ก่อนอื่นผมต้องขอบอกว่าผมรู้จักกระทู้พันทิปมานานและไม่เคยเล่าเรื่องยาวแบบนี้มากนักและผมจะให้นามสมมุติคนที่ผมคบอยู่ว่าชื่อน้องแอร์
1.เรื่องแรกเริ่มมีอยู่ว่า.ผมเจอน้องแอร์ในหาคู่แมตซ์ในเฟส เราคุยกันได้สักประมาณ 1 เดือน น้องแอร์เป็นคนบนดอย ส่วนผมเป็นคนข้างล่าง(ในเมือง) ตอนคุยกันแรกๆ ผมบอกว่า ไม่ว่าจะคนที่ไหน ขอแค่เราเค้าใจกันก็พอ และเราก็ดีต่อกันมาก เข้าใจกันดี เราเจอกัน พากันไปกินข้าวแล้วน้องแอร์ก็มาส่งผมที่หอพัก (ผมไปกับมอเตอร์ไซค์น้องแอร์) และผมก็ชวนน้องแอร์เข้ามาเที่ยวในห้องของผม แล้วเราก็มีอะไรกันประมาณสองครั้ง แล้วเราก็เจอกันเกือบทุกคืน ซึ่งมีอะไรกันคืนละสองครั้ง ผมมีอะไรกับน้องแอร์ผมก็จะปล่อยนอกทุกครั้ง แต่พลาดพลั้งตรงที่ไม่ใส่ถุงยางอนามัย เพราะอาจจะมีช่วงก่อนจุดไคลแมคซ์ที่คงจะมีพลั้งพลาดไป และผมอยากป้องกันไว้อีกทางคือให้น้องเค้ากินยาคุมประจำ แต่น้องแอร์กลัวอ้วนบอกไม่กิน
2.พอวันเวลาผ่านไปได้สามเดือน โควิดเริ่มระบาดระลอกแรก งานที่น้องแอร์ก็ปิดกิจการน้องแอร์ก็รู้ว่าตัวเองท้องจึงได้บอกกับผมมาและแล้วตอนนั้นผมก็ทำอะไรไม่ถูก เราทั้งคู่ทะเลาะกัน แล้วทางน้องแอร์ก็บอกมาว่าไม่เป็นไรหรอกน้องเลี้ยงเด็กได้ ผมก็บอกว่าพี่ส่งค่าใช้จ่ายช่วยเหลือนะ และผมก็ยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้ แต่น้องแอร์ก็ไม่เรียกร้องอะไรเลย น้องแอร์หายจากผมไปประมาณห้าเดือน บล็อคผมทุกช่องทาง แต่ผมก็หาทุกวิถีทางที่จะติดต่อน้องเขาได้ แต่บ้านน้องเขาไกลมาก แล้วผมก็ไม่รู้จะทำยังไง และก่อนที่น้องแอร์จะหายไปเราก็เหมือนกำลังเริ่มคบกันแต่ยังไม่ได้รักกันด้วยซ้ำ ซึ่งน้องแอร์ก็บอกตอนที่ท้องว่าไม่ต้องแต่งงานกันหรอกขอแค่พ่อกับแม่ของเรารับรู้ก็พอ แต่ผมก็ยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้จริงๆ ซึ้งผมน้ำตาไหลเลยทีเดียว😂 และทางพ่อแม่ของน้องแอร์ก็ไม่ติใจเอาเรื่องผมเลย
3. พอวันที่หนูน้อยลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้และเป็นผู้หญิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือหนูน้อย
หน้าเหมือนผมมากและเกิดเดือนเดียวกับผมอีก น้องแอร์เห็นก็อดใจอ่อนคิดถึงผมไม่ได้ เพราะเวลาเห็นหน้าหนูน้อยก็เหมือนเห็นผม น้องแอร์จึงได้เปิดช่องทางติดต่อและแชทเฟสมาหาผมทันที ในวันที่หนูน้อยเกิดและต่อจากนั้นมาเราก็เรากลับมาคุยกันอีกครั้ง ซึ้งผมดีใจมากและจากที่น้องแอร์เคยโกธรผมมากเค้าบอกผมว่าพอเห็นหน้าหนูน้อยแล้วก็โกธรผมไม่ลง เราคุยกันแต่ไม่ได้เจอกันเลยเป็นเวลา เกือบสองปีและในระหว่างนั้นผมก็ได้ประสบอุบัติเหตุต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาห้าเดือนและคนที่อยู่เป็นคนคุยเคียงข้างผมมาตลอดคือน้องแอร์
4.พอมาถึงวันที่เจอกัน น้องแอร์ดีกลับผมทุกอย่าง เหมือนไม่เคยโกธรผมเลย น้องแอร์บอกว่าขอแค่ได้เจอกันก็ดีใจแล้วเรื่องที่ผ่านมาน้องแอร์บอกให้ผมไม่ต้องคิดมาก แต่น้องแอร์ขอกับผมว่าอยากให้ผมบอกให้พ่อกับแม่ผมรับรู้ว่าผมมีหนูน้อยแล้ว ซึ่งทางน้องแอร์ก็ไม่เรียกร้องอะไรกับผมอีกเช่นเคย
5.ตอนที่เจอกันผมเริ่มรู้สึกว่า...ผมรู้สึกดีกับน้องแอร์อย่างที่ไม่เคยเป็นมา เพราะน้องแอร์
ก็ดีกับผมยังไงก็ดีแบบนั้นมาโดยตลอด โดยจุดที่เปลี่ยนความรู้สึกไปจากเดิมคือผมขออาสากลับไปส่งน้องแอร์ถึงปากทางขึ้นหมู่บ้านที่อยู่บนดอย เพราะน้องแอร์บอกว่าให้ผมส่งถึงตรงนี้พอ น้องแอร์จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปเอง เพราะทางลำบากรถยนต์ขึ้นยาก
ระหว่างทางที่ขับไปส่ง จากถนนลาดยางถึงถนนดินแดง ผมก็รู้สึกว่าน้องแอร์ต้องอดทนแค่ไหนที่ขับมอเตอร์ไซค์ลงจากหมู่บ้านมากว่าจะเจอกันได้ลงจากหมู่บ้านถนนดินแดงมา 1 ชั่วโมง กว่าจะเจอทางลาดยางแล้วต้องขี่ต่ออีก 2 ชั่วโมง จนถึงที่เรานัดหมายกันระหว่างทางดอยซึ่งผมได้ทำงานอยู่บนเหมืองแห่งหนึ่งในหุบเขาทางที่น้องแอร์ต้องผ่านพอดี ผมรู้สึกว่าน้องแอร์อดทนมากๆ ผมรู้สึกว่าน้องแอร์อยากเจอผมแค่ไหนต่อให้ระยะทางไกลน้องแอร์ก็ไม่หวั่น ไม่บ่นให้ฟัง
6.พอส่งน้องแอร์ที่ปากทางขึ้นหมู่บ้านเสร็จ
เราก็ได้ร่ำลากัน ผมขับรถยนต์กลับเหมืองแล้วก็เห็นข้างทางที่มีแต่ต้นไม้ทุ่งหญ้ากว่าจะเจอหมู่บ้านแต่ละที่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรและรถที่จะผ่านมาทางนี้ก็แทบจะไม่มีเหมือนทางเหมืองที่ผมทำงาน ผมรู้สึกว่าน้องแอร์ต้องหนักแน่นแค่ไหนกว่าจะมาเจอกันได้
7.ผมรู้สึกว่า..ผมตกหลุมรักน้องแอร์เข้าไปแล้ว เพราะเวลาผมติดต่อน้องแอร์ไม่ได้ผมก็รู้สึกว่าผมขาดความสุขอะไรไปสักอย่าง เพราะทางหมู่บ้านน้องแอร์ สัญญาณมือถือจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บางครั้งสัญญาณหายไปครึ่งวัน บ้างก็สองวัน
8.ผมคิดว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างต่อจากนี้
เพื่อลบล้างความผิดที่ได้ทำลงไป😂
และสุดท้ายนี้ เพื่อนๆในกระทู้ มีคำแนะนำอย่างไร เพื่อที่ผมจะได้ลบล้างความผิดที่ผมได้กระทำไป แต่น้องแอร์ก็บอกว่า ยังไงก็อยากให้ผมมีความสุข ไม่อยากให้ลำบากใจ
ถ้าผมไม่มีความสุขน้องเค้าเองก็ไม่มีความสุข
น้ำตาผู้ชายมันตกเลยครับ ผมคิดว่าผมรักน้องเค้าเข้าไปแล้ว น้องแอร์ดีกับผมเหลือเกิน
ผมแพ้ความดีที่ไม่เคยจางหายของเค้า
เจอกันในเฟส นัดเจอกัน มีอะไรกัน แล้วมีลูก แต่!เราสองคนยังไม่ได้รักกัน พีคตอนจบ!
1.เรื่องแรกเริ่มมีอยู่ว่า.ผมเจอน้องแอร์ในหาคู่แมตซ์ในเฟส เราคุยกันได้สักประมาณ 1 เดือน น้องแอร์เป็นคนบนดอย ส่วนผมเป็นคนข้างล่าง(ในเมือง) ตอนคุยกันแรกๆ ผมบอกว่า ไม่ว่าจะคนที่ไหน ขอแค่เราเค้าใจกันก็พอ และเราก็ดีต่อกันมาก เข้าใจกันดี เราเจอกัน พากันไปกินข้าวแล้วน้องแอร์ก็มาส่งผมที่หอพัก (ผมไปกับมอเตอร์ไซค์น้องแอร์) และผมก็ชวนน้องแอร์เข้ามาเที่ยวในห้องของผม แล้วเราก็มีอะไรกันประมาณสองครั้ง แล้วเราก็เจอกันเกือบทุกคืน ซึ่งมีอะไรกันคืนละสองครั้ง ผมมีอะไรกับน้องแอร์ผมก็จะปล่อยนอกทุกครั้ง แต่พลาดพลั้งตรงที่ไม่ใส่ถุงยางอนามัย เพราะอาจจะมีช่วงก่อนจุดไคลแมคซ์ที่คงจะมีพลั้งพลาดไป และผมอยากป้องกันไว้อีกทางคือให้น้องเค้ากินยาคุมประจำ แต่น้องแอร์กลัวอ้วนบอกไม่กิน
2.พอวันเวลาผ่านไปได้สามเดือน โควิดเริ่มระบาดระลอกแรก งานที่น้องแอร์ก็ปิดกิจการน้องแอร์ก็รู้ว่าตัวเองท้องจึงได้บอกกับผมมาและแล้วตอนนั้นผมก็ทำอะไรไม่ถูก เราทั้งคู่ทะเลาะกัน แล้วทางน้องแอร์ก็บอกมาว่าไม่เป็นไรหรอกน้องเลี้ยงเด็กได้ ผมก็บอกว่าพี่ส่งค่าใช้จ่ายช่วยเหลือนะ และผมก็ยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้ แต่น้องแอร์ก็ไม่เรียกร้องอะไรเลย น้องแอร์หายจากผมไปประมาณห้าเดือน บล็อคผมทุกช่องทาง แต่ผมก็หาทุกวิถีทางที่จะติดต่อน้องเขาได้ แต่บ้านน้องเขาไกลมาก แล้วผมก็ไม่รู้จะทำยังไง และก่อนที่น้องแอร์จะหายไปเราก็เหมือนกำลังเริ่มคบกันแต่ยังไม่ได้รักกันด้วยซ้ำ ซึ่งน้องแอร์ก็บอกตอนที่ท้องว่าไม่ต้องแต่งงานกันหรอกขอแค่พ่อกับแม่ของเรารับรู้ก็พอ แต่ผมก็ยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้จริงๆ ซึ้งผมน้ำตาไหลเลยทีเดียว😂 และทางพ่อแม่ของน้องแอร์ก็ไม่ติใจเอาเรื่องผมเลย
3. พอวันที่หนูน้อยลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้และเป็นผู้หญิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือหนูน้อย
หน้าเหมือนผมมากและเกิดเดือนเดียวกับผมอีก น้องแอร์เห็นก็อดใจอ่อนคิดถึงผมไม่ได้ เพราะเวลาเห็นหน้าหนูน้อยก็เหมือนเห็นผม น้องแอร์จึงได้เปิดช่องทางติดต่อและแชทเฟสมาหาผมทันที ในวันที่หนูน้อยเกิดและต่อจากนั้นมาเราก็เรากลับมาคุยกันอีกครั้ง ซึ้งผมดีใจมากและจากที่น้องแอร์เคยโกธรผมมากเค้าบอกผมว่าพอเห็นหน้าหนูน้อยแล้วก็โกธรผมไม่ลง เราคุยกันแต่ไม่ได้เจอกันเลยเป็นเวลา เกือบสองปีและในระหว่างนั้นผมก็ได้ประสบอุบัติเหตุต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาห้าเดือนและคนที่อยู่เป็นคนคุยเคียงข้างผมมาตลอดคือน้องแอร์
4.พอมาถึงวันที่เจอกัน น้องแอร์ดีกลับผมทุกอย่าง เหมือนไม่เคยโกธรผมเลย น้องแอร์บอกว่าขอแค่ได้เจอกันก็ดีใจแล้วเรื่องที่ผ่านมาน้องแอร์บอกให้ผมไม่ต้องคิดมาก แต่น้องแอร์ขอกับผมว่าอยากให้ผมบอกให้พ่อกับแม่ผมรับรู้ว่าผมมีหนูน้อยแล้ว ซึ่งทางน้องแอร์ก็ไม่เรียกร้องอะไรกับผมอีกเช่นเคย
5.ตอนที่เจอกันผมเริ่มรู้สึกว่า...ผมรู้สึกดีกับน้องแอร์อย่างที่ไม่เคยเป็นมา เพราะน้องแอร์
ก็ดีกับผมยังไงก็ดีแบบนั้นมาโดยตลอด โดยจุดที่เปลี่ยนความรู้สึกไปจากเดิมคือผมขออาสากลับไปส่งน้องแอร์ถึงปากทางขึ้นหมู่บ้านที่อยู่บนดอย เพราะน้องแอร์บอกว่าให้ผมส่งถึงตรงนี้พอ น้องแอร์จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปเอง เพราะทางลำบากรถยนต์ขึ้นยาก
ระหว่างทางที่ขับไปส่ง จากถนนลาดยางถึงถนนดินแดง ผมก็รู้สึกว่าน้องแอร์ต้องอดทนแค่ไหนที่ขับมอเตอร์ไซค์ลงจากหมู่บ้านมากว่าจะเจอกันได้ลงจากหมู่บ้านถนนดินแดงมา 1 ชั่วโมง กว่าจะเจอทางลาดยางแล้วต้องขี่ต่ออีก 2 ชั่วโมง จนถึงที่เรานัดหมายกันระหว่างทางดอยซึ่งผมได้ทำงานอยู่บนเหมืองแห่งหนึ่งในหุบเขาทางที่น้องแอร์ต้องผ่านพอดี ผมรู้สึกว่าน้องแอร์อดทนมากๆ ผมรู้สึกว่าน้องแอร์อยากเจอผมแค่ไหนต่อให้ระยะทางไกลน้องแอร์ก็ไม่หวั่น ไม่บ่นให้ฟัง
6.พอส่งน้องแอร์ที่ปากทางขึ้นหมู่บ้านเสร็จ
เราก็ได้ร่ำลากัน ผมขับรถยนต์กลับเหมืองแล้วก็เห็นข้างทางที่มีแต่ต้นไม้ทุ่งหญ้ากว่าจะเจอหมู่บ้านแต่ละที่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรและรถที่จะผ่านมาทางนี้ก็แทบจะไม่มีเหมือนทางเหมืองที่ผมทำงาน ผมรู้สึกว่าน้องแอร์ต้องหนักแน่นแค่ไหนกว่าจะมาเจอกันได้
7.ผมรู้สึกว่า..ผมตกหลุมรักน้องแอร์เข้าไปแล้ว เพราะเวลาผมติดต่อน้องแอร์ไม่ได้ผมก็รู้สึกว่าผมขาดความสุขอะไรไปสักอย่าง เพราะทางหมู่บ้านน้องแอร์ สัญญาณมือถือจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บางครั้งสัญญาณหายไปครึ่งวัน บ้างก็สองวัน
8.ผมคิดว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างต่อจากนี้
เพื่อลบล้างความผิดที่ได้ทำลงไป😂
และสุดท้ายนี้ เพื่อนๆในกระทู้ มีคำแนะนำอย่างไร เพื่อที่ผมจะได้ลบล้างความผิดที่ผมได้กระทำไป แต่น้องแอร์ก็บอกว่า ยังไงก็อยากให้ผมมีความสุข ไม่อยากให้ลำบากใจ
ถ้าผมไม่มีความสุขน้องเค้าเองก็ไม่มีความสุข
น้ำตาผู้ชายมันตกเลยครับ ผมคิดว่าผมรักน้องเค้าเข้าไปแล้ว น้องแอร์ดีกับผมเหลือเกิน
ผมแพ้ความดีที่ไม่เคยจางหายของเค้า