ท่องเที่ยวไทยยังโคม่าหนัก ต่างชาติมาน้อย สทท.จี้ปลดล็อกประเทศเต็มที่
https://www.thairath.co.th/business/economics/2353341
น.ส.
ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาส 1/65 ว่า เท่ากับ 44 สะท้อนการท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมากที่สุด แม้ดีกว่าช่วงเดียวกันปี 64 แต่ยังต่ำกว่าไตรมาสที่ผ่านมา และยังอยู่ในห้องไอซียูเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนและมีสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาซ้ำเติม ส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเกือบ 40% ต้นทุนเดินทางเพิ่มขึ้น ส่งผลต่ออารมณ์ในการจับจ่าย และการท่องเที่ยวในประเทศชะลอตัว อย่างไรก็ตาม 89% ของสถานประกอบการเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งใกล้เคียงภาวะปกติ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังเข้ามาไม่มาก
“ไตรมาสนี้เริ่มลดพนักงานและไตรมาสหน้าจะลดเพิ่มขึ้นอีกหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น โรงแรม/ที่พัก เปิดทำการปกติ 88% อัตราเข้าพักเฉลี่ย 30% โดย 95% ของโรงแรม/ที่พัก มีรายได้ไม่ถึงครึ่งของปกติ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาด ส่วนใหญ่เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการ RT-PCR ในการเดินทางเข้าประเทศ”
ด้านนาย
ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ประเทศท่องเที่ยวทั้งในภูมิภาคยุโรป อเมริกา และเอเชีย เปิดต้อนรับชาวต่างชาติแล้ว และใช้นโยบายสร้างความสะดวกในการเดินทาง (Ease-of-Traveling) ผ่อนคลายมาตรการเข้า-ออกประเทศจนเกือบกลับสู่ภาวะปกติ สำหรับไทยขอให้เปิดประเทศเต็มที่ เพราะท่องเที่ยวแก้ปัญหาความยากจนได้เร็วและลึกที่สุด กระจายรายได้ตั้งแต่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง เกษตร อาหาร สุขภาพ ไปจนถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และชุมชนในท้องถิ่น หากภาคท่องเที่ยวกลับมา ความเป็นอยู่ของคนไทยจะดีขึ้นทันที
“ถ้าถามว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเท่าใด รายได้เท่าใด ภาคการท่องเที่ยวถึงจะอยู่ได้ คำตอบคือ 40% ของปี 62 เป้าหมายของ สทท.คือผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16 ล้านคน คนไทยเที่ยวไทย 75 ล้านคน/ครั้ง เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.2 ล้านล้านบาทให้ได้ และรายได้นี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานและจ่ายภาษีนับแสนล้านบาท”
ส่วนนาย
กิตติ พรศิวะกิจ ประธานคณะอนุกรรมการ Smart Tourism สทท.กล่าวว่า เสนอให้รัฐดำเนินการ ดังนี้
1. Ease-of-Traveling ยกเลิกไทยแลนด์พาส ยกเลิกตรวจ RT-PCR (Day 0) เมื่อเดินทางถึงไทย โดยอาจยังคงมีการตรวจ ATK 1 ครั้ง
2. จัดตั้งกองทุนฟื้นฟู เพื่อพัฒนา Supply-side เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยีการตลาด และสินค้า-บริการ และเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ
3. ส่งเสริมการตลาดเชิงลึกทุกมิติ หากรัฐปรับนโยบายท่องเที่ยวเป็นเชิงรุกเต็มตัว จะมีโอกาสเพิ่มรายได้จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 520,000 ล้านบาทในปีนี้ เป็น 1.2 ล้านล้านบาทได้
นาย
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ตรวจสอบกรณีที่ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับเงินสนับสนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกันล่าช้า พบว่าเป็นเพราะ ททท. ตรวจสอบรายการที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เพื่อให้การเบิกจ่ายถูกต้องและป้องกันทุจริต ขณะนี้มีรายการค้างจ่าย 5.24% ของทั้งหมด 5,336 ล้านบาท คิดเป็นเงินค้างจ่าย 279 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายการคงค้างในระบบที่ได้รับข้อมูลจากธนาคารกรุงไทย เพื่อตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน คือ
1. รายการจองใช้สิทธิ์ที่เกินกว่า 5 สิทธิ์ 35,354 รายการ
2. สแกนใบหน้าหรือสแกนใบหน้าไม่สำเร็จ 18,639 รายการ
อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการที่รับอี-วอชเชอร์ ในการซื้อสินค้าและบริการเช่นเดียวกับกรณีที่พัก ซึ่งได้รับข้อมูลจากกรุงไทย เพื่อตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน 26,727 รายการ ส่วนค่าตั๋วเครื่องบิน หลังกรุงไทยตรวจสอบแล้วจะส่งข้อมูลให้ ททท.เบิกจ่ายต่อไปมีทั้งหมด 1,096 รายการ
“ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ตรวจสอบ รายการค้างจ่าย ทั้งหมดไม่เกิน 60 วันน่าจะเบิกจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้ครบทุกรายการที่ค้าง”.
สุดช้ำ!! มะม่วงล้นตลาดพ่อค้านำมาเททิ้งหลังตลาดกลางสุพรรณฯ เพราะขายไม่ออก
https://siamrath.co.th/n/335365
วันที่ 29 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวสวนมะม่วง ใน จ.สุพรรบุรี จ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี นำมะม่วงที่ขายไม่ได้มาเททิ้งที่ตลาดกลางมะม่วง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากราคามะม่วงตกต่ำ ไม่มีคนรับซื้อ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
โดย นาง
สุนทร พันธุ์อย เกษตรกรและแม่ค้าขายมะม่วง ที่ตลาดกลางมะม่วง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี บอกว่า รับซื้อมะม่วงจากชาวสวน จ.อ่างทอง สุพรรณฯ และสิงห์บุรี มาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้หนักมาก เพราะไม่มีคนมารับซื้อต่อทำให้มะม่วงที่ปลูกเอง และรับซื้อไว้ เน่าเสียหายจำนวนมาก ตอนนี้มะม่วงที่รับซื้อมีราคากิโลกรัมละ 1 บาท ถึง 8 บาท แล้วแต่คุณภาพมะม่วง โดยมะม่วงที่นำมาทิ้งวันนี้คือ มะม่วงดีเกรดเอ แต่ขายไม่ได้ราคารวมกว่า 20 ตัน
สำหรับราคามะม่วงเกรดเอ ที่มีคุณภาพดี และขายกันอยู่ในขณะนี้ มะม่วงน้ำดอกไม้กิโลละไม่เกิน 5 บาท มะม่วงเขียวเสวย ไม่เกิน 10 บาท มะม่วงมันเดือนเก้า 1.25 บาท มะม่วงแก้วขมิ้น ไม่เกิน 5 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก และไม่คุ้มกับการลงทุน
ป้า
ต้อย บอกว่า มะม่วง 20 ตัน หรือมากกว่า 30 ตัน จะไปกวนยังไงไหว เมื่อกวนแล้วใครจะซื้อ เพราะทุกบ้านก็กวน และ ตอนนี้มะม่วงกวน ก็ขายยาก เพราะผู้บริโภคมีเฉพาะกลุ่มเล็กๆ อยู่ในวงแคบๆ ซึ่งระยะนี้มะม่วงออกมาก และปลูกหลายพื้นที่ อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่ราคามันดิ่งลงและไม่มีคนมารับซื้อเป็นเพราะมีการนำเข้ามะม่วงจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบภาคตะวันออกเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย ในช่วงที่มะม่วงในไทยกำลังออกผลผลิต
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ามะม่วงในประเทศไทยกำลังจะออกผลผลิต ควรมีคำสั่งห้ามสินค้าเกษตรและผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาก่อน เพราะถ้ามีการนำสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเข้ามาได้ สินค้ามันจะล้นตลาดเป็น 2 เท่า
กลุ่มนร.บุกศธ.โวย ‘ตรีนุช’ ผลักไสเด็กไทยให้หลุดระบบการศึกษา
https://www.dailynews.co.th/news/904425/
กลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทย บุกกระทรวงศึกษาธิการ โวย "ตรีนุช" ผลักไสนักเรียนให้หลุดระบบการศึกษา ชี้ปัญหาเด็กไทย รมว.ศธ.ไม่เคยเหลียวแล พร้อมวางหรีดอาลัยครบ 1 ปีดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ. แต่แก้ปัญหาการศึกษาได้ล้มเหลว
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทย ประมาณ 20 คน รวมตัวจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์แสดงออกถึงปัญหาการศึกษาที่ล้มเหลวตลอดระยะเวลา 1 ปีการทำงานของ น.ส.
ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจาก สน.ดุสิต ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตัวแทนนักเรียนในกลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทยได้นำพวงหรีดมีข้อความระบุว่า “
ด้วยความยินดียิ่ง” มาวางบริเวณหน้ารั้ว ศธ. พร้อมกับนำเชือกมารัดตัว เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงระบบปัญหาการศึกษาไทย ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในสถานศึกษา ความเหลื่อมล้ำในการเรียนออนไลน์ และนักเรียนต้องฆ่าตัวตายจากปัญหาการเรียนออนไลน์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบเข้าเรียนต่อในระดับสถาบันอุดมศึกษา หรือ ทีแคส
ต่อมากลุ่มนักเรียนได้พยายามจะนำเชือกผูกคอกับกำแพงรั้ว ศธ. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาห้ามปรามอย่างชุลมุน ขณะเดียวกัน กลุ่มเยาวชนได้นำสีผสมอาหารสาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกำแพงรั้ว ศธ. ด้วยความโมโห พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ออกมารับข้อเรียกร้องและรับฟังปัญหาของนักเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในเวลา 09.00 น. ดร.
วิสิทธิ์ ใจเถิง หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ โดยข้อความในเอกสารระบุว่า
เรียน รมว.ศึกษาธิการ
เรื่อง ขอแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่งครบรอบ 1 ปี เนื่องในวาระโอกาสครบรอบปี การดำรงตำแหน่งของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ
กลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทย ขอร่วมแสดงความยินดีกับท่านรัฐมนตรี ขอแสดงความยินดี สำหรับเค้กก้อนใหม่ เค้กที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงกินจนอิ่มหนำสำราญ เค้กที่นักเรียนไม่ได้แม้แต่จะชายตามอง และหยิบมาชิม เรายินดีด้วยที่ท่านได้พรากอิสรภาพทางความคิด เสรีภาพทางการแสดงออกของเยาวชนที่พวกท่านพล่ามบอกว่า เป็นอนาคตของประเทศ เราอยากแสดงความยินดีที่ท่านได้บอกกับนักเรียนว่า เราต้องได้เจอกันบ่อย ๆ แต่ท่านก็เดินหนีนักเรียน และขอแสดงความยินดีที่ท่านได้เป็นผู้ผลักไสนักเรียนให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ด้วยมือท่านเอง เรายินดีด้วยที่ในรอบปีของการเป็นรัฐมนตรี มีเด็กมากกว่าสิบคนฆ่าตัวตายจากสภาวะความเครียดจากการเรียนออนไลน์ ขอแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งที่ท่านไม่สามารถแก้ไขปัญหาอำนาจนิยม ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น ตีเด็ก กล้อนผม หรือคุกคามทางเพศ และสืบเนื่องจากที่กล่าวมา เราขอแสดงความยินดีมา ณ ที่นี้ ที่ระบบรับเรื่องร้องเรียนของท่าน ไม่สามารถให้ข้อมูลนักเรียนได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งการตามเรื่องร้องเรียนยังเป็นไปได้อย่างยากลำบาก ขอแสดงความนับถือ ที่ในขณะที่ประเทศอยู่ท่ามกลางการล็อกดาวน์ ท่านมีความสุขกับการเดินแฟชั่นโชว์ ท่ามกลางแสงสี และเสียง ท่ามกลางนักเรียนผู้ที่เจ็บปวดกับระบบการศึกษา
และในโอกาสนี้ เราขอมอบดอกไม้แสดงความยินดีให้กับท่าน ขอจงเก็บเป็นที่ระลึกเพื่อย้ำเตือนถึงความล้มเหลวในการทำงาน ความไร้สัจจะจากคำมั่นสัญญา ย้ำเตือนถึงความตกต่ำของการศึกษา ย้ำเตือนถึงคราบเลือดและคราบน้ำตาของนักเรียนทุกคนที่ต้องสูญเสียจากการบริหารงานของท่าน
JJNY : ท่องเที่ยวไทยยังโคม่าหนัก│สุดช้ำ!!มะม่วงล้นตลาดพ่อค้าเททิ้ง│กลุ่มนร.บุกศธ.โวยตรีนุช│ชัชชาติไม่ถือฤกษ์สมัครผู้ว่าฯ
https://www.thairath.co.th/business/economics/2353341
น.ส.ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาส 1/65 ว่า เท่ากับ 44 สะท้อนการท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมากที่สุด แม้ดีกว่าช่วงเดียวกันปี 64 แต่ยังต่ำกว่าไตรมาสที่ผ่านมา และยังอยู่ในห้องไอซียูเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนและมีสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาซ้ำเติม ส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเกือบ 40% ต้นทุนเดินทางเพิ่มขึ้น ส่งผลต่ออารมณ์ในการจับจ่าย และการท่องเที่ยวในประเทศชะลอตัว อย่างไรก็ตาม 89% ของสถานประกอบการเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งใกล้เคียงภาวะปกติ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังเข้ามาไม่มาก
“ไตรมาสนี้เริ่มลดพนักงานและไตรมาสหน้าจะลดเพิ่มขึ้นอีกหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น โรงแรม/ที่พัก เปิดทำการปกติ 88% อัตราเข้าพักเฉลี่ย 30% โดย 95% ของโรงแรม/ที่พัก มีรายได้ไม่ถึงครึ่งของปกติ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาด ส่วนใหญ่เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการ RT-PCR ในการเดินทางเข้าประเทศ”
ด้านนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ประเทศท่องเที่ยวทั้งในภูมิภาคยุโรป อเมริกา และเอเชีย เปิดต้อนรับชาวต่างชาติแล้ว และใช้นโยบายสร้างความสะดวกในการเดินทาง (Ease-of-Traveling) ผ่อนคลายมาตรการเข้า-ออกประเทศจนเกือบกลับสู่ภาวะปกติ สำหรับไทยขอให้เปิดประเทศเต็มที่ เพราะท่องเที่ยวแก้ปัญหาความยากจนได้เร็วและลึกที่สุด กระจายรายได้ตั้งแต่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง เกษตร อาหาร สุขภาพ ไปจนถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และชุมชนในท้องถิ่น หากภาคท่องเที่ยวกลับมา ความเป็นอยู่ของคนไทยจะดีขึ้นทันที
“ถ้าถามว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเท่าใด รายได้เท่าใด ภาคการท่องเที่ยวถึงจะอยู่ได้ คำตอบคือ 40% ของปี 62 เป้าหมายของ สทท.คือผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16 ล้านคน คนไทยเที่ยวไทย 75 ล้านคน/ครั้ง เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.2 ล้านล้านบาทให้ได้ และรายได้นี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานและจ่ายภาษีนับแสนล้านบาท”
ส่วนนายกิตติ พรศิวะกิจ ประธานคณะอนุกรรมการ Smart Tourism สทท.กล่าวว่า เสนอให้รัฐดำเนินการ ดังนี้
1. Ease-of-Traveling ยกเลิกไทยแลนด์พาส ยกเลิกตรวจ RT-PCR (Day 0) เมื่อเดินทางถึงไทย โดยอาจยังคงมีการตรวจ ATK 1 ครั้ง
2. จัดตั้งกองทุนฟื้นฟู เพื่อพัฒนา Supply-side เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยีการตลาด และสินค้า-บริการ และเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ
3. ส่งเสริมการตลาดเชิงลึกทุกมิติ หากรัฐปรับนโยบายท่องเที่ยวเป็นเชิงรุกเต็มตัว จะมีโอกาสเพิ่มรายได้จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 520,000 ล้านบาทในปีนี้ เป็น 1.2 ล้านล้านบาทได้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ตรวจสอบกรณีที่ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับเงินสนับสนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกันล่าช้า พบว่าเป็นเพราะ ททท. ตรวจสอบรายการที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เพื่อให้การเบิกจ่ายถูกต้องและป้องกันทุจริต ขณะนี้มีรายการค้างจ่าย 5.24% ของทั้งหมด 5,336 ล้านบาท คิดเป็นเงินค้างจ่าย 279 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายการคงค้างในระบบที่ได้รับข้อมูลจากธนาคารกรุงไทย เพื่อตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน คือ
1. รายการจองใช้สิทธิ์ที่เกินกว่า 5 สิทธิ์ 35,354 รายการ
2. สแกนใบหน้าหรือสแกนใบหน้าไม่สำเร็จ 18,639 รายการ
อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการที่รับอี-วอชเชอร์ ในการซื้อสินค้าและบริการเช่นเดียวกับกรณีที่พัก ซึ่งได้รับข้อมูลจากกรุงไทย เพื่อตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน 26,727 รายการ ส่วนค่าตั๋วเครื่องบิน หลังกรุงไทยตรวจสอบแล้วจะส่งข้อมูลให้ ททท.เบิกจ่ายต่อไปมีทั้งหมด 1,096 รายการ “ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ตรวจสอบ รายการค้างจ่าย ทั้งหมดไม่เกิน 60 วันน่าจะเบิกจ่ายเงินให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้ครบทุกรายการที่ค้าง”.
สุดช้ำ!! มะม่วงล้นตลาดพ่อค้านำมาเททิ้งหลังตลาดกลางสุพรรณฯ เพราะขายไม่ออก
https://siamrath.co.th/n/335365
วันที่ 29 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวสวนมะม่วง ใน จ.สุพรรบุรี จ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี นำมะม่วงที่ขายไม่ได้มาเททิ้งที่ตลาดกลางมะม่วง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากราคามะม่วงตกต่ำ ไม่มีคนรับซื้อ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
โดย นางสุนทร พันธุ์อย เกษตรกรและแม่ค้าขายมะม่วง ที่ตลาดกลางมะม่วง ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี บอกว่า รับซื้อมะม่วงจากชาวสวน จ.อ่างทอง สุพรรณฯ และสิงห์บุรี มาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้หนักมาก เพราะไม่มีคนมารับซื้อต่อทำให้มะม่วงที่ปลูกเอง และรับซื้อไว้ เน่าเสียหายจำนวนมาก ตอนนี้มะม่วงที่รับซื้อมีราคากิโลกรัมละ 1 บาท ถึง 8 บาท แล้วแต่คุณภาพมะม่วง โดยมะม่วงที่นำมาทิ้งวันนี้คือ มะม่วงดีเกรดเอ แต่ขายไม่ได้ราคารวมกว่า 20 ตัน
สำหรับราคามะม่วงเกรดเอ ที่มีคุณภาพดี และขายกันอยู่ในขณะนี้ มะม่วงน้ำดอกไม้กิโลละไม่เกิน 5 บาท มะม่วงเขียวเสวย ไม่เกิน 10 บาท มะม่วงมันเดือนเก้า 1.25 บาท มะม่วงแก้วขมิ้น ไม่เกิน 5 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก และไม่คุ้มกับการลงทุน
ป้าต้อย บอกว่า มะม่วง 20 ตัน หรือมากกว่า 30 ตัน จะไปกวนยังไงไหว เมื่อกวนแล้วใครจะซื้อ เพราะทุกบ้านก็กวน และ ตอนนี้มะม่วงกวน ก็ขายยาก เพราะผู้บริโภคมีเฉพาะกลุ่มเล็กๆ อยู่ในวงแคบๆ ซึ่งระยะนี้มะม่วงออกมาก และปลูกหลายพื้นที่ อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่ราคามันดิ่งลงและไม่มีคนมารับซื้อเป็นเพราะมีการนำเข้ามะม่วงจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบภาคตะวันออกเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย ในช่วงที่มะม่วงในไทยกำลังออกผลผลิต
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ามะม่วงในประเทศไทยกำลังจะออกผลผลิต ควรมีคำสั่งห้ามสินค้าเกษตรและผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาก่อน เพราะถ้ามีการนำสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเข้ามาได้ สินค้ามันจะล้นตลาดเป็น 2 เท่า
กลุ่มนร.บุกศธ.โวย ‘ตรีนุช’ ผลักไสเด็กไทยให้หลุดระบบการศึกษา
https://www.dailynews.co.th/news/904425/
กลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทย บุกกระทรวงศึกษาธิการ โวย "ตรีนุช" ผลักไสนักเรียนให้หลุดระบบการศึกษา ชี้ปัญหาเด็กไทย รมว.ศธ.ไม่เคยเหลียวแล พร้อมวางหรีดอาลัยครบ 1 ปีดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ. แต่แก้ปัญหาการศึกษาได้ล้มเหลว
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทย ประมาณ 20 คน รวมตัวจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์แสดงออกถึงปัญหาการศึกษาที่ล้มเหลวตลอดระยะเวลา 1 ปีการทำงานของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจาก สน.ดุสิต ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตัวแทนนักเรียนในกลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทยได้นำพวงหรีดมีข้อความระบุว่า “ด้วยความยินดียิ่ง” มาวางบริเวณหน้ารั้ว ศธ. พร้อมกับนำเชือกมารัดตัว เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงระบบปัญหาการศึกษาไทย ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในสถานศึกษา ความเหลื่อมล้ำในการเรียนออนไลน์ และนักเรียนต้องฆ่าตัวตายจากปัญหาการเรียนออนไลน์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบเข้าเรียนต่อในระดับสถาบันอุดมศึกษา หรือ ทีแคส
ต่อมากลุ่มนักเรียนได้พยายามจะนำเชือกผูกคอกับกำแพงรั้ว ศธ. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาห้ามปรามอย่างชุลมุน ขณะเดียวกัน กลุ่มเยาวชนได้นำสีผสมอาหารสาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกำแพงรั้ว ศธ. ด้วยความโมโห พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ออกมารับข้อเรียกร้องและรับฟังปัญหาของนักเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในเวลา 09.00 น. ดร.วิสิทธิ์ ใจเถิง หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ โดยข้อความในเอกสารระบุว่า
เรียน รมว.ศึกษาธิการ
เรื่อง ขอแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่งครบรอบ 1 ปี เนื่องในวาระโอกาสครบรอบปี การดำรงตำแหน่งของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ
กลุ่มเยาวชนปฏิวัติการศึกษาไทย ขอร่วมแสดงความยินดีกับท่านรัฐมนตรี ขอแสดงความยินดี สำหรับเค้กก้อนใหม่ เค้กที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงกินจนอิ่มหนำสำราญ เค้กที่นักเรียนไม่ได้แม้แต่จะชายตามอง และหยิบมาชิม เรายินดีด้วยที่ท่านได้พรากอิสรภาพทางความคิด เสรีภาพทางการแสดงออกของเยาวชนที่พวกท่านพล่ามบอกว่า เป็นอนาคตของประเทศ เราอยากแสดงความยินดีที่ท่านได้บอกกับนักเรียนว่า เราต้องได้เจอกันบ่อย ๆ แต่ท่านก็เดินหนีนักเรียน และขอแสดงความยินดีที่ท่านได้เป็นผู้ผลักไสนักเรียนให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ด้วยมือท่านเอง เรายินดีด้วยที่ในรอบปีของการเป็นรัฐมนตรี มีเด็กมากกว่าสิบคนฆ่าตัวตายจากสภาวะความเครียดจากการเรียนออนไลน์ ขอแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งที่ท่านไม่สามารถแก้ไขปัญหาอำนาจนิยม ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น ตีเด็ก กล้อนผม หรือคุกคามทางเพศ และสืบเนื่องจากที่กล่าวมา เราขอแสดงความยินดีมา ณ ที่นี้ ที่ระบบรับเรื่องร้องเรียนของท่าน ไม่สามารถให้ข้อมูลนักเรียนได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งการตามเรื่องร้องเรียนยังเป็นไปได้อย่างยากลำบาก ขอแสดงความนับถือ ที่ในขณะที่ประเทศอยู่ท่ามกลางการล็อกดาวน์ ท่านมีความสุขกับการเดินแฟชั่นโชว์ ท่ามกลางแสงสี และเสียง ท่ามกลางนักเรียนผู้ที่เจ็บปวดกับระบบการศึกษา
และในโอกาสนี้ เราขอมอบดอกไม้แสดงความยินดีให้กับท่าน ขอจงเก็บเป็นที่ระลึกเพื่อย้ำเตือนถึงความล้มเหลวในการทำงาน ความไร้สัจจะจากคำมั่นสัญญา ย้ำเตือนถึงความตกต่ำของการศึกษา ย้ำเตือนถึงคราบเลือดและคราบน้ำตาของนักเรียนทุกคนที่ต้องสูญเสียจากการบริหารงานของท่าน