ชะตากรรมของพระญาติวงศ์ของตนกูสุเบีย เจ้าจอมในรัชกาลที่ 4

ในประวัติศาสตร์ไทย มีเรื่องราวของเจ้าจอมมุสลิมมลายูอยู่ในราชสำนักในช่วงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือช่วงรัชกาลที่ 4
โดยมีเจ้าจอมที่เรียกกันว่า ตนกูสุเบีย หรือ เต็งกูซาฟียะห์ ซึ่งได้เข้ามาอยู่ในราชสำนักในฐานะเจ้าจอมคนหนึ่งโดยสุลต่านแห่งตรังกานูเป็นผู้ถวาย
โดยตนกูสุเบียนั้นเป็นพระราชธิดาของสุลต่านแห่งริเยา - ลิงกา ทรงพระนามว่า สุลต่าน มูฮัมหมัด ที่ 2 มูอัซซัม ชาห์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเกาะสุมาตรา
ปัจจุบันอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา บริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีกลุ่มคนเชื้อสายจีนอยู่อย่างหนาแน่นพอสมควร
ทำไมพระราชธิดาแห่งสุลต่านริเยา - ลิงกา ซึ่งอยู่ในเกาะสุมาตรา ถึงมาเกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรสยามได้ ต้องเท้าความกันไว้ให้พอเข้าใจกันดังนี้

สมัยก่อน อาณาจักรยะโฮร์ หรือรัฐยะโฮร์ในปัจจุบัน มีพื้นที่อาณาจักรอยู่ในเขตแดนฝั่งเกาะสุมาตราด้วย (เช่นเดียวกับอาณาจักรมะละกาในยุคก่อน)
แต่ภายหลัง หลังการสวรรคตของสุลต่านมาห์มูด ชาห์ ที่ 3 แห่งยะโฮร์ แล้ว ทำให้เกิดความขัดแย้งในการสืบทอดราชบัลลังก์ระหว่างพระราชโอรส
ท้ายที่สุด มีมติให้ สุลต่าน อับดุล ระห์มัน พระราชโอรสองค์รอง อยู่ในเขตแดนของอาณาจกรริเยาในเกาะสุมาตรา กลายเป็นอาณาจักร ริเยา - ลิงกา
และให้พระราชโอรสองค์โต สุลต่าน ฮุสเซน ชาห์ เป็นสุลต่านยะโฮร์ โดยมีการแบ่งเขตแดนระหว่างเขตปกครองของเนเธอร์แลนด์และของอังกฤษ
อาณาจักรยะโฮร์ที่เคยครอบครอง 2 ชายฝั่งในช่องแคบมะละกา จึงได้ถูกแบ่งออกและพลเมืองของ 2 ฝั่ง จึงอยู่คนประเทศ คนละชาติจนถึงทุกวันนี้

น่าเศร้า หลังจากสุลต่านฮุสเซน ชาห์ สวรรคต พระราชโอรสได้ขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่านอะลีแห่งยะโฮร์ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีปัญหากับอังกฤษ
ทำให้พระองค์สูญเสียพระราชอำนาจและฐานในการปกครองรัฐยะโฮร์ไป ในขณะที่อังกฤษได้หันมาสนับสนุนตะมังกุงอาบูบักร์ ผู้มีเชื้อสายบูกิสแทน
และหลังจากเสด็จสวรรคตไปแล้ว จึงทำให้ตะมังกุงได้ผนวกดินแดนยะโฮร์ทั้งหมด ก่อนที่จะทรงสถาปนาเป็นสุลต่านพระองค์แรกในยะโฮร์ยุคใหม่
สุลต่านอาบูบักร์ อดีตตะมังกุงแห่งยะโฮร์ ซึ่งมีเชื้อสายราชวงศ์มะละกาด้วยนั้น จึงกลายเป็นปฐมกษัตริย์และปฐมวงศ์ของราชวงศ์ยะโฮร์ในปัจจุบัน 
ส่วนตนกูสุเบีย ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของสุลต่าน อับดุล ระห์มัน มีฐานะเป็นพระญาติของสุลต่านตรังกานู พระชะตาจึงได้พลิกผันมาเป็นเจ้าจอมไป

ถึงกระนั้น เนื่องจากทรงไม่คุ้นเคยกับประเพณีของสยาม และไม่เต็มพระทัยที่จะถวายการรับใช้ราชสำนักสยาม จึงได้ทำให้พระองค์ไม่มีพระราชบุตร
ซึ่งหากมีพระราชบุตรแล้ว พระราชบุตรก็มีฐานะเป็นเจ้าฟ้าด้วยเพราะพระมารดาเป็นเชื้อสายเจ้านายเหมือนเจ้าจอมพระองค์เจ้ากำโพชราชสุดาดวง
แต่ด้วยการที่ตนกูสุเบียเป็นชาวมุสลิมมลายู หากมีพระประสูติกาลจริง ก็มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์สยามแตกต่างจากที่เราได้พบเห็น
อย่างไรก็ตาม หลังจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ตนกูสุเบียได้กราบบังคมทูลลาออกไปอยู่ที่ตรังกานูและได้เสกสมรสใหม่
และมีพระชนม์ชีพจนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อปี 1894 ก่อนที่ตรังกานูพ้นจากการปกครองของสยามและกลายเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษในปี 1909

ส่วนรัฐสุลต่านริเยา หลังรัชสมัยของสุลต่าน มูฮัมหมัด พระบิดา ภายหลังเมื่อเนเธอร์แลนด์เกิดความขัดแย้งกับสุลต่านมะห์มูด พระเชษฐาตนกูสุเบีย
พระองค์ก็ได้ถูกขับออกจากราชบัลลังก์ แล้วได้มอบให้พระปิตุลา คือ สุลต่านสุไลมาน (พระอนุชาของสุลต่าน มูฮัมหมัด ที่ 2) ขึ้นเป็นสุลต่านแทนที่
และเมื่อเสด็จสวรรคต ราชสมบัติจึงตกกับยังดีประตวนมูดาผู้เป็นพระชามาดา (ลูกเขย) และได้ขึ้นเป็นสุลต่านอับดุล ระห์มัน ที่ 2 สุลต่านองค์สุดท้าย
เนื่องจากเมื่อเนเธอร์แลนด์พยายามบีบบังคับสนธิสัญญาให้จำกัดพระราชอำนาจในการปกครอง พระองค์ได้แสดงท่าทีขัดขืนต่อการกระทำของดัตช์
ภายหลังเนเธอร์แลนด์จึงประกาศให้พระองค์สละราชบัลลังก์ ยึดอำนาจและยุบอาณาจักร รวมทั้งได้บีบบังคับให้ทรงลี้ภัยไปสิงคโปร์และสวรรคตที่นั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่