ในปี ค.ศ. 1994 สหรัฐออกกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายซองกระสุนจุเกิน 10 นัดสำหรับปืนเอกชนโดยอ้างคดีสังหารหมู่ในรถไฟฟ้าที่รัฐนิวยอร์กเป็นเหตุสนับสนุนคนร้ายเพียงคนเดียวใช้ปืนพกจุกระสุน 15 นัด
เอสทีไอ จัดเป็นบริษัทผู้ผลิตปืนยุคใหม่ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1993 โดยมีหุ้นส่วนคือ Sandy Strayer กับ Virgil Tripp นำอักษรตัวแรกจากนามสกุลของทั้งสองมาเป็นชื่อบริษัทคือ STI ใช้แผนที่รัฐเทกซัสเป็นเครื่อง หมายการค้า โดย Strayer และ Tripp ร่วมกันเป็นเจ้าของสิทธิบัตรโครงปืน 1911 ใช้หลักการโมดุลลาร์ แยกเป็นสองส่วน โดยส่วนด้ามและโกร่งไกใช้วัสดุสังเคราะห์น้ำหนักเบา ยึดกับส่วนรางปืนที่เป็นเหล็ก ทำให้ได้ปืน “ลูกดก” ด้ามบางจับถนัด และน้ำหนักตัวปืนโดยรวมไม่ต่างจาก 1911 แถวเดี่ยวธรรมดา ทั้ง ๆ ที่จุกระสุนมากกว่าเกือบสองเท่าตัว ต่อมาไม่นาน Strayer แยกตัวออกไปตั้งบริษัท SVI กับหุ้นส่วนคนใหม่ โดยยังใช้สิทธิผลิตโครงปืนโมดุลลาร์ต่อไป โดย SVI เน้นทำปืนแต่งพิเศษจำนวนจำกัด ส่วน STI เลือกผลิตปืนมาตรฐาน แต่งระดับโรงงาน สร้างยอดขายได้ดีทั้งตัวปืนและชิ้นส่วนแยก กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธปืนรายใหญ่ของสหรัฐ
ในปี ค.ศ. 1994 สหรัฐ ออกกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายซองกระสุนจุเกิน 10 นัดสำหรับปืนเอกชน โดยอ้างคดีสังหารหมู่ในรถไฟฟ้าที่รัฐนิวยอร์กเป็นเหตุสนับสนุน คน ร้ายเพียงคนเดียวใช้ปืนพกจุกระสุน 15 นัด ยิงหมดบรรจุใหม่อีกครั้ง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บอีก 19 ราย โดยกำหนดเวลากฎหมายหมดอายุไว้ 10 ปี จะประเมินผลพิจารณาใหม่ เอสทีไอ ที่มีจุดขายเป็นปืนลูกดกจึงต้องปรับตัวทำปืน 1911 แถวเดี่ยวขายควบคู่ไปกับ ปืนโครงโมดุลลาร์ และจากคุณภาพโดยรวมของชิ้นส่วนต่าง ๆ ปืนเอสทีไอได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มนักกีฬายิงปืนรณยุทธ์ที่ยิงกระสุนมากกว่ากลุ่มผู้ใช้ปืนทั่วไปหลายเท่าตัว
แม้เมื่อกฎหมายควบคุมจำนวนกระสุนหมดอายุลงแล้ว
ปืน 1911 แถวเดี่ยวก็ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง เอสทีไอ แยกสายการผลิตออกเป็นแบบ 1911 โครงปกติรับซองกระสุนแถวเดียว กับ 2011 โครงโมดุลลาร์ลูกดก เฉพาะแบบแถวเดี่ยวมีให้เลือกกว่า 30 แบบ ความยาวลำกล้องตั้งแต่ 3 นิ้ว พกซ่อน ขึ้นไปถึง 6 นิ้ว สำหรับยิงเป้าโดยเฉพาะปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็นหนึ่งในชุด Duty One ที่มีความยาวลำกล้องให้เลือกสามระดับ ใช้ตัวเลขต่อท้ายในชื่อรุ่นคือ 5.0,4.0 และ 3.0 ซึ่งเป็นความยาวลำกล้องรวมรังเพลิง วัดโดยสอดแกนจากปลายลำกล้องเข้ามาชนหน้าลำเลื่อน แต่ปืนเอสทีไอใช้ทางลาดป้อนกระสุนแบบเสริมใต้รังเพลิง เมื่อถอดลำกล้องมาวัดด้านนอกรวมฐานทางลาด ได้ความยาวลำกล้อง 5.11, 4.37 และ 3.24 นิ้ว ตามลำดับ
นายแบบสัปดาห์นี้ Duty One 3.0 เป็นเหล็กล้วนทั้งกระบอก เอสทีไอใช้เหล็ก กล้า 4140 ชุบผิวฮาร์ดโครม สวยงามเรียบร้อยดี ด้ามเป็นวัสดุ G10 แข็ง ทำลายกันลื่นแบบปุ่มสี่เหลี่ยม รับกับหน้าด้ามและเรือนสปริงนกสับหลังด้ามบนลำเลื่อนส่วนท้ายแกะลายเดียวกัน แต่ส่วนหน้าเป็นเส้นตั้ง ศูนย์ตาย สีดำตัดกับลำเลื่อนขาว ไกโปร่งแบบยิงเป้า นกสับโปร่ง หลังอ่อนหางยาวหุ้มนก จับสูงได้ โดยนกไม่หนีบง่ามมือ ใต้โครงด้านหน้าทำรางรับอุปกรณ์มาตรฐานมาให้พร้อมติดตั้งไฟ ฉายหรือเลเซอร์ช่วยเล็งได้สะดวก ในขณะที่ปืนรูปแบบเดียวกันของคู่แข่งที่ใช้โครงอัลลอยด์หนักประมาณ 750 กรัม เอสทีไอเหล็กล้วนชั่งน้ำหนักตัวได้เกือบ ๆ 900 กรัม เมื่อใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ ยิงได้นุ่มนวลสบายมือดีมาก น้ำหนักไก 4.5 ปอนด์ จัดว่าเบา ใช้งานพกซ่อนตามวัตถุประสงค์ที่ออกแบบมาไม่จำเป็นต้องแต่งให้เบากว่านี้.
...................................................................................
ข้อมูลสรุป STI Duty One 3.0
ขนาดกระสุน 9 ม.ม. (9x19) ความจุ 8 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 165x130x34 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 82 มิลลิเมตร (3.24 นิ้ว)
น้ำหนัก 895 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 2050 กรัม (4.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กกล้า 4140 (ผิว Hard Chrome), ด้าม G10
ลักษณะใช้งาน ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง, พกพาแบบไม่เปิดเผย
ตัวเลือกอื่น Kimber Ultra Carry, Springfield EMP, Colt Defender
https://d.dailynews.co.th/article/274433/
.................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1347 9 มม. ตัวเล็กสำหรับงานหนัก STI Duty One 3.0
เอสทีไอ จัดเป็นบริษัทผู้ผลิตปืนยุคใหม่ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1993 โดยมีหุ้นส่วนคือ Sandy Strayer กับ Virgil Tripp นำอักษรตัวแรกจากนามสกุลของทั้งสองมาเป็นชื่อบริษัทคือ STI ใช้แผนที่รัฐเทกซัสเป็นเครื่อง หมายการค้า โดย Strayer และ Tripp ร่วมกันเป็นเจ้าของสิทธิบัตรโครงปืน 1911 ใช้หลักการโมดุลลาร์ แยกเป็นสองส่วน โดยส่วนด้ามและโกร่งไกใช้วัสดุสังเคราะห์น้ำหนักเบา ยึดกับส่วนรางปืนที่เป็นเหล็ก ทำให้ได้ปืน “ลูกดก” ด้ามบางจับถนัด และน้ำหนักตัวปืนโดยรวมไม่ต่างจาก 1911 แถวเดี่ยวธรรมดา ทั้ง ๆ ที่จุกระสุนมากกว่าเกือบสองเท่าตัว ต่อมาไม่นาน Strayer แยกตัวออกไปตั้งบริษัท SVI กับหุ้นส่วนคนใหม่ โดยยังใช้สิทธิผลิตโครงปืนโมดุลลาร์ต่อไป โดย SVI เน้นทำปืนแต่งพิเศษจำนวนจำกัด ส่วน STI เลือกผลิตปืนมาตรฐาน แต่งระดับโรงงาน สร้างยอดขายได้ดีทั้งตัวปืนและชิ้นส่วนแยก กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธปืนรายใหญ่ของสหรัฐ
ในปี ค.ศ. 1994 สหรัฐ ออกกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายซองกระสุนจุเกิน 10 นัดสำหรับปืนเอกชน โดยอ้างคดีสังหารหมู่ในรถไฟฟ้าที่รัฐนิวยอร์กเป็นเหตุสนับสนุน คน ร้ายเพียงคนเดียวใช้ปืนพกจุกระสุน 15 นัด ยิงหมดบรรจุใหม่อีกครั้ง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บอีก 19 ราย โดยกำหนดเวลากฎหมายหมดอายุไว้ 10 ปี จะประเมินผลพิจารณาใหม่ เอสทีไอ ที่มีจุดขายเป็นปืนลูกดกจึงต้องปรับตัวทำปืน 1911 แถวเดี่ยวขายควบคู่ไปกับ ปืนโครงโมดุลลาร์ และจากคุณภาพโดยรวมของชิ้นส่วนต่าง ๆ ปืนเอสทีไอได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มนักกีฬายิงปืนรณยุทธ์ที่ยิงกระสุนมากกว่ากลุ่มผู้ใช้ปืนทั่วไปหลายเท่าตัว
แม้เมื่อกฎหมายควบคุมจำนวนกระสุนหมดอายุลงแล้ว
ปืน 1911 แถวเดี่ยวก็ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง เอสทีไอ แยกสายการผลิตออกเป็นแบบ 1911 โครงปกติรับซองกระสุนแถวเดียว กับ 2011 โครงโมดุลลาร์ลูกดก เฉพาะแบบแถวเดี่ยวมีให้เลือกกว่า 30 แบบ ความยาวลำกล้องตั้งแต่ 3 นิ้ว พกซ่อน ขึ้นไปถึง 6 นิ้ว สำหรับยิงเป้าโดยเฉพาะปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็นหนึ่งในชุด Duty One ที่มีความยาวลำกล้องให้เลือกสามระดับ ใช้ตัวเลขต่อท้ายในชื่อรุ่นคือ 5.0,4.0 และ 3.0 ซึ่งเป็นความยาวลำกล้องรวมรังเพลิง วัดโดยสอดแกนจากปลายลำกล้องเข้ามาชนหน้าลำเลื่อน แต่ปืนเอสทีไอใช้ทางลาดป้อนกระสุนแบบเสริมใต้รังเพลิง เมื่อถอดลำกล้องมาวัดด้านนอกรวมฐานทางลาด ได้ความยาวลำกล้อง 5.11, 4.37 และ 3.24 นิ้ว ตามลำดับ
นายแบบสัปดาห์นี้ Duty One 3.0 เป็นเหล็กล้วนทั้งกระบอก เอสทีไอใช้เหล็ก กล้า 4140 ชุบผิวฮาร์ดโครม สวยงามเรียบร้อยดี ด้ามเป็นวัสดุ G10 แข็ง ทำลายกันลื่นแบบปุ่มสี่เหลี่ยม รับกับหน้าด้ามและเรือนสปริงนกสับหลังด้ามบนลำเลื่อนส่วนท้ายแกะลายเดียวกัน แต่ส่วนหน้าเป็นเส้นตั้ง ศูนย์ตาย สีดำตัดกับลำเลื่อนขาว ไกโปร่งแบบยิงเป้า นกสับโปร่ง หลังอ่อนหางยาวหุ้มนก จับสูงได้ โดยนกไม่หนีบง่ามมือ ใต้โครงด้านหน้าทำรางรับอุปกรณ์มาตรฐานมาให้พร้อมติดตั้งไฟ ฉายหรือเลเซอร์ช่วยเล็งได้สะดวก ในขณะที่ปืนรูปแบบเดียวกันของคู่แข่งที่ใช้โครงอัลลอยด์หนักประมาณ 750 กรัม เอสทีไอเหล็กล้วนชั่งน้ำหนักตัวได้เกือบ ๆ 900 กรัม เมื่อใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ ยิงได้นุ่มนวลสบายมือดีมาก น้ำหนักไก 4.5 ปอนด์ จัดว่าเบา ใช้งานพกซ่อนตามวัตถุประสงค์ที่ออกแบบมาไม่จำเป็นต้องแต่งให้เบากว่านี้.
...................................................................................
ข้อมูลสรุป STI Duty One 3.0
ขนาดกระสุน 9 ม.ม. (9x19) ความจุ 8 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 165x130x34 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 82 มิลลิเมตร (3.24 นิ้ว)
น้ำหนัก 895 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 2050 กรัม (4.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กกล้า 4140 (ผิว Hard Chrome), ด้าม G10
ลักษณะใช้งาน ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง, พกพาแบบไม่เปิดเผย
ตัวเลือกอื่น Kimber Ultra Carry, Springfield EMP, Colt Defender
https://d.dailynews.co.th/article/274433/
.................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช