สวัสดีค่ะ เราเป็น
#Dek64 คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาจีนเพื่ออุตสาหกรรม พระจอมเกล้าลาดกระบังนะคะ
(หลักสูตรภาษาจีนเพื่ออุตสาหกรรม คณะศิลปศาสตร์ (工业汉语专业) Bachelor of Arts in Chinese for Industry)
*กระทู้นี้จะเป็นกระทู้แชร์ประสบการณ์การเรียนในฐานะ
เด็กปี 1เนื่องจากคณะเราเพิ่งเปิดเป็นปีแรกเลย!
เราก็เป็นรุ่นแรกเลยค่ะ เลยจะมารีวิวให้กับน้อง ๆ หรือคนที่สนใจ เพื่อเป็นตัวเลือกหรือแนวทางในการเข้าศึกษาต่อ
*
ขอเกริ่นก่อนว่าเราเข้ามาในรอบที่ 4 (ปีแรกเปิดรับแค่รอบ 3 และ 4) เพราะเราไม่ได้สอบอะไรเลยของ TCAS;-;
ดังนั้นผลสอบเราจะมีแค่ HSK4 และ HSKKระดับต้น ส่วนที่เหลือเป็น Portfolio (แต่ว่าจำเกณฑ์ไม่ได้แล้ว ในส่วนนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ)
โดยเหตุผลที่เราเลือกมาลงที่นี่ เป็นเพราะเราอยากเรียนอะไรใหม่ ๆ ซึ่งที่นี่เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย และสาขานี้เป็นสาขาที่ 3 ของเอเชีย
เราคิดว่ามันน่าสนใจมากเลย อีกอย่างตัวหลักสูตรก็ดูทันสมัยดี เน้นการประยุกต์เอาภาษาจีนไปใช้ในสายงานต่าง ๆ เลยลากตัวเองมาอยู่ที่นี่ค่ะ5555
หลังจากที่เรียน
ผ่านไปแล้ว 1 เทอม (ในรูปแบบ Online 100%) อาจจะมีคนสงสัยว่าเราเรียนอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งที่เราเรียนจะมีดังนี้:
ในปี 1 เทอม 1 เราเรียนทั้งหมด 6 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป และวิชาสาขา (วิชาบังคับ)
หมวดศึกษาทั่วไป :
GLOBAL INSIDE (เจาะลึกประเด็นโลก)
MAGIC MIRROR (กระจกส่องใจ)
DIGITAL INTELLIGENCE QUOTIENT (ความฉลาดทางดิจิตอล)
THAI WRITING IN WORKPLACE (ภาษาไทยในที่ทำงาน)
วิชาสาขา (บังคับ) :
CHINESE FOR INDUSTRY 1
CHINESE LISTENING AND SPEAKING FOR INDUSTRY 1
เราจะเริ่มที่วิชา
-
GLOBAL INSIDE เพราะเป็นวิชาที่เรารักมากที่สุดดดดด อาจารย์แสนน่ารักและแสนจะเข้าใจเด็ก
การเรียนการสอนสนุกมาก ๆ เราไม่เคยเบื่อเลย เป็นวิชาที่เอาประเด็นร้อนของโลก ณ ตอนนั้นมา disscus กัน และเราจะเปลี่ยนหัวข้อคุยกันทุก ๆ สัปดาห์ที่เรียนเลย เช่น สมมติว่าวันนี้เราเรียนเรื่อง Global Issues: Superpowers เราก็พูดถึงปัจจัยที่ทำให้ USA เป็นประเทศมหาาอำนาจ การเข้าสู่สถานภาพผู้นำโลกเป็นอย่างไร ทำนองนี้ค่ะ จบท้ายการเรียนวิชานี้ เราต้องเลือกทำประเด็นที่เราสนใจไเสนออาจารย์ด้วยนะคะ แต่ได้ทุกเรื่องไม่จำกัดหมวดหมู่เลย!
-
MAGIC MIRROR (กระจกส่องใจ) วิชานี้เป็นวิชาแนวจิตวิทยาค่ะ เป็นวิชาที่เรียนแล้วทำให้เราย้อนกลับมามองตัวเองมากขึ้น เปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น และแน่นอนว่าอาจารย์ดีมากกกกกกก แม้ว้าอาจจะมีความแป๊ะไปบ้าง แต่ยืนยันว่าอาจารย์ nice มากจริง ๆ ค่ะ
-
DIGITAL INTELLIGENCE QUOTIENT เป็นวิชาที่ให้ความรู้กี่ยวกับโลกทางอินเตอร์เน็ต เช่น สื่อโซเชียล เป็นวิชาที่มีประโยนช์มากเลย มีความรู้พวกนี้ติดตัวไว้ทำให้เราระวังตัวจากมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น Phishing เป็นต้น ส่วนอาจารย์ชิวดีค่ะ ชอบให้ทำงานกับเพื่อนเป็นกลุ่ม555
-
THAI WRITING IN WORKPLACE ก็เป็นการเรียนภาษาไทยที่เราเคยเรียน ๆ กันมานั่นปหละค่ะ แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะ!! อย่างการทำรายงาน การเขียนโครงการเนี่ย มีดีเทลเยอะมากเลย และอาจารย์ก็ตรวจละเอียดด้วย วิชานี้เป็นวิชาที่เหมือนจะง่ายก้ไม่ง่าย แต่ถามว่ายากมั้ย มันก็ไม่ขาดนั้น พูดไม่ถูกเลยค่ะ;-;
**จะเรียนวิชานี้ได้ต้องสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ (PLACEMENT TEST) ระดับ B2 ก่อนนะคะ
คือเราจะมีการสอบวัดระบบภาษาก่อนที่จะเรียนตอนปี 1 โดยจะมีเกณฑ์ดังนี้:
หากสอบผ่านได้ B1 เราก็ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 ตัวเลย (FE1,FE2) แล้วมาเรียนวิชาที่แต่ละคระจะจัดให้แทน แต่สาขาเราเป็นวิชานี้ค่ะ
หากสอบผ่านได้ B2 เราได้ละเว้นการเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ตัวคือ (FE1)
หากใครได้ A1หรือ A2 ก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานทั้ง 2 วิชาก่อน**
มาถึงวิชาภาคบังคับของสาขาบ้าง
**ภาษาจีนที่เรียนนั้นไม่ใช่การเรียนตั้งแต่พื้นฐานนะคะ เพราะคำศัพท์ที่เรียนจะเป็นประมาณ HSK4 ขึ้นไป**
-
CHINESE FOR INDUSTRY 1 วิชานี้เรารักอาจารย์มากค่ะ น่ารักสุด อาจารย์มีความรู้เต็มเปี่ยมพร้อมส่งต่อมากถึงมากที่สุด กล้าการันตีค่ะ ใครชอบเรียนแกรมม่าภาษาจีน เราผายมือเชิญทางนี้!(แต่เราไม่ค่อยชอบเรียนแกรมม่ามาปต่ไหนแต่ไรเลยมีแอบหลับไปบ้างTT) อาจารย์สอนละเอียดมากกกกก ใครอยากรู้อะไร อาจารย์ก็ตอบได้ ซึ่งผู้สอนวิชานี้คือ ผศ.ดร.อารีย์ รุ่นพระแสงนั่นเองค่ะ
-
CHINESE LISTENING AND SPEAKING FOR INDUSTRY 1 สำหรับวิชาฟังพูดนี้เราขอบอกเลยค่ะว่า ไม่สามารถหลับได้เลย เพราะต้องพูดบ่อย ๆ ฟีลตอบคำถามจากเรื่องที่เรียน (ในคลาสมีคะแนนการตอบคำถามด้วย ตื่นตัวกันทั้งคาบตลอด 4 ชม. กันเลยทีเดียวค่ะ5555) งานก็ค่อนข้างเยอะ เรียนก็ยาก สาหัสอยู่เหมือนกัน จะรอดวิชานี้ได้บางคนต้องมีการเตรียมเรียนล่วงหน้ามาก่อน (预习) แต่ถ้าผ่านไปได้คำศัพท์ในหัวจะเยอะมาก ๆ
สุดท้ายนี้ก่อนจบการรีวิว ขอแวะมาแนะนำหลักสูตรก่อนนะคะ^^
เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย ค่าเทอม 22,000 บาทถ้วน นอกจากนี้ยังได้รับโอกาสในการเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรจีน ณ Beijing Language and Culture University (北京语言大学) มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ในด้านการเรียนการสอนภาษาจีนสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ปักกิ่งด้วยนะคะ
อ้อ ตอนนี้เราได้ทำ MOU เพิ่มมาอีก 1 มหาลัยแล้วค่ะ นั่นก็คือ Tianjin University (天津大学) นั่นเอง ซึ่งการไปแลกเปลี่ยนจะมี 2 รอบดังนี้:
- ภาคฤดูร้อน (ซัมเมอร์) ตอนปีหนึ่งจะขึ้นปีสอง
- ไปตอนปี 3 เทอม 1 เป็นเวลาหนึ่งภาคการศึกษา
หากใครมีคำถามหรือสงสัยสามารถทักไปถามที่เพจหรือเข้าไปดูตัวหลักสูตรคร่าว ๆ ได้ที่เว็บไซต์ได้เลยนะคะ
Faculty of Liberal Arts, KMITL หรือ
http://fla.kmitl.ac.th/th/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ หวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ และผู้ที่สนใจ
หากมีโอกาส จะมารีวิวเทอม 2 ให้ฟังอีกนะคะ<3
รีวิว สาขาภาษาจีนเพื่ออุตสาหกรรม ลาดกระบัง (สจล.)
(หลักสูตรภาษาจีนเพื่ออุตสาหกรรม คณะศิลปศาสตร์ (工业汉语专业) Bachelor of Arts in Chinese for Industry)
*กระทู้นี้จะเป็นกระทู้แชร์ประสบการณ์การเรียนในฐานะเด็กปี 1เนื่องจากคณะเราเพิ่งเปิดเป็นปีแรกเลย!
เราก็เป็นรุ่นแรกเลยค่ะ เลยจะมารีวิวให้กับน้อง ๆ หรือคนที่สนใจ เพื่อเป็นตัวเลือกหรือแนวทางในการเข้าศึกษาต่อ*
ขอเกริ่นก่อนว่าเราเข้ามาในรอบที่ 4 (ปีแรกเปิดรับแค่รอบ 3 และ 4) เพราะเราไม่ได้สอบอะไรเลยของ TCAS;-;
ดังนั้นผลสอบเราจะมีแค่ HSK4 และ HSKKระดับต้น ส่วนที่เหลือเป็น Portfolio (แต่ว่าจำเกณฑ์ไม่ได้แล้ว ในส่วนนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ)
โดยเหตุผลที่เราเลือกมาลงที่นี่ เป็นเพราะเราอยากเรียนอะไรใหม่ ๆ ซึ่งที่นี่เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย และสาขานี้เป็นสาขาที่ 3 ของเอเชีย
เราคิดว่ามันน่าสนใจมากเลย อีกอย่างตัวหลักสูตรก็ดูทันสมัยดี เน้นการประยุกต์เอาภาษาจีนไปใช้ในสายงานต่าง ๆ เลยลากตัวเองมาอยู่ที่นี่ค่ะ5555
หลังจากที่เรียนผ่านไปแล้ว 1 เทอม (ในรูปแบบ Online 100%) อาจจะมีคนสงสัยว่าเราเรียนอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งที่เราเรียนจะมีดังนี้:
ในปี 1 เทอม 1 เราเรียนทั้งหมด 6 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป และวิชาสาขา (วิชาบังคับ)
หมวดศึกษาทั่วไป :GLOBAL INSIDE (เจาะลึกประเด็นโลก)
MAGIC MIRROR (กระจกส่องใจ)
DIGITAL INTELLIGENCE QUOTIENT (ความฉลาดทางดิจิตอล)
THAI WRITING IN WORKPLACE (ภาษาไทยในที่ทำงาน)
วิชาสาขา (บังคับ) :
CHINESE FOR INDUSTRY 1
CHINESE LISTENING AND SPEAKING FOR INDUSTRY 1
เราจะเริ่มที่วิชา
- GLOBAL INSIDE เพราะเป็นวิชาที่เรารักมากที่สุดดดดด อาจารย์แสนน่ารักและแสนจะเข้าใจเด็ก
การเรียนการสอนสนุกมาก ๆ เราไม่เคยเบื่อเลย เป็นวิชาที่เอาประเด็นร้อนของโลก ณ ตอนนั้นมา disscus กัน และเราจะเปลี่ยนหัวข้อคุยกันทุก ๆ สัปดาห์ที่เรียนเลย เช่น สมมติว่าวันนี้เราเรียนเรื่อง Global Issues: Superpowers เราก็พูดถึงปัจจัยที่ทำให้ USA เป็นประเทศมหาาอำนาจ การเข้าสู่สถานภาพผู้นำโลกเป็นอย่างไร ทำนองนี้ค่ะ จบท้ายการเรียนวิชานี้ เราต้องเลือกทำประเด็นที่เราสนใจไเสนออาจารย์ด้วยนะคะ แต่ได้ทุกเรื่องไม่จำกัดหมวดหมู่เลย!
- MAGIC MIRROR (กระจกส่องใจ) วิชานี้เป็นวิชาแนวจิตวิทยาค่ะ เป็นวิชาที่เรียนแล้วทำให้เราย้อนกลับมามองตัวเองมากขึ้น เปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น และแน่นอนว่าอาจารย์ดีมากกกกกกก แม้ว้าอาจจะมีความแป๊ะไปบ้าง แต่ยืนยันว่าอาจารย์ nice มากจริง ๆ ค่ะ
- DIGITAL INTELLIGENCE QUOTIENT เป็นวิชาที่ให้ความรู้กี่ยวกับโลกทางอินเตอร์เน็ต เช่น สื่อโซเชียล เป็นวิชาที่มีประโยนช์มากเลย มีความรู้พวกนี้ติดตัวไว้ทำให้เราระวังตัวจากมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น Phishing เป็นต้น ส่วนอาจารย์ชิวดีค่ะ ชอบให้ทำงานกับเพื่อนเป็นกลุ่ม555
- THAI WRITING IN WORKPLACE ก็เป็นการเรียนภาษาไทยที่เราเคยเรียน ๆ กันมานั่นปหละค่ะ แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะ!! อย่างการทำรายงาน การเขียนโครงการเนี่ย มีดีเทลเยอะมากเลย และอาจารย์ก็ตรวจละเอียดด้วย วิชานี้เป็นวิชาที่เหมือนจะง่ายก้ไม่ง่าย แต่ถามว่ายากมั้ย มันก็ไม่ขาดนั้น พูดไม่ถูกเลยค่ะ;-;
**จะเรียนวิชานี้ได้ต้องสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ (PLACEMENT TEST) ระดับ B2 ก่อนนะคะ
คือเราจะมีการสอบวัดระบบภาษาก่อนที่จะเรียนตอนปี 1 โดยจะมีเกณฑ์ดังนี้:
หากสอบผ่านได้ B1 เราก็ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2 ตัวเลย (FE1,FE2) แล้วมาเรียนวิชาที่แต่ละคระจะจัดให้แทน แต่สาขาเราเป็นวิชานี้ค่ะ
หากสอบผ่านได้ B2 เราได้ละเว้นการเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 ตัวคือ (FE1)
หากใครได้ A1หรือ A2 ก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานทั้ง 2 วิชาก่อน**
มาถึงวิชาภาคบังคับของสาขาบ้าง
**ภาษาจีนที่เรียนนั้นไม่ใช่การเรียนตั้งแต่พื้นฐานนะคะ เพราะคำศัพท์ที่เรียนจะเป็นประมาณ HSK4 ขึ้นไป**
- CHINESE FOR INDUSTRY 1 วิชานี้เรารักอาจารย์มากค่ะ น่ารักสุด อาจารย์มีความรู้เต็มเปี่ยมพร้อมส่งต่อมากถึงมากที่สุด กล้าการันตีค่ะ ใครชอบเรียนแกรมม่าภาษาจีน เราผายมือเชิญทางนี้!(แต่เราไม่ค่อยชอบเรียนแกรมม่ามาปต่ไหนแต่ไรเลยมีแอบหลับไปบ้างTT) อาจารย์สอนละเอียดมากกกกก ใครอยากรู้อะไร อาจารย์ก็ตอบได้ ซึ่งผู้สอนวิชานี้คือ ผศ.ดร.อารีย์ รุ่นพระแสงนั่นเองค่ะ
- CHINESE LISTENING AND SPEAKING FOR INDUSTRY 1 สำหรับวิชาฟังพูดนี้เราขอบอกเลยค่ะว่า ไม่สามารถหลับได้เลย เพราะต้องพูดบ่อย ๆ ฟีลตอบคำถามจากเรื่องที่เรียน (ในคลาสมีคะแนนการตอบคำถามด้วย ตื่นตัวกันทั้งคาบตลอด 4 ชม. กันเลยทีเดียวค่ะ5555) งานก็ค่อนข้างเยอะ เรียนก็ยาก สาหัสอยู่เหมือนกัน จะรอดวิชานี้ได้บางคนต้องมีการเตรียมเรียนล่วงหน้ามาก่อน (预习) แต่ถ้าผ่านไปได้คำศัพท์ในหัวจะเยอะมาก ๆ
สุดท้ายนี้ก่อนจบการรีวิว ขอแวะมาแนะนำหลักสูตรก่อนนะคะ^^
เป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย ค่าเทอม 22,000 บาทถ้วน นอกจากนี้ยังได้รับโอกาสในการเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรจีน ณ Beijing Language and Culture University (北京语言大学) มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ในด้านการเรียนการสอนภาษาจีนสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ปักกิ่งด้วยนะคะ
อ้อ ตอนนี้เราได้ทำ MOU เพิ่มมาอีก 1 มหาลัยแล้วค่ะ นั่นก็คือ Tianjin University (天津大学) นั่นเอง ซึ่งการไปแลกเปลี่ยนจะมี 2 รอบดังนี้:
- ภาคฤดูร้อน (ซัมเมอร์) ตอนปีหนึ่งจะขึ้นปีสอง
- ไปตอนปี 3 เทอม 1 เป็นเวลาหนึ่งภาคการศึกษา
หากใครมีคำถามหรือสงสัยสามารถทักไปถามที่เพจหรือเข้าไปดูตัวหลักสูตรคร่าว ๆ ได้ที่เว็บไซต์ได้เลยนะคะ
Faculty of Liberal Arts, KMITL หรือ http://fla.kmitl.ac.th/th/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ หวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ และผู้ที่สนใจ
หากมีโอกาส จะมารีวิวเทอม 2 ให้ฟังอีกนะคะ<3