ทางค่าย HUAWEI นั้นก็ได้ทำการออกสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ออกมาแล้วนั้นคือ HUAWEI NOVA 9 SE น้องใหม่ ที่ให้สเปกมาแบบจัดเต็มสุดๆ ด้วยความละเอียดของกล้องในรุ่นนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มกว่ารุ่นก่อนๆหลายเท่า มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 108MP เป็นความละเอียดระดับรุ่นเรือธงเลยนะ รองรับฟังก์ชันลูกเล่นโหมดต่างๆมากมายเอาใจสาย VLOG อีกด้วย แถมดีไซน์ยังคงทำออกมาได้โดดเด่นล้ำสมัยเล่นแสงสีได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังเน้นไปถึงในเรื่องของแบตเตอรี่ทางค่ายออกแบบพัฒนาให้แบบจุกๆ แบตอึดจุใจและยังคงสามารถชาร์จได้ไวถึง 66W เรียกว่าชาร์จได้ไวเทียบเท่ารุ่นเรือธงเลยนะ การันตีการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่สะดุด เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน
มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว Full HD+ อัตรารีเฟรชเรท 90Hz มีความบางอยู่ที่ 7.94 มม. ซึ่งต้องบอกว่าบางเฉียบสุดๆ และหนักเพียงแค่ 191 กรัมเท่านั้น รูปลักษณะมีความคล้ายรุ่นก่อนๆเลย ไม่ค่อยมีความแตกต่างแต่อย่างใด แต่เรื่องการใช้งานนั้นทำได้ดีแซงรุ่นพี่แน่นอนในรุ่นนี้ให้กล้องหลังมาถึง 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.9) + กล้อง ultra-wide กว้าง 112 องศา 8MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้อง Depht 2MP (f/2.4) พร้อมโหมดต่างๆมากมายที่เอาใจสาย VLOG สุดๆ อย่าง Dual-View Video ที่สามารถซูมและเป็นเลนส์ไวด์ได้พร้อมๆกัน พร้อม Continuous Front/Rear Recording ถ่ายสลับกล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมๆกัน ภายในตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 680 ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610 ที่มี RAM 8GB และความจุ 128GB และมีแบตเตอรี่ 4,000mAh มาพร้อมชาร์จไวสูงถึง 66W ที่สามารถชาร์จจาก 0% – 100% เพียง 40 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ในหลายๆด้านมากจริงๆ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
มีให้เลือก 2 สี คือ Crystal Blue และ Midnight Black วางจำหน่ายในราคา 9,490 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง HUAWEI NOVA 9 SE
- Adapter
- สาย USB Type-C
- คู่มือการใช้งาน
- บัตรรับประกัน
- ที่ถอดซิมการ์ด
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอแบบ TP
- เคสพลาสติก
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นยังคงอิงมาจากรุ่นพี่ มีความคล้ายกันอยู่ แต่แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ดูดีล้ำสมัยกว่าเดิมแน่นอน ดีไซน์มาได้ดูสวยพรีเมียม เล่นสีเล่นแสงไฟได้ดีสุดๆ ส่องประกายวิบวับ ดึงดูดสายตามากๆเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสเน่ห์เลยนะสำหรับเรื่องการเล่นแสงไฟ ถือแล้วขึ้นมือมากๆ อีกทั้งวัสดุยังดูแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบามาก หนักเพียงแค่ 191 กรัมเท่านั้น ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 164.6 x 75.55 x 7.9 มม. มีความเบาและบางเฉียบออกแบบมาให้สามารถจับใช้งานได้อย่างถนัดมือมาก มีขอบจอที่บางสุดๆ หน้าจอโค้งมนดูมีสเน่ห์ น่าใช้ HUAWEI nova 9 SE นั้นออกมาด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Midnight Black และ Crystal Blue ทั้ง 2 สีนั้นมีความสวยโดดเด่นที่แตกต่างกันไป ตามความชอบของแต่ละคนเลย
มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว Full HD+90Hz มีขอบหน้าจอที่บางเฉียบของจริง สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มหน้าจอและมีประสิทธิภาพ
ขอบด้านบนหน้าจอนั้นเราจะเห็นว่ามันมีความบาง แต่ก็ยังคงแทรกลำโพงไว้ในขอบด้านบนได้เนียนๆ และจะเห็นว่ามีกล้องหน้าความละเอียด 16MP ที่เจาะอยู่บริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอนั้นเอง
ขอบด้านล่างของหน้าจอนั้นสังเกตเห็นได้ว่าจะมีขนาดความหนาที่หนากว่าด้านอื่นๆ แต่ทางค่ายก็ยังคงปรับพัฒนาให้ได้ขอบจอที่บางขั้นสุดอยู่ โดยในส่วนนี้ไม่มีปัญหาในการใช้งานเลย ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ได้หนาเลยนะ บางจนเกือบมองไม่เห็นแล้ว
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นมาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียงที่อยู่ทางด้านซ้าย ตามมาด้วยในส่วนของพอร์ตชาร์จ USB Type-C และต่อมากับลำโพงที่เรียงกันมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขอบเครื่องด้านบนจะเป็นในส่วนของที่ใส่ซิมที่รองรับ 2 Nano SIM มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ และในรอบนี้ให้ลำโพงแทรกมาอีกด้านบน พัฒนามาจากรุ่นก่อนๆที่ให้มาเพียงลำโพงตัวเดียว ดีไซน์วางไว้ได้อย่างเรียบเก๋ ถอดใช้งานได้ง่าย
บริเวณของขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะไม่มีปุ่มสั่งงาน หรืออะไรมาให้เลย จะเป็นขอบเครื่องเรียบๆ เอาไว้โชว์สีของเครื่องที่สวยเนียน และจะเห็นได้ว่ามีความโค้งมนอย่างมีมิติในทุกๆด้านเลย
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเป็นในส่วนของที่สแกนลายนิ้วมือแบะปุ่มสั่งการลด – เพิ่มเสียง ที่อยู่บริเวณด้านบนที่เมื่อเราถือสมาร์ตโฟนแล้วนั้นจะสามารถกดใช้งานได้แบบพอดีนิ้วมือเรา
ด้านหลังในรุ่นนี้จะเล่นแสงสีได้ดีสุดๆ ส่องแสงระยิบระยับ โดดเด่นดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Glass Cover ด้วย ทั้งนี้การวางโมดูลกล้องก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม วางอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ที่ขาดไม่ได้เลยคือสลักชื่อ HUAWEI NOVA ไว้บริเวณด้านล่างแบบเด่นๆให้เห็นอีกด้วย การดีไซน์สวยหรูมากจริงๆ
SPEC
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว Full HD+, รีเฟรชเรท 90Hz
- ชิปประมวลผล Snapdragon 680 ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610
- RAM 8GB + storage 128GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้
- Android 11 ที่ครอบด้วย EMUI 12,
- ไม่มี Google Play Services
- ซิมคู่
- กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.9) ที่ใช้เซนเซอร์ขนาด 1/1.52 นิ้ว กล้อง ultra-wide กว้าง 112 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) แฟลช LED
- กล้องหน้า 16MP (f/2.2)
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.6 x 75.6 x 7.9 mm;
- น้ำหนัก: 191 กรัม
- รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax,
- Bluetooth 5.0, A-GPS, GLONASS, BDS, NFC
- USB Type-C แบตเตอรี่ 4,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 66W
PERFORMANCE
มาพร้อมการใช้งานชิปประมวลผล Snapdragon 680 ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610 พร้อม RAM 8GB + storage 128GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้ แน่นอนว่ารุ่นนี้จะเน้นไปในด้านของแบตเตอรี่ที่ให้แบตมาอึดมาก การใช้งานพื้นฐานต่างๆจากการได้ทดลองใช้จริงแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย ในทางด้าน Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ 259960 คะแนนน คะแนนไม่ได้มากอะไรเท่าไหร่นัก แต่ภาพรวมแล้วการใช้งานสามารถตอบสนองได้ดี ไว ไม่อืดไม่เอ๋อ ในด้านของความจุต่างๆที่ให้มาก็เพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน ส่วนตัวแล้วการใช้งานของรุ่นนี้ยังคงทำออกมาได้ดีไม่มีปัญหาเลย
และทางด้านของ Storage Test นั้นทำคะแนนไปได้ 39217 คะแนน ซึ่งคะแนนนั้นอยู่ในระดับกลางๆ อีกทั้งสามารถทำความเร็วในการอ่านไปได้ 994.4 MB/s และสามารถเขียนไปได้ 70.6 MB/S รันบน Android 11 ที่ครอบด้วย EMUI 12 และเจ้าตัวนี้สามารถรองรับเครือข่าย 5G SA ได้บนเครือข่าย AIS 5G อีกด้วยนะ
SOFTWARE EMUI
ทางด้านระบบหน้าตาตัวนี้ยังคงอยู่บนพื้นฐาน Android 11 + EMUI 12 ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น มาพร้อมกับ UI แบบรวมศูนย์มากขึ้นและมี Control Panel ที่มีหลากหลายเมนูให้เลือกสั่งการใช้งาน ทำให้ยังคงมีการใช้งานที่ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆเท่าไรปรับตัวไม่ยาก ยังสามารถลงแอปอะไรได้อยู่ และเช่นเดิมรุ่นนี้ไม่มี Google Playstore ทางด้านของการแจ้งเตือนนั้นก็ยังคงเป็นไปตามสไตล์ Huawei เลย
นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานฟีเจอร์ HUAWEI MeeTime ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อการโทรได้หลายแบบร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือแม้แต่ HUAWEI Vision S ที่ทำให้การพูดคุยมีลูกเล่นมากขึ้นผ่านการใช้งานกล้อง ลำโพง หรือกระทั่งจอใหญ่ๆ หรือสายดูหนัง ดูละครก็สามารถใช้งาน Wireless Projection ส่งขึ้นไปฉายบนจอใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของการทำงานนั้นก็มีมาให้เช่นกัน ทางค่ายออกแบบมาให้สามารถใช้งานเชื่อมต่อกับ PC ได้โดยตรงเลย เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างลงตัวกับทุกกิจกรรมและอุปกรณ์
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว FHD + 2388 x 1080 รีเฟรชเรท 90Hz มาพร้อมกับ Touch Sampling สูงถึง 270Hz หน้าจอให้สีสวยคมชัด ที่สำคัญสามารถสู้แสงได้ดีมากๆด้วย ดีไซน์บางเฉียบ ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นเป็นนวัตกรรม 3D Glass Cover อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี 10K-Level Smooth Light Adjustmant ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ตามสภาพแวดล้อม เจ๋งมากๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือโหมด Eye Protection ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าไม่ให้ไปทำร้ายดวงตาขณะใช้งาน การใช้งานสัมผัสหน้าจอนั้นสามารถตอบสนองได้ดีมากๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย สีตรงชัด แม่นยำ สามารถใช้งานได้อย่างเพลิดเพลิน
HUAWEI SUPERCHARGE 66W
ถึงจะเห็นดีไซน์ที่บางโฉบเฉี่ยวขนาดนี้แล้ว แต่รู้หรือไม่ทางค่ายให้แบตเตอรี่มาจุใจมากๆ อยู่ที่ 4,000mAh มาพร้อมกับชาร์จไวถึง 66W เรียกได้ว่าเป็น SuperCharge ของจริงเลย เปรียบได้เท่ารุ่นเรือธง ค่ายนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เอาใจสายเล่นทั้งวันเลยแหละ โดยมีการเคลมว่าสามารถชาร์จได้ถึง 60% ในเวลาเพียง 15 นาที และชาร์จถึง 100% ใช้เวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญมีการรับรองมาด้วยนะว่าสามารถใช้งานขณะที่ชาร์จได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย ในครั้งนี้ HUAWEI ได้เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ขึ้น 10% ทำให้แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานกว่าเดิม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวๆตลอดทั้งวัน
[SR] รีวิว HUAWEI NOVA 9SE น้องใหม่ จอ 90Hz กล้อง 108MP พร้อมชาร์จโหด 66W !
ทางค่าย HUAWEI นั้นก็ได้ทำการออกสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ออกมาแล้วนั้นคือ HUAWEI NOVA 9 SE น้องใหม่ ที่ให้สเปกมาแบบจัดเต็มสุดๆ ด้วยความละเอียดของกล้องในรุ่นนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มกว่ารุ่นก่อนๆหลายเท่า มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 108MP เป็นความละเอียดระดับรุ่นเรือธงเลยนะ รองรับฟังก์ชันลูกเล่นโหมดต่างๆมากมายเอาใจสาย VLOG อีกด้วย แถมดีไซน์ยังคงทำออกมาได้โดดเด่นล้ำสมัยเล่นแสงสีได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังเน้นไปถึงในเรื่องของแบตเตอรี่ทางค่ายออกแบบพัฒนาให้แบบจุกๆ แบตอึดจุใจและยังคงสามารถชาร์จได้ไวถึง 66W เรียกว่าชาร์จได้ไวเทียบเท่ารุ่นเรือธงเลยนะ การันตีการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่สะดุด เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน
มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว Full HD+ อัตรารีเฟรชเรท 90Hz มีความบางอยู่ที่ 7.94 มม. ซึ่งต้องบอกว่าบางเฉียบสุดๆ และหนักเพียงแค่ 191 กรัมเท่านั้น รูปลักษณะมีความคล้ายรุ่นก่อนๆเลย ไม่ค่อยมีความแตกต่างแต่อย่างใด แต่เรื่องการใช้งานนั้นทำได้ดีแซงรุ่นพี่แน่นอนในรุ่นนี้ให้กล้องหลังมาถึง 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.9) + กล้อง ultra-wide กว้าง 112 องศา 8MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) + กล้อง Depht 2MP (f/2.4) พร้อมโหมดต่างๆมากมายที่เอาใจสาย VLOG สุดๆ อย่าง Dual-View Video ที่สามารถซูมและเป็นเลนส์ไวด์ได้พร้อมๆกัน พร้อม Continuous Front/Rear Recording ถ่ายสลับกล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมๆกัน ภายในตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 680 ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610 ที่มี RAM 8GB และความจุ 128GB และมีแบตเตอรี่ 4,000mAh มาพร้อมชาร์จไวสูงถึง 66W ที่สามารถชาร์จจาก 0% – 100% เพียง 40 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ในหลายๆด้านมากจริงๆ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
มีให้เลือก 2 สี คือ Crystal Blue และ Midnight Black วางจำหน่ายในราคา 9,490 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง HUAWEI NOVA 9 SE
- Adapter
- สาย USB Type-C
- คู่มือการใช้งาน
- บัตรรับประกัน
- ที่ถอดซิมการ์ด
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอแบบ TP
- เคสพลาสติก
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นยังคงอิงมาจากรุ่นพี่ มีความคล้ายกันอยู่ แต่แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ดูดีล้ำสมัยกว่าเดิมแน่นอน ดีไซน์มาได้ดูสวยพรีเมียม เล่นสีเล่นแสงไฟได้ดีสุดๆ ส่องประกายวิบวับ ดึงดูดสายตามากๆเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสเน่ห์เลยนะสำหรับเรื่องการเล่นแสงไฟ ถือแล้วขึ้นมือมากๆ อีกทั้งวัสดุยังดูแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบามาก หนักเพียงแค่ 191 กรัมเท่านั้น ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 164.6 x 75.55 x 7.9 มม. มีความเบาและบางเฉียบออกแบบมาให้สามารถจับใช้งานได้อย่างถนัดมือมาก มีขอบจอที่บางสุดๆ หน้าจอโค้งมนดูมีสเน่ห์ น่าใช้ HUAWEI nova 9 SE นั้นออกมาด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Midnight Black และ Crystal Blue ทั้ง 2 สีนั้นมีความสวยโดดเด่นที่แตกต่างกันไป ตามความชอบของแต่ละคนเลย
มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว Full HD+90Hz มีขอบหน้าจอที่บางเฉียบของจริง สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มหน้าจอและมีประสิทธิภาพ
ขอบด้านบนหน้าจอนั้นเราจะเห็นว่ามันมีความบาง แต่ก็ยังคงแทรกลำโพงไว้ในขอบด้านบนได้เนียนๆ และจะเห็นว่ามีกล้องหน้าความละเอียด 16MP ที่เจาะอยู่บริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอนั้นเอง
ขอบด้านล่างของหน้าจอนั้นสังเกตเห็นได้ว่าจะมีขนาดความหนาที่หนากว่าด้านอื่นๆ แต่ทางค่ายก็ยังคงปรับพัฒนาให้ได้ขอบจอที่บางขั้นสุดอยู่ โดยในส่วนนี้ไม่มีปัญหาในการใช้งานเลย ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ได้หนาเลยนะ บางจนเกือบมองไม่เห็นแล้ว
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นมาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียงที่อยู่ทางด้านซ้าย ตามมาด้วยในส่วนของพอร์ตชาร์จ USB Type-C และต่อมากับลำโพงที่เรียงกันมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขอบเครื่องด้านบนจะเป็นในส่วนของที่ใส่ซิมที่รองรับ 2 Nano SIM มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ และในรอบนี้ให้ลำโพงแทรกมาอีกด้านบน พัฒนามาจากรุ่นก่อนๆที่ให้มาเพียงลำโพงตัวเดียว ดีไซน์วางไว้ได้อย่างเรียบเก๋ ถอดใช้งานได้ง่าย
บริเวณของขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะไม่มีปุ่มสั่งงาน หรืออะไรมาให้เลย จะเป็นขอบเครื่องเรียบๆ เอาไว้โชว์สีของเครื่องที่สวยเนียน และจะเห็นได้ว่ามีความโค้งมนอย่างมีมิติในทุกๆด้านเลย
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเป็นในส่วนของที่สแกนลายนิ้วมือแบะปุ่มสั่งการลด – เพิ่มเสียง ที่อยู่บริเวณด้านบนที่เมื่อเราถือสมาร์ตโฟนแล้วนั้นจะสามารถกดใช้งานได้แบบพอดีนิ้วมือเรา
ด้านหลังในรุ่นนี้จะเล่นแสงสีได้ดีสุดๆ ส่องแสงระยิบระยับ โดดเด่นดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Glass Cover ด้วย ทั้งนี้การวางโมดูลกล้องก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม วางอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ที่ขาดไม่ได้เลยคือสลักชื่อ HUAWEI NOVA ไว้บริเวณด้านล่างแบบเด่นๆให้เห็นอีกด้วย การดีไซน์สวยหรูมากจริงๆ
SPEC
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว Full HD+, รีเฟรชเรท 90Hz
- ชิปประมวลผล Snapdragon 680 ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610
- RAM 8GB + storage 128GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้
- Android 11 ที่ครอบด้วย EMUI 12,
- ไม่มี Google Play Services
- ซิมคู่
- กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.9) ที่ใช้เซนเซอร์ขนาด 1/1.52 นิ้ว กล้อง ultra-wide กว้าง 112 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) แฟลช LED
- กล้องหน้า 16MP (f/2.2)
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.6 x 75.6 x 7.9 mm;
- น้ำหนัก: 191 กรัม
- รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax,
- Bluetooth 5.0, A-GPS, GLONASS, BDS, NFC
- USB Type-C แบตเตอรี่ 4,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 66W
PERFORMANCE
มาพร้อมการใช้งานชิปประมวลผล Snapdragon 680 ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 610 พร้อม RAM 8GB + storage 128GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้ แน่นอนว่ารุ่นนี้จะเน้นไปในด้านของแบตเตอรี่ที่ให้แบตมาอึดมาก การใช้งานพื้นฐานต่างๆจากการได้ทดลองใช้จริงแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย ในทางด้าน Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ 259960 คะแนนน คะแนนไม่ได้มากอะไรเท่าไหร่นัก แต่ภาพรวมแล้วการใช้งานสามารถตอบสนองได้ดี ไว ไม่อืดไม่เอ๋อ ในด้านของความจุต่างๆที่ให้มาก็เพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน ส่วนตัวแล้วการใช้งานของรุ่นนี้ยังคงทำออกมาได้ดีไม่มีปัญหาเลย
และทางด้านของ Storage Test นั้นทำคะแนนไปได้ 39217 คะแนน ซึ่งคะแนนนั้นอยู่ในระดับกลางๆ อีกทั้งสามารถทำความเร็วในการอ่านไปได้ 994.4 MB/s และสามารถเขียนไปได้ 70.6 MB/S รันบน Android 11 ที่ครอบด้วย EMUI 12 และเจ้าตัวนี้สามารถรองรับเครือข่าย 5G SA ได้บนเครือข่าย AIS 5G อีกด้วยนะ
SOFTWARE EMUI
ทางด้านระบบหน้าตาตัวนี้ยังคงอยู่บนพื้นฐาน Android 11 + EMUI 12 ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น มาพร้อมกับ UI แบบรวมศูนย์มากขึ้นและมี Control Panel ที่มีหลากหลายเมนูให้เลือกสั่งการใช้งาน ทำให้ยังคงมีการใช้งานที่ไม่ได้แตกต่างกับรุ่นอื่นๆเท่าไรปรับตัวไม่ยาก ยังสามารถลงแอปอะไรได้อยู่ และเช่นเดิมรุ่นนี้ไม่มี Google Playstore ทางด้านของการแจ้งเตือนนั้นก็ยังคงเป็นไปตามสไตล์ Huawei เลย
นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานฟีเจอร์ HUAWEI MeeTime ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อการโทรได้หลายแบบร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือแม้แต่ HUAWEI Vision S ที่ทำให้การพูดคุยมีลูกเล่นมากขึ้นผ่านการใช้งานกล้อง ลำโพง หรือกระทั่งจอใหญ่ๆ หรือสายดูหนัง ดูละครก็สามารถใช้งาน Wireless Projection ส่งขึ้นไปฉายบนจอใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของการทำงานนั้นก็มีมาให้เช่นกัน ทางค่ายออกแบบมาให้สามารถใช้งานเชื่อมต่อกับ PC ได้โดยตรงเลย เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างลงตัวกับทุกกิจกรรมและอุปกรณ์
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว FHD + 2388 x 1080 รีเฟรชเรท 90Hz มาพร้อมกับ Touch Sampling สูงถึง 270Hz หน้าจอให้สีสวยคมชัด ที่สำคัญสามารถสู้แสงได้ดีมากๆด้วย ดีไซน์บางเฉียบ ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นเป็นนวัตกรรม 3D Glass Cover อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี 10K-Level Smooth Light Adjustmant ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ตามสภาพแวดล้อม เจ๋งมากๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือโหมด Eye Protection ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าไม่ให้ไปทำร้ายดวงตาขณะใช้งาน การใช้งานสัมผัสหน้าจอนั้นสามารถตอบสนองได้ดีมากๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย สีตรงชัด แม่นยำ สามารถใช้งานได้อย่างเพลิดเพลิน
HUAWEI SUPERCHARGE 66W
ถึงจะเห็นดีไซน์ที่บางโฉบเฉี่ยวขนาดนี้แล้ว แต่รู้หรือไม่ทางค่ายให้แบตเตอรี่มาจุใจมากๆ อยู่ที่ 4,000mAh มาพร้อมกับชาร์จไวถึง 66W เรียกได้ว่าเป็น SuperCharge ของจริงเลย เปรียบได้เท่ารุ่นเรือธง ค่ายนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เอาใจสายเล่นทั้งวันเลยแหละ โดยมีการเคลมว่าสามารถชาร์จได้ถึง 60% ในเวลาเพียง 15 นาที และชาร์จถึง 100% ใช้เวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญมีการรับรองมาด้วยนะว่าสามารถใช้งานขณะที่ชาร์จได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย ในครั้งนี้ HUAWEI ได้เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ขึ้น 10% ทำให้แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานกว่าเดิม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวๆตลอดทั้งวัน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้