ทำไมคนไทย โลกโซเชียลนับวันยิ่ง Toxic

อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวเรานะ เราพึ่งมาสังเกตตตัวเองว่าติด toxic ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนชอบข่าวอะไรแบบนี้เราคิดว่าเราเสพข่าวพวกนี้โดยไม่รู้ตัว เช่น เราเข้า FB เราได้รับข่าวสาวจากเพื่อนๆในเฟสแชร์ ยิ่งบางข่าวกำบังเป็นกระแสหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พบเจอข่าว บางครั้งโดนตกหลุมพลางไปอ่านคอมเม้นยิ่งเครียดต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คอมเม้นไม่งั้นมันจะไม่จบไม่สั้น จนเรามานั้งคิดว่าข่าวเดี๋ยวนี้เน้น toxic รึป่าวเพราะบนพื้นฐานคนไทย ชอบดราม่า ชอบอะไรที่น่าสงสาร เห็นใจ หรือเรื่องอะไรที่รุนแรง เรื่องโลกสวยก็โลกสวยเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมี บางครั้งเราก็คิดว่าทำไมไม่มีการสอบการใช้โซเชียล เหมือนสอบใบขับขี่ เพราะเรารู้สึกว่าใครเล่นก็ได้ใครจะพิมด่าอะไรก็ได้อันนี้แค่ความคิดส่วนตัวนะคะ  เราจะมาบอกลักษณะคนที่เราคิดว่าค่อนข้างลงโซเชี่ยล
1.เม้นด่าตามกระแส เม้นแบบไม่คิด เม้นแบบไม่รู้เรื่อง = เราว่าคนไทยส่วนเยอะไม่ค่อยอ่านเนื้อหา หรือค้นหาเพิ่มเติม อ่านแต่หัวข่าวแล้วตัดสิน หรือเห็นคลิป VDO สั้นๆแล้วตัดสินเลย แล้วด่าทอประนามเคเาอย่างกับหมูกับหมา เราคิดว่าคนพวกนี้ไม่ละอายใจตัวเองเลยหรอ
2.ไม่รับพังความคิดคนอื่น แพ้แล้วพาล แล้วไปลงโซเชียงต่อว่าว่าตัวเองถูกรังแก = คนพวกนี้จะไม่รับฟังอะไรเลย เถียงอย่างเดียว เสร็จแล้วจะไปโพสในพื้นที่เล็กๆส่วนตัว หรือ เห็นแค่เพื่อนของตัวเอง โดนคิดว่าอยากให้คนพวกนี้โอ๋หรือเห็นด้วยกับตัวเองว่าตัวเองไม่ได้ผิด แล้วคนไมยชอบมีนิสัยหมาหมู่คือ เข้าข้างเพื่อนตัวเองเกินเหตุโดยไม่ลืมหูลืมตาว่ามันถูกหรือผิดมั้ย พอรู้ว่าเพื่อนตัวเองผิดก็จะหาข้ออ้างทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนตัวเองถูก
3.คนชอบอ้าง = คืนอันนี้มันเส้นบางๆจริงๆ ระหว่างอ้าง กับ พยายามแล้ว แต่พยายามของแต่ละคนไม่เท่ากันอะเนอะ เช่น คนไม่ประสบผลสำเร็จทั้งที่เริ่มต้นพร้อมกันกับอีกคนนึงที่ประสบผลสำเร็จ คนเหล่านี้ตะหาข้ออ้าง เช่น ไม่มีเงิน (แต่เที่ยวบ่อยมาก ) ไม่มีเวลา (แต่เล่นเกมทั้งวัน) พยายามแล้ว (ไม่ทำไรเลย) อะนนี้คือคนที่ชอบอ้าง แล้วจะชอบแซะคนที่ประสบผลสำเร็จทั้งที่ทุกคนมีเวลาเท่ากัน อีกอย่างเจ้าของกระทู้ไม่เชื่อเรื่อง การไม่มีเงินทำให้เข้าการศึกษาหาความรู้ได้ยาก เจ้าของกระทู้คิดว่าข้ออ้างนี้พูดได้ก็ต่อเมื่อคุณจะเรียนพิเศษเพื่อสอบเข้าหมอ หรือเข้ามหาลัยดังๆที่ต้องใช้คะแนนสูง ส่วนปัจจัยอื่นไม่มีอะไรที่ต้องใช้เงินเยอะเกี่ยวกับการศึกษาเลย แต่ก็ต้องวนกลับมาที่ระบบการศึกษาไทยอีกถ้าคุณครูเก่งจริง หรือเนื้อหาเรียน เราคิดว่าก็คงไม่ต้องเสียเงินไปเรียนพิเศษเด็กทุกคนก็มีสิทธิ์เก่งและเอนจอยไปกับการเรียน แต่สุดท้ายคนจะอ้างก็อ้างอยู่ดีและคนพวกนี้เป็นคนส่วนมากอันนี้เราไม่ได้เหยียดนะแต่เป็นสิ่งที่เราสังเกตมาตลอด คืนคนส่วนใหญ่ที่ชอบอ้างมีโอกาสได้เรียนแต่ไม่ได้เรียน ท้องช่วง ม.ต้น-ม.ปลาย (อันนี้เราไม่ได้จะซ้ำเติม แต่ก็ไม่สนับสนุนเราคิดว่าท้องได้แต่คุณมีความสามารถและมีทัศนคติพอที่จะเลี้ยงดูเด็กคนนึงแบบไม่ตบตี เลี้ยงด้วยโทรสับ เลี้ยงแบบไม่ฝากพ่อแม่ตัวเองเลี้ยงแทนมั้ย) เราคิดว่ามีค่อนข้างเยอะ แล้วมันก็จะเป็นปัญหาโครงสร้างมาเรื่อยๆ บุคคลเหล่านี้จะขาดการศึกษาโดยทันที ซึ่งการศึกษาเราคิดว่าต่อให้เรียนแล้วลืมแต่สิ่งที่ได้คือกระบวนการคิด หรือไต่ตรองทุกอย่างการมีเหตุและผล เราคิดว่าสิ่งนี้จำเป็นมากๆในทุกๆเรื่อง เราคิดว่าคนไทยค่อนข้างขาดการไตร่ตรอง

ใครอ่านจนถึงจุดนี้ขอบอกว่า พิมพ์ครั้งเดียวและยาวมาก ขก แก้ทุกคำนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะพิมพ์ผิดแต่ด้วยความที่พิมเร็วอาจกดผิดตัว ส่วนใหญ่มีอะไรเพิ่มเติมเม้นมาได้เลยนะตอนนี้คิดได้แค่นี้ รู้สึกยิ่งพิมพ์ยิ่งหลุดไปไกลเดี๋ยวยาว ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ส่วนใครเป็นลักษณ์แบบด้านบน ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยปรับนะคะ เราคิดว่าถ้าคนส่วนใหญ่ทัศนคติดี คนส่วนน้อยที่คิดไม่ดีก็จะหายไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่