คบกับแฟนมา7ปี มองไม่เห็นอนาคต แฟนไม่ทำงานทำการ ควรพอหรือฝืนไปต่อ

สวัสดีทุกคนค่ะ พูดตรงๆเรามีปัญหากับชีวิต(รัก)ของเราเอง เราอยากที่จะปรึกษากับใครซักคนแต่ประเด็นคือเราไม่ได้มีเพื่อนให้คอยปรึกษา เลยต้องมาพึ่งชาวพันทิปแทนค่ะ อาจจะยาวซักเล็กน้อย เพราะเราก็บ่นๆเกริ่นๆเรื่องไปเรื่อยค่ะ ทุกคนจะได้เห็นภาพชัดๆ
.
ประเด็นที่เราอยากจะปรึกษาคือเรื่องชีวิต(รัก)ของเรากับแฟน ขอเกริ่นก่อนเลยว่าตอนนี้เรากับแฟนคบกันมา7ปีแล้วค่ะ (เข้าปีที่8) แฟนเรานิสัยโอเคค่ะ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีเรื่องผู้หญิงให้ปวดหัว แต่ที่ไม่โอเคสุดๆเลยคือ ขาดความกระตือรือร้น ขาดเป้าหมายในชีวิต ไม่มีความทะเยอทะยาน ไม่หางานทำ ไม่มีเงินเก็บ และไม่มีความคิดที่จะหางานทำค่ะ 
เราไม่รู้ว่าจะเล่ายังไง เรียบเรียงไม่เก่ง ถ้าพิมพ์แล้วอ่านไม่เข้าใจ ขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ
ตอนแรกแฟนเราทำงานสายข้าราชการค่ะ แต่ทำไม่กี่เดือนก็ลาออก เพราะมีปัญหากับที่ทำงาน บวกกับตอนนั้นเรียนป.โทช่วงเสาร์อาทิตย์ แฟนเราทำทั้ง2อย่างไม่ไหวก็เลยลาออกค่ะ ตอนนั้นเราก็เข้าใจได้นะว่าทำงาน5วัน เรียนอีก2วัน มันถือว่าหนักพอสมควรเลยไม่ได้คิดอะไร พอเรียนจบเราก็หางานทำตามปกติ สมัครที่นู้นที่นี่เยอะแยะไปหมด แต่แตกต่างจากแฟนของเราที่ไม่กระตือรือร้นหางานทำเลย ไม่ใช่ว่าแฟนเราไม่หางานทำนะคะ ก็หาแหล่ะตามเว็บจ็อบต่างๆที่เราแนะนำไป แต่ก็ไม่ได้มีที่ไหนติดต่อมา 
.
แฟนเราเป็นพวกออกแนวอีโก้สูงนิดๆ (เรียกว่าอีโก้ได้มั้ยนะ) แบบว่า เรากับแฟนจบป.โททั้งคู่ แต่ตอนที่เราสมัครหางานทำเราจะยื่นวุฒิป.ตรีเสมอเพราะเราไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย ถ้ายื่นป.โทไปทั้งๆที่ประสบการณ์การทำงานเป็นศูนย์มันก็ยังไงๆอยู่ใช่มั้ยคะ แต่กับแฟนเรา ไม่ว่าจะสมัครงานที่ไหนก็มักจะยื่นวุฒิป.โทเสมอ ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานจริงๆคือไม่กี่เดือนเท่านั้นค่ะ มันก็เลยอาจเป็นเหตุผลที่แฟนเราหางานทำไม่ได้ แล้วแฟนเราก็เป็นคนประเภทที่ว่างานหนักไม่เอา งานเบาไม่สู้ อยากทำงานนั่งโต๊ะ งานด้านเอกสาร แต่ไม่ชอบงานราชการ ไม่อยากทำงานที่ใช้แรงงาน เช่น แบกของ หรือจัดรียงของหรืองานอะไรแบบนั้นในร้านสะดวกซื้อ สรุปสั้นๆคือ อยากทำงานที่มันสบาย ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่มีงานไหนที่สบายหรอกค่ะจริงมั้ยคะ 
.
จนตอนนี้ เราทำงานมาทั้งหมด3ที่ ประสบการณ์การทำงานก็ถือว่าโอเคนะคะ เพราะแต่ละงานที่ทำไม่เหมือนกันซักงานเลย ส่วนแฟนเรา จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้หางานทำ เราเคยคุยกับแฟนอย่างจริงจังนะคะว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆไม่ได้นะ ทำแบบนี้เราจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้หรอ เพราะเงินก็เป็นปัจจัยที่โ ค ต รจะสำคัญในการใช้ชีวิต แฟนเราก็ตอบแต่ว่าก็หาแล้วมันไม่ได้  สุดท้ายแฟนเราก็ยอมลดอีโก้ไปทำงานเป็นพนงร้านนึงในห้างแต่ก็ทำได้อาทิตย์เดียวก็ลาออก เราก็แบบว่า อืมม ไม่เป็นไรนะ ไว้ลองหางานอื่นดู แต่เหมือนแฟนเราคงไม่คิดหางานทำแล้วน่ะค่ะ เพราะมีเหตุผลเพิ่มมาอีกข้อนึงคือ ไม่อยากทำงานที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนเยอะๆ เราก็พยายามคิดในแง่ดี ช่วยหางานที่ไม่ต้องไปยุ่งกับใคร งานที่ทำงานที่บ้าน แต่มันก็มีแต่งานประเภทโปรแกรม กราฟฟิก ซึ่งแฟนเราไม่ได้จบสายนั้นมา สุดท้ายเราก็จับแฟนมานั่งคุยกันอีก ว่าจะอะไรยังไง ผผลสรุปคือแฟนเราอยากทำงานเป็นนายตัวเอง ซึ่งก็คือขายของ เรื่องขายของเราไม่ซีเรียสนะเพราะเราเคยทำงานเกี่ยวกับการขายของมาก่อน ดังนั้นการแบบนี้ง่ายมากสำหรับเรา แต่สำหรับแฟนเรา ไม่เคยทำงานอะไรแบบนี้ ก็น่าจะยากหน่อยๆ 
.
อันที่จริง ครอบครัวเราไม่ได้ชอบแฟนเราขนาดนั้นนะคะ ก็เพราะเรื่องอะไรแบบนี้นี่แหล่ะที่เป็นปัญหา เราก็มานั่งปรึกษากับครอบครัวมาบ้างแล้ว ทางที่ครอบครัวเราแนะนำมาคือให้เลิกค่ะ เราก็คิดแล้วคิดอีกเหมือนกันว่าจะยุติความสัมพันธ์ดีมั้ย เพราะเอาจริงๆเราก็เหนื่อยกับเรื่องแบบนี้มากๆ เวลาไปเที่ยว เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด คนที่ออกคือเรานะคะ เป็นเราทุกครั้ง แฟนเรามีช่วยออกค่าห้องพักบ้าง แต่ค่ากินค่าอยู่ เราออกค่ะ มันเป็นฟีลแบบว่า ถามว่ารักมั้ย รักนะ แต่จะให้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดแบบนี้ มันก็ไม่ไหว 
.
ตอนนี้เรามีความคิดที่ว่าอยากเลิกอยู่นะคะ แต่ก็เพราะรัก ก็เลยไม่อยากเลิก มันทั้งรักทั้งทุกข์ในเวลาเดียวกันเลยค่ะ เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง มันตันไปหมด 
แต่เราก็อยากลองให้โอกาสแฟนนะคะ ก็เลยตัดสินใจกันว่า จะลงทุนกันคนละครึ่งเพื่อขายของ เพื่อดูว่ามันจะไปรอดมั้ย ไปรอดมั้ยนี่คือหมายถึงการขายของด้วย แฟนเราด้วย อืมม ไม่รู้สิคะ เราคิดอะไรไม่ออกเลยตอนนี้ เพราะทางบ้านเราก็กดดันเราเรื่องการแต่งงาน การสร้างครอบครัว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แฟนเราไม่พร้อมอะไรเลยค่ะ เรื่องการแต่งงานเราเคยถามแฟนนะว่าในอนาคตเธอมีเราอยู่ด้วยรึเปล่า แฟนเราตอบว่ามี แฟนเราบอกว่าอยากแต่งงานกับเรานะ แต่! ถถ้าการแต่งงานมันยุ่งยากมาก ดูวุ่นวายมาก เขาก็จะไม่แต่ง เรารู้สึกเฟลนะคะกับคำตอบแบบนั้น แฟนเราเป็นคนที่อะไรที่ยุ่ง วุ่นวาย จุกจิก จะไม่เอาทันที อย่างการแต่งงานมันต้องมีเรื่องของการดูฤกษ์ยาม หาสถานที่จัดงาน มีนัดพระมาสวด อะไรประมาณนั้น ซึ่งแฟนเราไม่เอาเลยค่ะ เราก็ได้แต่คิดแล้วคิดอีกแหล่ะว่าอนาคตเราจะสามารถฝากและใช้ชีวิตกับคนๆนี้ได้มั้ย เพราะดูทรงแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันซักอย่างค่ะ
.
เรายินดีรับฟังความเห็นของทุกคนนะคะ และหวังว่าทุกคนจะไม่แสดงความคิดเห็นที่รุนแรงเกินไป พูดคุยกันด้วยเหตุและผลนะคะ แค่นี้เราก็ปวดหัว ว้าวุ้นใจจะแย่แล้ว ทางซ้ายก็แฟน ทางขวาก็ครอบครัว เศร้าใจไปหมดค่ะ
ป.ล. เรากับแฟนอายุ29
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
อ่านเรื่องคุณแล้ว ทำให้เราหวนนึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง

เธอทำงานนอกบ้าน / ทำงานบ้านทุกอย่าง / ส่งเงิน เลี้ยงลูก / เลี้ยงสามี / เรื่องบนเตียง สามีต้องการแบบไหน เธอทำให้หมด

สามีเธอ นิสัยเรื่องงาน เหมือนแฟนคุณเลยค่ะ หยิบโหย่ง ไปทำที่ไหน ไม่นานก็ออก
เวลาเพื่อนเรามาเล่าให้ฟัง ก็จะมีบรรดาข้อแก้ตัวมากมาย จากปากเธอ
ว่าคนอื่นทุกคนผิดหมด ทำให้สามีเธอทำงานต่อไม่ได้

ผ่านไปหลายปี ด้วยความที่เธอเป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้ ไม่อายทำกิน
เธอจึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่บ้านได้ทั้งหมดเลยค่ะ

เพื่อนฝูง  ไม่มีใคร กล้าวิจารณ์ สามีที่ไม่เอาการเอางานของเธอเลยนะคะ

เพราะเวลาเธอพูดถึง
เธอจะมีแต่ความรัก และ ความภาคภูมิใจ มองเขาเหมือนเทพบุตรก็ไม่ปาน
เธอเป็นคนหน้าตาธรรมดา ค่อนไปทางขี้เหร่ สามีเธอหน้าตาดีมาก หุ่นดี

คงเป็นปมฝังใจเธอ ว่าการที่เธอได้แฟนคนนี้มา
มันเหมือนเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้  เธอได้เป็นเจ้าของผู้ชายที่สูงเกินเอื้อม สำหรับเธอ
เธอจึงอยากจะทำทุกทางเพื่อถนอมรักษาไว้  (ความฟินตรงนี้แหละค่ะ ที่หล่อเลี้ยงใจเธอเสมอมา)

ที่เราเล่าให้ฟังเสียยืดยาว คือจะบอกว่า  นี่แหละ เวลาลุ่มหลง  มันจะหลงแบบนี้
แบบไม่ลืมหูลืมตา  เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน จากงานนอกบ้านในบ้าน
เห็นสามีที่รัก มาปากหวานเอาใจ ประจบหน่อย ก็หายเป็นปลิดทิ้ง

ทุกวันนี้ ครอบครัวเธอ ก็ยังมีความสุขดีค่ะ สามียังดุจเทวดา
แม้จะมีข่าว นอกใจบ้าง เธอก็จะมาพูดแก้ตัวให้สามีเธอว่า
บรรดาผู้หญิงเหล่านั้นมาอ่อย มายั่ว สามีที่เพียบพร้อมของเธอทั้งนั้น  เพี้ยนหืม

เพราะฉะนั้น แยกให้ออกค่ะ ว่าอะไร คือ ความสุข ที่คุณต้องการ

คุณเลี้ยงแฟนมา 7 ปี แต่แฟนคุณ ไม่แม้แต่คิดที่จะให้เกียรติคุณสักวัน วันสำคัญ ที่ผู้หญิงอยากได้จากชายที่ตนรัก
เรื่องยาวๆ ที่คุณเล่าถึงแฟน เราพอจะมองข้ามได้ จนกระทั่งฟังมาถึงประโยคนี้
“ถ้าการแต่งงานมันยุ่งยากมาก ดูวุ่นวายมาก เขาก็จะไม่แต่ง”

แนะนำว่า
หยุดเลี้ยงเขาค่ะ นอกจากไม่รู้จักเกรทฟูล รักสบาย ขี้เกียจตัวเป็นขนแล้ว
คนที่เขารักที่สุดในโลกนี้ คือ ตัวเองค่ะ  และเขารักคุณไม่ได้ครึ่งที่รักตัวเองเลยด้วยซ้ำ

เสียเวลามาเจ็ดปี
เสียเงินไปมากโข

ถึงเวลา เดินออกมาได้แล้วค่ะ  ยังไม่ต้องรีบหาคนใหม่ สร้างงาน สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองก่อน
อยู่กับตัวเองสักพัก จะมีมุมมองที่เฉียบคมเพิ่มขึ้น ให้กับตัวเองค่ะ

นางพญาเม่า

หมายเหตุ _ เมื่อไม่มีคุณเลี้ยงดู และหากไม่มีเงินจากที่ไหนมาคอยซัพพอร์ต
เขาจะหางานทำ และอดทนมากขึ้นไปโดยปริยายค่ะ
เม่าตกอับ
ความคิดเห็นที่ 17
ดูจากที่มีคนแปะกระทู้ที่เคยตั้งก่อนหน้าแล้ว ดูทรงแล้วจขกท.น่าจะยังคบอยู่ต่ออีกนาน ถ้าแต่งไปอนาคตคุณก็คงแบบที่คห.3 ที่คุณใยบัวคอมเมนต์นั่นแหละ ขนาดเรื่อง common sense ง่ายๆ อย่าง มีคนแนะนำให้เลิกจะได้ไปเจอคนดีๆข้างหน้าคุณยังคิดว่าจะเป็นเรื่องนอกใจเลย ดูแล้วคุณน่าจะทนอยู่คบกับคนนี้อีกนานดีไม่ดีสักพักก็ตั้งกระทู้ระบายหลังแต่งกันด้วย

เราจะบอกอะไรให้นะคะเผื่อว่าคุณจะได้สติขึ้นมาบ้างถึงเราจะรู้สึกว่าคำแนะนำเราน่าจะช่วยอะไรไม่ได้ถ้าคุณยังอยากจะได้ผู้ชายคนนี้เป็นแฟน
ผู้ชายแบบนี้ที่เขาอยู่กับคุณเขาไม่ได้รักคุณขนาดนั้นหรอกค่ะ เขาแค่ไม่มีที่ไป

ทำไมเขาต้องเลิกกับคุณล่ะคะ งานก็ไม่ต้องทำก็ได้ก็มีคนออกค่าใช้จ่ายให้ มีคนออกค่ากินค่าเที่ยวสบายๆ นอกจากกินฟรีอยู่ฟรีเที่ยวฟรีแล้ว (อาจจะออกเงินนิดๆหน่อยๆบ้างให้ยังดูไม่น่าเกลียดเกินไป) ติดหนี้ 6 แสนแต่แค่งอนนิดๆหน่อยๆแปปๆเดี๋ยวก็ได้ตังค์เติมเกมจากแฟนแล้ว ถ้าล่วงเกินกันไปแล้วนอกจากมีคนจ่ายนู่นนี่ให้ทั้งหมดยังมีสาวให้นอนด้วยสบายๆแถมไม่จำเป็นต้องแต่งด้วยก็ได้ถ้างานแต่งมันวุ่นวายมากนัก เอามาเป็นข้อต่อรองแต่งงานได้อีกต่างหากว่างั้นก็ไม่แต่งก็ได้ แค่นี้คุณก็หวั่นไหวแล้วว่าอายุตั้งเท่านี้จะไม่ได้แต่งงาน เราถามจริงๆเถอะค่ะ คุณไม่มีค่าขนาดที่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ผู้ชายไม่เป็นชิ้นเป็นอันแล้วยังเกาะแฟนกินแบบนี้มาเป็นสามีเลยเหรอคะ ? ทำไมต้องสนใจด้วยคะว่าอายุเยอะขึ้นแล้วจะหาแฟนยาก ถ้ามีแล้วไม่ดีจะมีไปเพื่ออะไรคะ ?  ไม่สนใจจะฟังที่พ่อแม่หรือครอบครัวเตือนบ้างเลยเหรอคะ ?

7 ปีที่เราพูดมาทั้งหมดตรงนี้ผู้ชายคนนี้มีอะไรให้น่าเสียดายงั้นเหรอคะ ? คุณแน่ใจเหรอคะว่าเขารักคุณหรือเขารักความสบายที่คุณให้เขาคะ ?
เราว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์อะไรหรอกค่ะเขาแค่ไม่มีเงินแล้วก็ขี้เกียจเกินไปที่จะนอกใจคุณมากกว่า แต่ถ้ามีคนที่เลี้ยงเขาดีกว่านี้ก็ไม่แน่ค่ะ

ถ้าคุณอ่านถึงตรงนี้แล้วยังคิดอะไรไม่ได้จะคบต่อเราก็ไม่ว่าหรอกค่ะ มันก็คงเป็นเรื่องของคุณ  
คนในพันทิปทุกคนชินกับการเป็นหมาแล้วค่ะเวลามีผู้หญิงแนวนี้มาตั้งกระทู้แต่สุดท้ายก็ไม่เลิกเพราะสุดท้ายมันก็ชีวิตของคุณแล้วก็คงมีแค่คุณต้องนั่งทุกข์ใจต่อไปถ้าคบหรือแต่งกับผู้ชายคนนี้ ถ้าสุดท้ายคุณยังเลือกผู้ชายคนนี้ก็ขอให้โชคดีแล้วก็หวังว่าคุณจะไม่หมดตัวก่อนที่เขาจะไปหาที่เกาะใหม่ค่ะ

ขอโทษที่คอมเมนท์เราอาจจะแรงแต่เราก็หวังว่าคุณคงไม่อยากจะต้องมานั่งตั้งกระทู้ต่อๆไป ก็รู้จักรักตัวเองบ้างเถอะค่ะ แทนที่จะมานั่งเสียดายเวลา 7 ปีที่คบกับผู้ชายห่วยๆมาเอาไปเสียดายกับอีกปีต่อๆไปที่จะต้องคบต่อหรือแต่งกับเขาเถอะค่ะ ถ้าอยากหาแฟนซื่อสัตย์แต่เกาะคุณเป็นปลิงขนาดนี้เราว่าเอาเงินไปเลี้ยงน้องหมายังซื่อสัตย์แล้วยังทำให้มีความสุขกว่าเลยค่ะ คนเราไม่ต้องแต่งงานก็มีความสุขได้ค่ะ เข้มแข็งแล้วลุกขึ้นมาดูแลตัวเองค่ะ ยังมีผู้ชายดีๆอีกเยอะหรือถึงไม่มีคนเราก็อยู่ด้วยตัวเองได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 21
เราเป็นคนนึงที่เคยคิดแบบคุณ คบกับแฟนรู้ตัวดีว่ามีอะไรไม่ถูกจริตหลายอย่าง เอาง่ายๆไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเรา แต่เลือกที่จะยอมและอดทนเพราะเสียดายเวลา หลอกตัวเองว่าวันนึงเค้าจะดีขึ้น..เรื่องแต่งงานเค้าก็เป็นเหมือนแฟนคุณ ไม่อยากแต่ง ไม่ศรัทธา ไม่ชอบพิธี อยากอยู่เรื่อยๆแบบนี้ จริงๆเราควรตัดใจได้แล้ว แต่ๆๆๆยังมองข้ามได้ ทนจนเค้ายอมแต่งงาน ก่อนแต่งก็จะเลิกหลายรอบ แต่ก็ปลอบตัวเอง เอาน่ามาถึงขั้นนี้แล้ว สุดท้ายแต่งงานกัน ชีวิตหนักกว่าเดิม คบได้ 5ปี แต่งได้2ปี เลิก ความอดทนสิ้นสุดลง..เลยอยากบอกคุณว่าอะไรที่เราไม่โอเค เวลาผ่านไปนานแค่ไหนมันก็ไม่โอเคอยู่ดี ถ้าคุณถึงขนาดมาตั้งกระทู้ในนี้แล้วนั่นแปลว่าทุกเรื่องคุณไม่โอเค ใจอยากคบต่อแต่ก็ทุกข์และกังวลในวันข้างหน้าเหลือเกิน ตราบใดที่คุณยังยอมเค้าอยู่แบบนี้ คุณก็คงต้องยอมไปอีกเรื่อยๆ เค้าจะไม่ได้มองว่าคุณดีหรือเห็นใจอะไรทั้งสิ้น อย่าเสียดายเวลาที่ผ่านมา แต่ให้เสียดายเวลาที่เหลืออยู่ อย่ารอให้ถึงเวลาที่เค้าเดินจากคุณไปก่อน เลือกเดินออกมาก่อนอย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเค้าจะมี action อะไรหลังจากนี้ไหม ถ้าเค้ารักคุณจริงเค้าจะยอมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อไม่ให้เสียคุณไป แต่ถ้าเค้าไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยนั่นก็แปลว่าคุณคิดถูกแล้วที่เลือกเดินออกมา..สู้ๆนะคะ
ความคิดเห็นที่ 10
คุณก็หาเงินให้ได้มากพอที่จะเลี้ยงดูเขาสิครับ ง่ายแค่นี้เอง

เรื่องแต่งงาน ถ้าเขาไม่ชอบยุ่งยาก คุณก็จัดการเองให้หมด ตั้งแต่หาฤกษ์ยาม หาสถานที่ การจัดงาน ค่าสินสอด ฯลฯ ให้เขารอแต่งตัวมาร่วมงานอย่างเดียวพอ (ถ้าให้ชัวร์ อาจจ้างคนมาช่วยเขาแต่งตัวด้วยก็ได้)
ความคิดเห็นที่ 18
ขออนุญาตนะครับ ผมเคยขายของช่วงก่อนโควิดแพร่ระบาด กำไรขั้นต่ำต่อวันเกิน 1,000 แต่สิ่งที่ต้องแลก ..

เวลาพักน้อยลง เหนื่อยมากขึ้น ยิ่งขายดียิ่งเหนื่อย ..

เท่าที่อ่านมาเนี่ย จะหาว่าดูถูกก็ได้ครับ แต่ขอพูดตรงๆ .. คิดว่าแฟนคุณทำได้เหรอครับ ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่