วันหยุดยาววันสุดท้ายของหลายองค์กรและหน่วยงาน เข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์วันปีใหม่ไทยพี่น้องชาวไทยหลายคนทีได้กลับบ้านสู่ภูมิลำเนาต่างจังหวัด ได้มีการเดินทางกลับไปหาพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักกัน ถนนหลวงทั้งเส้นทางสายหลัก–สายรอง ก็คงคลาไปด้วยรถรา แม้จะมีบางส่วนทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพฯตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
แม้ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะพยายามรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุ แต่เรื่องความประมาทของคนก็ยังยากที่จะห้ามปรามกัน ก็ขอรวบรวมข้อมูลตัวเลขสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์เอาเฉพาะช่วงที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมากุมอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่ยุค คสช.ต่อเนื่องมาจนถึง “รัฐบาลประยุทธ์ 2” มาเตือนสติทุกท่าน และตัวดิฉันเช่นกัน
พบว่า จำนวนอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในปี 2558 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,516 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 361 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,802 คน, มาปี 2559 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,447 ครั้ง เสียชีวิต 442 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,656 คน, ปี 2560 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,690 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 390 คน จำนวนผู้บาดเจ็บ 4,190 คน
ช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ปี 2561 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 3,516 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 361 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,802 คน, สงกรานต์ปี 2562 อุบัติเหตุเกิด 3,338 ครั้ง เสียชีวิต 386 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,442 คน
พอมาปี 2563 เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศเลื่อนวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ออกไป และเป็นช่วงที่มีการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุ 1,307 ครั้ง เสียชีวิต 167 ราย และบาดเจ็บ 1,260 ราย และเมื่อปีที่แล้ว 2564 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,365 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 277 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,357 คนจะเห็นได้ว่าทั้งจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตแต่ละปีสูงมาตลอด นอกจากจะเกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว ยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจปีละมหาศาลด้วย ล้วนแล้วมาจากสาเหตุเดิมๆ คือ 1.ขับรถเร็วเกินกำหนด (ประมาท) 2.เมาสุรา 3.ตัดหน้ากระชั้นชิด แล้วก็ยังเป็น รถจักรยานยนต์ คือพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด เป็นความประมาทของคนที่แก้ยังไงก็ไม่ตก
ปีนี้ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดขาขึ้นอีกรอบ ซึ่งนายกฯประยุทธ์ก็ชี้แนะผู้ที่จะเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เน้นไปที่มาตรการ Self Clean Up อันได้แก่ 1.ให้บุตรหลานพาพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ไปฉีดวัคซีน หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น 2.ให้ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention เน้นการสวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้า และ 3.หลังกลับจากสงกรานต์ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน ตรวจ ATK และ WFH ตามความเหมาะสม เพราะวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ และยอดผู้เสียชีวิต ยังคงพุ่งขึ้นเรื่อยๆ แทบไม่อยากนึกว่าหลังสงกรานต์ยอดจะพุ่งทะลุปรอทขนาดไหน จะเป็นไปตามที่คุณหมอหลายท่านวิเคราะห์หรือไม่
ยังไงก็ขอฝากไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนพึงระวังในการขับขี่ ทั้งเพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง และเพื่อนร่วมทางคนอื่น เพราะสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ทั้งปีใหม่ และสงกรานต์ของทุกปี มีแต่คนเจ็บคนตายเพิ่มมากขึ้นแทบทุกปี และขอให้พี่น้องชาวไทยทุกคนแคล้วคลาดจากภัยอันตราย ทั้งจากการเดินทาง และโรคโควิดด้วยนะคะ
ที่มา :
https://www.bangkokbiznews.com/news/980903
ขอบคุณภาพจาก :
https://today.line.me/th/v2/article/PGgk8n8
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
7 วันสงกรานต์อันตราย ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ-โควิด
แม้ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะพยายามรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุ แต่เรื่องความประมาทของคนก็ยังยากที่จะห้ามปรามกัน ก็ขอรวบรวมข้อมูลตัวเลขสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์เอาเฉพาะช่วงที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมากุมอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่ยุค คสช.ต่อเนื่องมาจนถึง “รัฐบาลประยุทธ์ 2” มาเตือนสติทุกท่าน และตัวดิฉันเช่นกัน
พบว่า จำนวนอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในปี 2558 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,516 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 361 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,802 คน, มาปี 2559 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,447 ครั้ง เสียชีวิต 442 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,656 คน, ปี 2560 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,690 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 390 คน จำนวนผู้บาดเจ็บ 4,190 คน
ช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ปี 2561 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 3,516 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 361 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,802 คน, สงกรานต์ปี 2562 อุบัติเหตุเกิด 3,338 ครั้ง เสียชีวิต 386 คน และบาดเจ็บ (Admit) 3,442 คน
พอมาปี 2563 เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศเลื่อนวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ออกไป และเป็นช่วงที่มีการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุ 1,307 ครั้ง เสียชีวิต 167 ราย และบาดเจ็บ 1,260 ราย และเมื่อปีที่แล้ว 2564 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,365 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 277 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,357 คนจะเห็นได้ว่าทั้งจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตแต่ละปีสูงมาตลอด นอกจากจะเกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว ยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจปีละมหาศาลด้วย ล้วนแล้วมาจากสาเหตุเดิมๆ คือ 1.ขับรถเร็วเกินกำหนด (ประมาท) 2.เมาสุรา 3.ตัดหน้ากระชั้นชิด แล้วก็ยังเป็น รถจักรยานยนต์ คือพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด เป็นความประมาทของคนที่แก้ยังไงก็ไม่ตก
ปีนี้ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดขาขึ้นอีกรอบ ซึ่งนายกฯประยุทธ์ก็ชี้แนะผู้ที่จะเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง เน้นไปที่มาตรการ Self Clean Up อันได้แก่ 1.ให้บุตรหลานพาพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ไปฉีดวัคซีน หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น 2.ให้ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention เน้นการสวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้า และ 3.หลังกลับจากสงกรานต์ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน ตรวจ ATK และ WFH ตามความเหมาะสม เพราะวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ และยอดผู้เสียชีวิต ยังคงพุ่งขึ้นเรื่อยๆ แทบไม่อยากนึกว่าหลังสงกรานต์ยอดจะพุ่งทะลุปรอทขนาดไหน จะเป็นไปตามที่คุณหมอหลายท่านวิเคราะห์หรือไม่
ยังไงก็ขอฝากไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนพึงระวังในการขับขี่ ทั้งเพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง และเพื่อนร่วมทางคนอื่น เพราะสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ทั้งปีใหม่ และสงกรานต์ของทุกปี มีแต่คนเจ็บคนตายเพิ่มมากขึ้นแทบทุกปี และขอให้พี่น้องชาวไทยทุกคนแคล้วคลาดจากภัยอันตราย ทั้งจากการเดินทาง และโรคโควิดด้วยนะคะ
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/980903
ขอบคุณภาพจาก : https://today.line.me/th/v2/article/PGgk8n8
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย