รู้สึกชีวิตว่างเปล่าไม่มีความสุข

- อายุ 37 มีลูก 1 คน สามีทางกฏหมาย 1 (แต่หมดรักแล้ว แยกห้องนอน อยู่กันแบบเพื่อน)
- ความเป็นอยู่ ไม่ลำบาก มีกินมีใช้(แต่ไม่รวย) มีบ้าน มีรถ มีหนี้บ้าน ว่างงาน
- นิสัยเข้ากับคนง่าย มีเพื่อนหลายกลุ่ม ถ้าอยู่กับกลุ่มปาตี้เราก็เป็นขี้เมาคนหนึ่งเลยแหละ เป็นคนสนุก ร่างเริง เพื่อนในกลุ่มแทบดูไม่ออกว่าเราสนใจธรรมะ และอีกมุมคือเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก ชอบสันโดษ

             ปัญหาคือ  รู้สึกชีวิตว่างเปล่า น่าเบื่อ ไม่สนุกไม่อินกับอะไร เหมือนอยู่ไปวันๆ ชีวิตจืดชืดไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้ว่าจะดิ้นรนไปเพื่ออะไร ใจก็ไม่ได้จะอยากมีนั่นมีนี่ขนาดนั้น ไม่ทุกข์เท่าไหร่แต่ก็ไม่สุขเช่นกัน เหมือนเป็นเส้นกราฟตรงอย่างเดียวไม่มีหยักขึ้นหรือลง เหมือนตัวเองเป็นท่อนไม้ไปทุกวัน ไม่ค่อยรู้สึกอะไรกับใคร ไม่ค่อยรู้สึกผูกพันด้วยแม้แต่คนในครอบครัว  เช่น

1   เวลาย่าป่วย (อาการหนัก) เป็นห่วงนะแต่ใจก็ไม่ได้พะวงว่ากลัวย่าจะตายเพราะเรารู้สึกว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องตายรวมทั้งเราเองด้วย แค่ก่อนหรือหลังแค่นั้นเอง
2   เวลาพ่อแม่ไม่สบายก็ดูแล พาไปหาหมอ รับฟังปัญหาความรู้สึกของท่าน ทำตามหน้าที่ไป สงสารนะแต่ถามในใจลึกๆเราก็ไม่ได้เครียดขนาดนั้น เห็นเค้าทุกข์เพราะป่วยเราก็รู้ว่าทุกข์ แต่เราก็ป่วยแทนกันไม่ได้ ทุกคนเจ็บป่วยเป็นเรื่องปกติ ยิ่งอายุมากขึ้นร่างกายก็เสื่อมโทรมตามกาลเวลา
3   ไม่อยากมีชีวิตคู่เพราะ ไม่อยากผูกพัน ไม่อยากเอาใจใส่ ไม่อยากดูแลใคร ไม่อยากทุกข์หรือคิดมากเพราะใคร (ค่อนข้างคิดลบเรื่องนี้)
4  มองทุกอย่างไม่จีรังหมด ทั้งสิ่งของต่างๆและความรู้สึกของคน เลยไม่ค่อยยึดติดและไม่มีอารมณ์ร่วมกับอะไรเท่าไหร่

              *  คือเรารู้สึกและคิดประมาณนี้ เราป่วย(ซึมเศร้า)หรือเปล่า หรือแค่ปลงกับชีวิต แต่ที่แน่ๆคือไม่อยากรู้สึกแบบนี้ อยากสนุกและอยากมีชีวิตที่เหมือนมีชีวิตจริงๆ ตอนนี้เหมือนเกิดมาเพื่อรอแก่ตาย ทำแบบทดสอบโรคซึมเศร้าผลคือ มี 5 ระดับอยู่ระดับ 4  ควรไปหาหมอไหม 
               *  ปล ว่างงานมา 2 ปี แต่เรามีอาการแบบนี้มา 5-6 ปีแล้วมั้งไม่ใช่เพิ่งเป็น
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ก็คล้ายๆผมนะ..

เงินทองมีพอกิน พอใช้ ไม่ได้ขัดสนอะไร  ไม่ได้เป็นคนอยากได้อะไร แทบจะไม่ได้ซื้อของฟุ่มเฟือยเลย ไม่ใช่เป็นคนประหยัด แต่มันไม่อยากได้อะไร เห็นคนอื่นมีโน่นมีนี่ เราไม่มี ก็เฉยๆ  แต่แฟนผมไม่เหมือนกัน กลับร้อน ทำให้ผมบางทีก็ต้องร้อนไปด้วย ซึ่งทำให้ในใจลึกๆก็อยากไปบวช  ความสุขที่ต้องขึ้นอยู่กับอีกคน ทำให้เราเป็นทุกข์..


นี่ช่วงนี้ ระหว่างวันผมก็ฝึกสติ พุทโธ อยู่สม่ำเสมอ  จนตอนนี้เริ่มเข้าใจคำว่า ฉันทะ ในคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว..  คือมันพอใจที่จะฝึกสคิอยู่ตลอด ไม่ใช่เพราะความเคยชิน แต่มันมีความยินดี ที่ไม่ต้องไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ซึ่งไม่มีสาระแก่นสารเลย..

สรุป ไม่ได้แนะนำอะไรเลย..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่