราก็โมโห เรียกว่าทะเลาะกันเลยค่ะ แต่พอวันรุ่งขึ้น จู่ๆ เขาก็พาครอบครัวเขามาบอกว่าจะขอเลื่อนงาน ทางบ้านเราก็ไม่โอเค เพราะแจกการ์ดไปหมดแล้ว เตรียมงานเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะเลื่อน เราตกลงกันไม่ได้ กลายเป็นว่างานแต่งถูกยกเลิก...
พอหลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่อง เขาปิดการติดต่อทุกช่องทาง หลังจากนั้นประมาณ1เดือน เขาก็ทักเรามา ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านไปประมาณเกือบ5เดือนแล้ว เรากับเขาก็กลับมาคุยกันแล้ว อยากจะถามเพื่อนๆว่าแบบนี้เราควรแก้ปัญหายังไงดีคะ เราต้องคุยกับที่บ้านแบบไหน ถึงจะให้เราสองคนได้กลับมาคบกันแบบราบรื่น แค่กลับมาเป็นแฟนกันเหมือนเดิมก่อน ยังไม่ต้องคิดแต่งงาน หรือว่าปัญหาครอบครัวแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก จนเราต้องถอดใจแล้วคะ?