สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
พวกนี้คือแก๊งรีดไถหรือเรียกแบบบ้าน ๆ ว่ากรรโชกทรัพย์ก็ได้ ทรัพย์คือเงินที่ท่านจะให้ตามที่แก๊งจะเห็นว่าโอเค อาจจะห้าบาทสิบบาทถือเป็นค่าผ่านแยก ที่ท่านเกรงใจและให้เพราะแก๊งพวกนี้มีทรัพย์อีกชิ้น คือ รถยนต์ของท่านเป็นตัวประกัน ผู้ขับขี่ยวดยานโดยเฉพาะรถคันใหม่ ๆ ย่อมกลัวว่าจะถูกกระทำต่าง ๆ จากแก๊งตามที่คุณ คห 5 เขียน แก๊งจึงอยู่ยงคงกระพันเพราะ หาเงินง่าย ๆ กับความกลัวของเจ้าของรถที่จอดติดสัญญานจราจร ไปไหนไม่ได้
หากตรงข้าม ท่านลองขับรถเก่า ๆ สีลอกเประทั้งคัน แก๊งจะเมินท่านเหมือนเห็นอากาศเพราะไม่คุ้มที่จะเช็ดกระจกรถเก่า ๆ เดิมพันหรือหลักประกันต่ำ อาจเล็งลึกลงไปอีกว่าเจ้าของรถน่าจะไม่มีสตางค์ รีดไถไปก็ไม่คุ้ม
ดังนั้น บริการเช็ดกระจก ความจริงคือ รีดเอาเงินท่านและเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตำรวจประจำป้อม เช่น แยกรัชดาตัดลาดพร้าวก็รู้ว่าผิด แค่เปิด พรบ จราจร ก็รู้แล้ว แต่อาจมองภาพแบบไทย ๆ คือ คนพวกนี้ยากจน คนมีรถขับน่าจะแบ่งปันกระจายรายได้ คันละเล็กละน้อยไม่น่าเดือดร้อน
จขกท ต้องไม่ลืมว่า ตำรวจบ้านเราไม่เน้น “บังคับใช้กฎหมาย แต่เน้นเจรจาออมชอมเกี้ยเซี้ยะ” มากกว่า ตัวอย่าง เช่น การขู่กรรโชก ทำร้ายร่างกาย ผู้ร้ายสำคัญที่ตามจับกัน พอเข้าตาจนตำรวจยังตามพ่อแม่ญาติสนิทลูกเมียมาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว หากเป็นบ้านเมืองอื่นก็ถูกยิงดับไปแล้ว แต่ตำรวจบ้านเราใช้รัฐศาสตร์
คนจนบ้านเราจึงมีอภิสิทธิเหนือชนชั้นกลางแบบสุดกู่ เขาไม่มีอะไรจะเสีย จะแลกกันแบบไหน วิธีใดท่านก็แพ้ตราบที่กฎหมาย (ที่มีตำรวจเป็นผู้บังคับใช้) ไม่ทำงาน เรื่องนี้จึงไม่อาจมองเห็นทางแก้ไขอะไรได้
ที่ จขกท เขียนว่า เรื่องนี้เกิดตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย 20 กว่าปีที่แล้ว ความจริงมันเก่ากว่านั้นมาก สมัยที่เราเรียน ป ตรี นั่งรถเมล์ไปเรียน มองลอดหน้าต่างก็เห็นพวกนี้ตามสี่แยกแล้ว สังคมยุคหนึ่งออกจะตื่นเต้นมองภาพบวก เรียกพวกนี้ว่า “ไทยใหม่” คือ คนไทยรุ่นใหม่ที่รู้จักทำมาหากินแบบใหม่ ๆ ยอมเหน็ดเหนื่อยกลางแดดกลางถนนเพื่อบริการเช็ดกระจกหารายได้ แปลกที่หลายสิบปีผ่านไป งานบริการที่ว่ากลายเป็นการรีดไถผิดกฎหมายโดยมีรถยนต์เป็นตัวประกัน ขยับไปไหนไม่ได้เพราะติดไฟแดง
หากตรงข้าม ท่านลองขับรถเก่า ๆ สีลอกเประทั้งคัน แก๊งจะเมินท่านเหมือนเห็นอากาศเพราะไม่คุ้มที่จะเช็ดกระจกรถเก่า ๆ เดิมพันหรือหลักประกันต่ำ อาจเล็งลึกลงไปอีกว่าเจ้าของรถน่าจะไม่มีสตางค์ รีดไถไปก็ไม่คุ้ม
ดังนั้น บริการเช็ดกระจก ความจริงคือ รีดเอาเงินท่านและเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตำรวจประจำป้อม เช่น แยกรัชดาตัดลาดพร้าวก็รู้ว่าผิด แค่เปิด พรบ จราจร ก็รู้แล้ว แต่อาจมองภาพแบบไทย ๆ คือ คนพวกนี้ยากจน คนมีรถขับน่าจะแบ่งปันกระจายรายได้ คันละเล็กละน้อยไม่น่าเดือดร้อน
จขกท ต้องไม่ลืมว่า ตำรวจบ้านเราไม่เน้น “บังคับใช้กฎหมาย แต่เน้นเจรจาออมชอมเกี้ยเซี้ยะ” มากกว่า ตัวอย่าง เช่น การขู่กรรโชก ทำร้ายร่างกาย ผู้ร้ายสำคัญที่ตามจับกัน พอเข้าตาจนตำรวจยังตามพ่อแม่ญาติสนิทลูกเมียมาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว หากเป็นบ้านเมืองอื่นก็ถูกยิงดับไปแล้ว แต่ตำรวจบ้านเราใช้รัฐศาสตร์
คนจนบ้านเราจึงมีอภิสิทธิเหนือชนชั้นกลางแบบสุดกู่ เขาไม่มีอะไรจะเสีย จะแลกกันแบบไหน วิธีใดท่านก็แพ้ตราบที่กฎหมาย (ที่มีตำรวจเป็นผู้บังคับใช้) ไม่ทำงาน เรื่องนี้จึงไม่อาจมองเห็นทางแก้ไขอะไรได้
ที่ จขกท เขียนว่า เรื่องนี้เกิดตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย 20 กว่าปีที่แล้ว ความจริงมันเก่ากว่านั้นมาก สมัยที่เราเรียน ป ตรี นั่งรถเมล์ไปเรียน มองลอดหน้าต่างก็เห็นพวกนี้ตามสี่แยกแล้ว สังคมยุคหนึ่งออกจะตื่นเต้นมองภาพบวก เรียกพวกนี้ว่า “ไทยใหม่” คือ คนไทยรุ่นใหม่ที่รู้จักทำมาหากินแบบใหม่ ๆ ยอมเหน็ดเหนื่อยกลางแดดกลางถนนเพื่อบริการเช็ดกระจกหารายได้ แปลกที่หลายสิบปีผ่านไป งานบริการที่ว่ากลายเป็นการรีดไถผิดกฎหมายโดยมีรถยนต์เป็นตัวประกัน ขยับไปไหนไม่ได้เพราะติดไฟแดง
แสดงความคิดเห็น
ยังอยู่ได้ไง? เด็กเช็ดกระจกเส้นงามวงศ์วาน ข่มขู่คนใช้รถให้จ่ายเงินไวๆ "อยากตายเหรอ" บีบฟองน้ำบังกระจก ชักอาวุธ
ทั้งแยกพงษ์เพชร ทั้งแยกแคราย มาเป็นแก๊งค์ ยังไม่ทันจะให้เช็ด มาละเลงกระจกแบบไม่ขอเลย
เมื่อก่อนก็มีทุบรถ เดี๋ยวนี้พอไม่จ่ายบีบฟองน้ำให้ฟองเต็มกระจก พอบอกให้มาเช็ดก็ขู่อยากตายเหรอ พร้อมชักอาวุธ
https://news.ch7.com/detail/559927
งงมาก ตั้งแต่สมัยผมเรียนมหาลัยเมื่อ 20 ปีก่อน จนวันนี้ก็ยังมีแก๊งเช็ดกระจก ทำไมคงกระพันจริง