สลด ถูกกีดกัน ลูกสาว14 ร่วมแฟนหนุ่ม16 ฆ่าแม่ หวังออกคุกจะได้ครองรัก


8 เม.ย. 2565  -  07:20 น.

สลด ลูกสาววัย 14 ปี ร่วมกับแฟนหนุ่มวัย 16 ปี วางแผนฆ่าแม่ หลังถูกกีดกันความรัก พี่ชายโดดช่วยถูกแทงสาหัส ชาวบ้านสุดแค้นฮือประชาทัณฑ์

วันที่ 8 เม.ย.2565 พ.ต.ต.อุทิศ พาราษฎร สารวัตร(สอบสวน) สภ.บางพลี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุหญิงถูกแทงด้วยมีดที่ลำคอ บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และแพทย์เวรโรงพยาบาลบางพลี

ที่เกิดเหตุบริเวณทางเดินพบ นายกิตติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี สภาพถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามร่างกาย ลำคอ หัวไหล่ และใบหน้าหลายแผล เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลบางนา 5 ส่วนภายในห้องที่หน้าห้องน้ำพบร่าง น.ส.จีรพา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สภาพสวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว นอนแน่นิ่งจมกองเลือด เจ้าหน้าที่เร่งปั๊มหัวใจช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

สลด ลูกสาววัย 14 ปี ร่วมกับแฟนหนุ่มวัย 16 ปี วางแผนฆ่าแม่ หลังถูกกีดกันความรัก พี่ชายโดดช่วยถูกแทงสาหัส

จากการตรวจสอบตามร่างกายพบถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณแก้มซ้าย 2 แผล แก้มขวา 1 แผล ลำคอด้านหน้า 3 แผล และที่ท้ายทอยอีก 1 แผล รวม 7 แผล และพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 15 เซนติเมตรตกอยู่ที่พื้น ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในห้องนอนของผู้ตายพบข้าวของกระจัดกระจายและมีรอยเลือดกระจายเต็มพื้นห้องออกมาจนถึงพื้นภายในห้องและในห้องน้ำ ตำรวจจึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ทราบชื่อคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของลูกสาวผู้ตายชื่อ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี มีคราบเลือดติดตามตัวและเสื้อผ้าหลายแห่ง นั่งรอตำรวจอยู่ที่หน้าห้อง สภาพนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรและดูเหมือนเป็นโรคซึมเศร้าทั้ง 2 คน ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่สภ.บางพลี
 
ขณะที่ชาวบ้านเกือบร้อยคนที่ทราบข่าวว่าผู้ก่อเหตุลงมือฆ่า น.ส.จีรพา นั้น คือลูกสาวแท้ ๆ ที่ร่วมกับแฟนหนุ่มเป็นคนลงมือ ทำให้ต่างพากันโกรธแค้น จนเจ้าหน้าที่ต้องระดมสายตรวจและกู้ภัยมาเป็นเกาะกำบังให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนเพื่อนำตัวไป ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวลูกสาวออกจากห้อง พบประชาชนจำนวนมากพยายามเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ทำให้นักข่าวและกู้ภัยถูกลูกหลง ขณะที่มือมีดคือแฟนหนุ่มของลูกสาว เจ้าหน้าที่ต้องพาออกด้านหลังตึกไปขึ้นรถอีกฝั่งเพื่อเลี่ยงการถูกรุมประชาทัณฑ์

จากการสอบถาม นายกิตติ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือแฟนหนุ่มของน้องสาวตนเอง ลงมือก่อเหตุจ้วงแทงแม่ของตน ซึ่งตนนอนอยู่ที่เตียงนอนอีกห้อง ได้ยินเสียงแม่ร้องให้ช่วยจึงลุกจากที่นอนออกไปช่วยแม่ ในขณะที่แฟนหนุ่มของน้องสาวกำลังจ้วงแทงแม่อยู่ที่หน้าห้องน้ำ และหันมาใช้มีดเล่มเดียวกันจ้วงแทงตนจนบาดเจ็บหลายแผล ตนต้องดิ้นรนวิ่งหนีตายออกมาเปิดประตูห้องเพื่อหาคนช่วยเหลือ

ด้าน ลูกสาวของผู้ตาย ให้การยอมรับสารภาพเบื้องต้นว่า ตนและแฟนหนุ่มอยู่ในสภาวะจิตตก เนื่องจากโดนแม่และพี่ชายกีดกันไม่ให้คบกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงได้วางแผนฆ่าแม่และพี่ชายของตนจริง สาเหตุมาจากแม่และพี่ชายกีดกันความรักของทั้งสอง จึงก่อเหตุลงมือขึ้นและยอมรับกรรมที่ตนทำ เมื่อออกจากคุกแล้วจะได้มาอยู่ด้วยกันกับแฟนหนุ่ม

ลูกสาว ให้การต่อว่า โดยก่อนหน้านี้ ตนออกจากห้องพักไปอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มได้ไม่กี่วัน จึงวางแผนที่จะลงมือฆ่าแม่และพี่ชาย โดยให้แฟนหนุ่มเป็นผู้ลงมือ พอร่วมกันวางแผนเรียบร้อย จึงพากันกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งในขณะนั้นพบว่าแม่กำลังนั่งพักอยู่ในห้องนอน ตนจึงให้แฟนหนุ่มไปหลบที่ห้องครัวด้านหลังห้อง จากนั้นตนก็นำมีดที่ครัวยื่นให้แฟนหนุ่มลงมือ

ลูกสาว ให้การอีกว่า แฟนจึงเดินเข้าไปหาแม่ภายในห้องแล้วใช้มีดแทงที่ลำคอและตามใบหน้าจนแม่กรีดร้อง และคลานหนีออกมาจากห้อง พี่ชายของตนขณะนั้นนอนอยู่บนที่นอนภายในห้องอีกด้านได้ยินเสียงจึงพยามออกมาช่วยแม่ ตนจึงเข้าไปห้ามแต่สู้แรงพี่ชายไม่ไหวเข้ามาช่วยแม่ แฟนหนุ่มจึงใช้มีดจ้วงแทงพี่ชายหวังเอาชีวิตอีกคน จนกระทั่งพี่ชายวิ่งหนีออกมาเปิดประตูหนี

ด้าน ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่า ลงมือก่อเหตุจริง ที่ทำเพราะแฟนสาวสั่งให้ฆ่าแม่ตัวเองและพี่ชาย เนื่องจากทั้งสองกีดกันความรักไม่ให้คบกัน เพราะยังเรียนอยู่ด้วยกันทั้งคู่ ด้วยความรักฝ่ายหญิงจึงตัดสินใจลงมือในครั้งนี้ ในสิ่งที่ตนทำไปโดยขาดสติ คนในโซเชียลมีเดียจะว่าอย่างไรก็ช่าง สำหรับตนแล้ว ต้องขอโทษกับสิ่งที่ทำไป เมื่อออกมาจากคุกตนจะทำสิ่งที่ดีขึ้น จะไม่ไปเบียดเบียนใครอีก
 
ด้าน พ.ต.ต.อุทิศ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปยัง สภ.บางพลี เพื่อรอสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6987359
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่